Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ส่วนประกอบของงานวิจัย และความหมาย วัตถุประสงค์ และสมมติฐานของการวิจัย -…
ส่วนประกอบของงานวิจัย และความหมาย วัตถุประสงค์ และสมมติฐานของการวิจัย
ส่วนประกอบของงานวิจัย
1.ส่วนนำ
ปกนอก
ปกใน
หน้าอนุมัติ
คำนำ/กิตติกรรมประกาศ
บทคัดย่อ
สารบัญ สารบัญตาราง สารบัญภาพประกอบ
อักษรย่อ สัญลักษณ์
2.ส่วนเนื้อความ
บทที่ 1 บทนำ
ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
วัตถุประสงค์/ความมุ่งหมายในการวิจัย
ขอบเขตของการวิจัย
ข้อตกลงเบื้องต้น (ถ้ามี)
สมมติฐาน (ถ้ามี)
นิยามศัพท์เฉพาะ
ประโยชน์ที่ได้รับจากการวิจัย
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
ความรู้เกี่ยวกับตัวแปรที่ศึกษา
งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัย
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง/ แหล่งข้อมูล
เครื่องมือในการวิจัย
การเก็บรวบรวมข้อมูล
การวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติที่ใช้
บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
บทที่ 5 บทสรุป
1) สรุปผลการวิจัย
2) อภิปรายผล
3) ข้อเสนอแนะ
3.ส่วนประกอบตอนท้าย
3.1 บรรณานุกรม/ เอกสารอ้างอิง
3.2 ภาคผนวก
3.3 ประวัติผู้วิจัย
กำหนดปัญหาการวิจัย
แนวทางในการเลือกปัญหาเพื่อการวิจัย
ควรเป็นปัญหาที่ผู้วิจัยสนใจมากที่สุด
มีความอยากรู้อยากเห็นในเชิงวิชาการ
ศรัทธาแรงกล้าที่จะแสวงหาคำตอบในปัญหานั้น ที่เกิดจากความสนใจภายใน
ควรคำนึงถึงคุณค่าของผลงานวิจัย
ก่อให้เกิดความรู้ใหม่
ก่อให้เกิดสติปัญญา
นำความรู้ไปใช้ ให้เกิดประโยชน์ได้
ควรคำนึงถึงความสามารถในการวิจัย
มีความรู้ความสามารถ
มีเวลา และงบในการทำวิจัย
สามารถวิเคราะห์ได้อย่างเที่ยงตรงและมีประสิทธิภาพ
ควรคำนึงถึงสภาพแวดล้อมที่จะเอื้อต่อการวิจัย
มีแหล่งวิชาการที่จะสามารถติดต่อหรือค้นคว้าหาความรู้ในปัญหาที่จะวิจัย
มีอุปกรณ์หรือเครื่องช่วยอำนวยความสะดวกในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล
ได้รับความร่วมมือจากผู้เกี่ยวข้องในการวิจัย
ลักษณะของหัวข้อปัญหาที่จะทำการวิจัย
ปัญหาที่จะทำการวิจัยไม่ควรกว้างหรือใหญ่โตครอบจักรวาลเกินไป
สามารถแก้ได้ด้วยวิธีการวิจัย
จะต้องเป็นวิจัยที่มีความสำคัญและมีประโยชน์
ไม่ควรเป็นเรื่องซ้ำซ้อนกับของผู้อื่น
หลีกเลี่ยงปัญหาที่เป็นข้อถกเถียงและยังหาข้อยุติไม่ได้
ต้องสามารถสร้างเครื่องมือเพื่อใช้ในการรวบรวมข้อมูลได้
ควรเลือกปัญหาวิจัยที่จะชี้ช่องทางให้ผู้อื่นทำวิจัยต่อไปได้
การเขียนวัตถุประสงค์ สมมติฐาน
การเขียนวัตถุประสงค์
ครอบคลุมสิ่งที่ต้องการศึกษาและตัวแปร
ต้องระบุสิ่งที่ต้องการศึกษา ตัวแปร กลุ่มที่ศึกษา (ทำอะไร กับใคร อย่างไร)
สามารถกำหนดรูปแบบการวิจัยได้ ตั้งสมมุติฐานได้
ภาษาที่ใช้กระทัดรัด ชัดเจน นิยมเขียนเป็นข้อๆ (ถ้ามีหลายประเด็น) และใช้คำนามนำหน้า
ต้องสอดคล้องกับสภาพปัญหาและชื่อเรื่อง
การเขียนวัตถุประสงค์การวิจัย ต้องเป็นสิ่งที่ปฏิบัติจริง วัดได้ประเมินได้ ซึ่งก็คือผลที่เกิดขึ้นจากการวิจัย
ข้อสำคัญ วัตถุประสงค์การวิจัย ไม่ใช่ ประโยชน์ของการวิจัย
การตั้งสมมติฐานการวิจัย
สมมติฐานเป็นความคาดหวังในผลที่จะเกิด
ขึ้นจากการวิจัย
จุดมุ่งหมายในการตั้ง
สมมติฐาน
เพื่อเป็นการเชื่อมโยงทฤษฎีและข้อ
เท็จจริงที่สังเกตพบ
เป็นการขยายขอบเขตของความรู้
เป็นเครื่องช่วยชี้ทิศทางของการวิจัยให้
ชัดเจนขึ้น
สมมติฐานการวิจัยควรมีลักษณะดังนี้
ควรเขียนโดยใช้ภาษาที่ง่าย ไม่สลับซับซ้อน
ควรเขียนให้สอดคล้องสัมพันธ์กับวัตถุประสงค์ของการวิจัย
มีความชัดเจน สามารถทดสอบได้
ประเภทของสมมติฐาน
สมมุติฐานการวิจัย (research hypothesis)
เป็นสมมุติฐานที่เขียนอยู่ในรูปของข้อความที่แสดงถึงความสัมพันธ์ของตัวแปรที่ศึกษากับคำตอบที่ผู้วิจัยคาดคะเนโดยใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายสามารถสื่อความหมายได้โดยตรง
สมมุติฐานทางสถิติ(statistical hypothesis)
ใช้สัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ที่แทนคุณลักษณะเกี่ยวกับค่าพารามิเตอร์ของประชากร (population parameter) มาเขียนอธิบายความสัมพันธ์ของตัวแปร สมมุติฐานทางสถิติจะประกอบด้วย 2 ลักษณะ ควบคู่ไปเสมอ คือ
2.1 สมมุติฐานว่าง หรือสมมุติฐานหลัก (null hypothesis) แทนสัญลักษณ์ด้วย Ho เป็นสมมุติฐานแสดงข้อความที่เป็นกลาง โดยระบุถึงความสัมพันธ์ของตัวแปรว่าเท่ากัน ไม่แตกต่างกันหรือไม่มีความสัมพันธ์กัน
2.2 สมมุติฐานทางเลือกหรือสมมุติฐานรอง (alternative hypothesis) แทนสัญลักษณ์ด้วย H1 หรือ Ha เป็นสมมุติฐานแตกต่างหรือตรงข้ามกับสมมุติฐานหลัก โดยระบุถึงความสัมพันธ์ของตัวแปรว่าไม่เท่ากัน แตกต่างกัน มากกว่า น้อยกว่า หรือมีความสัมพันธ์กัน