Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

กรณีศึกษาที่ 4, การซักประวัติ, ผู้จัดทำ นางสาวฉัตรมณี แก้วชนะ …

- - - - -เชื้อที่อยู่ในเสมหะหรือเมื่อในทางเดินหายใจส่วนต้นจะแพร่เข้าสู่ถุงลม
      - -ในถุงลมจะมีกลไกการป้องกันคือการโบกพัดของซีเรียและการไอเพื่อขจัดเชื้อโรค
      - -แมกโครฟาจจะทำลายเชื้อโรคที่อยู่ในถุงลม
      - -ถ้าร่างกายไม่มีกลไกดังกล่าวปอดจะมีการอักเสบโดยมีการสร้างน้ำและน้ำเมือกเพิ่มขึ้นบริเวณถุงลมและไหลเข้าสู่หลอดลมฝอย
      - -ทำให้เนื้อเยื่อที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ลดลง
      - -เม็ดเลือดขาวรวมตัวบริเวณที่มีการอักเสบมากขึ้นทำให้ถุงลมแคบลง
      - -น้ำและน้ำเมือกที่ติดเชื้อจากแพร่ไปยังปอดส่วนอื่นทำให้ผู้ป่วยมีไข้ไอและมีเสมหะร่วมด้วย
    - - ไข้
      - ไอ
      - หายใจหอบ
    - - การรักษาแบบประคับประคองตามอาการ สำหรับผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัส พิจารณาให้ยาลดไข้ ยาขยายหลอดลม ยาละลายเสมหะ ในรายที่มีอาการรุนแรงอาจจำเป็นต้องให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ให้ออกซิเจน และทำกายภาพบำบัดทรวงอก
      - การให้ยาปฏิชีวนะ กรรีติดเชื้อแบคทีเรีย
    - - ดูแลสุขอนามัยส่วนตัว เช่น หมั่นล้างมือเป็นประจำ
      - หลีกเลี่ยงควันบุหรี่ ควันไฟ ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ หรืออากาศที่หนาวเย็น
      - เมื่อเป็นหวัด หรือไข้หวัดใหญ่อย่าปล่อยทิ้งไว้ ควรรักษาให้หายขาดแต่เนิ่นๆ
      - สร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงด้วยการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
        
        กระตุ้นให้ดื่มน้ำอุ่นเพื่อช่วยละลายเสมหะ
        
        ควรต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคที่ช่วยลดการเกิดโรคปอดบวมในเด็ก ได้แก่ วัคซีนIPD ซึ่งจะป้องกันโรคปอดบวมจากเชื้อแบคทีเรียนิวโมคอคคัส วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ป้องกันโรคปอดบวมจากไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดตามฤดูกาลในปีนั้นๆ
      - หลีกเลี่ยงการไปอยู่ในที่ที่มีผู้คนหนาแน่น