Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กและวัยรุ่นที่มีความผิดปกติของโลหิต - Coggle Diagram
การพยาบาลเด็กและวัยรุ่นที่มีความผิดปกติของโลหิต
ภาวะโลหิตจาง (Anemia)
1. Iron deficiency anemia
เกิดจากการขาดธาตุเหล็ก ทำให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดเเดงได้น้อยลง
การรักษา
ให้เลือด
ให้ยา เช่น Ferrous sulfate, ferrous gluconate, ferrous furamate
แก้ไขตามสาเหตุ
การวินิจฉัย
ซักประวัติ ตรวจร่างกาย ผลตรวจจากห้องปฎิบัติการ : microcytic hypocromic เม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดปกติ
อาการและอาการแสดง
เกิดภาวะซีด เหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร ท้องผูก ท้องเสีย อาหารไม่ย่อย เฉื่อยชา สมาธิลดลง ชีพจรเต้นเร็ว
2. Aplastic Anemia
เป็นภาวะโลหิตจางจากความผิดปกติของไขกระดูกที่ทำหน้าที่ที่ส้รางเม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดง และเกร็ดเลือดได้น้อยลง
การพยาบาล
เสี่ยงต่อการติดเชื้อเนื่องจากเม็ดเลือดขาวลดลงและได้รับยากดภูมิคุ้มกัน
ต้องแยกเด็ก จำกัดคนเข้าเยี่ยม ดูแลความสะอาดทั้งเด็กและผู้ที่ให้การดูแลเพื่อลดการติดเชื้อ
อาการและอาการแสดง
ติดเชื้อง่าย
ซีด
เลือดออกง่าย
การวินิจฉัย
การตรวจทางห้องปฎิบัติการ
ตรวจเลือดพบปริมาณ RBC, WBC,เกล็ดเลือดต่ำ ตรวจไขกระดูกพบเซลล์ไขกระดูกลดลง,ไขมันเพิ่มมากขึ้น
ซักประวัติ
ซักเกี่ยวกับการได้รับที่มีความเสี่ยง การได้รับรังสีรักษา การติดเชื้อ อาการซีด เหนื่อยง่าย มีไข้ เลือดออก
การตรวจร่างกาย
จุดเลือดออกตามตัว ตับ ม้าม ต่อมน้ำเหลือง ตรวจระบบประสาทร่วมด้วย
การรักษา
1.แบบประคับประคอง
ให้เลือดและส่วนประกอบของเลือด
ให้ยาปฎิชีวะนะ
2.ปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด
3.ใช้สารกระตุ้นการส้รางเม็ดเลือด
4.การรักษาแบบจำเพาะ
ให้ยากดภูมิคุ้มกัน Antilymphocyte globulin (ALG))
ให้ Anabolic steroids
2.1 ไขกระดูกฝ่อแต่กำเนิด(fanconi' sanemia : FA)
อาการและอาการแสดง
มีลักษณะ ตัวเตี้ย ศีรษะเล็ก ความปิดปกติของกระดูกมากขึ้น กระดูกผิดรูป โยยเฉพาะการมีนิ้วหัวแม่มือที่ไม่สมบูรณ์ ข้อนิ้วหัวแม่มืออาจหายไป บางรายอาจพบกระดูกปลายแขนหายไป ดั้งจมูกแบน ตาห่าง ตาเล็ก ผิวหนังมีสีคล้ำสลับกับด่างขาวตามตัว คอ รักแร้ ไตเป็นรูปเกือกม้า
การวินิจฉัยโรค
การตรวจร่างกาย
มักพบความผิดปกติของกระดูกโดยเฉพาะกระดูกหัวแม่มือ มีผิวคล้ำ ตัวเตี้ย
การตรวจเลือด
พบ Hct,WBC,Plt ต่ำ เม็ดเลือดแดงมีลักษณะใหญ่ติดสีปกติ มีpoikilocytosis และ Anisocytotic เล็กน้อย
การวินิจฉัยแยกโรค
จาก Aplastic anemia ที่เกิดภายหลังต้องอาศัยการตรวจโครโมโซมจะพบว่าโครโมโซมมีการแตกหักหลายแต่ง
การรักษา
1.การรักษาโดยการใ้ชยา จะให้ยารับประทาน Oxymethalone ร่วมกับให้ยา Prednisolone หรือ Mandolone decanoate ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
2.การปลูกเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดลเือด สามารถรักษาหายขาดได้มากกว่าร้อยละ 90 และทำให้มีชีวิตยาวนานขึ้น แต่มีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งได้
3.การรักษาแบบประคับประคอง
ภาวะพร่องเอนไซม์ (Glucose 6 phosphate dehydrogenase deficienct : G-6-PD)
เป็นภาวะพร่องเอนไซม์ที่ทำให้เม็ดเลือดแดงอายุสั้นและแตกง่ายอย่างเฉียบพลันสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมแบบ X-link recessive พบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง
การพยาบาล
พร่องออกซิเจนเนื่องจากภาวะซีด
ให้เลือด
ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวและหลีกเลี่ยงสารกระตุ้นที่ทำให้เม็ดเลือดแตกง่าย
การรักษา
1.หาสาเหตุที่ทำให้เม็ดลเือดแดงแตก
2.ให้เม็ดเลือดแดงอัดแน่น หากมีอาการซีดมาก
3.ในทารกแรกเกิด รักษาด้วยการส่องไฟหรือการเปลี่ยนถ่ายเลือด
4.รักษาภาวะไตวาย และภาวะกรดในร่างกาย
ปัจจัยที่ทำให้เม็ดเลือดแดงแตก
1.ยาและสารเคมี ยาแก้ปวดลดไข้ เช่นAspirin,Probenicid
2.การติดเชื้อ เช่น ไวรัส ไข้เลือดออก ตับอักเสบ
3.น้ำตาลในเลือดต่ำ เครียด ภาวะเลือดเป็นกรด
4.การรับประทานถั่วปากอ้า โดยเฉพาะถั่วดิบ
ธาลัสซีเมีย (Thalassemia)
เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของการสังเคราะห์ฮีโมโกบิล ทำให้เม็ดเลือดแดงมีอายุสั้นและแตกง่าย ส่งผลให้ผู้ป่วยนี้มีอาการซีดแบบเรื้อรัง
การพยาบาล
อธิบายเกี่ยวกับโรค
ให้คำแนะนำทางพันธุกรรมแก่ครอบครัว
ให้เลือดและกรดโฟลิค ให้เลือดเมื่อ Hb ต่ำกว่า 7 กรัม/ดล.
ให้ยาขับเหล็ก
ตัดม้าม
การวินิจฉัย
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ ตรวจ CBC และ Hb typing
การซักประวัติ ซักทั่วไป การเจ็บป่วย และประวัติครอบครัว
การตรวจร่างกาย ตรวจอาการซีด ดูเยื่อบุตา ผิวหนัง การเจริญเติบโต ตับ ม้าม ลักษณะของใบหน้า
อาการและอาการแสดง
-ซีด เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ปัสสาวะสีเข้มจากการเกิด chronic hemolytic
-thalassemia face : จมูกแบนดั้งแบน หน้าผากกว้างใหญ่ ฟันเหยิน
-ตับ ม้ามโต จากการสร้างและทำลายเม็โเลือดมาก
-การเจริญเติบโตช้า พัฒนาการทางเพศช้า
-ผิวหนังเทาอมเขียว คล้ำง่ายเมื่อถูกแสง
-หัวใจโตและเต้นผิดจังหวะ
การรักษา
1.การให้ลือด
ให้แบบ low transfusion
high low transfusion
2.การให้ยาขับธาตุเหล็ก
3.การผ่าตัดม้าม(splenectomy)
4.การเปลี่ยนถ่ายไขกระดูก
เลือดออกง่ายหยุดยาก (Bleeding disorders)
1.โรคฮีโมฟีเลีย(hemophilia)
เป็นโรคเลือดออกง่ายหยุดยากที่เกิดจากการขาดปัจจัยการแข็.ตัวของเลือด (coagulation factors) มีการถ่ายทอดพันธุกรรมแบบ x-link recessive
อาการและอาการแสดง
1.ทารกแรกเกิดมักพบอาการเลือดออกใต้หนังศีรษะ หากทำหัตถการเลือดจะหยุดยาก
2.พบจุดจ้ำเลือดตามตัว หลังฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อจะมีก้อนนูน เมื่อฟันหลุดออกเลือดจะเยอะและมีลักษณะคือ
เลือดออกในข้อ
พบบ่อยคือ ข้อเท้า เข่า ศอก ทำให้ข้อบวม ปวด
การวินิจฉัย
1.ซักประวัติ ครอบครัวว่ามีอาการเลือกออกง่ายหยุดยากหรือประวัติมีจุดจ้ำเลือดหรือไม่
2.การตรวจร่างกาย พบจุดจ้ำเลือด ก้อนเลือด เลือดออกในข้อเคลื่อนไหวข้อไม่ค่อยได้
3.การตรวจทางห้องปฏิบัติการ พบ VCT และผล PTT นานกว่าปกติ
การรักษา
1.ทดแทนด้วยส่วนประกอบของเลือด (replacement Therapy)
2.corticosteroid
3.ปลูกถ่ายตับ
4.Amicar (epsilon aminocapoic acid : EACA)
2.ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ(Thrombocytoprnia
) เป็นภาวะที่มีเกล็ดเลือดต่ำมากกว่า 20,000 ต้องเฝ้าระวังเรื่องการมีเลือดออกในอวัยวะภายในโดยเฉพาะสมอง
สาเหตุ
1.การสร้าางเม็โเลือดแดงน้อยลงเนื่องจากไขกระดูกเอง
2.การแทรกหรือกดเบียดด้วยเซลล์ในไขกระดูก
3.เกล็ดเลือดลูกทำลายมาก
อาการและอาการแสดง
มีจุดจ้ำเลือดตามผิวหนัง
เลือดกำเดาไหล
เลือดออกในอวัยวะภายใน
ซีด
3.โรคเกล็ดเลือดต่ำ(Idiopathic thrombocytopenia purpura : ITP)
เป็นโรคเลือดออกง่ายจากการมีเกล็ดเลือดต่ำ เกิดจากปฏิกิริยาที่ร่างกายสร้าง Autoimmune antibody บนผิวของเกล็ดเลือด ทำให้เกล็ดเลือดถูกทำลายอย่างรวดเร็ว
อาการและอาการแสดง
จะมี pethichiae หรือจุดจ้ำเลือด ecchymosis และเลือดกำเดาไหล
มีการติดเชื้อ และจะแสดงอาการตามเชื้อนั้น
การรักษา
1.รักษาด้วยยาสเตียร์รอย เช่น Dexamethazone เพื่อยับยั้งการทำลายเกล็ดเลือด
2.รักษาด้วยยากดภูมิ เช่น vincristine
3.ให้อิมมูโนโกลบิน (IGIV) ทางหลอดเลือดดดำ
การวินิจฉัย
ตรวจทางห้องปฏิบัติการCBC พบ Plt ต่ำแต่เม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาวปกติ
ซักประวัติ ซักเกี่ยวกับการมีเลือดออกตามส่วนต่างๆของร่างกาย
ตรวจร่างกาย ตรวจผิวหนังว่ามีจุดเลือดออกหรือไ่ม่ เลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน
การพยาบาล
ให้การพยาบาลที่สอดคล้องกับการรักษา เช่น การได้รับเลือดหรือส่วนประกอบของเลือด การได้รับยากดภูมิคุ้มกัน
จัดทำโดย
นางสาววิชญาพร ศรีเพชร เลขที่52ฺB