Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ภาวะตกเลือดหลังคลอด - Coggle Diagram
ภาวะตกเลือดหลังคลอด
ตกเลือดหลังคลอดระยะแรก
(Early or
immediate postpartum hemorrhage)
สาเหตุ
รกหรือเศษรกค้างภายในโพรงมดลูก(Tissue)
การฉีกขาดของช่องคลอด (Trauma)
การหดรัดตัวของมดลูก(Tone)
ความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด(Thrombin)
การรักษา
ตกเลือดก่อนรกคลอด
ใส่สายสวยปัสสาวะคาไว้ เพื่อวัดปริมาณของปัสสาวะที่ออกมา และลดสิ่งขัดขวางการหดรัดตัวของมดลูก
ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ5% D/W หรือ 5% D/NSS หรือ Ringer lactase solution (RLS) 1,000 ml. รว่ มกับ Oxytocin 10 – 20 unit โดยเร็ว
ให้ยา Oxytocin 10 – 20 unit เข้าทางกล้ามเนื้อหรือหลอดเลือดดำเมื่่อศีรษะทารกคลอด
ทำคลอดรกโดยวิธีCord traction ถ้ากรณีรกไม่คลอดให้ล้วงรกภายใต้ยาระงับความรู้สึกหรือยาระงับปวดหรือฉีดPethidine 50 mg.เข้าทางหลอดเลือดดำ
ตรวจรกที่คลอดอย่างละเอียด
ตรวจวัดความดันโลหิต ชีพจร อารหายใจ
คลึงมดลูกให้หดรัดตัวตลอดเวลาและฉีดMethergin 0.2 mg.เข้าทางหลอดเลือดดำ
เจาะเลือดมารดาเพื่อตรวจหาระดับความเข้มข้นของเลือดและเตรียมเลือดไว้กรณีฉุกเฉิน
ตกเลือดหลังรกคลอด
กรณีมดลูกหดรัดตัวไม่ดี
ฉีด Methergin 0.2 mg เข้าทางหลอดเลือดด
สวนปัสสาวะและคาสายไว้เพื่อให้กระเพราะปัสสาวะว่างไม่ขัดขวางการหดรัดตัวของมดลูก
วางกระเป๋าน้ำแข็งบริเวณหน้าท้องและคลึงให้มดลูกหดรัดตัวตลอดเวลา
คลึงมดลูกให้หดรัดตัวตลอดเวลา
ให้5%D/W หรอื 5% D/NSS หรอื Ringer lactase solution (RLS) 1,000 ml. รว่ มกับ
Oxytocin 10 – 20 unit ผสมอยู่ (กรณีทียงัไม่ได้ให)้ และขอเลือดเตรยีมไว้2 – 4
ผลจากการตกเลือดหลังคลอดระยะแรก
ระยะทันทีภายหลลังคลอด ผู้คลอดจะมีอาการใจสั่น ซีดลง ชีพจรเบาเร็ว ความดันโลิตต่ำ ช็อค มีการขาดออกซิเจน เกิดภาวะอวัยวะล้มเหลว มีความผิดปกติในการแข็งตัวของเลือดจากภาวะไฟปริโนเจนในเลือดต่ำและอาจตายได้ต่อมาผู้คลอดจะมีภูมิต้านทานโรคต่ำลง ทำให้มีโอกาสติเชื้อได้ง่าย ปริมาณน้ำนมของมารดาไม่เพียงพอ สำหรับเลี้ยงทารก อ่อนเพลีย ซีด สุขภาพทรุดโทรมและภายหลังพบว่า อาจจะเกิดAnterior pituitary necrosisซึ่งเซลล์ของต่อมใต้สมองตายและเป็นผลทำให้การทำงานของระบบ ต่อมไร้ท่อเกิดความบกพร่องขึ้น ได้แก่ ต่อมไทรอยด์ ต่อมหมวกไต และรังไข่ ทำให้มีอาการไม่มีน้ำนมหลังคลอด เต้านมเหี่ยวระดูขาดและขนของอวัยวะเพสร่วง อ่อนเพลีย ขาดความสนใจสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นกลุ่ม อาการที่เรียกว่าShechan’s Syndromes
การวินิจฉัย
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ตรวจดูชิ้นส่วนของรกที่อาจค้างอยู่
อาการและอาการแสดง
การมีเลือดออก ซึ่งอาจไหลออกมาให้เห็นทางช่องคลอดหรืออาจ ไม่มีเลือดออกมาให้เห็นแต่คั่งอยู้ด้านใน
เกิดเลือดคั่งที่เอ็นยึดมดลูกจะไม่ปรากฏเลือดไหลออกมาให้เห็นภายนอก
มดลูกปลิ้นจะพบว่ามีเลือดพุ่งออกมาให้เป็นจำนวนมากและอาจจะมีลิ่มเลือดปน
อาการแสดงของภาวะตกเลือด ซีด ชีพจรเร็ว ระยะแรกจะหายใจเร็วต่อมาหายใจช้า ใจสั้น เหงื่อออกมาก อ่อนเพลีย ความดันโลหิตต่ำ หมดสติและถึงเสียชีวิตได้
การป้องกันการตกเลือดหลังคลอดระยะแรก
ระยะคลอด
ทำคลอดในระยะที่2และระยะที่3อย่างถูกต้องเหมาะสม
ระวังการให้ยาแก้ปวดในขนาดที่มากเกินไปเพราะอาจเกิดผลต่อการหดรัดตัวของมดลูก
หลีกเลี่ยงการทำสูติศาสตร์หัตถการอย่างยาก
ดูแลไม่ให้เกิดการคลอดยาวนาน
ตรวจรกและช่องคลออดอย่างละเอียด
ระยะหลังคลอด
ในรายที่ได้รับยากระตุ้นให้เกิดการเจ็บครรภ์ อาจให้ Oxytocin ต่อภายหลัง การคลอดอย่างน้อย 2 ชม.
กระตุ้นให้บุตรดูดนนมมารดาทันทีหลังคลอดเพื่อกระตุ้นให้ฮอร์โมน Oxytocin หลั่งมากขึ้นเพื่อให้มดลูกหดรัดตัวดี
ดูแลให้กระเพราะปัสสาวะว่างโดยกระตุ้นให้ถ่ายปัสสาวะภายใน2 ชม.แรกหลังคลอด
ระยะก่อนคลอด
ซักประวัติอย่างละเอียด
ตรวจร่างกายกับหญิงตั้งครรภ์ในทุกราย
กระบวนการพยาบาลในการดูแลมารดาหลังคลอดที่มีภาวะตกเลือด
การประะเมินสภาพ
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
CBC, การตรวจหาหมู่เลือด และการตรวจเลือดเพื่อประเมินการแข็งตัวของเลือดเช่นPlatelets, PT, PTT , Fibrinogen depression
การตรวจร่างกาย
การหดรัดตัวของมดลูก มักคลำได้นุ่ม ตรวจระดับยอดมดลูก อาจถึงระดับสะดือหรือเหนือระดับสะดือ
การฉีกขาดของช่องคลอด
การบวมเลือดของอวัยวะสืบพันธ์
การมีรกหรือเศษเยื่อหุ้มรกค้างในโพรงมดลูก
เลือดสดออกจากช่องคลอด
ซีด ตัวเย็น ชีพจรเบาเร็ว อ่อนเพลีย ความดันโลหิตต่ำ กระสับกระส่าย
ความรุนแรงของการเสียเลือด การมีเลือดออกทางช่องคลอด ปริมาณเลือด ลักษณะ สี กลิ่น
ความสามารถในการเข้าอู่ของมดลูก ประเมินจากระดับยอดมดลูก
อาการติดเชิ้อ เช่น มีไข้ น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็น ปวดท้องน้อย
การตรวจทางช่องคลอดพบเศษเยื้อหุ้มรกที่ปากมดลูก
การซักประวัติ
ประวัติทางสูติศาสตร์ เช่น การคลอดเร็วหรือระยะที่1 ระยะที่2ของการคลอดยาวนานได้รับยาที่มีผลต่อการหดรัดตัวของมดลูก เช่นยาสลบOxytocin และ MgSO4 การทำสูติศาสตร์หัตถการมีประวัติเคยตกเลือดหลังคลอดมดลูกแตกหรือผ่าตัดมดลูกการทำคลอดรกขณะที่รรกยังไม่ลอกตัว
ประวัติส่วนตัว เช่น ภาวะโลหิตจาง การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
ประวัติความผิดปกติในระยะตั้งครรภ์ เช่น ภาวะครรภ์เป็นพิษAminionitis และทารกตายในครรภ์ ภาวะรกเกาะต่ำ ภาวะครรภ์แฝดน้ำหหรือการตั้งครรภ์แฝด
การประเมินผลการพยาบาล
คลอดไม่มีภาวะติดเชื้อหลังคลอด
ผู้คลอดปลอดภัยจากการตกเลือด
ผู้คลอดได้รับการดูแลและสามารถปฏิบัติกิจวัติประจำวันและแสดงบทบาทเป็นมารดาได้
ผู้คลอดไม่มีเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ มดลูกหดรัดตัวกลมแข็ง แผลฉีกขาดได้รับการเย็บซ่อมแซม
ผู้คลอดและญาติได้รับข้อมูลเกี่ยวกับความก้าวหน้าของอาการและการรักษาพยาบาล
ผู้คลอดปฏิบัติตนเมื่อมีภาวะตกเลือดหลังคลอดได้
กิจกรรมการพยาบาล
2.การพยาบาลขณะตกเลือด
จัดท่าให้นอนราบเพื่อให้เลือดดไปเลี้ยงหัวใจและสมองดีขึ้น
ช่วยเหลือแพทย์ในการตรวจหาเศษเยื่อหุ้มรกค้าง
ตรวจและบันทึกสัญญาณชีพทุก15 นาทีจนคงที่
ติดตามผลการตรวจเลือด ติดตามค่่าCBC
คลึงมดลูกให้แข็งตัวเป็นระยะ
บันทึกปริมาณสารน้ำที่ได้รับจำนวนเลือดที่เสียไปจำนวนปัสสาวะที่ออก
ดูแลการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำและยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
อธิบายการรักาาพยาบาลให้ผู้คลอดทราบและเข้าใจเพื่อลดความวิตกกังวลและให้ความร่วมมือในการรักษา
ดูแลกระเพราะปปัสสาวะให้ว่างป้องกันการรขัดขวางการหดรัดตัวของมดลูก
ติดตามปริมาณน้ำคาวปลา สี กลิ่น จากจำนวนผ้าอนามัย
ให้ออกซิเจน
ตรวจการมีเลือดออก และหดรัดตัวของมดลูก ถ้ามีการฉีกขาดของช่องคลอดให้เย็บซ่อมแซม
1.การพยาบาลเพื่อป้องกันการตกเลือด
ในรายที่ตาดว่าจะมีการตกเลือดให้เตรียมสารน้ำ ยา และอุปกรณ์กู้ชีวิตให้พร้อมใช้งาน
ตรวจหากลุ่มเลือดขณะตั้งครรภ์
ระมัดระวังการทำคลอดทุกระยะให้ถูกวิธีโดยป้องกันการฉีกขาดบริเวณรอบปากช่องคลอดไม่เร่งทำคลอดรกก่อนรกลอกตัว
ดูแลในระยะ 2 ชม.หลังคลอดอย่างใกล้ชิด ได้แก่ การหดรัดตัวของมดลูก การสังเกตจำนวนและลักษณะของเลือดที่ออกจากช่องคลอด และประเมินสัญญาณชีพ
ประเมินปัจจัยเสี่ยงท่ทำให้เกิดการตกเลือดหลังคลอด เพื่อการเฝ้าระวังและเตรียมการช่วยเหลือ ได้แก่ ภาวะทุพโภชนาการ ภาวะโลหิตจาง ประวัติการตั้งครรภ์และการคลอด
3. การพยาบาลระยะหลังการตกเลือด
แนะนำการปฏิบัติตัวหลังคลอด ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงของน้ำคาวปลา ระดับยอดมดลูก การดูแลทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์
แนะนำการคลึงมดลูฏ
แนะนำอาการผิดปกติที่ควรมาพบแพทย์ ได้แก่ อาการของการติดเชื้อ มีเลือดออกทางช่องคลอด น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็น
ระวังอุบัติเหตุที่อาาจเกิดขึ้นจากอาการหน้ามืดเมื่อลุกขึ้น
กระตุ้นการรับรู้เกี่ยวกับบุตร
ดูแลให้ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ
ดูแลให้รับประทานอาหารและยาวิตามิน ธาตุเหล็ก
ใส้ผ้าอนามัยเพื่อสังเกตปริมาณเลือดที่ออกทางช่องคลอด
วัตถุประสงค์การพยาบาล
การป้องกันการเกิดภาวะHypovolemic shock
การป้องกันภาวะติดเชื้อหลังคลอด
ได้รับการป้องกันการตกเลือดอย่างถูกวิธี
ผู้ป่วยลดความวิตกกังวลและสามารถปฏิบัติตนเมื่อมีภาวะตกเลือดหลังคลอดระยะหลังได้
ผู้ป่วยได้รับการดูแลรักษาพยาบาลภาวะตกเลือดหลังคลอดระยะหลัง
สามารถปฏิบัติตนในระยะหลังคลอดและเลี้ยงดูบุตรได้
ผู้ป่วยสามารถปรับตัวทางจิตสังคมหลังคลอดได้ตามปกติ
ความวิตกกังวลลดลง
แสดงบทบาทการเป็รบิดามารดาและมีความผูกพันธ์กับทารกได้
ความหมาย
ภาวะที่มีการเสียเลือดหลังคลอด ตั้งแต่500ml.ขึ้นไปหรือมากกว่าร้อยละ 1ของน้ำหนักตัวของมารดา
การตกเลือดหลังคลอดระยะหลังShechan’s Syndromes
การรักษา
รายที่มีการติดเชื้อภายในโพรงมดลูกพิจารณาให้ยาช่วยการหดตัวของมดลูกเพื่อช่วยให้มดลูกหดรัดตัวดีร่วมกับยาปฏิชีวนะ
รายที่มีเลือดออกจากแผลภายในช่องคลอดให้ทำความสะอาดและเย็บแผลให้เลือดหยุด ถ้าเนื้อเยื้อบริเวณแผยยุ่ยมากเย็บแล้วเลือดไม่่หยุดอาจต้องกดไว้หรือใช้ผ้าก๊อซอัดไว้ในช่องคลอดร่วมกับการใช้ยาปฏิชีวนะ
รายที่มีเศษรกค้างหรือมีก้อนเลือดค้างอยู่ในโพรงมดลูกให้Oxytocinและทำการขูดมดลูกด้วยความระมัดระวัง
การวินิจฉัย
สามารถวินิจฉัยการตกเลือดหลังคลอดระยะหลังได้จากอาการและอาการแสดง ได้แก่ มีเลือดออกทางช่องคลอด มักเกิดอาการภายใน3สัปดาห์หลังคลอด ส่วนใหญ่พบระหว่างวันที่7-14วันหลังคลอด ส่วนอาการอื่นๆคล้ายกับการตกเลือดหลังคลอดระยะแรก
สาเหตุ
เลือดออกจากแผลภายในช่องคลอดมักเกิดจากการติดเชื้อบริเวณแผลภายในช่องคลอด
มีก้อนเลือดหรือมีเศษรกค้างอยู่ภายในโพรงมดลูกเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด มักเกิดภายหลังคลอดประมาณ1-2สัปดาห์
เลือดออกจากแผลมดลูกภายหลังผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องและมะเร็งไข่ปลาอุกเป็นสาเหตุที่พบได้น้อยมาก มักเกิดภายหลังคลอด4 สัปดาห์
ภาวะติดเชื้อภายในโพรงมดลูกผู็ป่วยมักมีอาการของการติดเชื้อเช่น มีไข้ น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็น ปวดท้องน้อย มดลูกเข้าอู่ไม่ดี
สาเหตุร่วมกันที่พบได้บ่อย ได้แก่ ภาวะมีเศษรกค้างในโพรงมดลูกร่วมกับการติดเชื้อภายในโพรงมดลูก
ผลจากการตกเลือด
ภูมิต้านทานโรคต่ำ ติดเชื้อได้ง่าย
เกิด Necrosisของต่อมใต้สมองส่่วนหน้า(Sheehan’ s syndrome)
ภาวะซีด อ่อนเพลีย สุขภาพทรุดโทรม