Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การเปรียบเทียบงานกรณีศึกษาผู้ป่วยเฉพาะราย(case study) โรค Ischemic stroke…
การเปรียบเทียบงานกรณีศึกษาผู้ป่วยเฉพาะราย(case study)
โรค Ischemic stroke
:
กรณีศึกษา
ผู้ป่วยหญิงไทย Admit 5/3/63 อายุ 46 ปี
แพทย์ Dx Ischemic stroke with LT MCA
U/D DM จิตเวช
ปัจจัยเสี่ยงและสาเหตุ
พบว่าปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง แบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ ปัจจัยเสี่ยงที่ปรับเปลี่ยนไม่ได้ เช่น อายุ เพศ เชื้อชาติ และประวัติการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง ในครอบครัว ปัจจัยเสี่ยงที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ เช่น ความดันโลหิตสูง ภาวะหัวใจเต้นพลิ้ว (atrial fibrillation) เบาหวาน ภาวะไขมันในเลือดสูง ความอ้วน การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น
**อาการสำคัญที่มาโรงพยาบาล
มาด้วยอาการแขนและขาอ่อนแรงพูดไม่ชัด1วันก่อนมาโรงพยาบาล
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
บกพร่องในการทำกิจวัตรประจำวันเนื่องจากแขนและขาอ่อนแรง
การพยาบาล
2.แนะนำผู้ป่วยและสอนญาติดูแลในด้านการเคลื่อนไหวของผู้ป่วย เช่น การเคลื่อนไหว การลุกนั่ง เป็นต้น
3.ดูแลเรื่องโภชนาการของผู้ป่วยส่งให้ญาติเรียนการทำอาหารปั่น
1.ประเมินการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันโดใช้เครื่องมือ BATHEL ADL INDEX
4.ดูแลแบบแผนการขับถ่ายของผู้ป่วยสอนวิธีการควบคุมการขับถ่ายทั้งปัสสาวะและอุจจาระแนะนำให้ญาติดูแลความสะอาด
5.ดูแลแบบแผนการพักผ่อนและการนอนหลับของผู้ป่วยแนะนำให้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอและจัดสถานที่ให้โล่งอากาศถ่ายเทสะดวก
6.ดูแลแบบแผนการคิดและการตัดสินใจของผู้ป่วยและญาติโดยพูดคุยกระตุ้นให้ผู้ป่วยและญาติได้คิดและตัดสินใจในการปฏิบัติกิจกรรมร่วมกัน
การวินิจฉัย
การตรวจเลือดเพื่อดูความเข้มข้นและความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด
การตรวจสมองด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (computerized tomography) เพื่อดูว่าสมองมีภาวะขาดเลือดหรือภาวะเลือดออกในสมองหรือไม่
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (electrocardiogram) เพื่อดูจังหวะการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ
การตรวจอัลตราซาวนด์หลอดเลือดบริเวณคอ (carotid duplex scan) เพื่อดูขนาดและการไหลเวียนของหลอดเลือดแดงบริเวณคอที่ไปเลี้ยงสมองด้วยคลื่นความถี่สูง
การตรวจหาการอักเสบของหลอดเลือด
การตรวจสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (magnetic resonance imaging) เพื่อดูเนื้อสมอง หลอดเลือดสมอง หลอดเลือดที่คอ เป็นวิธีการที่ไม่เจ็บปวดและมีประสิทธิภาพสูง
การซักประวัติ,การตรวจร่างกาย
พยาธิสภาพ
โรคหลอดเลือดสมองที่เกิดจากการขาดเลือด (ischemic stroke)
สามารถแบ่งได้เป็น2 ลักษณะ คือ เกิดการตีบตันของหลอดเลือดขนาดใหญ่และหลอดเลือดขนาดเล็กในสมอง และเกิด จากการอุดตันของลิ่มเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในกระแสเลือด
**1.1การตีบตันของหลอดเลือดในสมอง
ส่วนใหญ่** มักจะมีความสัมพันธ์กับภาวะหลอดเลือด แข็งตัว (atherosclerosis) และความดันโลหิตสูง (hypertension) เป็นเวลานาน โดยภาวะ หลอดเลือดแข็งตัวจะทำาให้รูของหลอดเลือดแดงในสมองมีขนาดเล็กลง จนเลือดไม่สามารถไหลเวียน ไปเลี้ยงสมองได้อย่างเพียงพอ การตีบตันหลอดเลือดสามารถเกิดขึ้นได้ทุกแห่งของหลอดเลือดสมอง โดยจะพบมากที่บริเวณหลอดเลือดแดงส่วนกลาง (middle cerebral arteries)
1.2 การอุดตันของหลอดเลือดสมอง
ที่เกิดจากลิ่มเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในกระแสเลือด ต้นกำาเนิดของลิ่มเลือดดังกล่าวมักเกิดจากหัวใจ ภาวะหรือโรคหัวใจที่ทำาให้เกิดลิ่มเลือดในกระแสเลือด ได้แก่ ภาวะหัวใจเต้นพลิ้ว (atrial fibrillation) โรคลิ้นหัวใจ (vulvular heart disease) หรือจาก การใส่ลิ้นหัวใจเทียม และภายหลังการผ่าตัดหัวใจ การอุดตันของหลอดเลือดสมองที่เกิดจากสิ่งอุดกั้น อื่น ๆ ที่ลอยในกระแสเลือด เช่น ฟองอากาศ ชิ้นส่วนของไขมันที่เกิดภายหลังจากการได้รับบาดเจ็บ หรือกระดูกหัก เป็นต้น
อาการและอาการแสดง
อาจมีเพียงเล็กน้อยถึงรุนแรง โดยจะขึ้นอยู่ กับตำาแหน่งที่เกิดรอยโรค ระยะเวลาที่สมองขาดเลือด หรือถูกกด อาการที่พบบ่อย ได้แก่ อาการ อ่อนแรงหรือชาครึ่งซีกของร่างกายทันทีทันใด ตามัวหรือมองไม่เห็นทันทีทันใดโดยเฉพาะที่มีอาการ เพียงข้างเดียว พูดตะกุกตะกัก พูดไม่ชัด นึกคำาพูดไม่ออกหรือไม่เข้าใจคำาพูดขึ้นมาทันทีทันใด ปวดศีรษะรุนแรงฉับพลันชนิดที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และเวียนศีรษะบ้านหมุน ากผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองระยะเฉียบพลันหรือญาติ สามารถประเมินได้ว่าอาการท่ี เกิดขึ้นนั้นเป็นอาการของโรคหลอดเลือดสมองนั้นเป็นการรับรู้ถึงอาการของโรคหลอดเลือดสมอง (Perception of symptoms) ซึ่งจากอาการที่เกิดขึ้นดังกล่าว ก็จะมีแนวโน้มจะทำาให้ระยะเวลา มาถึงโรงพยาบาลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองระยะเฉียบพลันลดลง
การรักษา
การรักษาขึ้นกับสาเหตุของโรคหลอดเลือดสมองว่าเป็นหลอดเลือดสมองตีบหรือหลอดเลือดสมองแตก โดยจะมีแนวทางการรักษาที่แตกต่างกัน
หลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน
เป้าหมายของการรักษาคือทำให้เลือดไหลเวียนได้อย่างปกติ โดยทางเลือกในการรักษามีหลายวิธี ในบางกรณีแพทย์อาจให้ยาละลายลิ่มเลือด ซึ่งพบว่าจะได้ผลดีกับผู้ที่มีอาการและอาการแสดงของโรคหลอดเลือดสมองและรีบมาโรงพยาบาลภายในระยะเวลาไม่เกิน 4.5 ชั่วโมง
หลอดเลือดสมองปริแตกหรือฉีกขาด
เป้าหมายของการรักษาคือการควบคุมปริมาณเลือดที่ออกด้วยการรักษาระดับความดันโลหิต ในกรณีที่เลือดออกมาก แพทย์อาจพิจารณาทำการผ่าตัดเพื่อป้องกันความเสียหายต่อสมองที่อาจเกิดขึ้นหากมีการเปลี่ยนแปลงความดันโลหิต
สาเหตุ
ผู้ป่วย้ป็นเบาหวานมานาน3ปี มีน้ำหนักที่มากและทานของหวานเป็นประจำ
อาการและอาการแสดง
ผู้ป่วยมีแขนและขาอ่อนแรงและผู้ไม่ชัดไม่สามารถช่วยเหลือตนเองในการทำกิจวัตรประจำวันได้
การวินิจฉัยและการได้รับการรักษา
การวินิจฉัย
การซักประวัติ ตรวจร่างกาย ผลตรวจห้องปฏิบัติการ
การรักษา
มีการทำกายภาพทุกวันและฝั่งเข็มทุกวันและได้รับยาปฏิชีวนะ
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
เสี่ยงต่อการเกิดแผลกดทับเนื่องจากแขนและขาอ่อนแรง
การพยาบาล
2.แนะนำญาติให้ช่วยเหลือผู้ป่วยในการพลิกตะแคงตัวผู้ป่วยอย่างนุ่มนวลไม่ควรให้ผิวหนังถูกเสียดสีกับที่นอน
3.สอนญาติให้นวดหลังและผิวหนังบริเวณที่มีปุ่มกระดูกถ้าผิวหนังแห้งให้ทาน้ำมันหรือโลชั่นช่วยให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้น
1.ประเมินสภาพผิวหนังโดยการสังเกตว่ามีรอยแดงหรือรอยกดทับหรือไม่
4.ดูแลผ้าปูที่นอนให้สะอาดแห้งและเรียบตึงอยู่เสมออาจเสริมที่นอนฟองน้ำหรือที่นอนลมให้กับผู้ป่วย
5.ดูแลการขับถ่ายไม่ให้ผู้ป่วยนอนแช่อุจจาระหรือปัสสาวะ
6.แนะนำอาหารที่มีกากใย เช่น
ข้าวซ้อมมือ ผัก ผลไม้ เป็นต้น
7.ดูแลส่วนต่างๆของร่างกายให้อยู่ในท่าที่ถูกต้องโดยใช้เครื่องช่วย เช่น หมอนทราย เป็นต้น
เสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนเนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดไม่คงที่
การพยาบาล
3.ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวานและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
4.ให้คำแนะนำเกี่ยวกับอาหารที่สามารควบระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีและย้ำให้ผู้ป่วยอละญาติตระหนักในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหาร
2.ดูแลให้ได้รับสารอาหารตรงตามเวลาในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
1.ประเมินอาการและอาการแสดงของhyperglycemia เช่น ปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำ เป็นต้น
และhypoglycemia เช่น เหงื่อออก หิวบ่อย เป็นต้น
5.วัดสัญญาณชีพทุก4ชั่วโมง
6.เจาะDTXตามแผนการรักษา
7.ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับยาลดระดับน้ำตาลในเลือดและฉีดinsulinตามแผนการรักษา
8.ติดตามผลเลือดจากห้องปฏิบัติการ