Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
5.2 ภาวะฉุกเฉินทางสูติศาสตร์ - Coggle Diagram
5.2 ภาวะฉุกเฉินทางสูติศาสตร์
สายสะดือย้อย
(Prolapsed of the umbilical cord)
การที่สายสะดือของทารกในครรภ์ย้อยต่ำลงไปข้างๆส่วนนำหรือต่ำ กว่ำส่วนนำของทารก
สาเหตุ
-ทารกท่าผดิปกติ
-ภาวะที่มีการผดิสัดส่วนของส่วนนา ทารกกบั ช่องทางคลอด
-แฝด /ครรภแ์ฝดน้า
-ทารกไม่ครบกำหนด
-ถุงน้า แตกก่อนที่ส่วนนา จะลงสู่ช่องเชิงกราน
-สายสะดือยาวกวา่ ปกติ
-รกเกาะต่ำ
การประเมินสภาพ
คลำพบสายสะดือจากการ PV
เห็นสายสะดือโผล่พ้นช่องคลอดออกมา
เสียงหัวใจทารกในครรภ์ผิดปกติ
การรักษา
การช่วยเหลือแบบฉุกเฉิน
สอดมือเข้าไปในช่องคลอด แล้วดันส่วนนำไว้
ให้ออกซิเจนแก่มารดา
จัดท่าให้ก้นสูง ท่าเทรดเดลเลนเบอก(position) ท่าซิมส์(Sim’s position) หรือท่านี-เชสท์ (Knee-chest position)
ทำให้กระเพาะปัสสาวะโป่งตึงโดยการใส่น้า เกลือ 500-1,000 มิลลิลิตรทางสายสวนปัสสาวะ
2.การช่วยเหลือการคลอด
ผ่าท้องทำคลอด
กรณีที่ทารกในครรภ์เสียชีวิต ให้ดำเนินการคลอดทางช่องคลอด
ใช้เครื่องดึงสุญญากาศ
ถ้าปากมดลูกเปิดหมด ศีรษะทารกลงมาต่ำ ให้ช้วยคลอดด้วยคีม
การพยาบาล
ประเมินสภาพมารดาและทารกในครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดสายสะดือย้อย
ดูแลมารดาอย่างใกล้ชิด
ถ้าตรวจพบสายสะดือย้อย ใช้นิ้วมือดดันส่วนนำไว้ไม่ใหเ้คลื่อนต่ำลงมาและจัดท่านอนให้ยกก้นสูง
ประเมินอัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์
ดูแลให้มารดาได้ร้บออกซิเจน
เตรียมการคลอดฉุกเฉิน
อธิบายให้มารดาเข้าใจเกี่ยวกบัการวางแผนการช่วยเหลือ
ประเมินสภาพจิตใจมารดาหลังคลอดในกรณีที่สูญเสียบุตร
ภาวะรกค้าง
(Retained placenta)
สาเหตุ
การขาดกลไกการลอกตัว
การขาดกลไกการขับดันให้รกที่ลอกตัวแลว้ผ่านออกมาภายนอก
สาเหตุส่งเสริม
-การทำคลอดรกก่อนรกลอกตัวสมบูรณ์
-เคยมีประวัติรกค้าง
-เคยทำหัตถการที่ส่งเสริมให้เกิดรกค้าง
การประเมินสภาพ
ไม่มีอาการแสดงของรกลอกตัว
มดลูกหดรัดตัวไม่ดีหลังคลอด
3.ตรวจรกพบว่ามีบางส่วนของเนื้อรกขาดหายไป
มารดามีอาการกระสับกระส่าย ชีพจรเบาเร็ว ตัวเย็นซีด เหงื่อออก ความดันโลหิตลดลง ระดับความรู้สึกตัวลดลง
ภาวะที่รกไม่คลอดภายใน 30 นาทีหลังจากทารกคลอด
การรักษา
2.ให้ยาเพื่อใหเ้กิดการคลายตัวของปากมดลูก
ถ้าให้ยาแล้วไม่อาจช่วยให้รกลอกตัวสมบูรณ์ ต้องช่วยเหลือด้วยการล้วงรก
ใหย้าช่วยกระตุ้นการหดรัดตวัของมดลูก
การพยาบาล
ซักประวัติเกี่ยวกับสาเหตุส่งเสริมที่ทำให้เกิดภาวะรกค้าง
2.ช่วยเหลือการคลอดรกที่ลอก
สวนปัสสาวะ สอดนิ้วมือเข้าไปในช่องคลอด
3.รายงานแทย์เพื่อพิจารณาล้วงรก
ภาวะมดลูกปลิ้น
(Inversion of the uterus or uterine inversion)
ภาวะที่ยอดมดลูกร้ังลงมา
ส่วนล่างของโพรงมดลูก
ชนิดของมดลูกปลิ้น
มดลูกปลิ้นแบบไม่สมบูรณ์(incomplete inversion)
มดลูกปลิ้นแบบสมบูรณ์(complete inversion)
มดลูกปลิ้นแบบสมบูรณ
การรักษา
1.การช่วยเหลือการคลอดรกอย่างถูกวิธี
2.ให้สารน้า และให้เลือดอย่างเพียงพอ
3.ดันมดลูกกลับภายใต้การดมยาสลบ
4.ถ้ารกลอกตวัแล้วให้เริ่มทำการดันมดลูกกลับได้ทันที
5.เมื่อดันเข้าที่แล้วให้ oxytocin ทันที
6.ให้ยาป้องกันการติดเช้ือ
การพยาบาล
-ห้ามดึงสายสะดือ
-ช่วยทำคลอดโดยวิธีโมดิฟายด์เครดี่ (Modified Crede’ maneuver)
-ประเมินสภาพมดลูกโดยการตรวจทางหน้าท้อง
-ดูแลมดลูกที่ปลิ้นมานอกปากช่องคลอดให้ชุ่มชื้นไม่แห้ง โดยใช้ผ้าชุบน้ำเกลือคลุม
-รายงานแพทย์
ภาวะมดลูกแตก
(Uterine rupture )
ชนิดของมดลูกแตก
การแตกของมดลูกที่เป็นปกติ เนื่องจากได้รับการกระทกระเทือน(Traumatic rupture of the intact uterus)
การแตกเองของมดลูก (Spontaneous rupture of the intact uterus)
การแตกของแผลเป็นที่ตัวมดลูก (Rupture previous uterine scar)
สาเหตุ
รอยแผลผ่าตัดเดิม
การทำสูติศาสตร์หัตถการอย่างยาก
การบาดเจ็บบริเวณช่องท้องอย่างรุนแรง
เคยผ่านการตั้งครรภ์
การใช้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
รกฝังตัวลึก
การคลอดติดขัด
ภาวะที่มีการฉีกขาดของผนังมดลูกในขณะตัั้งครรภ์หลังจากทารกโตพอที่จะมีชีวิตอยู่ได้หรือหลังอายุครรภ์28 สัปดาห์
อาการแสดงของมดลูกแตก
-ปวดท้องน้อยจะทุเลาลง
-มีเลือดออกทางช่องคลอดมากผิดปกติ
-เสียงหัวใจทารกจะเปลี่ยนแปลง
-การตรวจภายในพบว่าส่วนนำถอยกลับ
-อาจคลำได้ก้อนหยุ่นๆ ข้างมดลูก
การรักษา
1.แก้ไขสาเหตุของภาวะมดลูกแตกคุกคาม
2.แก้ไขภาวะช็อค
3.การผ่าตัดเปิดช่องท้อง
4.การเย็บซ่อมแซมหรือตัดมดลูก
ภาวะน้ำคร่ำอุดกั้นหลอดเลือดในปอด
(Amniotic fluid embolism /AFE.)
สาเหตุ
มีการหดรัดตัวของมดลูกอย่างรุนแรง
สาเหตุส่งเสริม
-ทารกมีขนาดใหญ่
-การให้ยา oxytocin
-รกลอกตัวก่อนกำหนด
-ทารกตายในครรภ์
-น้ำคร่ำมีขี้เทาปน
มีทางติดต่อกันของน้ำคร่ำกับหลอดเลือดของมารดา
มีรูรั่วหรือการแตกของถุงน้ำคร่ำ
การรักษา
การให้ออกซิเจน (oxygenation)อย่างเพียงพอ
การไหลเวียนของเลือด (circulation) ต้องป้องกันความดันโลหิต และleft ventricular failure
3.การแข็งตัวของเลือด (coagulopathy) ต้องป้องกันและดำเนินการแก้ไขโดยเร็ว
การพยาบาล
-เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
-จัดให้มารดานอนในท่าfowler’ position
-ให้สารน้ำและเลือดตามแผนการรักษา
-ให้ออกซิเจนอย่างเพียงพอ
-เฝ้าระวังการเกิดภาวะตกเลือดหลังคลอด
-ดูแลการหดรัดตัวของมดลูก
-เตรียมช่วยเหลือการคลอดโดยคีม (forceps) หรือผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง