Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ลิปิด (Lipid), นางสาวอภิภาวดี เตียนสิงห์ เลขที่88 รหัส622801092 - Coggle…
ลิปิด (Lipid)
เป็นโมเลกุลชีวภาพที่ไม่ละลายน้ำแต่ละลายได้ดีในตัวทำละลายอินทรีย์ที่ไม่มีขั้ว
ตัวละลายที่ไม่มีขั้ว เช่น คลอโรฟอร์ม
อีเทอร์ เบนซิน
หน้าที่ของลิปิด
เป็นโครงสร้างของเยื่อเซลล์
ที่ทำให้เซลล์คงรูปร่างอยู่ได้ฟ
เป็นแหล่งสะสมพลังงานในร่างกาย
นวมป้องกันอวัยวะต่างๆของร่างกาย
เป็นส่วนผสมผนังเซลล์แบคทีเรียและพืชชั้นสูง
ขนส่งไขมันในเลือดร่วมกับโปรตีน Lipoprotein
เป็นองค์ประกอบของวิตามินและฮอร์โมน
ประเภทของลิปิดแบ่งตามโครงสร้าง
ลิปิดเชิงเดี่ยว simple lipid
กรดไขมันและแอลกอฮอล์ Esther
ไขมัน fat สถานะของแข็งที่อุณหภูมิห้อง
น้ำมัน oil สถานะของเหลวที่อุณหภูมิห้อง
ไข wax สารที่ประกอบด้วยกรดไขมัน fatty acid โมเลกุลใหญ่กับแอลกอฮอร์ มักไม่ละลายน้ำพบตามผิวหนัง ใบไม้และผลไม้บางชนิด
ลิปิดเชิงซ้อน ลิปิดเชิงประกอบ compound lipid
มีสารอื่นเป็นองค์ประกอบ คือ
ฟอสโฟลิปิด phospholipid
ไกลโคลิปิด glycolipid
ลิโพโปรตีน lipoprotein
ลิปิดอนุพันธ์ derived lipid
เป็นสารประกอบอินทรีย์
ผลิตภัณฑ์จากการย่อยสลาย
ลิปิดเชิงเดี่ยวหรือลิปิดเชิงประกอบ
ลิปิดเบ็ดเตล็ด miscellaneous lipid
มีโครงสร้างแตกต่างจากลิปิดทั่วไป แต่เนื่องจากมีสมบัติคล้ายลิปิด เช่น ละลายได้ในตัวทำละลายอินทรีย์ จึงถูกจัดไว้ในกลุ่มลิปิด เช่น สเตียรอยด์ เทอร์พีน
กรดไขมัน fatty acid
ได้จากการนำไตรกลีเซอไรด์มาไฮโดรไลซ์เป็นโซ่ตรงและมีจำนวนคาร์บอนเป็นเลขคู่ระหว่าง 12-24 อะตอม
กรดไขมันอิ่มตัว Saturated fatty acid
ส่วนมากมีจำนวนคาร์บอนเป็นเลขคู่
มีสมบัติแข็งตัวง่าย จุดหลอมเหลวสูง ไม่เหม็นหืน
ไขมันจากสัตว์ fat มีกรดไขมันอิ่มตัวมากกว่ากรดไขมันไม่อิ่มตัว
กรดไขมันไม่อิ่มตัว Unsaturated fatty acid
พันธะ C-C ต่อกันด้วยพันธะเดี่ยวและมีพันธะคู่อย่างน้อย 1 พันธะ ส่วนใหญ่อยู่ที่ตำแหน่ง C9=C10
แบ่งเป็น 2 กลุ่ม
Monounsaturated fatty acid (monoenoic acid)
Polyunsaturated fatty acid (polyenoic acid)
มีสมบัติแข็งตัวยาก จุดหลอมเหลวต่ำ เหม็นหืนง่าย
กรดโอเลอิก oleic acid และ กรดไลโนเลอิก linoleic acid
กรดไขมัน 2 ประเภท
กรดไขมันจำเป็น (essential fatty acid)
เป็นกรดไขมันที่ร่างกายสร้างไม่ได้แต่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต มี 2 ชนิด
กรดลิโนเลอิก (linoleic acid)
เป็นสารตั้งต้นของกรดอะราชิโดนิก
(Arachidonic acid)
กรดลิโนเลนิก (linolenic acid)
เป็นสารตั้งต้นของกรดไขมันชนิดโอเมกา
กรดไขมันไม่จำเป็น (nonessential fatty acid)
เป็นกรดไขมันที่ร่างกายสร้างขึ้นเองได้
ตัวอย่าง กรดสเตียริก (stearic acid) กรดโอเลลิก (oleic acid) กรดปามมิติก (palmitic acid) เป็นต้น
สมบัติทางกายภาพของกรดไขมัน
Melting point
ที่อุณหภูมิห้อง กรดไขมันอิ่มตัว C 12-14 ตัวเป็นของแข็ง
กรดไขมันไม่อิ่มตัวแบบ cis ยิ่งมีพันธะคู่มากจุดหลอมเหลวยิ่งต่ำ
Solubility
ละลายน้ำได้น้อย ยิ่งโมเลกุลใหญ่ยิ่งละลายน้อย
ทำปฏิกิริยากับเบส ได้เกลือของไขมัน
เป็นแอมฟิพาติก อยู่ในน้ำเป็นไมเซลล์
Triacylglycerols หรือ Triglycerides
น้ำมัน (oil) และไขมัน (fat) ที่ได้จากพืชและ
สัตว์ ละลายในตัวทำละลายอินทรีย์ไม่มีขั้ว
น้ำมัน (oil) คือ ไตรเอซิลกรีเซอรอล
ที่เป็นของเหลวที่อุณหภูมิปกติ
ไขมัน (fat) คือ ไตรเอซิลกลีเซอรอล
ที่เป็นของแข็งที่อุณหภูมิปกติ
เอสเทอร์ (esther) ของกรดไขมันกัลกลีเซอรอล
ชนิดและการเรียกชื่อของไตรกลีเซอไรด์
Simple triacylglycerol
ประกอบด้วยกรดไขมันชนิดเดียวกัน และเรียกตามชนิดของกรดไขมัน ลงท้ายด้วย -in เช่น tristearin
Mixed triacylglycerol
ประกอบด้วยกรดไขมันมากกว่าหนึ่งชนิด
และเรียกชื่อกรดไขมันทุกชนิดพร้อมบอกตำแหน่ง เช่น 1-palmitoleoyl
การศึกษาสมบัติทางเคมีของไตรกลีเซอไรด์
เลขไอโอดีน (iodine number)
วัดความอิ่มตัวของลิปิด
ลิปิดอิ่มตัวจะมีเลขไอโอดีนเป็น 0
เลขซาพอนนิฟิเคชัน (saponification number)
ปฏิกิริยา
*ปฏิกิริยาไฮโดรลิซีส (hydrolysis)
*
เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในการย่อยอาหารในระบบทางเดินอาหาร
ปฏิกิริยาซาปอนนิฟิเคชัน (saponification)
ไตรเอซิลกลีเซอรอลทำปฏิกิริยากับเบสแก่
ปฏิกิริยาไฮโดรจีเนชัน (hydrogenetion)
1.เติมไฮโดรเจนในกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวที่ตำแหน่งพันธะคู่
2.ได้น้ำมันที่จุดหลอมเหลวสูงขึ้น
3.เหม็นหืนช้า
4.ใช้ในการผลิตเนยขาว มาร์การีน เนยเทียม
การเหม็นหืน
ปฏิกิริยาออกซิเดชัน (oxidation) พันธะคู่
ทำให้เกิดแอลดีไฮด์
ไข(wax)
พบตามผิวหนังของสัตว์ เป็นตัวเคลือบใบไม้และผลไม้ ไม่ละลายน้ำ
ขี้ผึ้งเป็นเอสเทอร์ของกรดไขมันกับแอลกอฮอร์
ฟอสโฟลิฟิด (phospholipid)
เป็นเอสเทอร์ของกลีเซอรอลกับกรดไขมัน 2 กลุ่ม ส่วนกลุ่มที่ 3 เป็นกรด ฟอสฟอริก ละลายน้ำอยู่ในรูป micell
พาหะนำส่งยา ฮอร์โมนเข้าสู่เซลล์หรืออวัยวะเป้าหมาย
สฟิงโกลิปิด(sphingolipids)
การรวมกันของสฟิงโกซายน์กับกรดไขมัน
และหมู่ฟอสเฟส พบมากในเนื้อเยื่อประสาทและสมอง
*หมู่อะมิโนแอลกอฮอล์ + กรดไขมัน = เซราไมด์
แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ตามชนิดหมู่ X
1.Sphingomyelin
1.หมู่X =ฟอสโฟโคลีน หรือ ฟอสโฟเอทานอลามีน
2.พบมากกที่เยื่อหุ้มเซลล์สัตว์และแผ่นไมอีลิน
2.Cerebroside
1.สมบัติเป็นกลาง ไม่มีประจุ
2.Galactocerebroside พบมากที่เยื่อหุ้มเซลล์
ประสาท
3.Glucocerebroside พบมากที่เยื่อหุ้มเซลล์นอก
ระบบประสาท
1 more item...
เทอร์พีน (Terpene)
สเตียรอยด์ (Steroids)
สารประกอบอะลิเฟติกที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูง
โครงสร้างของโมเลกุลประกอบด้วย
สเตียรอยด์นิวเคลียส(Steroid nucleus)
1.Testosterone
บทบาทในการพัฒนา
การของเนื้อเยื่อในระบบสืบพันธุ์
2.Progestogen
การมีประจำเดือน ตั้งครรภ์
3.Estradiol
ควบคุมวงจรการสืบพันธุ์ของ
เพศหญิง
ไอโคซานอยด์ (Eicosanoid)
เป็นอนุพันธุ์ของกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่มี C20 ตัว
เซลล์ทุกชนิดยกเว้นเซลล์เม็ดเลือดแดงสร้าง
โอโคซานอยด์ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม
1.Prostaglandin
กระตุ้นการอักเสบ สู้กับเชื้อโดยทำให้เกิดการเจ็บป่วยและมีไข้ ยับยั้งการหลั่งน้ำย่อย สร้างจากต่อมลูกหมาก
2.Thromboxane
กระตุ้นการเกาะกันของเกล็ดเลือด และเกี่ยวข้องกับการตีบตัวของหลอดเลือด สร้างจากเกล็ดเลือดหรือทรอมโบไซด์
3.Leukotriene
ทำให้เกิดการหดตัวของกล้ามเนื้อเรียบ พบครั้งแรกในเม็ดเลือดขาวชนิดลิวโคไซด์
โครงสร้างของไขมันและน้ำมัน
ไฮโดรคาร์บอนของน้ำมันพืชจะมีพันธะคู่มากกว่าไขมันสัตว์ และมีคอนฟิกูเรชันของพันธะคู่เป็นแบบ cis ทำให้จุดหลอมเหลวของน้ำมันต่ำ
นางสาวอภิภาวดี เตียนสิงห์ เลขที่88 รหัส622801092