Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลมารดาในระยะหลังคลอด - Coggle Diagram
การพยาบาลมารดาในระยะหลังคลอด
การเปลี่ยนแปลงทางกายวิภาคและสรีรวิทยา
ระบบหัวใจและหลอดเลือด
ส่วนประกอบของเลือดลดลงเพื่อปรับสมดุลในร่างกายให้ปกติ
เม็ดเลือดขาวสูง
มารดาอาจมีไข้ได้หลังคลอดเนื่องจากขาดน้ำและกลไกป้องกันการติดเชื้อช่วยการหายของแผล
ระบบทางเดินอาหาร
อาจมีอาการท้องผูก
เนื่องจากหน้าท้องหย่อน
ระบบต่อมไร้ท่อ
ต่อมใต้สมอง
ขนาดเพิ่มขึ้น 135% โดยอาจกด optic chiasma ทำให้ visual field แคบ การที่ต่อมใต้สมองใหญ่เกิดจากการกระตุ้นของเอสโตรเจนทำให้เกิด hypertrophy และ hyperplasia ของ lactotroph, prolactin สูงขึ้น, Gonadotrophs ต่ำลง, corticotrophs และ thyrotrophs คงที่, Somatotrophs ลดลง
ต่อมใต้สมองโตได้สูงสุดหลังคลอดวันแรกและจะลดขนาดลงจนเป็นปกติ 6สัปดาห์หลังคลอด
ระบบผิวหนัง
มีฝ้าที่ใบหน้า
สีลานนมเข้มขึ้น
ระบบขับถ่ายปัสสาวะ
สัปดาห์แรกปัสสาวะจะออกมาก หรือมีภาวะ diuresis เพื่อลดปริมาณเลือดที่เพิ่มขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ให้กลับสู่ภาวะปกติ
กระเพาะปัสสาวะจะยืดขยายใหญ่ได้มากกว่าปกติ การถ่ายปัสสาวะจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายในสัปดาห์ที่ 3 หลังคลอด
ระบบกล้ามเนื้อและโครงสร้าง
กล้ามเนื้อ
1 – 2 วันแรกหญิงระยะหลังคลอดมีอาการเมื่อยและปวดกล้ามเนื้อโดยเฉพาะบริเวณแขนขา ไหล่และคอ ทั้งนี้เพราะต้องออกแรงเบ่งขณะคลอดและหลังคลอดรกฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนลดต่ำลง
โครงกระดูก
ช่วงตั้งครรภ์ฮอร์โมนรีแลคซิน (relaxin) ทำให้บริเวณข้อต่อต่างๆของร่างกายมีการยืดขยาย มีการเคลื่อนไหวของข้อต่อมากเกินไปและมีการเปลี่ยนจุดศูนย์ถ่วงของร่างกาย
กระดูดสันหลังแอ่นและกระดูกเชิงกรานรับน้ำหนักมากขึ้นหลังคลอด 2 – 3 วันแรก ระดับฮอร์โมนรีแลคซินค่อยๆลดลง
หญิงระยะหลังคลอดยังคงเจ็บปวดบริเวณตะโพกและข้อต่อซึ่งจะขัดขวางการเริ่มเคลื่อนไหว (Ambulation)และการบริหารร่างกายอาการปวดดังกล่าวจะเป็นชั่วคราวเท่านั้นแต่ปัญหาเหล่านี้
ระบบสืบพันธุ์
ช่องคลอด
3-4 week ผนังช่องคลอดฟื้นตัวช้าๆ
6-10 week ผนังช่องคลอดฟื้นตัวปกติ หากมีเพศสัมพันธุ์ก่อนอาจเจ็บปวดได้
ฝีเย็บ
หลังคลอด จะร้อนแดง จากการคั่งและบวมช้ำ
อาจปวดนานถึง 6 เดือน
แผลจะเกินหายภายใน 2-3 เดือน
4-6 เดือนแผลหายปกติเหมือนก่อนตั้งครรภ์
ปากมดลูก
ไม่เคยผ่านการคลอด
ปากมดลูกบวม บาง ช้ำ มีรอยถลอกหรือฉีกขาดเล็กน้อย และขยายกว้าง
เคยผ่านการคลอด
External os ฉีกขาดไปทางด้านข้างอย่างถาวร รูปวงรี แคบลงเมื่อผ่านไป 1 สัปดาห์
บริเวณ internal os จะกลับสู่ภาวะปกติ ประมาณสัปดาห์ที่ 4-6
มดลูก
involution of uterus (มดลูกเข้าอู่)
การหดรัดตัวของใยกล้ามเนื้อมดลูก (contraction of muscle fibers)
ฮอร์โมนเพศลดลง ฮอร์โมนoxytocinหลั่งทำให้การหดรัดตัวมากขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อมดลูกขาดเลือดไปเลี้ยง เกิดการฝ่อ แล้วสลายตัวเนื้อเยื่อในโพรงมดลูก
การลดระดับของมดลูก
หลังคลอดยอดมดลูกจะอยู่กึ่งกลางระหว่างสะดือกับกระดูกหัวเหน่าหรือสูงกว่าเล็กน้อย
คลำได้ลักษณะกลมแข็ง หดรัดตัวดี วัดได้ประมาณ 1 นิ้วมือ (finger-breadth:FB) ต่ำกว่าสะดือ
เฉลี่ย 1 ซม. หรือ 0.5 ถึง 1 นิ้วฟุต หรือ 1 FB/วัน
เยื่อบุโพรงมดลูก
มีการหลุดลอกของเยื่อบุโพรงมดลูกที่ตายแล้ว ตั้งครรภ์ครั้งใหม่ ไข่สามารถฝังบริเวณเยื่อบุโพรงมดลูกนี้ได้
น้ำคาวปลา
สิ่งที่ถูกขับออกมาจากแผลในโพรงมดลูกบริเวณที่เกาะของรก
2-3 วันแรก
การหดและคลายตัวของมดลูก ทำให้ครรภ์หลังจะปวดมากกว่าครรภ์แรก เพราะความตึงตัวของกล้ามเนื้อมดลูกลดลง
ขณะให้นมบุตร อาจปวดมดลูกมากขึ้น จาก oxytocin ยืดมากปวดมาก
หัวนมและเต้านม
prolactin เพิ่มขึ้นเป็นผลให้เกิด breastfeeding กับการตกไข่ และการมีประจำเดือนอีกครั้ง
การเปลี่ยนแปลงด้านสังคม
การเปลี่ยนแปลงด้านจิตสังคมของมารดาในระยะหลังคลอด
อยู่ในระยะ 1-2 วัน มารดามีพฤติกรรมพึ่งพาผู้อื่น Dependent behavior
อยู่ในระยะ 3-10 วันหลังคลอดเริ่มเข้าสู่สมดุล มีความกระตือรือล้นในการดูแลตนเอง ทารกและครอบครัว
เป็นระยะออกจากโรงพยาบาล อยู่บ้านและทำหน้าที่พึ่งพาตนเอง รวมทั้งเป็นมารดาอย่างเต็มที่ มารดาต้องยอมรับว่าได้แยกจากทารกทางด้านร่างกาย
Brusting out เป็นระยะที่มารดาหลังคลอดปรับตัวต่อบทบาทใหม่ได้ดีขึ้น
10 วันหลังคลอดเป็นระยะที่พบมารดามีภาวะซึมเศร้ามากถึง 80 %
การปรบัตัวต่อบทบาทของมารด
สัมพันธภาพระหวา่งสามี
2.การรับรู้ถึงการมีส่วนร่วมในการดูแลบุตรของสามี
3.ความพึงพอใจของมารดาที่มีต่อประสบการณ์ในระยะเจ็บครรภ์และระยะคลอด
4.ความพึงพอใจของมารดาต่อสภาพชวีติ และฐานะทางครอบครัว
5.ความมันใจของมารดาในการทําตามบทบาท
ปัจจัยที่มีผลต่อการปรับตัวสู่บทบาทการเป็นมารดา
บุคลิกและการเลี้ยงดูทีได้รับในวัยเด็ก
อายุ: บ่งบอกถึงวุฒิภาวะของบุคคล
ประสบการณ์ในการเลี้ยงดูเด็ก
การศึกษา
รายได้
สัมพันธภาพในชีวิตสมรส
การส่งเสริมสุขภาพมารดาหลังคลอด
อาหาร
ควรรับทานอาหารที่ย่อยง่ายและมีประโยชน์ทุกชนิด เช่น เนื้อ นม ไข่ ผลไม้ และผักสด อาหารเหล่านี้จะช่วยให้มีน้ำนมที่มีคุณค่าพอเพียงสำหรับลูก และยังเสริมสร้างกำลังที่เสียไปในการคลอด
ไม่ควรรับทานอาหารรสจัด ของหมักดอง หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รวมทั้งยาดอง ควรดื่มน้ำมาก ๆ (ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำร้อน) ควรรับประทานผัก และผลไม้สด จะช่วยไม่ให้ท้องผูก
การรักษาความสะอาดร่างกาย
เมื่อช่วยตัวเองได้ภายหลังคลอด 12-24 ชั่วโมง อาบน้ำได้แต่ไม่ควรอาบน้ำในอ่างน้ำ หรือแม่น้ำลำคลอง เพราะเชื้อโรคอาจเข้าไปภายในมดลูก
หมั่นเปลี่ยนเสื้อผ้า เนื่องจากระยะหลังคลอดแม่มักมีเหงื่อออกมากและมีน้ำนมไหลเปียกเสื้อตลอดเวลา
การพักผ่อน
พักผ่อนให้มากอย่างน้อย 2 สัปดาห์ กลางคืนควรได้นอน 6-8 ชั่วโมง หลังอาหารกลางวันควรได้นอนพัก 1/2-3 ชั่วโมง และภายใน 6สัปดาห์หลังคลอดห้ามทำงานหนักเช่น ยกของหนักหรือแบกหามเพราะจะมีผลกระทบกระเทือนต่ออวัยวะในอุ้งเชิงกราน เช่น มดลูก
การดูแลแผลบริเวณฝีเย็บ
ควรทำความสะอาด เช้า - เย็น และทุกครั้งที่ถ่ายปัสสาวะ หรืออุจจาระ เมื่อใช้กระดาษชำระภายหลังถ่ายอุจจาระ
ระวังอย่าเช็ดย้อนจากทวารหนักมายังฝีเย็บ เพราะในอุจจาระมีเชื้อโรคมาก จะทำให้ติดเชื้อได้
การดูแลเต้านมและหัวนม
ระหว่างที่ให้นมลูก แม่ควรสนใจความสะอาดของเต้านมและหัวนมให้มากเป็นพิเศษ โดยการทำความสะอาดทุกครั้งที่อาบน้ำและหลังจากให้นมลูก
ถ้ามีอาการนมคัด ควรแก้ไขโดยบีบน้ำนมออกเสียบ้าง และใช้น้ำเย็นประคบหรือประคบร้อนชื้นบริเวณเต้านม จะทำให้ลดอาการปวด การเกิดอาการนมคัดนี้ ถ้าปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ อาจทำให้เกิดเต้านมอักเสบได้ จึงควรรีบปรึกษาแพทย์
งดอยู่ร่วมกับสามี
ควรงดเว้นอย่างน้อย 6 สัปดาห์หลังคลอดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ และการฉีกขาดของช่องคลอด
การตรวจหลังคลอด
1 เดือนหลังคลอดควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูว่าอวัยวะต่าง ๆ เข้าสู่สภาพปกติหรือยัง (ถ้ามีสิ่งใดผิดปกติ จะได้มีโอกาสแก้ไข) พร้อมกับปรึกษาเรื่องการคุมกำเนิดด้วย
น้ำคาวปลา
ควรทำความสะอาดอวัยวะเพศทุกครั้งที่ถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระ และหมั่นเปลี่ยนผ้าอนามัยให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าไปภายในมดลูก ซึ่งจะทำให้เกิดการอักเสบ และติดเชื้อได้
เอกสารอ้างอิง
เพ็ชรัตน์ เตชาทวีวรรณ. (2561). NUR 2230 การพยาบาลมารดาทารกและการผดุงครรภ์ 1. [ออนไลน์]. ได้จาก: file:///C:/Users/User/Downloads/Documents/PP(27122556).pdf. [สืบค้นเมื่อ 27 พฤษภาคม 2563]
เฟื่องลดา ทองประเสริฐ. (2554). การดูแลสตรีระยะหลังคลอด (puerperium care). [ออนไลน์]. ได้จาก:
https://w1.med.cmu.ac.th/obgyn/index.php?option=com_content&view=article&id=473:postpartum-care&catid=38&Itemid=480
. [สืบค้นเมื่อ 27 พฤษภาคม 2563]
สุพรรณิกา ใจสมัน. (2556). การดูแลสุขภาพของมารดาหลังคลอด. [ออนไลน์]. ได้จาก:
http://www.ttmed.psu.ac.th/blog.php?p=73
. [สืบค้นเมื่อ 27 พฤษภาคม 2563]