Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ภาวะความผิดปกติของต่อมธัยรอยด, - - Coggle Diagram
ภาวะความผิดปกติของต่อมธัยรอยด
Hypothyroidism
สตรีที่เป็นโรคนี้มีโอกาสตั้งครรภ์น้อย
เนื่องจากมีภาวะ Hyperprolactinemia
(รังไข่จะถูกกดการท างาน ไม่มีการตกไข่ จึงมักเป็นหมันหรือมีบุตรยาก)
Hyperthyroidism
ก่อนตั้งครรภ์อาจไม่รุนแรง เมื่อตั้งครรภ์ Estrogen กระตุ้นต่อมธัยรอยด์ท างาน เพิ่มขึ้น หรือมีอาการของต่อมธัยรอยด์ เป็นพิษ ชัดเจนขึ้น
อาการ
3.ขี้ร้อน หงุดหงิด ตกใจง่าย อารมณ์แปรปรวน
4.หัวใจเต้นเร็วและแรง ใจสั่น ชีพจรเต้นเร็ว (90 – 160/min)
2.หิวบ่อย รับประทานจุ แต่น้ าหนักลดจากการเผาผลาญของร่างกายมากขึ้น
ระยะห่างของความดันโลหิตกว้าง (มากกว่า 40 mmHg)
2.มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ลีบและสั่น (Tremor)
6.นอนไม่ค่อยหลับ ชีพจรขณะหลับ (sleeping pulse) สูงกว่า 80/mim
มีต่อมธัยรอยด์โตมากกว่าปกติ 3 – 4 เท่า
7.ตาโปน เนื่องจากน้ าและไขมันที่สะสมหลังดวงตาดันให้ลูกตาโปนออกจากเบ้า
ลักษณะต่อมธัยรอยด์ที่โตขึ้นขณะตั้งครรภ์ มี 2 แบบ
Simple goiter
ต่อมโต ไม่มีอาการ
พบ serum T3,T4 ปกติ ไม่มีผลต่อ การตั้งครรภ์ หากพบขณะตั้งครรภ์ แพทย์อาจให้ Thyroid extract : Entroxin เพื่อให้ต่อมธัยรอยด์ได้พัก
Toxic goiter
ผลต่อการตั้งครรภ์สูง
ต่อมโต การท าหน้าที่เพิ่มขึ้น พบ serum T3,T4 สูงกว่าปกติ
รับประทานอาหารได้มากขึ้น หิวบ่อยแต่ไม่อ้วน
ต่อมธัยรอยด์ โตฟังได้เสียง Bruitz
เหงื่อออกมาก ผิวหนังอุ่นชื้น
Tachycardia บันทึก Sleeping pulse/Resting pulse
ใจสั่น มือสั่น อ่อนเพลีย กล้ามเนื้อไม่มีแรง
ตาโปน Exophthalmos
ผลกระทบ
เมื่อตั้งครรภ์ Estrogen กระตุ้นต่อมไทรอยด์ทำงานเพิ่มขึ้น หรือมีอาการ ของต่อมไทรอยด์เป็นพิษ
การตั้งครรภ์ ทำให้การวินิจฉยัยากขึ้นเพราะค่าการทดสอบตา่งๆของ ต่อมธัยรอยด์เปลี่ยนแปลงไป
การตั้งครรภ์ส่งเสริมทำให้เกิดหัวใจล้มเหลวมากขึ้นในกลุ่มที่ควบคุมโรคไม่ดี หัวใจล้มเหลวเกิดจากผลระยะยาวของฮอร์โมนธัยรอยด์ต่อหัวใจ
มารดา
1.เสี่ยงต่อ Thyroid Storm /Crisis ไข้สูง ชีพจรเร็วไม่สม่ำเสมอ ขาดน้ำ-อาหาร (Prostation) ท้องเดิน และ AF
มักพบภาวะ Pre eclampsia ภาวการณ์ติดเชื้อสูงขึ้น
ทารก
1.เกิดการแท้ง การคลอดก่อนกำหนด และ IUGR สูงขึ้น
2.ผลของยาต้านไทรอยด์
ขณะตั้งครรภ์ (PTU) กระตุ้น/กด ต่อมธัยรอยด์ทารกในครรภ์
หลังคลอดยาผ่านน้ำนม งดให้ BF (Methimazole)
:warning: แต่ถ้าให้ PTU น้อยกว่าหรือเท่ากับวันละ 100 mg สามารถให้ BF ได้ :warning:
:recycle:
การรักษา
:recycle:
2.การผ่าตัด
Subtotal Thyroidectomy
ใช้เมื่อรักษาทางยาไม่ได้ผล เสี่ยงต่อการแท้งสูง ถ้าทำจะเลือกในไตรมาสที่ 2
Radio active Iodine ( I131 )
เป็นข้อห้ามขณะตั้งครรภ์ จึงต้อง ตรวจสอบการตั้งครรภ์ก่อนที่จะเริ่มรักษาทุกราย
1.การให้ยาต้านไทรอยด์
- Thiamides
(PTU, Methimazole,Tapazole) ออกฤทธิ์ยับยั้งการ สังเคราะห์ TH
- Beta – Blocker
( Propanolol/ Lugol solution) ออกฤทธิ์ยับยั้งการ หลั่ง TH ผ่านรกมีผลต่อทารกในครรภ์สูงมาก
มักใช้เพื่อควบคมุภาวะต่อม ไทรอยด์เป็นพิษ ก่อนการผ่าตัด 2 :star:
รายที่ไม่รุนเเรง
พักผ่อนมาก ๆ ยาระงับประสาท :star:
ในรายที่มีอาการรุนแรง
งด BF ขณะได้ยาต้านธัยรอยด์ (PTU> 100 mg/ วัน) แล้วให้ นมผสมแทน :star:
FP (ถ้ารุนแรง:TR) Minipill ได้ หลีกเลี่ยง IUD & DMPA :star:
ตรวจค่าเม็ดเลือดขาว ถ้าต่ ากว่าปกติต้องหยุดยาทันที :star:
ติดตามผลข้างเคียงของยา เจ็บคอ มีแผลในปาก มีไข้ : :star:
ดูแลการได้ยาต้านธัยรอยด์ เช่น PTU,Tapazole
นอน ใน ร.พ./ พักบนเตียง
Thalassemia
:<3: :<3:
องค์ประกอบเม็ดเลือดเเดง
ฮีม (เหล็ก) + โกลบบิน (โปรตีน)
ฮีม 1 มีโกลบิน 4
ข่นส่งออกซิเจน
Heterozygote มียนีธาลสัซีเมียอยู่บนแขนข้างเดียวของ โครโมโซม เรียกอีกอย่างว่า trait :check:
Homozygote มียนีธาลสัซีเมียชนิดเดียวกัน อยู่บนแขนทั้งสองข้าง ของโครโมโซม
Double heterozygote มียนีธาลสัซีเมียทั้ง α และ βอยู่บน แขนของโครโมโซม
• β0-thal คือยีนที่ผิดปกติทeให้ไม่สามารถสร้าง β globin chain ได้ ้
• β+-thal คือยีนที่ผิดปกติ แต่ยังสร้าง β globin chain ไดบ้า้ง
• HbE เป็น Hb ที่ผิดปกติ มีคุณสมบัติเหมือน β+-thal
• α-thal1 คือ alpha globin gene ทั้ง2อันที่อยู่บนแขนของ โครโมโซมข้างหนึ่งขาดหายไป
• α-thal2 คือ alpha globin gene 1อันที่อยู่บนแขนของ โครโมโซมข้างหนึ่งขาดหายไป
• HbCS เป็น Hb ที่ผดิปกติ มีคุณสมบัติเหมือน α-thal2
แปลผล :check:
a-thalassemia
-a/aa a thal-2 trait
--/aa a thal-1 trait
-a/-a homozygous a thal-2
--/-a Hb H disease
aa/aa normal
--/-- Hb Bart’s disease
b-thalassemia
b0/bE, b+/bE b thal/E disease
b0/b, b0/b+, b+/b+ b thal major
b0/b b thal trait
b/b normal
คู่เสี่ยงเป็น :star: :star
: :star:
ภรรยาเป็นพาหะยีน สามีเป็นพาหะยีน ลูกในครรภ์เสี่ยงที่จะเป็นโรค
α-thalassemia + α-thalassemia = Hb Bart' s hydrops
β-thalssemia + β-thalassemia = Homozygous β-thalassemia
β-thalssemia + Hb E = β-thalassemia/Hb E
Hb E + β-thalassemia = β-thalassemia/Hb E
ธาลัสซีเมียชนิดรุนแรง
:check:
1
• Hb Bart’s hydrops
รุนแรงที่สุด ผู้ป่วยเสียชีวิต ตั้งแต่อยู่ในครรภ์หรือหลังคลอด
ทารกจะ ซีด บวม ตับม้ามโตมาก และ รกใหญ่
2
b-thal major
เริ่มมี อาการซีดตั้งแต่ขวบปีแรก อาการอื่นๆที่พบได้ คือ ตับ ม้ามโต
• ใบหน้าเปลี่ยนเป็นแบบ thalassemic face
3
HbE /b-thal
มีอาการซีดตั้งแต่ขวบปีแรก
หากไม่ได้รับ การรักษาจะมี ตับ ม้าม โต กระดูกขยาย กว้างท าให้รูปหน้าเปลี่ยน thalassemic face
ความหมาย : ความผิดปกติที่ ทำให้โปรตีนโกลบิน สังเคราะห์ไม่ได้หรือ ได้น้อยลง
:check:
ฮีโมโกลบินที่สำคัญ
ฮีโมโกลบินที่สำคัญในทารก Hb F มี แอลฟ่า 2 + แกรมม่า 2ไม่พบเบต้า
ในผู้ใหญ่ มีชนิด HbA แอลฟ่า 2 + เบต้า 2
โรคหัวใจในหญิงตั้งครรภ์ :<3:
Clinical Classification
Class1: ทำงานได้ตามปกติโดยไม่รู้สึกเหนื่อย (ตั้งครรภ์ได้)
Class2: สบายดีขณะพักแต่ถ้าทำงานตามปกติจะรู้สึกเหนื่อย (ตั้งครรภ์ได้)
Class3: สบายดีขณะพักแต่ถ้าทำงานเล็กน้อยจะรู้สึกเหนื่อย (ไม่ควรตั้งครรภ์)
Class4: มีอาการของโรคหัวใจ คือ หอบเหนื่อยแม้ในขณะพัก (ไม่ควรตั้งครรภ์)
การดูแลในระยะก่อนคลอด
มุ่งการรักษาโดยให้ความสำคัญของมารดาเป็นหลัก แต่ในขณะรักษาควรหลีกเลี่ยงอันตรายที่จะเกิดกับทารกให้มากที่สุด :warning:
ให้นอนพักศีรษะสูง :warning: ลดปริมาณงาน ลดการออกกำลังกายรุนแรง
รับประทานอาหารจืด (ลดอาหารเค็ม)
ควรช่วยกันดูแลระหว่างสูติแพทย์และแพทย์เฉพาะทางโรคหัวใจ
ให้ Rheumatic prophylaxis ในกรณีอายุน้อยกว่า 25 ปี
การดูแลในระยะก่อนคลอด
พักผ่อนอย่างน้อยที่สุด 10 ชั่วโมงในตอนกลางคืน และนอนพักครึ่ง ชั่วโมงหลังอาหาร
ในกรณีที่เป็นโรคหัวใจ Class I , Class II การฝากครรภ์ในช่วง 28 สัปดาห์แรก ต้องมาตรวจทุก 2 สัปดาห์ เมื่ออายุครรภ์มากกว่า 28 สัปดาห์ ให้ไปตรวจทุกสัปดาห์และประเมินการทำงานของหัวใจ ทกุครั้ง :!!: :star:
งดสุรา บุหรี่ ยาบางอย่าง (เช่น cocaine, amphetamine)
ในกรณีที่เป็นโรคหัวใจ Class III ขึ้นไป ให้เข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลทันทีที่รวู้่าตั้งครรภ์ >>> อยู่รพ. จนกว่าจะคลอด :star: :star:
การประเมิน
U/S เพื่อประเมินว่าทารกมี่ภาวะ heart anomalies หรือ IUGR หรือไม่
2.หากทารกในครรภ์มีภาวะ IUGR ทำการประเมินว่าเป็นมากจนมี ภาวะ oligohydraminos ร่วมด้วยหรือไม่
NST เพื่อ moniyor การเปลี่ยนแปลงอัตราการเต้นหัวใจของ ทารก
การรักษา
:recycle:
การรักษาภาวะหัวใจล้มเหลว ควรให้ยาปฎิชีวนะป้องกันการกลับ เป็นซ้ าของโรคหัวใจ รูมาห์ติกจากเชื้อ streptococci ด้วย
ยาขับปัสสาวะจะใช้ในกรณีที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น :check: โดยจะให้ในกรณี ที่มารดามีภาวะ หัวใจล้มเหลว เลือดคั่ง ปอดบวมน้ำ หรือ ภาวะโรคหัวใจหรือโรคไตที่จำเป็นต้องใช้ยา :!!: :!!:
Digitalis
สามารถผ่านเข้าสู่รกได้ แต่ยังไม่พบว่ามีผลเสียต่อทารก ในครรภ์
ข้อบ่งชี้ในการใช้ยา :!!: :!!:
โรคหัวใจ Class III, IV
ผู้ป่วยที่มีประวัติหัวใจล้มเหลว
หัวใจโต
Atrial fibirillation
สตรีตั้งครรภ์ที่เป็นโรคหัวใจรูมาห์ติก ให้ใช้ยารักษาได้เช่นเดียวกับ สตรีที่ไม่ได้ตั้งครรภ์
การดูแลในระยะคลอด
:check:
ตรวจวัด v/s ทุก 30 นาที ในระยะที่ 1 ของการคลอด ทุก 10 นาที ในระยะที่ 2 ของการคลอด
นอนยกศีรษะสูง (semirecumbent position)
ให้คลอดทางช่องคลอดโดยใช้ Forceps (ผ่าท้องทำคลอดเมื่อ มีข้อบ่งชี้)
ตรวจบันทึก I/O
ดูแลให้ 5% D/W 500 ml หยดเข้าหลอดเลือดในอัตรา KVO
ตรวจ EKG
Electronic fetal monitoring
ให้ยาระงับปวด เช่น pethidine (IM) ใน active phase หรือ Continous epidural anesthesia
ให้ antibiotic ป้องกัน ภาวะ infective endocarditis
จำเพิ่มเติม :check:
ใช้สูติหัตถการ ช่วยลดระยะที่สองของการคลอด โดยเลือก Forcept เป็น first choice หากใช้ forcept ไม่ได้ เปลี่ยนเป็น vaccum
ในกรณีที่มีการตกเลือดหลงัคลอดให้ oxytocin IV (ห้ามใช้ methergin) :!!: :!!:
การดูแลในระยะหลังคลอด
เฝ้าดูผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดในระยะ 24 ชั่วโมงแรกหลังคลอดระวังและ ป้องกันภาวะหัวใจล้มเหลว
ให้ผู้ป่วยนอนพัก และให้ยานอนหลับ (ลุกจากเตียงได้หลัง 24 ชั่วโมง)
นอนพักในโรงพยาบาลอย่างน้อย 5-7 วันแรกหลังคลอด (ประเมิน ตามความรุนแรงของโรค)
ป้องกันภาวะหัวใจล้มเหลวโดยการจัดท่านอนชันเข่า ศีรษะสงู
งดเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดา ใน class III, IV และผู้ที่เคย มีภาวะหัวในวาย :!!: :!!:
แนะนำให้ท าหมัน ควรทำหลังคลอดอย่างน้อย 5 วัน
นัดมาตรวจหลังคลอด ร่วมกับอายุรแพทย์โรคหัวใจ
คุมกำเนิด :!!: :!!:
• ทำหมันเมื่อ Cardiac output กลับสู่ปกติ
• ห้ามทำหมันโดย laparoscope :!!: :!!:
• ไม่ควรใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด :!: :!:
• การใส่ห่วงคุมกำเนิดจะเพิ่มความเสี่ยงต่อ bacterial endocarditis :explode: :explode:
-