Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

แนวคิดพื้นฐานในการบำบัดรักษาทางจิต, คำถาม : คุณสมบัติที่จำเป็นในการใช้ตนเอ…

- - - - ตัวตนด้านร่างกาย
        (physical self)
        
        การรับรู้เกี่ยวกับร่างกายของตนเอง
        
        การรู้จักตนเองทางสรีรภาพตามความเป็นจริงที่ตนเองเป็นอยู่
        
        การรับรู้ความสามารถในการทำหน้าที่ของร่างกายและการควบคุมทำหน้าที่ของร่างกาย
      - ตัวตนส่วนบุคคล
        (personal self)
        
        ตัวตนด้านความสม่ำเสมอแห่งตน
        (self-consistency)
        
        ความรู้สึกหรือการรับรู้ในลักษณะประจำตัวบางอย่างของตัวเอง ซึ่งมีลักษณะคงที่
        
        ตัวตนด้านปณิธานหรือความคาดหวัง
        (ideal self or self expectation)
        
        ความรู้สึกนึกคิดหรือทัศนคติเกี่ยวกับตนเอง ตามที่ตนเองปรารถนาจะเป็น
        
        ตัวตนด้านการยอมรับนับถือตนเอง
        (self esteem)
        
        ความรู้สึกนึกคิดเกี่ยวกับคุณค่าของตนเองในหลายๆด้านประเมินตนเองโดยเปรียบเทียบคุณค่าที่ตนเองรับรู้ว่าตนเองมีอยู่หรือเป็นอยู่(self concept) กับคุณค่าที่ตนเองปรารถนาจะเป็น (ideal self)
        
        ความหมาย
        
        การรับรู้คุณค่าของตนเอง เป็นความรู้สึกที่บุคคลที่เกี่ยวกับตนเองทั้งด้านความเชื่อ ความคาดหวัง ค่านิยม อุดมการณ์ ปณิธานในชีวิต
        
        ตัวตนด้านศีลธรรมจรรยา
        (moral-ethical self)
        
        การรับรู้เกี่ยวกับถูกผิดที่บุคคลประเมินตนเองจากการกระทำที่สอดคล้องหรือฝ่าฝืนค่านิยมทางศีลธรรมจรรยาที่ตนเอและยึดถืออยู่ในใจ
      - ความหมาย
        
        การรับรู้และการประเมินผลที่บุคคลมีต่อตนเองซึ่งอาจจะตรงกับความเป็นจริงหรือคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริงหรือไม่รับรู้บางอย่างเกี่ยวกับตนเอง
    - - การตระหนักรู้ในตนเอง
        ของพยาบาลจิตเวช
        
        การตระหนักรู้ในตนเองในฐานะบุคคล เพราะบุคคลมีความแตกต่างกัน มีลักษณะเฉพาะตนเอง
        
        การตระหนักรู้ในฐานะวิชาชีพ
        
        การตระหนักรู้ในตนเองเพื่อการบำบัดทางจิต และการสร้างสัมพันธภาพภาพเพื่อการบำบัดในการพยาบาลเป็นกระบวนการติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคลเป็นสื่อในการบำบัด
      - ความหมาย
        
        ภาวะที่บุคคลรู้สึกตัวของตนเองและสิ่งแวดล้อมรอบตัว ณ ขณะนั้นรู้ว่าตนเองเป็นใครคิดและรู้สึกอย่างไรกำลังทำอะไรอยู่ในปัจจุบันขณะเป็น “here and now”
    - - ส่วนรวมทั้งหมดของบุคคลทั้งทางด้านร่างกายความคิดความรู้สึกความเชื่อค่านิยมและพฤติกรรมที่เป็นอยู่
  - - - การพยายามเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น หรือตระหนักรู้ว่า
        ขณะที่ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมต่างๆ นั้นผู้ป่วยรู้สึกอย่างไร
      - ผู้ป่วยรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง ความคิดค วามรู้สึกต่อตนเองจะดีขึ้น เกิดความไว้วางใจ กล้าที่จะ เปิดเผยตนเองมากขึ้น
    - - พยาบาลควรแสดงความจริงใจในการให้บริการ อย่างมีความเป็นตัวของตัวเอง โดยแสดงออกอย่างเป็นธรรมชาติ
    - - การแสดงถึงความเป็นมิตร ความอบอุ่น หรือความห่วงใยในผู้ป่วยเป็นการแสดงออกทางท่าทางมากกว่าแสดงออกทางคำพูดต้องไม่ห้ผู้ป่วยพึ่งพาพยาบาล
    - - การสอดคล้องทั้งคำพูดและการกระทำ
    - - การยอมรับในตัวบุคคลที่ผู้ป่วยเป็น แต่ไม่ได้หมายถึงการยอมรับในพฤติกรรมของผู้ป่วย แต่เป็นการยอมรับที่ผู้ป่วยเป็นอย่างนั้น
    - - พยาบาลจะแสดงถึงความเคารพโดยเรียกชื่อผู้ป่วยอย่างถูกต้อง ให้เกียรติกับผู้ป่วยโดยการยอมรับในการแก้ปัญหาของผู้ป่วย ไม่ใช้อำนาจกับผู้ป่วยโดยไม่เหมาะสม ไม่ควรเข้าไปจัดการกิจวัตร
    - - การไม่นำค่านิยมหรือมาตรฐานสังคมของพยาบาลไปตัดสินพฤติกรรมหรือการกระทำของผู้ป่วย
    - - การอดทนที่จะให้เวลาและโอกาสสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการพัฒนาตนเองคือความสนใจ การให้กำลังใจ และการให้ผู้ป่วยเป็นตัวของตนเอง
    - - ต้องปฏิบัติต่อผู้ป่วยโดยเชื่อว่าบุคคลทุกคนมีศักดิ์ศรีและศักยภาพที่จะจัดการกับปัญหาต่าง ๆ ของตน
    - - การมีลักษณะของความน่าเชื่อถือ หรือความน่าไว้วางใจซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ทำให้บุคคลเกิดความไว้วางใจ
    - - สามารถบอกความรู้สึกความคิดเห็นและประสบการณ์ส่วนตัวเองให้ผู้ป่วยรับรู้ได้ การเปิดเผยตัวอย่างเหมาะสมจะเป็นแบบอย่างที่ดีในการให้ผู้ป่วยเปิดเผยความรู้สึกของตัวเอง
    - - พยาบาลต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องทฤษฎีต่าง ๆ เพื่อเป็นแนวทางในการทำความเข้าใจสาเหตุกลไกการเจ็บป่วยทางจิตและพฤติกรรมต่างๆที่แสดงออกมา
    - - ทั้งด้านอารมณ์ และพฤติกรรม ทั้งต่อบุคคล ต่อการปฏิบัติงานทำให้ผู้ป่วยเกิดความไว้วางใจและมีความเชื่อถือพยาบาล
- - - - ระยะยุติสัมพันธภาพ
        (Termination phase)
        
        ปฏิกิริยาต่อการยุติความสัมพันธภาพ
        (Reaction to termination)
        
        ด้านผู้ป่วย
        
        ไม่ยอมรับการยุติสัมพันธภาพ
        (Denial)
        
        ขอรูปพยาบาลไว้ดูต่างหน้า
        
        ขอที่อยู่เพื่อที่จะติดต่อทางจดหมาย
        
        มีความรู้สึกเศร้า(grief)
        
        ไม่ยอมรับในตัวพยาบาล(Reject)
        
        ผู้ป่วยมองว่าพยาบาลไม่ยอมรับผู้ป่วยทำให้รู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง
        
        มีพฤติกรรมถดถอย
        (Regression)
        
        อาจมีอาการป่วยมากขึ้น
        
        โกรธและไม่เป็นมิตร
        (Anger and hostility)
        
        แสดงออกทางท่าทางและคำพูด
        
        ด้านพยาบาล
        
        เกิดความรู้สึกเศร้าเพราะเกิดความรู้สึกผูกพัน
        
        เป็นห่วงกลัวผู้ป่วยไม่มีใครเข้าใจ กลัวไม่หาย กลัวกลับมาเป็นซ้ำ
        
        ขั้นตอนการยุติสัมพันธภาพ
        
        ยุติหรือสิ้นสุดสัมพันภาพในรูปแบบวิชาชีพ โดยบอกผู้ป่วยให้ชัดเจนและเตรียมผู้ป่วยให้สามารถเผชิญปัญหาต่างๆได้ด้วยตนเอง
        
        ประเมินปฏิกิริยาของผู้ป่วยในระยะยุติสัมพันธภาพ และให้เวลาผู้ป่วยได้บอกความรู้สึก
        
        พยาบาลควรสรุปส่วนที่ได้ร่วมแก้ปัญหา มุ่งเน้นที่การเปลี่ยนแปลง และการส่งเสริมความมั่นใจในความสามารถที่จะช่วยตัวเอง
        
        เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยสรุปสิ่งที่เกิดขึ้นในกระบวนการสร้างสัมพันธภาพ
        
        การเตรียมผู้ป่วย
        
        กรณีที่ผู้ป่วยกลับบ้าน
        
        บอกถึงอาการของผู้ป่วยที่ดีขึ้น และอาการของผู้ป่วยที่ต้องแก้ไข
        
        แนะนำข้อปฏิบัติในการดูแลสุขภาพ
        
        กรณีผู้ป่วยอยู่โรงพยาบาล
        
        บอกแหล่งที่ผู้ป่วยสามารถขอความช่วยเหลือได้
        
        ประเมินความรู้สึกของผู้ป่วยต่อการยุติสัมพันธภาพ
        
        บอกถึงประโยชน์นที่นักศึกษาได้รับจากการสนทนากับผู้ป่วย และประเมินประโยชน์ที่ผู้ป่วยได้รับจากการสนทนา
        
        บอกผู้ป่วยถึงอาการที่ดีขึ้นว่ามีอะไรบ้าง รวมทั้งอาการที่ยังต้องแก้ไข
        
        ควรบอกผู้ป่วยให้ทราบตั้งแต่วันแรก ถึงระยะเวลาที่ยุติสัมพันธภาพกับผู้ป่วยล่วงหน้า
        
        ความหมาย
        
        ระยะที่ผู้ป่วยได้รับการคลี่คลายปัญหาแล้ว ไม่จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือ พยาบาลช่วยผู้ป่วยทบทวนว่าได้เรียนรู้อะไร และนำสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้เมื่อมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
      - ระยะแก้ไขปัญหา (Working phase)
        
        ปัญหที่พบ
        
        การถ่ายโยงความรู้สึกของพยาบาลไปสู้ผู้ป่วย
        (Counter transference)
        
        ความรู้สึกทางลบ
        
        เบื่อหน่าย
        
        เกลียดชัง
        
        หมั่นไส้
        
        ความรู้สึกทางบวก
        
        สงสาร
        
        ห่วงใย
        
        พยาบาลคอยสังเกตอารมณ์จิตใจของตนเองให้ดี เมื่อพบว่ามีความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นต้องตระหนักรู้เท่าทันมัน ระวังไม่ให้มีผลต่อการรักษา
        
        ความวิตกกังวลของพยาบาล
        
        การถ่ายโยงความรู้สึกของผู้ป่วย
        ไปสู่พยาบาล(Transference)
        
        อาจเกิดจากบริบทของการสนทนาหรือการโยกย้ายความรู้สึกในจิตใต้สำนึกที่เคยมีต่อบุตตลสำคัญในอดีต
        
        ความรู้สึกทางลบ
        
        ต้องการเป็นคู่แข่ง
        
        เกลียด
        
        น้อยใจ
        
        โกรธ
        
        ความรู้สึกทางบวก
        
        ร่วมมือกับผู้รักษา
        
        เป็นมิตร
        
        ความรู้สึกเคารพ รัก
        
        มีความรู้สึกร่วมกับผู้ป่วย(Sympathy)โดยที่พยาบาลแยกความรู้สึกของตนเองไม่ได้
        
        ข้อบ่งชี้ที่ทำให้ทราบว่าสัมพันธภาพ
        เข้าสู่ระยะแก้ไขปัญหา
        
        ผู้ป่วยจะแจ้งให้พยาบาลทราบ ถ้าเขามาพบพยาบาลไม่ได้
        
        ผู้ป่วยเลิกถามถึงวัตถุประสงค์ที่พยาบาลพบเขา
        
        ผู้ป่วยพูดเชื่อมโยงเหตุการณ์ในครั้งก่อนๆ
        
        ผู้ป่วยมาตรงตามเวลานัด หรือมาคอยในทีนัดหมาย
        
        ผู้ป่วยรักษาเวลา พยายามรวบรัดให้จบภายในเวลาที่พยาบาลให้
        
        ผู้ป่วยพูดถึงปัญหา พูดออกนอกเรื่องน้อย
        
        สิ่งที่พยาบาลควรปฏิบัติ
        
        สนับสนุนด้านจืตใจ
        
        การให้เวลา
        
        ให้ข้อมูล
        
        ให้กำลังใจ
        
        ร่วมกับผู้ป่วยวิเคราะห์หาสาเหตุ กลไก วิธีแก้ไขปัญหาหรือปรับปรุงพฤติกรรม
        
        รักษาสัมพันธภาพเพื่อการบำบัด
        
        ประเมินวการเจ็บป่วยว่ามีผลกระทบอย่างไรกับชีวิต
        
        ให้ผู้ป่วยระบายความรู้สึกโดยพยาบาลต้องรับฟัง เข้าใจ เพื่อค้นหาสาเหตุปัญหา
        
        ความหมาย
        
        ระยะที่ผู้ป่วยไว้วางใจพยาบาลกล้าที่จะเปิดเผยตนเอง เมื่อเข้าสู่ระยะนี้พยาบาลต้องมีข้อมูลของผู้ป่วยมากพอที่จะเข้าใจปัญหา เป็นเวลาที่ผู้ป่วยควรได้พูดคุยปัญหาของตนอง และมีแนวทางแก้ปัญหา
      - ระยะเริ่มต้นของสัมพันธภาพ
        (Initiating phase)
        
        ปัญหาที่พบในระยะนี้
        
        ความวิตกกังวล
        (Anxiety)
        
        เกิดขึ้นได้ทั้งผู้ป่วยและพยาบาล ผู้ใช้บริการวิตกกังวลว่าพยาบาลเป็นคนแปลกหน้า ไม่เคยชินกับสัมพันธภาพที่ใกล้ชิดกับพยาบาล จะมีพฤติกรรมที่แสดงถึงภาวะวิตกกังวล
        
        การต่อต้าน
        (Resistance)
        
        ผู้ปุวยไม่รับรู้ และไม่มีสัมพันธภาพที่ใกล้ชิดกับพยาบาล อาจเป็นเพราะ
        ประสบการณ์เรื่องมนุษยสัมพันธ์ในอดีตของผู้ปุวยในอดีต จึงมีพฤติกรรมการแสดงออก
        
        การทดสอบ
        (Testing)
        
        อาจทดสอบว่าพยาบาลมีความต้องการ อะไรที่ซ่อนเร้นอยู่ พยาบาลจะช่วยเหลือเขาได้จริงหรือไม่ เขาจะเชื่อถือไว้วางใจพยาบาลได้แค่ไหน ผู้ปุวยจะมีพฤติกรรมการทดสอบ
        
        ผู้ใช้ บริการมักจะทดสอบขอบเขตของสัมพันธภาพ ผู้ปุวยไม่เคยชินกับ
        สัมพันธภาพที่ใกล้ชิดกับพยาบาล
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        การค้นหา หรือระบุปัญหาที่แท้จริง
        
        สร้างความไว้วางใจ โดยดารพแสดงถึงการยอมรับ ความเข้าใจ การเคารพในศักดิ์ศรีของผู้ป่วย ความสม่ําเสมอ ไวต่อความรู้สึก การรับฟัง ทั้งคําพูดและการกระทํา
        
        กําหนดของตกลงในการสร้างสัมพันธภาพ
        
        เมื่อพบหน้ากันควรกล่าวทักทายด้วยท่าทางเป็นมิตร พูดคุยเรื่องทั่วไปก่อน
        
        การเตรียมสถานที่และบรรยากาศให้น่าไว้วางใจ
        
        ความหมาย
        
        ระยะนี้เป็นระยะที่พยาบาลและผู้ปุวยพยายามทําความรู้จักกัน เนื่องจากรู้สึกเป็นคนแปลกหน้าซึ่งกันและกัน ระยะนี้เริ่มเมื่อพยาบาลพบผู้ป่วยครั้งแรก และสิ้นสุดเมื่อผู้ป่วย
        สามารถสํารวจตนเองและบอกปัญหาของตนเอง
      - ระยะก่อนการสนทนา
        (Pre interacting phase)
        
        ปัญหาที่พบในระยะนี้
        
        พยาบาลมีความกังวลเนื้อจากขาดทักษะการสร้างสัมพันธภาพ
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        พยาบาลควรตรวจสอบสภาพด้านร่างกายและจิตใจของตนเองให้มีความพร้อมในด้านแนวความคิด และความรู้สึกในการเข้าไปสร้างสัมพันธภาพกับผู้ป่วย
        
        เตรียมตัวให้ชัดเจนในด้านเป้าหมายของการสร้างสัมพันธภาพกับผู้ป่วย
        
        ศึกษาข้อมูลเบื้องต้นของผู้ปุวยเกี่ยวกับแผนการรักษาที่ผ่านมา ปัญหาที่เคยเกิดขึ้น และภูมิหลังบางประการ
        
        วางแผนการสนทนาในแต่ละครั้งเกี่ยวกับวัตถุประสงค์การสนทนา สถานที่ เวลา และให้ข้อมูลต่าง ๆ กับทีมผู้รักษาได้ร่วมรับรู้
        
        ความหมาย
        
        ในระยะนี้เป็นช่วงเวลาที่พยาบาลได้รับมอบหมายให้เข้าไปช่วยเหลือผู้ป่วย โดยการสร้างสัมพันธภาพเพื่อการบําบัด พยาบาลควรวางแผนและเตรียมตัวก่อน
    - - ตระหนักในตนเอง ยอมรับตนเอง และเพิ่มความนับถือตนเองให้มากขึ้น
      - ให้โอกาสผู้ปุวยได้ระบายความรู้สึกไม่สบายใจ ทําให้ผู้ป่วยเข้าใจปัญหาของตนเอง และเกิดการเรียนรู้ในการปฏิบัติตนที่เหมาะสมได้
      - รู้จักตนเองดีขึ้น และปรับปรุงตัวเองด้านความคิดและการแสดงออก
      - ปรับปรุงการกระทําหน้าที่ในการดํารงชีวิต และเพิ่มความสามารถที่จะทําตามความต้องการและความจําเป็นต่าง ๆ ให้ได้รับความพึงพอใจและบรรลุเป้าหมายที่เป็นจริง
      - มีความสามารถที่จะสร้างความสนิทสนมคุ้นเคยกับผู้อื่น พึ่งพาผู้อื่นพอควร มีสัมพันธภาพกับผู้อื่น โดยสามารถเป็นผู้ให้และผู้รับ
    - - พยาบาลและผู้ป่วยได้มีการติดต่อเกี่ยวข้องกันชั่วระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งระยะเวลาของการติดต่อเกี่ยวข้องนี้พยาบาลมีบทบาทช่วยให้ผู้ป่วยได้สนองความต้องการช่วยแก้ไขปัญหา
    - - ผู้ป่วยไม่มาตามนัด
        
        วิธีแก้ไข
        
        นัดหมายใหม่ ต้องจัดเวลาและสถานที่ใหม่
        
        เตือนผู้ป่วยล่วงหน้าก่อนถึงวันนัด
        
        ตามหาผู้ป่วย
        
        จดวัน เวลานัดในใบนัดผู้ป่วย
      - ผู้ป่วยมาพบตามนัดแต่มาช้าเป็นประจำ
        
        วิธีแก้ไข
        
        คุยเตือนกับผู้ป่วยเรื่องเวลานัดที่เคยตกลงไว้ว่าเริ่มและเลิกเวลาใด
        
        พยาบาลไปให้ตรงเวลา และรอผู้ป่วย ณ สถานที่นัดอย่างสงบ
        
        พิจารณาว่าผู้ป่วยรู้จักเวลาหรือไม่
        
        พูดคุยกับผู้ป่วยเรื่องเหตุผลที่มาพบช้ากว่าเวลานัด
        
        จบสนทนาตามเวลาที่ได้กำหนดไว้
      - พยาบาลเองเป็นฝ่ายมา ช้ากว่าเวลานัด หรือต้อง ของเปลี่ยนเวลานัด
        
        วิธีแก้ไข
        
        ให้แจ้งผู้ป่วยโดยตรง หรือผ่านบุคคลหรืออาจ เขียนโน๊ตบอก
        
        ขอโทษ และให้เหตุผล
        
        นัดหมายใหม่ให้เหมาะสม
      - ผู้ปุวยขอให้การสนทนาจบเร็ว ๆ กว่าเวลาที่กําหนดไว้ หรือขอเปลี่ยนกําหนดการนัด
        
        วิธีแก้ไข
        
        ปฐมนิเทศใหม่ถึงเรื่องเวลากําหนดการนัดตามที่ได้ตกลงกันไว้ในตอนแรก
        
        กําหนดการนัดหมายใหม่ตามความเหมาะสมของทั้งสองฝ่าย
        
        สํารวจความต้องการที่ขอเช่นนั้น
      - ผู้ปุวยลุกออกไปจากการ
        สนทนาอย่างกะทันหัน
        
        วิธีแก้ไข
        
        และหากว่าผู้ป่วยกําลังเดินออกไป พยาบาลบอกผู้ป่วยต่อไปเลยว่า “ดิฉัน จะนั่งรอคุณอยู่ที่นี่จนกระทั่งเวลา........” (ตามกําหนดของเวลานัดในครั้งนั้น)
        
        พยาบาลนั่งรอในห้องนั้น
        
        ถามว่า “คุณกําลังจะไปไหน”
        
        รอการกลับของผู้ปุวยในห้องอย่างสงบ และไม่ออกไปจากที่นั้น โดยเฉพาะ อย่างยิ่งไม่ไปทํากิจกรรมอื่นแทน
      - ผู้ป่วยปฏิเสธไม่ยอมให้พยาบาล
        จดบันทึกข้อมูลการสนทนา
        
        วิธีแก้ไข
        
        พยาบาลต้องฟังการปฏิเสธอย่างสงบ
        
        คุยย้ําเรื่องการเก็บข้อมูลทุกอย่างเป็นความลับ ข้อมูลที่จดจะมีผู้รับทราบ เฉพาะผู้เกี่ยวข้องกับการดูแลตัวผู้ปุวยเท่านั้น
        
        อธิบายความจําเป็นของการจดบันทึก และเหตุผลที่ต้องจด
        
        ข้อมูลสําคัญยังคงต้องบันทึกต่อไป
        
        หลังจากอธิบายและสนทนาร่วมกันแล้วผู้ป่วยยังไม่ยินยอมให้บันทึก พยาบาล ต้องงดการบันทึกแต่ให้สรุปการสนทนาทันทีเมื่อยุติการสนทนาแต่ละครั้ง
      - ผู้ป่วยต้องการอ่าน
        ข้อความที่บันทึก
        
        วิธีแก้ไข
        
        อนุญาตให้อ่านได้
      - ผู้ป่วยตั้งคําถามว่าจะมีใครอ่านบันทึก
        ที่พยาบาลบันทึกเกี่ยวกับตนบ้าง
        
        วิธีแก้ไข
        
        อธิบายให้ชัดเจนว่าว่ามีใครบ้างที่อ่านข้อมูล แต่ก็จะเป็นบุคคลในทีมสุขภาพจิตที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาลโดยตรงเท่านั้น และเป็นความลับ สําหรับบุคคลอื่น ๆ
        
        อภิปรายย้ำเรื่องข้อตกลงที่ได้เคยสนทนากันมาก่อน
      - บุคลากรอื่น ๆต้องการจะอ่านข้อมูล
        โดยละเอียดที่บันทึกไว้
        
        วิธีแก้ไข
        
        ปฏิเสธการให้ดูข้อมูลรายละเอียดที่ได้บันทึกไว้โดยละม่อม
        
        อธิบายให้ทราบถึงผลการคืบหน้าของผู้ป่วย
        
        อธิบายให้บุคลากรเหล่านั้นได้ทราบถึงการที่ได้สัญญากับผู้ป่วยเรื่องจะต้องเก็บไว้เป็นความลับ
      - ผู้ป่วยซักไซ้เรื่องส่วนตัว
        ของพยาบาล
        
        วิธีแก้ไข
        
        ตอบคําถามอย่างสั้น ๆ เฉพาะที่เป็นความจริงและเป็นข้อมูลทั่วไป
        
        สนทนาเพื่อความสืบค้นในความต้องการซักไซ้ในข้อมูลส่วนตัวของพยาบาล
      - ผู้ป่วยเรียกชื่อพยาบาล โดยชื่อเฉย ๆ
        (ไม่มีสรรพ นามนําหน้า เช่น คุณ....)
        
        วิธีแก้ไข
        
        อภิปรายกับผู้ป่วยเรื่องความแตกต่างความสัมพันธ์ในสังคมกับสัมพันธภาพ เพื่อการบําบัด
        
        ไม่ตอบโต้ผู้ปุวย ให้นิ่งและสงบ
        
        อภิปรายเหตุผลกับผู้ป่วยในการกระทําเช่นนั้น ถึงเรื่องวิธีการปฏิบัติซึ่งใช้กันทั่วไปในหน่วยงาน
      - พยาบาลใหม่เรียกผู้ป่วยโดยเรียกชื่อเฉย ๆ
        (ไม่มี สรรพนามนําหน้า )
        
        วิธีแก้ไข
        
        อธิบายเรื่องสิ่งที่ควรปฏิบัติในสถาบันบริการ
        
        อภิปรายกับพยาบาลเรื่องความแตกต่างระหว่างสัมพันธภาพทางสังคมกับ สัมพันธภาพเพื่อการบําบัด
        
        อภิปรายเหตุและผลที่กระทําเช่นนั้น
        
        อภิปรายผลกระทบต่อความรู้สึกมีคุณค่า และการยอมรับนับถือต่อผู้ป่วย
      - ผู้ป่วยไม่ต้องการพูดคุย
        
        วิธีแก้ไข
        
        นั่งเงียบๆ ด้วยความสงบ
        
        มองผู้ป่วยโดยความสนใจและสีหน้าเป็นมิตร
        
        สังเกต กิริยา ท่าทาง และการสื่อความโดยไม่ใช้วาจาของผู้ป่วย
        
        ใช้คำถามทางอ้อม แต่เป็นคำถามปลายเปิดเป็นระยะแม้ว่าผู้ป่วยจะไม่ตอบ
        
        กล่าวย้ำเรื่องเวลาที่เหลืออยู่ในระยะเวลานัดหมายในครั้งนี้
      - ผู้ป่วยกล่าวว่า “ฉันไม่มีอะไรจะพูด” หรือ “ฉันไม่รู้”
        
        วิธีแก้ไข
        
        ลองตั้งคำถามใหม่
        
        นั่งฟังอย่างสงบ รอดูท่าทีด้วยความอดทน
        
        ลองประเมินความรู้สึกของพยาบาล
        
        สืบค้นความสนใจ และปัญหาของผู้ป่วยต่อไป
        
        เปลี่ยนวิธีเริ่มต้นการสนทนาใหม่
      - ผู้ป่วยบอกพยาบาลไม่ให้เข้าใกล้
        หรืออาจพูดว่า “อย่ามาวุ่นกับฉัน”
        
        วิธีแก้ไข
        
        ให้ฟังอย่างสงบ
        
        ให้ประเมินระดับความไม่เป็นมิตร
        
        พิจารณาจากข้อมูลที่ระเมินได้
        และปฏิบัติให้เหมาะสม
        
        ไปจากผู้ป่วย โดยสัญญาว่าจะมาพบใหม่
        
        รออยู่กับผู้ป่วยโดยสังเกต และสืบค้นความรู้สึก
      - พยาบาลเองตอบโต้กับผู้ป่วยใน
        ขณะสนทนาด้วยคําพูดซ้ํา ๆ
        
        วิธีแก้ไข
        
        ลองหาคำตอบโต้อย่างอื่น
        
        เผชิญหน้ากับการถูกปฏิเสธจากผู้ป่วย
        
        เผชิญหน้ากับการที่ผู้ป่วยอาจโกรธเรา
        
        เผชิญหน้ากับการที่ผู้ป่วยอาจจะปฏิเสธไม่พบเรา
        
        ให้ทบทวนข้อมูลที่ได้จดบันทึกไว้ และวิเคราะห์โดยละเอียดเพื่อค้นหา ประเด็นที่เรามองข้าม ลองฝึกหาวิธีตอบโต้ใหม่จากบันทึก
        
        ฝึกให้ตนเองเป็นคนไวต่อการตอบโต้ที่ผิดพลาดและเรียนรู้
        
        ปรึกษาหัวหน้าผู้ตรวจการพยาบาลอาวุโสกว่า หรือบุคลากรในทีม
        
        ดีแล้วที่ตระหนัก อย่าพึ่งหมดกำลังใจ
      - คําถามของพยาบาลทําให้
        ผู้ป่วยไม่พอใจ หรือ หงุดหงิด
        
        ยกประเด็นขึ้นมาให้ชัดเจน
        
        ช่วยผู้ป่วยให้ระลึกถึงประเด็นว่าอาจเป็นประโยชน์ต่อการคลี่คลายปัญหา
        
        แย่าเปลี่ยนเรื่อง ให้มุ่งประเด็นดังกล่าว
        
        พยาบาลพยายามแยกแยพประเด็นปัญหาให้ละเอียด อย่าให้ออกนอกเรื่อง และระวังอย่ารุกเร้าจนเกินไป
        
        ไม่เป็นไร ไม่ต้องตกใจ แสดงว่าคำถามตองกระทบความรู้สึกของผู้ป่วย
  - - - เป็นการสื่อสารกับผู้ป่วยอย่างมีจุดหมายซึ่งพยาบาลใช้เทคนิคและวิธีการสื่อสาร
    - - ท่านั่ง (Seating)
        
        ท่านั่งที่ผ่อนคลาย ทั้งสองฝ่ายสามารถมองเห็นคู่สนทนาได่อย่างชัดเจน
        
        สิ่งที่ควรระวัง ไม่ควรนั่งเผชิญหน้ากัน ท่านั่งในลักษณะทำมุม 45 องศา โน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย
        
        ข้อระวังสำหรับพยาบาล
        
        การนั่งเท้าคาง เนื่องจากแสดงถึงความไม่สนใจผู้ป่วย
        
        การนั่งกอดอก หรือนั่งไขว่ห้างแสดงถึงการไม่เปิดเผย ม่เห็นด้วยและการแสดงอำนาจที่เหนือผู้ป่วย
        
        การพูดคุยกับผู้ป่วยขณะทำกิจกรรมอื่นร่วมด้วย
      - ระยะห่างระหว่างพยาบาลกับผู้ป่วย
        (Space)
        
        การจัดระยะห่างให้เหาะสมขึ้นอยู่กับสถานการณ์
        
        ถ้าผู้ป่วยหวาดระแวง ระยะห่างอาจมากขึ้น
        
        ระยะห่างสำหรับการปรึกษาหรือสังคมที่เหมาะสม มีระยะห่าง 4-12 ฟุต
      - สถานที่(place or setting)
        
        บรรยากาศควนปลอดโปร่ง ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด เพื่อให้ผู้ป่วยผ่อนคลาและไว้วางใจ ทำให้ระบายความรู้สึก
        
        ควรคำยึงถึงสภาวะอาการของผู้ป่วย
        
        สถานที่ไม่พลุกพล่าน ปราศจากสิ่งรบกวนและมีความเป็นส่วนตัว
      - เทคนิคการสื่อสารเพื่อการบำบัด
        
        เทคนิคการส่งเสริมให้
        ผู้ป่วยรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง
        
        Listening
        
        วัตถุประสงค์
        
        ผู้ป่วยรู้สึกมีความสำคัญที่มีคนมารับฟัง
        
        ตัวอย่าง
        
        สบตา ท่าทางสนใจ
        
        ความหมาย
        
        การฟัง
        
        Offering self
        
        วัตถุประสงค์
        
        ผู้ป่วยรู้สึกมีค่าและมีกำลังใจ
        
        ความหมาย
        
        การเสนอตนเองเพื่อรับฟังปัญหาหรืออยุ่เป็นเพื่อนผู้ป่วยในามที่ผู้ป่วยรู้สึกไม่ดี
        
        ตัวอย่าง
        
        ฉันยินดีรับฟังเรื่องที่คุณเล่า
        
        Giving recognition
        
        วัตถุประสงค์
        
        ผู้ป่วยภูมิใจว่าพยาบาลให้สนใจตนเอง
        
        ตัวอย่าง
        
        กล่าวชื่อผู้ป่วยถูกต้อง
        
        ความหมาย
        
        แสดงความจำและระลึกได้
        
        positive
        reinforcement
        
        วัตถุประสงค์
        
        เพื่อให้ผู้ป่วยรู้ว่าพฤติกรรมที่แสดงออกเหมาะสม
        
        ตัวอย่าง
        
        คุณสามารถทํางานได้เสร็จตามเวลา เพื่อนทุกคนปรบมือให้ด้วยค่ะ
        
        ความหมาย
        
        การให้แรงเสริมทางบวก
        
        เทคนิคที่ช่วยพยาบาล
        กับผู้ป่วยเข้าใจตรงกัน
        
        Verbalization implied
        thought and feeling
        
        วัตถุประสงค์
        
        บอกถึงความคิด ความรู้สึกที่ซ่อนเร้นอยู่ลึกๆในคำพูดที่ผู้ป่วยพูดเป็นนัยๆ
        
        ตัวอย่าง
        
        “ถ้าฉันไม่อยู่ที่ทํางาน ทุกคนคง สบายใจ” พยาบาล "คุณหมายความว่าที่ ทํางานไม่มีใครเข้าใจคุณ
        
        ความหมาย
        
        ผู้ป่วยพูดเป็นนัยๆให้พยาบาลเข้าใจเอง ควรสอบถามความรู้สึกที่แท้จริงก่อน
        
        Validating
        
        วัตถุประสงค์
        
        เมื่อพยาบาลเข้าใจความ ต้องการของผู้ปุวยได้รับการ ตอบสนองแล้วก็ตรวจสอบ ว่าเป็นดังที่พยาบาลเข้าใจ หรือไม่
        
        ตัวอย่าง
        
        คุณติดต่อญาติได้แล้ว ตอนนี้คุณ
        รู้สึกอย่างไร
        
        ความหมาย
        
        การตรวจสอบความ รู้สึกของผู้ปุวย
        
        Clarifying
        
        วัตถุประสงค์
        
        พยาบาลเข้าเรื่องราวของผู้ป่วยได้ถูกต้องและพยาบาลและผู้ป่วยเข้าใจตรงกัน
        
        ตัวอย่าง
        
        ผู้ปุวย"หัวหน้าก็ไม่ดี ลูกน้องก็พูด ไม่รู้เรื่อง" พยาบาล"คุณช่วยยกตัวอย่างการพูดไม่รู้เรื่องของลูกน้องคุณหน่อย
        
        ความหมาย
        
        เป็นการขอคำอธิบายเพิ่มเติม กรณีผู้ป่วยพูดคลุมเครือ
        
        เทคนิคช่วยกระตุ้นให้ผู้ป่วย
        พูดระบายความคิดความรู้สึก
        
        Sharing
        observation
        
        วัตถุประสงค์
        
        เพื่อแสดงว่าพยาบาลใส่ใจ/สนใจ และช่วยให้ผู้ป่วยสำรวจ เข้าใจตนเองมากขึ้น และช่วยเข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงของเขา
        
        ตัวอย่าง
        
        คุณดูแจ่มใสขึ้น
        
        ความหมาย
        
        การบอกในสิ่งที่พยาบาลสังเกตเห็นเกี่ยวกับตัวผู้รับบริการ
        
        Using silence
        
        วัตถุประสงค์
        
        การใช้ความเงียบ
        
        ตัวอย่าง
        
        สบตา แสดงท่าทางสนใจ
        
        ความหมาย
        
        พยาบาลจะสังเกตพฤติกรรมผู้ป่วย
        
        Accepting/
        listening
        
        ความหมาย
        
        การยอมรับผู้รับบริการและสิ่งที่ผู้รับบริการพูด เช่นการพยักหน้า การฟังโดยไม่โต้แย้ง ไม่แก้ตัวแทนบุคคลที่ผู้ป่วยกล่าวถึง
        
        วัตถุประสงค์
        
        การยอมรับและเข้าใจสิ่งที่ผู้ป่วยพูด
        
        ตัวอย่าง
        
        พยักหน้า
        ฉันกำลังฟังอยู่
        
        Giving
        information
        
        วัตถุประสงค์
        
        ให้ข้อมูลในสิ่งที่ผู้ป่วยต้องรู้ ช่วยผู้ป่วยในการตัดสินใจเลือก
        
        ตัวอย่าง
        
        ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียงของยา
        
        ความหมาย
        
        การให้ข้อมูลที่เป็นจริง
        
        Reflecting
        (content/feel)
        
        วัตถุประสงค์
        
        ทบทวนใหม่เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าใจความรู้สึกตัวเอง
        
        ตัวอย่าง
        
        ผู้ป่วย : อยากกลับบ้านวันนี้อยุ่ที่นี่ไม่มีอะไรดีขึ้น
        พยาบาล : คุณรู้สึกท้อใจ
        
        ความหมาย
        
        กล่าวซ้ำสะท้อนความคิดวามรู้สึกโดยใช้คำพูดใหม่ที่มีความหมายและความรู้สึกเดิม
        
        Presenting
        reality
        
        ความหมาย
        
        การให้ความจริงแก่ผู้ป่วยกรณีที่มีความคิด หรือ การรับรู้ที่ผิดไปจากความเป็นจริง
        
        วัตถุประสงค์
        
        ชี้ให้เห็นถึงสภาพความเป้นจริงในปัจจุบัน
        
        ตัวอย่าง
        
        ผู้ปุวย “ผมกําลังคุยกับเทวดาอยู่"
        พยาบาล”ไม่เห็นใครอยู่ที่นี่ นอกจากคุณกับฉัน"
        
        เทคนิคช่วยส่งเสริมความเข้าใจในการปรับตัวผู้ป่วย
        
        Focusing
        
        ความหมาย
        
        มุ่งความสนใจให้อยู่ใน เรื่องใดเรื่องหนึ่ง
        
        วัตถุประสงค์
        
        ดึงความสนใจของผู้ป่วยมาสู่ ประเด็นที่พยาบาลต้องการ
        
        ตัวอย่าง
        
        "เรื่องนี้น่าสนใจเรามาคุยเรื่องนี้ กันก่อนไหมค่ะ"
        
        Encouraging
        evaluation
        
        ความหมาย
        
        การขอให้ผู้ปุวย ประเมินประสบการณ์ หรือสถานการณ์ที่ผู้ปุวย เคยเผชิญมาก่อน
        
        วัตถุประสงค์
        
        การให้ผู้ปุวยประเมิน ประสบการณ์หรือ สถานการณ์ที่เขาเผชิญ
        
        ตัวอย่าง
        
        "เหตุการณ์ครั้งนั้นคุณรู้สึก อย่างไร"
        
        Encouraging
        formulation
        of a plan of action
        
        ความหมาย
        
        การสนับสนุนให้ผู้ป่วยวางแผนในอนาคต
        
        ตัวอย่าง
        
        พยาบาล "คุณจะทําอย่างไรถ้าเกิด ปัญหากับผู้ร่วมงานอีก"
        
        วัตถุประสงค์
        
        การเตรียมผู้ปุวยให้วางแผน เลือกพฤติกรรมที่เหมาะสม กับเหตุการณ์ในอนาคตโดย พยาบาลมีบทบาทในการ เอื้ออํานวย
        
        Exploring
        
        ความหมาย
        
        การสอบถามเพื่อให้ได้ข้อมูล รายละเอียดเกี่ยวกับผู้รับบริการมากขึ้น
        
        วัตถุประสงค์
        
        ผู้ปุวยเข้าใจปัญหาตนเอง
        
        ตัวอย่าง
        
        ผู้ปุวย"ที่บ้านไม่มีใครชอบหนู" พยาบาล"มีใครบางค่ะที่ไม่ชอบ"
        
        Summarizing
        
        ความหมาย
        
        การสรุปเนื้อหา ด้วย คําพูดสั้นๆเพื่อให้ได้ ใจความทั้งหมด
        
        วัตถุประสงค์
        
        เพื่อสรุปใจความสําคัญและ ให้ผู้ปุวยได้ยินเรื่องที่พูดคุย กันมาอีกครั้ง
        
        ตัวอย่าง
        
        สรุปเมื้อสิ้นสุดการสนทนา
        
        เมื่อผู้ปุวยเล่าหลายๆเรื่อง
        พยาบาลสรุปว่ามีเรื่องอะไร
        
        เทคนิคการกระตุ้นและส่งเสริมการสนทนา
        
        Using general lead
        
        ความหมาย
        
        การใช้คำพูด หรือแสดงออกว่าพยาบาลกำลังฟัง สนใจ อยากให้เค้าพูดต่อ
        
        วัตถุประสงค์
        
        เข้าใจสิ่งที่ผู้ป่วยพุดและต้องการให้พูดต่อ
        
        ตัวอย่าง
        
        ค่ะ ฮื่ม แล้วอย่างไรต่อคะ
        
        Restating
        
        ความหมาย
        
        เป้นการทวนเนื้อหาสำคัญอาจจะทวนซ้ำทั้งหมดหรือเฉพาะข้อความสำคัญ
        
        วัตถุประสงค์
        
        เพื่อให้ผู้ป่วยได้ทบทวน ความเข้าใจในสิ่งที่พูดและกระตุ้นให้ผู้รับบริการเล่าเรื่องราวต่อไป
        
        ตัวอย่าง
        
        ผู้ป่วย : เมื่อคืนฉันตื่นตลอดคืน
        พยาบาล : คุณบอกเมื่อคืนคุณตื่นตลอดคืน
        
        Questioning
        
        ความหมาย
        
        การตั้งคำถามทั่วไปเพื่อเปิดประเด็นการสนทนาและรวบรวมข้อมูล
        
        วัตถุประสงค์
        
        กระตุ้นให้ผู้ป่วยได้สนทนามากขึ้น
        
        ตัวอย่าง
        
        คุณมีพี่น้องกี่คน
        
        Using broad opening Statement
        
        ความหมาย
        
        การใช้คำพูดกว้างๆ เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยเลือกหัวข้อในการสนทนา
        
        วัตถุประสงค์
        
        พยาบาลพร้อมและเต็มใจช่วยเหลือ
        
        ตัวอย่าง
        
        อยากคุยเรื่องเกี่ยวกับอะไร
        
        กำลังคิดอะไรอยู่คะ
    - - สื่อสารที่เน้นเรื่องราวที่เป็นปัจจุบัน
      - ใช้หลักการสื่อสารที่ให้ผู้ปุวยได้มีโอกาสระบายความรู้สึก
      - ไม่พูดถึงอดีตที่ปวดร้าวเกินไป ขณะที่ผู้ปุวยยังไม่พร้อม
      - ใช้หลักการต่างๆที่ง่ายๆ ชัดเจน ตรงไปมา
      - ไม่เสนอข้อมูลมากเกินไปจนทําให้ผู้ปุวยสับสน เบื่อหน่าย
      - ให้สําคัญกับความสอดคล้องระหว่างเนื้อหา คําพูด ท่าทาง สีหน้า และน้ําเสียงของพยาบาล
      - ฟังทั้งเนื้อหาและเจตนาว่าผู้ปุวยพูดถึงอะไรหมายความว่าอย่างไร
    - - สิ่งแวดล้อมไม่เหมาะสม
        
        เช่นผู้ป่วยอื่นมาวุ่นวาย
      - ข้อจำกัดทางอาการของผู้ป่วย
      - การดำเนินวิธีการสื่อสาร และใช้เทคนิคการสื่อสารไม่เหมาะสม
      - ท่านั่งที่แสดงถึงความไม่สนใจผู้ป่วย
      - การใช้เทคนิคการสนทนาไม่เหมาะสม
        
        การแสดงการเห็นด้วยกับข้อคิดเห็นหรือการกระทำของผู้ป่วย "คุณทำถูกแล้ว" เราควรที่จะบอกว่า "คุณคิดว่าคุณทำถูกหรือผิด"
        
        การแสดงความไม่เห็นด้วยกับข้อคิดเห็นหรือการกระทำของผู้ป่วย "คุณไม่น่าทำแบบนี้" เราควรที่จะบอกว่า "การกระทำของคุณแบบนี้ส่งผลอย่างไรกับคุณ"
        
        การให้คำแนะนำ "คุณควรจะ...."
        
        การขอคำอธิบาย
        
        การใช้คำปลอยโยน "อดทนไว้ เดี๋ยวก็ดีขึ้น"
        
        การดูถูกความรู้สึกผู้ป่วย
      - ระยะห่างระหว่างบุคคลมากหรือน้อยเกินไป