Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความผิดปกติของกำลังการคลอด (Abnormality of power) - Coggle Diagram
ความผิดปกติของกำลังการคลอด
(Abnormality of power)
ความผิดปกติของการหดรัดตัว(Abnormality of primary power or force)
มดลูกหดรัดตัวน้อยกว่าปกติ(Hypotonic uterine dysfuntion)
หมายถึงการหดรัดตัวของมดลูกที่มีแรงดันในโพรงมดลูกเฉลี่ย 25mmHg ในขณะมดลูกหดรัดตัว <10mmHg ขณะพักหรือหดรัดตัว <3 ครั้งใน 10 นาที Intensity +1 ถึง +2
มักเกิดในระยะปากมดลูกเปิดเร็วซึ่งตรวจพบลักษณะผิดปกติอย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้
1.Duration 40 วินาที
2.Interval> 3 นาทีหรือมีการหดรัดตัว <3 ครั้งภายใน 10 นาที
ความแรงของการหดรัดตัวของมดลูกอยู่ในระดับน้อยถึงปานกลางหรือแรงดันในโพรงมดลูก <15mmHg
ปัจจัยส่งเสริมที่ทำให้เกิด
กล้ามเนื้อมดลูกหดรัดตัวผิดปกติ
มดลูกขยายตัวมากกว่าปกติ
มดลูกมีเนื้องอก (Myoma) มีถุงน้ำที่รังไข่ (Ovarian cyst) ผนังมดลูกเจริญเติบโตไม่เต็มที่
การชาดการกระตุ้น Fergusons reflex ในกรณีที่ส่วนนำไม่กระชับกับปากมดลูกหรือเชิงกราน
ทารกอยู่ในท่าทรงหรือส่วนนำผิดปกติ
ศีรษะทารกไม่ได้สัดส่วนกับช่องเชิงกราน
ช่องเชิงกรานแคบ
ทารกตัวเล็กกระเพาะปัสสาวะเต็มลำไส้ใหญ่ส่วนปลายเต็ม
ปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้มดลูกหดรัดตัวไม่ดี
ได้รับยาระงับปวดก่อนเวลาที่เหมาะสม
เจ็บครรภ์คลอดเป็นเวลานาน
เจ็บปวดจากการคลอดมาก
เหนื่อยอ่อนเพลียภาวะไม่สมดุลของเกลือแร่
สาเหตุด้านจิตใจ
ผลกระทบ
เกิดการคลอดล่าช้าในระยะที่ 1 ของการคลอด
เกิดการคลอดยาก
มีโอกาสตกเลือดหลังคลอด
อาจเกิดถุงน้ำหรือเยื่อหุ้มทารกอักเสบ
เหนื่อยอ่อนเพลียหมดแรง
ขาดความสมดุลของเกลือแร่
ผู้คลอดวิตกกังวล
ทารกมีโอกาสขาดออกซิเจน
การวินิฉัย
ซักประวัติเกี่ยวกับประวัติการตั้งครรภ์การตั้งครรภ์แฝดการคลอดทารกตัวโตกว่าปกติระยะเวลาการเจ็บครรภ์คลอดในครรภ์นี้
ตรวจร่างกายโดยตรวจการหดรัดตัวของมดลูกพบมดลูกหดรัดตัวไม่นานตรวจภายในพบปากมดลูกเปิดซ้าส่วนนำของทารกไม่เคลื่อน
การดูแลรักษา
กระตุ้นให้มดลูกหดรัดตัวดีโดยให้ Oxytocin
ให้ยาระงับปวดในขนาดและเวลาเหมาะสม
เจาะถุงน้ำคร่ำในรายที่ยังไม่แตกหรือรั่ว
รายที่ไม่สามารถคลอดทางช่องคลอดได้หรือทารกขาดออกซิเจนควรเตรียมการผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง
2.มดลูกหดรัดตัวมากกว่าปกติ (Hypertonic uterine dysfunction)
คือ การหดรัดตัวของมดลูกที่มี แรงดันในโพรงมดลูก เฉลี่ย>50mmHg หรือ Interval<2นาที Duration>90วินาที Intensity +3ถึง+4
1.การหดรัดตัวมากผิดปกติเฉพาะที่ ของกล้ามเนื้อมดลูกคือ มดลูกส่วน บนและส่วนล่างทำงานไม่ประสานกัน
1.1 Pathological retraction ring คือกล้ามเนื้อมดลูกส่วนล่างถูกยืด ขยายและบางมากขณะที่กล้ามเนื้อ มดลูกส่วนบนหดเกร็งเกิดรอยคอด คล้ายวงแหวน ถ้าไม่ได้รับการดูแล โดยเร็วจะทำให้มดลูกแตกได้
1.2 Physiological retraction คือ กล้ามเนื้อมดลูกชนิดวงกลมมีการหด รัดตัวแบบไม่คลายเฉพาะที่จนเกิด เป็นวงแหวนรอบตำแหน่งรอยคอด บนตัวทารก
สาเหตุ
1.ได้รับยากระตุ้นการหดรัดตัวของ มดลูก
2.ภาวะถุงน้ำคร่ำน้อย (Oligohydramnios)
3.การหมุนเปลี่ยนท่าทารกภายใน ครรภ์ (Internal version)
4.หลังเด็กแฝดคนแรกคลอดแล้ว
5.ถุงน้ำแตกเป็นเวลานาน
6.การล้วงรก (Manual removal of placenta)
ผลกระทบ
1.ผู้คลอดเจ็บครรภ์คลอดมาก
2.มารดาและทารกอยู่ในภาวะคับขัน ต้องรีบให้การช่วยเหลือ
3.เกิดการคลอดติดขัด
4.ถ้าเกิดในระยะที่3ของการคลอดจะ ทำให้ปากมดลูกปิดทำให้รกค้างและ ตกเลือดหลังคลอด
การวินิจฉัยภาวะ Physiological retraction ring
1.ซักประวัติเกี่ยวกับการเจ็บครรภ์ คลอดพบเจ็บครรภ์ตลอด ไม่มีระยะ พัก
2.ตรวจร่างกาย
2.1 ตรวจหน้าท้องพบมดลูกหด รัดตัวไม่สม่ำเสมอ
2.2 ตรวจภายในคลำโพรงมดลูกพบ วงแหวน
2.3 ฟังเสียงหัวใจทารกไม่ได้
แนวทางการรักษา
1.ให้ยาระงับปวด ถ้ามีภาวะ fetal distress ต้องรีบผ่าตัดคลอดทาง หน้าท้อง
2.ถ้าเกิดในระยะเบ่งควรให้ยาระงับ ปวด แล้วใช้สูติศาสตร์หัตถการช่วย คลอดโดยการใช้คีม
3.ระยะคลอดรก ถ้าไม่มีเลือดออก มากให้รอ30นาทีวงแหวนจะคลาย ตัว ถ้าเลือดออกมากควรให้ยาสลบ แล้วล้วงรก
2.มดลูกหดรัดตัวมากกว่าปกติแบบ ไม่คลาย (Tetanic contraction) คือ มดลูกหดรัดตัวแข็งตึงมาก นาน ถี่ มีระยะพักสั้นหรือแทบไม่มีระยะพัก เลย
สาเหตุ
1.การคลอดติดขัด (Obstructed labor)
2.สาเหตุอื่นๆที่ไม่ใช่การคลอด ติดขัด (Non-obstructed labor)เช่น การได้รับยากระตุ้น การหดรัดตัว ของมดลูกไม่ถูกวิธี การมีรกลอกตัว ก่อนกำหนด
ผลกระทบ
1.ผู้คลอดเจ็บครรภ์คลอดมาก เจ็บ เกือบตลอดเวลา
2.อ่อนเพลียเหนื่อยล้า ขาดความ สมดุลของเกลือแร่ น้ำตาลในเลือด ต่ำ
3.ทารกในครรภ์มีโอกาสขาด ออกซิเจน
4.อาจเกิดมดลูกแตกจากมดลูกหด รัดตัวมาก
5.ต้องผ่าคลอดทางหน้าท้องในราย ที่ศีรษะทารกไม่ได้สัดส่วนกับช่อง เชิงกราน
การวินิจฉัยภาวะ Pathological retraction ring
1.ซักประวัติเกี่ยวกับระยะเวลาการ เจ็บครรภ์คลอดพบมีอาการเจ็บ ครรภ์นานและมากกว่าปกติ
2.ตรวจร่างกาย
2.1 มดลูกหดรัดตัวรุนแรงและถี่ขึ้น ระยะพักสั้นลง
2.2 พบรอยคอดคล้ายวงแหวน ระหว่างกล้ามเนื้อมดลูกส่วนบนและ ส่วนล่าง
2.3 คลำพบเอ็นด้านข้างของมดลูก ทั้งสองข้าง
2.4ฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์ไม่ ได้
2.5 ตรวจภายในพบการคลอดไม่ ก้าวหน้า
แนวทางการรักษา
ถ้าพบ Pathological retraction ring ต้องรีบผ่าคลอดทางหน้าท้อง
3.การหดรัดตัวมากกว่าปกติแบบไม่ ประสานกัน (In-coordinate uterine contraction)คือ มดลูก หดรัดตัวถี่และแรงมาก แต่ไม่ สม่ำเสมอ ใยกล้ามเนื้อทำงานไม่ ประสานกันทำให้มดลูกหดรัดตัวแรง มาก
สาเหตุ ไม่ทราบแน่ชัด แต่มีปัจจัยส่ง เสริม
1.ผู้คลอดมีความวิตกกังวล
2.ผู้คลอดครรภ์แรก
3.ผู้คลอดอายุมาก
4.ผู้คลอดที่ผ่านการคลอดหลายครั้ง
5.ศีรษะทารกไม่ได้สัดส่วนกับช่อง เชิงกราน
6.ทารกในครรภ์ท่าผิดปกติ
ผลกระทบ
1.เจ็บครรภ์คลอดยาวนาน
2.การคลอดล่าช้า
3.เจ็บมากกว่าปกติ
4.ทารกมีโอกาสขาดออกซิเจนสูง
5.ผู้คลอดมีอาการเหนื่อย อ่อนเพลีย มากกว่าปกติส
3.การหดรัดตัวผิดปกติเฉพาะที่ของ กล้ามเนื้อ
1.2 ความผิดปกติของแรงเบ่งคลอด (Abnormality of secondary power or force)
สาเหตุ
1.การเบ่งคลอดไม่ถูกวิธี
2.ท่าเบ่งคลอดไม่เหมาะสม
3.ผู้คลอดเหนื่อยอ่อนเพลีย
4.ผู้คลอดได้รับยาบรรเทาปวดใน ปริมาณมาก
5.ผู้คลอดเจ็บครรภ์มาก
6.ผู้คลอดได้รับยาชาเฉพาะที่
7.ผู้คลอดอ้วนมาก
ผลกระทบ
1.ผู้คลอดหมดแรง เหนื่อยอ่อนเพลีย
2.ระยะที่2ของการคลอดยาวนาน
3.ผู้คลอดเกิดภาวะเลือดเป็นกรด จากการเบ่งคลอดนาน
4.ผู้คลอดเกิดตะคริวบริเวณขาจาก การขึ้นขาหยั่งเป็นเวลานาน
5.ทารกในครรภ์อยู่ในภาวะคับขัน หรือขาดออกซิเจน
การวินิจฉัย
1.ประเมินวิธีการเบ่งคลอดของผู้ คลอด
2.ประเมินการเคลื่อนต่ำ การก้ม และ การหมุนภายในของทารก
3.ประเมินการหดรัดตัวของมดลูก
การดูแลรักษา
ดูแลรักษาด้วยการสอนวิธีการเบ่ง คลอดที่ถูกต้อง จัดท่าเบ่งคลอดให้ เหมาะสม เชียร์เบ่งเมื่อมดลูกหด รัดตัว ประเมินการเคลื่อนต่ำ การก้ม และการหมุนภายในของทารกขณะ เบ่งคลอด