Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ป่วยเด็กที่มีปัญหาระบบประสาท กระดูกและกล้ามเนื้อ - Coggle…
การพยาบาลผู้ป่วยเด็กที่มีปัญหาระบบประสาท กระดูกและกล้ามเนื้อ
การประเมินอาการทางระบบประสาท
การประเมินด้านร่างกาย
ประวัติ: การคลอดของเด็ก การเจ็บป่วยหลังคลอด
การตรวจร่างกาย ลักษณะทั่วไป สัญญาณชีพ ศีรษะ ตา หู ปากและฟัน
ระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
Muscle tone ประเมินต้านต่อการ เคลื่อนไหวที่ผู้ป่วยต้องออกแรง
Babinski’s sign ทดสอบโดยใช้อุปกรณ์ปลายทู่ เช่นกุญแจ
Brudzinski’s sign ทดสอบโดยให้เด็กนอนหงายใช้มือช้อนหลัง ศีรษะคางชิดอกถ้ามีการติดเชื้อเกิดขึ้นแล้ว ผลกาตรวจจึงเป็น positive
Kernig’s sign เด็กที่ติดเชื้อของเยื่อหุ้มสมองอักเสบจะท าไม่ได้ เพราะมีอาการปวด ผลกาตรวจจึงเป็น positive
Tendon reflex ใช้ไม้เคาะเข่าเอ็น เคาะตรงเอ็นที่ยึด ถ้า reflex เร็วคือได้ 4+ แสดงว่ามีความผิดปกติของ ระบบประสาท
Glasgow coma scale
อาการสำคัญทางระบบประสาท
ระดับความรู้สึกตัว
ระดับรู้สึกตัวดี (Alert)
ง่วง (Drowsy)
ซึม (Stuporous)
ใกล้หมดสติ (Semi coma)
หมดสติ (Coma)
อาการทางตา
รูม่านตา (Pupil)
การกลอกตา
ปฏิกิริยาการเคลื่อนไหว
ทารกประเมินจาก Reflex Moro, Grasp, Babinski เด็กโตตรวจโดยใช้แรงต้าน และแรงดึงต้านแรงของผู้ตรวจ
การเปลี่ยนแปลงของสัญญาณชีพ
การเปลี่ยนอุณหภูมิ
การเปลี่ยนแปลงของชีพจร
การเปลี่ยนแปลงของการหายใจ
การเปลี่ยนแปลงความดันโลหิต
การประเมินด้านจิตสังคมและจิตวิญญาณ
การรับรู้ ความคิดและเชาวน์ปัญญา
ความเครียดและการเผชิญความเครียด
ระบบการช่วยเหลือและสนับสนุน ประเมิน ประเมินวิธีการปฏิบัต
ภาวะชักและโรคลมชัก
Seizure (อาการชัก) คือภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของคลื่นไฟฟ้าสมอง
Epilepsy (โรคลมชัก) ภาวะที่เกิดอาการ Seizure ตั้งแต่ 2 episodes ขึ้นไป
Convulsion(อาการเกร็ง) อาการแสดงทาง motor ผิดปกติ
Status epilepticus หมายถึง การชักต่อเนื่องนานมากกว่า 30 นาที
ชนิดและลักษณะเฉพาะของภาวะชัก
Partial seizure คือการชักที่เกิดจากความผิดปกติของคลื่นไฟฟ้าสมองเฉพาะที่
Simple partial seizure ผู้ป่วยไม่เสียการรู้ตัวขณะที่มีอาการชัก
Complex partial seizure ผู้ป่วยจะเสียการรู้ตัวขณะที่มีอาการชัก
Generalized seizure คือการชักที่เกิดจากความผิดปกติของคลื่นไฟฟ้าสมองพร้อมกันทั้ง 2 ด้าน
Unclassified epileptic seizure เป็นการชักที่ไม่สมารถจัดกลุ่มได้เนื่องจากข้อมูลไม่พอเพียง
โรคทางระบบประสาทและกล้ามเนื้อที่พบบ่อย
ชักจากไข้สูง
ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด
อาการ
มีไข้
ระยะเวลาชักเป็นเวลาสั้นๆ ไม่เกิน 1-2 นาที
อาจพบ drowsiness ช่วงสั้นๆ
ชักซ้ำภายใน 24 ชั่วโมง พบร้อยละ 16
การพยาบาล
ประเมินและบันทึกลักษณะการชักลักษณะของใบหน้า ตา ขณะชัก ระดับการรู้สติ
ขณะชักจัดให้ผู้ป่วยตะแคงหน้าเพื่อให้น้ าลายไหลออกจากปาก
ดูแลดูดเสมหะออกจากปากและจมูกบ่อยๆเพื่อให้ทางเดินหายใจโล่ง
จัดให้ผู้ป่วยนอนราบ ใช้ผ้านิ่มๆรองศีษะป้องกันศีรษะกระแทก
Observe vital signs ทุก 4 ชั่วโมง
ดูแลให้ Oxygen, สารน้ า, และยาตามแผนการรักษา
สมองพิการ (Cerebral Palsy)
สาเหตุ
ระยะก่อนคลอด
มารดามีภาวะชักหรือปัญญาอ่อน
การเกิดก่อนกำหนด
หัดเยอรมัน herpes zoster
ระยะคลอด
่ สมองขาดออกซิเจน ได้รับอันตรายจากการคลอด
ระยะหลังคลอด
การได้รับการกระทบกระเทือนที่ศีรษะ
การขาดออกซิเจนจากการจมน้ า
การติดเชื้อบริเวณสมอง
พยาธิสภาพ
Spastic diplegia พบได้บ่อยในเด็กเกิดก่อนก าหนดเนื่องจากเป็นบริเวณที่มีโอกาสขาด เลือดไปเลี้ยงได้ง่าย
Spastic hemiplegia เป็นความผิดปกติของการไหลเวียนของ เลือด ปัจจัยช่วงก่อนเกิด เช่น thromboembolism
Spastic quadriplegiaอ parasaggital cortical และ subcortical area ซึ่งเป็นผลจากปัจจัยก่อนเกิด เช่นการพัฒนาของสมองผิดปกติ
Dyskinetic ีภาวะขาดอากาศหายใจ ระหว่างคลอดอย่างรุนแรง
Ataxic CP มักพบในทารกเกิดครบก าหนด พยาธิสภาพอยู่ที่ cerebellar pathway
การพยาบาล
กระตุ้นให้เด็กนั่ง คลาน เดิน ตามวัยของเด็ก
จัดหาของเล่นที่จะกระตุ้นให้เด็กเกิดการเคลื่อนที่
ส่งเด็กไปทำกายภาพบำบัดเพื่อป้องกันความพิการอื่นๆ
ให้ยาคลายกล้ามเนื้อในเด็กที่มีอาการเกร็ง
กระตุ้นให้เด็กดูแลตนเองตามความสามารถ
ระวังการเกิดภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจ
จัดอาหารที่มีแคลอรีสูงให้พอเพียง
แนะนำบิดามารดาในการดูแลส่งเสริมพัฒนาการเด็กอย่างสม่ำาเสมอ
ศีรษะโตผิดปกติ (Hydrocephalus)
สาเหตุ
การมีน้ำไขสันหลังเพิ่มมากขึ้นในกะโหลกศีรษะ บริเวณ Ventricleของสมอง
ชั้นใต้ arachnoid การมีน้ ามาก เกินไป
ถ้าทางผ่านของน้ าถูกกั้นความผิดปกติเรียกว่า Obstructive หรือ Intraventricular Hydrocephalus
การประเมินสภาพ
หัวโตเมื่อเทียบกับล าตัว รอบศีรษะโตกว่ารอบอกเกิน 2-5 ซม.
เมื่อมีน้ำมากขึ้น หน้าผากโปนเด่น หนังศีรษะแยกออก
มี Sun Set Eye หรือ Setting Sun Sign กล้ามเนื้อแขนขากว้าง ซึม อาเจียน
วินิจฉัย
เปรียบเทียบรอบศีรษะกับขนาดปกติของเด็กแต่ละวัย
ถ่ายภาพรังสีกะโหลกศีรษะจะเห็นการแยกของ Suture
Transillumination
CT Scan หรือ Ventriculography จะเห็น Ventricle ขยาย
รักษา
ถ้าศีรษะโตไม่มากนัก เกิดจากการมีเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากแบคทีเรีย เจาะหลังใส่ยา
การผ่าตัด
เอาส่วนที่อุดตันออก เช่น เนื้องอก
ทำ Shunt
ภาวะความดันสูงในกะโหลกศีรษะสูง
การพยาบาล
จัดท่านอนให้ศีรษะสูง 15-30 องศา
ประเมินสัญญาณชีพและการเปลี่ยนแปลงทางระบบประสาททุก 1-2 ชั่วโมง
เพิ่มอัตราการหายใจให้มากกว่าปกติ (Hyperventilation)
จำกัดน้ำ
Hypothermia
ให้ผู้ป่วยได้รับยา Acetazolamine (diamox) ตามแผนการรักษา
ผู้ป่วยที่ทำ Ventriculostomy เพื่อระบายน้ำไขสันหลัง
ผู้ป่วยโรคสมองบวมน้ า (Hydrocephalus) ก่อนผ่าตัดต้องเฝ้าระวังภาวะความดันในกะโหลกศีรษะสูง ในเด็กเล็ก
ป้องกันภาวะ CO2 คั่ง เป็นการ รักษาค่าความดันของก๊าซในเลือดให้ PaO2 อยู่ระหว่าง 80-100 mmHg และค่า PaCO2 อยู่ระหว่าง 30-45 mmHg และติดตาม ประเมินค่า pulse oximeter
Myelodysplasia
สาเหตุ
การขาดอาหาร โดยเฉพาะ สังกะสี โฟเลต วิตามิน
อายุของมารดา กลุ่มที่เสี่ยงคือ มารดาวัยรุ่น และมารดาอายุมากกว่า 35 ปี
รักษา
การผ่าตัด
เสี่ยงต่อการเกิดการติดเชื้อบริเวณที่มีพยาธิสภาพและสมอง เนื่องจากมี open membranous sac, CSF ไหลจากบริเวณที่มี พยาธิสภาพ
การพยาบาล
ดูแลความสะอาดและปิดแผลด้วย NSS และปิด sterilized gauze เปลี่ยนทุก 2 ชั่วโมง
จัดท่านอน ไม่ให้นอนทับบริเวณแผล
ประเมินการติดเชื้อจาก สัญญาณชีพ และอาการอื่นๆ เช่น ซึมลง ดูดนมได้น้อยลง อาเจียน
ดูแลการได้รับอาหารและน ้าอย่างเพียงพอ ประเมินน ้าหนักตัว
มี/อาจเกิดภาวะ bowel and bladder dysfunction เนื่องจากเส้นประสาทที่มาเลี้ยง อวัยวะควบคุมการขับถ่ายมีน้อย หรือไม่มีเลย
การพยาบาล
สังเกตอาการ และให้การดูแลเกี่ยวกับการถ่ายกระปริดกระปรอย
ถ่ายลำบาก
ดูแลความสะอาดบ่อยๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ประเมินสัญญาณชีพ
ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับน้ำมากเพียงพอในกรณีไม่มีจำกัดน้ำ
ทำcrede' maneuver กระเพาะปัสสาวะด้วยความนุ่มนวลทุกครั้งที่ถ่ายปัสสาวะ
ภาวะไม่รู้สึกตัวร่วมกับกล้ามเนื้ออ่อนแรง
อาการ
มีก้อนที่หลัง หรือที่หน้าผาก ขาอ่อน แรงทั้งสองข้าง ปัสสาวะ อุจจาระ
ไข้ร่วมกับกล้ามเนื้ออ่อนแรง มีประวัติ ไม่ได้รับวัคซีน ไม่มีประวัติการคลอดในรพ.
Spina Bifida
เป็นความบกพร่องของกระดูกไขสันหลัง มีถุงยื่นผ่านจากกระดูกไขสันหลัง ออกมาตามต าแหน่งที่บกพร่องนั้น พบบ่อยที่สุดที่บริเวณ lumbosacrum
Spina bifida occulta : ผิดปกติกระดูกสันหลังส่วน Vetebral arches ไม่รวมตัวกัน
Spina bifida cystica : ผิดปกติของการปิดของส่วนโค้งกระดูกสันหลัง ทำให้มีการยื่นของไขสันหลังเห็นเป็น ถุงหรือก้อน มี 2 ชนิด
Meningocele : ก้อนหรือถุงน้ำประกอบไปด้วยเยื่อหุ้มสมอง
น้ำไขสันหลัง
Meningomyelocele : กระดูกสันหลังผิดปกติ มีก้อนยื่นออกมา
วินิจฉัย
การซักประวัติ : มารดาไม่ได้รับกรดโฟลิคขณะตั้งครรภ์,ได้ยากันชัก ประเภท Valporic acid
การตรวจร่างกาย : แขนขาอ่อนแรง พบก้อนหรือถุงตามแนวกระดูก สันหลัง
การตรวจพิเศษ : การตรวจระดับ alpha fetoprotein ขณะตั้งครรภ์ ผิดปกติ
ใช้ไฟฉายส่องบริเวณก้อนหรือถุง (transillumination test) แยกเพราะ meningocele จะโปร่งใสไม่มีไขสันหลังอยู่
รักษา
spida bifida occulta ไม่จำเป็นต้องรักษาแต่ชนิด Cystica ต้อง ผ่าตัดภายใน 24 – 48 ชั่วโมงภายหลังเกิด
การป้องกัน : ให้กรดโฟลิคแก่หญิงตั้งครรภ์จะช่วยลดการเกิดโรคได้
การพยาบาลเด็กโรคติดเชื้อของสมอง
สมองอักเสบ
สาเหตุ
1 ไวรัสที่น าโดยแมลง โดยเฉพาะโรคไข้สมองอักเสบเจอี
ไวรัสเริม ท าให้เกิดโรคไข้สมองอักเสบได้ในทุกวัย
ไวรัสโรคพิษสุนัขบ้า
หัด หัดเยอรมัน อีสุกอีใส คางทูม รวมทั้งวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า
อาการ
ไข้ มักสูงได้มาก ๆ ปวดศีรษะ ปวดต้นคอ คอแข็ง
ซึมลง จนกระทั่งถึงขั้นโคม่า ภายใน 24 –72 ชั่วโมง
ชัก มีการเคลื่อนไหวผิดปกติ
กระสับกระส่าย อารมณ์ผันแปร
การหายใจไม่สม่ าเสมอ อาจหยุดเป็นห้วง ๆ
วินิจฉัยโรค
ประวัติจากผู้เลี้ยงดู ให้ข้อมูลว่าผู้ป่วยมีไข้สูง ซึม คอแข็ง
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การตรวจนับเม็ดเลือดขาวในเลือด
การตรวจน้ำไขสันหลัง
การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง (MRI)
การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง (EEG)
การตรวจวินิจฉัยแยกสาเหตุของเชื้อ
รักษา
ดูแลระบบหายใจของผู้ป่วยให้ปกติ
การให้ยา
การให้ยา
ยาป้องกันและรักษาความสมองบวมตั้งแต่ระยะแรกๆ
ยานอนหลับ เพื่อลดอาการกระสับส่ายอาการเพ้อคลั่ง
ยาระงับชัก ยาลดไข้
ยา acyclovir ทางหลอดเลือดดำ
ยาต้านจุลชีพหรือยาปฏิชีวนะ
รักษาสมดุลของปริมาณน้ าเข้า-ออกของร่างกาย
การให้สารสารอาหารที่มีแคลอรีเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
ภาวะแทรกซ้อน
อาการของโรครุนแรงอาจเสียชีวิต
มีความพิการของสมอง เช่นพูดไม่ชัดหรือ พูดไม่ได้ ความจำเสื่อมและความคิดต่ำกว่าวัย
เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
สาเหตุ
การติดเชื้อผ่านทางกระแสโลหิตวแบคทีเรียเข้าสู่กระแสโลหิต (Bacteremia) ไปสู่ Subarachnoid Space ได้
การติดเชื้อกระจายสู่ Subarachnoid Space
มีการอักเสบของหูชั้นกลางอย่างเรื้อรัง
Meningocele แตก
มีการแตกหักของกะโหลกศีรษะทำให้น้ำไขสันหลังไหลออกมาทางจมูกหรือหู
อาการ
มีไข้สูง หนาวสั่น เบื่ออาหาร ในเด็กเล็กๆจะกระสับกระส่ายไม่ยอมดูดนม หรือมีอาเจียนได้ง่าย
อาการที่แสดงว่ามีการระคายของเยื่อหุ้มสมอง
อาการคอแข็ง
Kernig’s Sign Positive
Brudzinski’s Sign Positive
สมองบวม มีน้ำหรือหนองในช่องใต้เยื่อหุ้มสมอง
วินิจฉัย
ประวัติของผู้ป่วย
การตรวจห้องปฏิบัติการและการตรวจพิเศษ
การตรวจเลือด
การตรวจน้ำไขสันหลัง
การย้อมสีน้ำไขสันหลัง (gram stain)
การตรวจคอมพิวเตอร์สมอง (CT scan)
รักษา
แพทย์จะให้ยาต้านจุลชีพหรือยาปฏิชีวนะสอดคล้องกับผลการเพาะเชื้อน้ำไขสันหลัง
การรักษาทั่วไปตามอาการและการรักษาแบบประคับประคอง
การรักษาภาวะแทรกซ้อน
ภาวะแทรกซ้อน
ของเหลวคั่งในช่องใต้เยื่อหุ้มสมอง
ฝีในสมอง
ความดันในกะโหลกศีรษะสูง
การมองเห็นและการได้ยินผิดปกติ
เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อวัณโรค
อาการ
แบบเฉียบพลัน:มีไข้ ซึมลง การรับรู้เปลี่ยนแปลง ชัก
แบบเรื้อรัง
ระยะนำ:มีไข้ต่ำๆ บางรายไข้สูงลอย หงุดหงิด เบื่ออาหาร ซึม ปวดศีรษะ อาเจียน เด็กเล็กจะมีอาการกระสับกระส่าย
ระยะเปลี่ยนแปลง : คอแข็ง จะตรวจพบอาการแสดงของเยื่อหุ้มสมองชัดเจน
ระยะสุดท้าย:ไข้สูง ซึมมากขึ้น ไม่รู้สึกตัว ตาค้าง การหายใจเร็วตามด้วยช้าลง และหยุดหายใจ
วินิจฉัย
มีประวัติการป่วยเป็นวัณโรคของสมาชิกในครอบครัว
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ และการตรวจพิเศษ
การทดสอบทูเบอร์คูลิน (tuberculin test) ให้ผลบวก
การเจาะหลัง (Lumbar puncture)
รักษา
แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะร่วมกับยาต้านวัณโรค อย่างน้อย 2 ชนิดขึ้นไป เพื่อป้องกันเชื้อดื้อยา
การรักษาแบบประคับประคอง
ภาวะแทรกซ้อน
ระดับสติปัญญาลดลง
หูหนวกหรือพูดได้ช้า พบได้ไม่บ่อย
ภาวะน้ำคั่งในโพรงสมอง
การพยาบาลผู้ปวยเด็กที่มีการติดเชื้อของระบบประสาท
อาจได้รับสารอาหารและน้ำไม่เพียงพอ เนื่องจากอาการและพยาธิสภาพทางสมองและการไดรับยาขับน้ำ
ประเมินน้ำหนักตัวและภาวการณ์ขาดน้ำ
ประเมินและบันทึก I/O
ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ดูแลการได้รับน้ำและสารอาหาร
พัฒนาการล่าช้า
ประเมินพัฒนาการ
ดูแลให้ผูป่วยได้รับการตอบสนองความต้องการพื้นฐาน
เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการดูและส่งเสริมพัฒนาการ
จัดกิจกรรมสันทนาการใหเหมาะสมกับอาการและวัย