Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ประเภทของการวิจัย, นางสาวปิยธิดา จุ่นเจิม 36/1 เลขที่69 - Coggle Diagram
ประเภทของการวิจัย
แบ่งตามวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
การวิจัยแบบสำรวจจากตัวอย่าง
เป็นการวิจัยที่ผู้วิจัยทำการเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง
การศึกษาเฉพาะกรณี
การศึกษาเฉพาะกรณีเป็นการวิจัยที่นักสังคมสงเคราะห์นิยมใช้มาก
ที่เรียกว่าการศึกษาเฉพาะกรณีก็เพราะเป็นการศึกษาเรื่องที่สนใจในขอบเขตจำกัดหรือแคบ ๆ
และใช้จำนวนตัวอย่างไม่มากนัก แต่จะศึกษาอย่างลึกซึ้งในเรื่องนั้น
การวิจัยแบบสำมะโน
เป็นการวิจัยที่ผู้วิจัยทำการเก็บรวบรวมข้อมูลจากทุก ๆ หน่วยของประชากร
การศึกษาแบบต่อเนื่อง
เป็นการศึกษาที่มีการเก็บข้อมูลเป็น ระยะ ๆ
เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาของกลุ่มตัวอย่าง
การวิจัยจากการสังเกต
เป็นการวิจัยที่ผู้วิจัยทำการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการสังเกต การวิจัยประเภทนี้นิยมใช้มากทางด้านมานุษยวิทยาซึ่งส่วนใหญ่เป็นการสังเกตพฤติกรรมของบุคคลในสังคมในแง่ของสถานภาพและบทบาท
การวิจัยเชิงทดลอง
เป็นการวิจัยที่ผู้วิจัยเก็บข้อมูลมาจากการทดลอง ซึ่งเป็นผลมาจากการกระทำ
โดยมีการควบคุมตัวแปรต่าง ๆ ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์
การวิจัยจากเอกสาร
เป็นการวิจัยที่ผู้วิจัยทำการเก็บรวบรวมข้อมูลจากเอกสาร รายงานจดหมายเหตุ ศิลาจารึกแล้วเสนอผลในเชิงวิเคราะห์
ประเภทของการวิจัยแบ่งตามระเบียบวิธีการวิจัย
การวิจัยเชิงทดลอง
มีการทดลอง
การวิจัยเชิงย้อนรอย
เป็นการวิจัยที่ศึกษาจากผลไปหาเหตุผลในปัจจุบันเกิดจากเหตุในอดีต
เริ่มจากกำหนดผลหรือตัวแปรตามก่อนแล้วค่อยค้นหาสาเหตุ
การวิจัยเชิงบรรยาย
ไม่มีการทดลองใดๆในการวิจัย ศึกษาสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน
การวิจัยเชิงสำรวจ
หาคำตอบเกี่ยวกับตัวแปรว่ามีคุณลักษณะอย่างไรจำนวนเท่าไร เป็นต้น
ในการเก็บข้อมูลนั้น survey หมายถึงสำรวจ(ถาม)ทุกคน แต่คนทั่วไปไม่ค่อยเคร่งครัดเรื่องนี้
การวิจัยเชิงประวัติศาสตร์
ศึกษาว่าในอดีตเกิดอะไรขึ้น ปัจจุบันเป็นอย่างไร
หาความสัมพันธ์ตัวแปรบางตัวในอดีตกับปัจจุบันเพื่อทำนายว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร
การวิจัยเชิงประเมินผล
ประเมินผลอาจใช้ CIPP แบบที่นักวิจัยไทยนิยม
ประเมินว่า contextคือบริบทของงานที่ประเมินเป็นอย่างไร
วัตถุประสงค์กับปัญหาสอดคล้องกันไหม input คือปัจจัยนำเข้า
process คือกระบวนการทำได้ครบไหม มีปัญหาอะไรเข้ามาแทรกไหม
product คือผลผลิต ได้ผลเป็นอย่างไร บรรลุวัตถุประสงค์ไหม เป็นต้น
ประเภทของการวิจัยแบ่งตามวัตถุประสงค์และวิธีการเสนอข้อมูล
การวิจัยเชิงอรรถาธิบาย
ไม่มีการทดลอง แต่หาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์หรือหาปัจจัยที่มีผลต่อตัวแปรได้
เป็นการหาคำตอบเพื่ออธิบายว่าปัจจัยใดบ้างที่มีอิทธิผล/สัมพันธ์ต่อตัวแปร
เช่น พิสูจน์ว่าปัจจัยด้านเพศ อายุ การศึกษา อาชีพ และรายได้
การวิจัยเชิงคาดคะเน
เป็นการวิจัยที่ให้ผลการวิจัยที่บอกสิ่งที่ยังไม่เกิดแต่คาดไว้ว่าจะเกิดอย่างไร
เช่น หาความสัมพันธ์ระหว่างความเข้มแข็งกับความวิตกกังวล
การวิจัยเชิงบรรยาย
เป็นการวิจัยคล้ายกับแบบสำรวจตรงที่ไม่มีการทดลองในการวิจัยนั้นๆ
แต่สามารถมีการเปรียบเทียบตัวแปร
การวิจัยเชิงวินิจฉัย
เป็นการวิจัยเพื่อค้นหาปัญหาหรือสาเหตุของปัญหา
การวิจัยขั้นสำรวจ
เป็นการหาคำตอบเกี่ยวกับตัวแปรที่ศึกษาว่าเป็นอย่างไร
เช่น จำนวน ร้อยละ มาก-น้อย สูง-ต่ำ เป็นต้น
ไม่มีการเปรียบเทียบว่าอะไรมาก-น้อย แตกต่างกันหรือไม่แตกต่าง
ไม่มีการหาความสัมพันธ์ว่าตัวแปรสัมพันธ์กันหรือไม่
งานวิจัยอื่นๆที่ควรรู้จัก
R2R (routine to research)
ทำงานประจำตามปกติ แล้วพบปัญหา/จุดอ่อนในการทำงาน
อาจเป็นเรื่อง workloadคุณภาพงาน เวลาที่ใช้ทำงาน เงินที่ต้องใช้ไปเพื่อการทำงาน ความพึงพอใจของผู้รับบริการ
แล้วหาวิธี (treatment) มาแก้ไขปัญหา แล้วจึงเปรียบเทียบผลก่อน-หลัง
PAR (participatory action research)
มักเป็นวิจัยที่ทำเพื่อพัฒนาชุมชน ให้คนในชุมชนร่วมทำวิจัย
เริ่มตั้งแต่กำหนดปัญหาไปจนจบ ทำให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชน
R&D (research and development)
ทำการวิจัยหลายขั้นตอน เริ่มจากทำ research
ดูว่าสถานการณ์ที่เกี่ยวกับปัญหานั้นเป็นอย่างไรบ้าง
และนำผลของขั้นแรกมาออกแบบโปรแกรม/โครงการ/หลักสูตร ฯลฯที่จะตอบสถานการณ์ปัญหานั้น
หลังจากนั้นก็นำโปรแกรม/โครงการ/หลักสูตร ฯลฯ ที่ออกแบบไว้มาใช้
Systematic review, meta-analysis, research synthesis
ทั้ง 3แบบนี้ ไม่เก็บข้อมูลภาคสนาม แต่ใช้งานวิจัยที่มีอยู่แล้วเก็บ
ข้อมูลจากงานวิจัยเหล่านั้น หลังจากนั้นทำการวิเคราะห์และสังเคราะห์เป็นความรู้ใหม่
ประเภทของการวิจัยแบ่งตามประโยชน์ของการนำผลการวิจัยไปใช้
การวิจัยประยุกต์
เป็นวิจัยที่เป็นไปเพื่อจะนำผลวิจัยที่เกิดขึ้นไปใช้ในการทำงานจริง
เมื่อได้ผลเป็นอย่างไรก็จะนำไปสู่การตัดสินใจใช้เป็นยารักษาโรคเบาหวานต่อไป
การวิจัยเชิงปฏิบัติการ
เป็นการวิจัยที่มุ่งทำให้เกิดผลที่เป็นพัฒนางานหรือแก้ไขข้อบกพร่องของหน่วยงาน
ผลที่ได้จากการวิจัยแบบนี้มีความเฉพาะเจาะจงว่าวิธีการที่พิสูจน์ว่าแก้ปัญหาได้นั้น
การวิจัยพื้นฐานหรือการวิจัยบริสุทธิ์
เป็นวิจัยที่มุ่งสร้างทฤษฎี สูตร หรือกฎ
ผลจากการวิจัยนี้จะเป็นสูตร กฎ หรือทฤษฎีในการเรียนหรือการวิจัยในสาขานั้นๆต่อไป
ประเภทของการวิจัยแบ่งตามความ
สามารถในการควบคุมตัวแปร
การวิจัยเชิงกึ่งทดลอง
เป็นการวิจัยที่ควบคุมได้บางส่วน
เช่น ให้นักเรียนห้องหนึ่งเรียนแบบบรรยาย
การวิจัยเชิงธรรมชาติ
ไม่ต้องควบคุมตัวแปรแทรกซ้อนใดๆ
ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ แล้วดูว่าผลการวิจัยจะเป็นอย่างไร นักวิจัยก็จะทำการอภิปรายผลที่เกิดขึ้น
การวิจัยเชิงทดลอง
เป็นการวิจัยที่ควบคุมตัวแปรแทรกซ้อนได้เต็มที่
เช่น ปลูกข้าวโพดในห้องทดลองที่ควบคุมอุณหภูมิให้เป็น 20 C
ประเภทของการวิจัยแบ่งตามลักษณะของข้อมูล
การวิจัยเชิงคุณภาพ
การวิจัยแบบผสม
แบบคู่ขนาน
แบบตามลำดับก่อน-หลัง
การวิจัยเชิงปริมาณ
ตัวอย่าง ประเภทของ
QUALITATIVE STUDY
การวิจัยปรากฏการณ์
อธิบายตัวแปรว่าคืออะไร
โดยใช้ประสบการณ์ของผู้ให้ข้อมูลที่เคย
มีประสบการณ์เรื่องนั้น
การวิจัยทฤษฎีฐานราก
สร้างทฤษฎีจากข้อมูลที่พบ
การวิจัยชาติพันธุ์วรรณนา
หาความจริงโดยการเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องที่ศึกษา
ไม่ใช่การศึกษาที่ฉาบฉวย ผิวเผิน แต่ใช้เวลาหรือฝังตัวอยู่ในพื้นที่ที่ศึกษา
นางสาวปิยธิดา จุ่นเจิม 36/1 เลขที่69