Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การคลอดเฉียบพลัน (Precipitate labor) - Coggle Diagram
การคลอดเฉียบพลัน (Precipitate labor)
ความหมาย
การคลอดที่เกิดขึ้นเร็วผิดปกติใช้เวลาทั้งหมด ประมาณ 3 ชั่วโมง หรือใช้เวลาทั้งหมดในการคลอดประมาณ 2-4 ชั่วโมง และมีการเปิดขยายของปากมดลูก ในระยะปากมดลูกขยายเร็ว 5 เซนติเมตร/ชั่วโมง ในผู้คลอดครรภ์แรก (1 เซนติเมตร ทุก 12 นาที) และ มากกว่า 10 เซนติเมตร/ชั่วโมงในผู้คลอดครรภ์หลัง (1 เซนติเมตร ทุก 6 นาที) ซึ่งเป็นผลจากแรงต้านทานของ เนื้อเยื่อที่หนทางคลอดไม่ดี ความผิดปกติของมดลูกที่แรงมาก
สาเหตุและปัจจัยส่งเสริม
การหดรัดตัวของกล้ามเนื้อมดลูก และกล้ามเนื้อหน้าท้องแรงผิดปกติโดยเกิดขึ้นเองหรือจากการให้ยาเร่งคลอดมากผิดปกติ
ผู้คลอดครรภ์หลัง เนื้อเยื่อต่างๆมีการยืดขยายมากจึงทำให้ส่วนต่างๆ ได้แก่ คอมดลูก พื้นเชิงกรานช่องคลอดและฝีเย็บหย่อนตัว
แรงต้านทานของเนื้อเยื่อที่ช่องคลอดไม่ดี
ผู้คลอดที่มีเชิงกรานกว้าง
เคยมีประวัติการคลอดเฉียบพลัน
ผู้คลอดไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดจากการคลอดหรือไม่รู้สึกอยากเบ่ง ซึ่งพบได้น้อยมาก
ทารกตัวเล็กหรืออายุครรภ์น้อยกว่ากำหนดทำให้เคลื่อนต่ำลงมาได้ง่าย
ผู้คลอดที่ไวต่อการได้รับยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
อาการและอาการแสดง
มีอาการเจ็บครรภ์เป็นอย่างมาก
มดลูกมีการหดรัดตัวอย่างถี่และรุนแรง มากกว่า 5 ครั้งในเวลา 10 นาที
ตรวจภายในพบปากมดลูกมีการเปิดขยายเร็ว ครรภ์แรกปากมดลูกเปิด 5 เซนติเมตร/ชั่วโมง ครรภ์หลังปากมดลูกเปิด 10 เซนติเมตร หรือมากกว่า 10 เซนติเมตร/ชั่วโมง
การวินิจฉัย
ระยะเวลาในการเจ็บครรภ์และคลอดน้อยกว่า 3 ชั่วโมง
อัตราการเปิดขยายของปากมดลูก เปิดมากกว่า 5 เซนติเมตร/ชั่วโมง ในครรภ์แรก และเปิดมากกว่า 10 เซนติเมตร/ชั่วโมง ในครรภ์หลัง
มีการหดรัดตัวของมดลูกถี่และรุนแรง มีการหดรัดตัวทุก 2 นาทีหรือบ่อยกว่านั้นและ ระยะเวลาของการหดรัดตัวของมดลูกนานมากกว่า 90 วินาที หรือไม่มีการคลายตัวในระยะที่ควรเป็นระยะพัก
ความดันภายในโพรงมดลูกประมาณ 50-70 มิลลิเมตรปรอท
ภาวะแทรกซ้อนต่อมารดา
เนื้อเยื่อบริเวณช่องทางคลอดเกิดการฉีกขาด ได้แก่ ปากมดลูก ช่องคลอด ฝีเย็บ ลักษณะของแผลเป็นแบบกะรุ่งกะริ่ง
อาจเกิดภาวะน้ำคร่ำอุดตัน
มดลูกแตกจากมดลูกหดรัดตัวรุนแรง
เกิดการคั่งของเลือดใต้ชั้นผิวหนังที่ฉีกขาด
ตกเลือดหลังคลอดเนื่องจากมีเลือดออกจากแผล และระยะหลังคลอด กล้ามเนื้อมดลูกอ่อนล้าจึงหดรัดตัวไม่ดี
อาจเกิดมดลูกปลิ้นเนื่องจากความดันในโพรงมดลูกลดลดอย่างรวดเร็ว
มีการติดเชื้อที่แผลฉีกขาด
ภาวะแทรกซ้อนต่อทารก
อาจเกิดภาวะขาดออกซิเจน (asphyxia) เนื่องจากรกลอกตัวก่อนกำหนดหรือจากการที่มดลูก หดรัดตัวของมดลูกอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ทำให้เส้นเลือดหดรัดตัว เลือดไหลผ่านไปยังรกได้น้อย ทารกจึง ขาดออกซิเจน
ทารกได้รับบาดเจ็บเนื่องจากการกระทบกระแทกเพราะการช่วยคลอดไม่ทัน
เลือดออกในสมอง (subdural hemorrhage) อาจเกิดมาจากศีรษะทารกมากระทบกับแรง ต้านของ พื้นเชิงกราน ช่องคลอดและฝีเย็บอย่างรวดเร็ว ทำให้ความดันภายในสมองลดลงอย่างรวดเร็วจึงเกิด เลือดออกในสมอง ซึ่งพบว่า ทารกที่เกิดจากการคลอดแบบนี้มีโอกาสเกิดภาวะปัญญาอ่อนมากกว่าทารกปกติ
อาจมีความผิดปกติของกล้ามเนื้อแขนถูกดึงมากเกินไป ทารกไม่สามารถยกมือได้ แขนข้างที่ เป็นจะบิดไปติดกับลำตัว ฝ่ามือหันไปทางด้านหลัง กางแขนออกไม่ได้ ภาวะนี้เรียกว่า Erb’palsy
สายสะดือขาดขาดเนื่องจากสายสะดือสั้นหรือรกยังไม่ลอกตัว
ถ้าคลอดออกมาทั้งถุงน้ำคร่ำ (caul delivery) ทารกอาจสำลักน้ำคร่ำได้ ซึ่งมักพบในทารกที่ อายุครรภ์น้อย
ทารกอาจเกิดการติดเชื้อเนื่องจากไม่ได้เตรียมทำความสะอาดก่อนคลอด
รกลอกตัวก่อนกำหนด
ถ้าให้การช่วยเหลือช้า ทารกอาจเกิดภาวะหนาวสั่น หรือการช่วยฟื้นคืนชีพช้าทำให้เสียชีวิต
การพยาบาล
มารดาที่มีประวัติการคลอดเร็ว ต้องระมัดระวังในการให้การพยาบาล เพื่อการปูองกันการคลอดเฉียบพลัน โดยการประเมินความก้าวหน้าของการคลอดอย่างใกล้ชิด
ให้การดูแลตามอาการ กรณีที่จะมีภาวะคลอดเฉียบพลัน
ระยะหลังคลอดให้การดูแลอย่างใกล้ชิด ในกรณีที่มีการฉีกขาดของช่องทางคลอด และมดลูกหดรัดตัวไม่ดี เพื่อป้องกันการตกเลือดหลังคลอด
แนะนำการรักษาความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ และดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษา เพื่อป้องกันการติดเชื้อหลังคลอด
การรักษา
ให้การดูแลตามอาการ ถ้าประสบกับการคลอดเฉียบพลันให้ช่วยคลอด
การให้ยารายที่ให้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก ควรหยุดให้และดูแลอย่างใกล้ชิด อาจให้ยาช่วยยับยั้งการหดรัดตัวของมดลูก รายที่มีการคลอดเฉียบพลันภายหลังคลอด แพทย์มักจะให้ยาปฏิชีวนะ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และให้ยา methergin หลังคลอดเพื่อปูองกันการตกเลือด
การผ่าตัดคลอดทำในรายที่มีภาวะแทรกซ้อนจากภาวะมดลูกแตก (uterine rupture) หรือ น้ำคร่ำอุดตันในกระแสเลือดของผู้คลอด (amniotic fluid embolism)
การประเมินสภาพ
การซักประวัติ ได้แก่ ประวัติการคลอดเฉียบพลัน หรือการคลอดเร็วในครรภ์ก่อน ความไวต่อการเร่งคลอด ลักษณะอาการเจ็บครรภ์ หรืออาการอื่นๆ ร่วมกับการเจ็บครรภ์
การตรวจร่างกาย
การตรวจภายใน เพื่อประเมินอัตราการเกิดขยายของปากมดลูก
การฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์ ร่วมกับการ monitor EF เพื่อประเมินภาวะสุขภาพของทารกในครรภ์
ประเมินการหดรัดตัวของมดลูก
ภาวะจิตสังคม ได้แก่ ประเมินความวิตกกังวล และความหวาดกลัวของผู้คลอดเกี่ยวกับภาวะสุขภาพของทารกเนื่องจากการคลอดเร็ว