Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การอักเสบและการติดเชื้อ - Coggle Diagram

- - - - เกิดจากสิ่งกระตุ้นที่เป็นอันตรายจากด้านกายภาพ ด้านชีวภาพ
      - 1.การขยายตัวของหลอดเลือด
      - 2.Increased vascular permeability
        
        การไหลเวียนเลือดช้า
        
        แรงดันภายในหลอดเลือดสูงขึ้น
      - ลักษณะทางคลินิกที่สำคัญ
        
        ปวด
        
        บวม
        
        แดง
        
        ร้อน
        
        ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ดังเดิม
      - การเคลื่อนที่ของเซลล์เม็ดเลือดขาวออกจากหลอดเลือด
        
        ไหลเวียนแบบราบเรียบหรือแบบลาร์มินาร์
        
        3.1 เม็ดเลือดขาวเกาะติดผนังหลอดเลือดและเคลื่อนย้ายไปยังที่ที่มีการอักเสบ
        
        3.1.1การเคลื่อนเข้าใกล้ผนังหลอดเลือด
        
        3.1.2การหมุนไปบนผนังหลอดเลือด
        
        3.1.3การยึดติดกับผนังเซลล์บุหลอดเลือด
        
        3.1.4การเคลื่อนตัวผ่านผนังหลอดเลือด
        
        3.2การเคลื่อนเข้าหาสิ่งกระตุ้น
        
        เป็นการเคลื่อนตัวเซลล์เม็ดเลือดขาวไปยังบริเวณที่บาดเจ็บโดยอาศัยสาร
        
        3.3การจับกิน
      - 1.1.1.1สารสื่อกลางการอักเสบ
        
        1.กลุ่มวาโสแอคทิฟเอมิน
        
        ฮิสตามีน
        
        สำคัญมากในระยะแรกของปฏิกิริยาการอักเสบ
        
        สร้างจากมาสต์เซลล์
        
        พบในเนื้อเยื่อเกี่ยวพันบริเวณหลอดเลือด
        
        เซโรโทบิน
        
        2.เมแทบอไลต์ของกรดอะราซิโดนิค
        
        3.PAF
        
        เป็นสารสื่อกลางที่มีฤทธิ์แรงในการทำให้เกิดการรวมตัวของเกล็ดเลือด
        
        4.สารสื่อกลางกลุ่ม Plasmaproteases
        
        ระบบคอมพลีเมนต์
        
        ระบบไคนิน
        
        ระบบการแข็งตัวของเลือด
        
        5.Cytokine
        
        เป็นสารสื่อกลางที่เป็นพอลิเพปไทด์
        
        6.ไนตริกออกไซด์
        
        เป็นอนุมูลอิสระ
        
        มีฤทธิ์เสริมการอักเสบทำให้หลอดเลือดขยายตัว
        
        ออกฤทธิ์เป็นอนุมูลอิสระที่มีพิษต่อเซลล์
        
        มีฤทธิ์ต้านการอักเสบโดยยับยั้งการจับกลุ่มของเกล็ดเลือด
        
        ยับยั้งการเกาะติดผนังหลอดเลือดของเม็ดเลือดขาว
      - 1.1.1.2ผลลัพท์ของการอักเสบเฉียบพลัน
        
        1.การกลับคืนสภาพปกติอย่างสมบรูณ์
        
        พบในกรณีบาดเจ็บน้อยระยะสั้นๆ
        
        2.การถูกแทนที่ด้วยพังผืด
        
        เกิดในกรณีบาดเจ็บรุนแรงมีการทำลายโครงสร้างพื้นฐานเนื้อเยื่อ
        
        3.การเกิดหนองฝี
        
        เกิดจากเนื้อเยื่อที่ตาย
        
        4.การอักเสบดำเนินต่อไปกลายเป็นการอักเสบเรื้อรัง
        
        เกิดในกรณีที่ร่างกายไม่สามารถกำจัดสิ่งแปลกปลอมนั้นออกได้หมด
    - - เป็นการอักเสบของโรคเป็นเวลานานสัปดาห์หรือเดือน
      - ลักษณะทางพยาธิวิทยา
        
        การแทรกซึมของเซลล์อักเสบชนิดโมโนนิวเคลียร์
        
        Macrophages
        
        lymphocytes
        
        plasma cells
      - มี 2 รูปแบบ
        
        1.เรื้อรังไม่เฉพาะ
        
        2.เรื้อรังgranulomatous
      - การจำแนกชนิดของ Granuloma มี 2 แบบ
        
        1.foreignbody
        
        พบในการอักเสบจากสิ่งแปลกปลอม
        
        2.immune
        
        พบในการติดเชื้อบางชนิดหรือได้รับสารพิษบางชนิด
    - - 1.1.3.1ลักษณะที่พบเฉพาะที่
        
        พบบริเวณเนื้อเยื่อที่ได้รับบาดเจ็บ
        
        1.การอักเสบชนิดที่มีของเหลวสะสม
        
        พบในช่วงแรกไม่รุนแรง
        
        เกิดจากสารน้ำ
        
        2.การอักเสบชนิดที่มีไฟบรินสะสม
        
        อักเสบร่วมกับการรั่วของสารน้ำและโปรตีน
        
        3.การอักเสบเป็นหนอง
        
        เกิดจากแบคทีเรีย
        
        ประกอบด้วย
        
        เซลล์อักเสบชนิดนิวโทรฟิล,เซลล์ตายและสารน้ำ
        
        4.ฝี
        
        5.แผล
      - 1.1.3.2ลักษณะที่พบทั่วร่างกาย
        
        อาศัยสารสื่อสาร
        
        มีการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะ
        
        ระยะที่ 1 Acute phase response
        
        อาศัย Mediator กลุ่ม ไซโตไคน์
        
        IL-1
        
        IL-6
        
        TNF-α
        
        ตอบสนองร่างกายในภาวะไข้
        
        ระยะที่ 2 Alterations in WBCs
        
        พบเมื่อเกิดการอักเสบ
        
        การเพิ่มปริมาณเม็ดเลือดขาว
    - - ประเมินโดยอาศัยระดับการอักเสบในเลือด
        
        2.ESR
        
        1อัตราการตกตะกอนของเม็ดเลือดแดงใน 1 ชั่วโมง
        
        3.CRP
        
        เป็นโปรตีนตอบสนองในระยะเฉียบพลัน
        
        1.CBC
        
        4.สารจำพวก Interleukin
        
        5.Lp-PLA2
        
        เป็นเอนไซม์มีความจำเพาะต่อภาวะการอักเสบของหลอดเลือด
- - - - การสร้างเนื้อเยื่อใหม่นี้ขึ้นกับเซลล์และเนื้อเยื่อนั้น
        
        2.1.1.1เซลล์ไม่คงตัว
        
        เซลล์แบ่งตัวเพิ่มขึ้นตลอดเวลา
        
        เนื้อเยื่อมีการหลุดออก
        
        2.1.1.2เซลล์คงสภาพ
        
        มีความสามารถในการเพิ่มจำนวนต่ำในภาวะปกติ
        
        แบ่งตัวได้เมื่อถูกกระตุ้น
        
        2.1.1.3เซลล์ถาวร
        
        ไม่สามารถแบ่งตัวได้
    - - 2.1.2.1ระยะที่มีเลือดออกและการอักเสบ
        
        มีการฉีกขาดของหลอดเลือดและเนื้อเยื่อ
        
        มีการย้ายของเม็ดเลือดขาว ปริมาณมากมาใน 24 hr.
      - 2.1.2.2ระยะการสร้างเนื้อเยื่อเส้นใย
        
        สร้างเนื้อเยื่อใหม่มาทดแทนเนื้อเยื่อเดิม
        
        เซลล์สำคัญ
        
        Fibrobrast
        
        สังเคราะห์คอลลาเจนและสารอื่นๆที่จำเป็น
        
        เป็น Connective tissue cell
        
        สร้าง Growth factor ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างและซ่อมแซม
      - 2.1.2.3ระยะเนื้อเยื่อเจริญเต็มที่
        
        เริ่มตั้งแต่หลังวันที่ 20และดำเนินไปเรื่อยๆ ถึง6เดือนหรือมากกว่าขึ้นอยู่กับขนาด ความรุนแรง
        
        คอลลาเจนเรียงตัวเป็นกลุ่มและปรับเรียงให้แบนราบ
      - การหายมี 3 แบบ
        
        1.การหายแบบปฐมภูมิ
        
        เป็นการหายที่มีการนำขอบแผลมาชิดกันโดยไม่มีแรงดึงของแผล
        
        2.การหายแบบทุติยภูมิ
        
        เป็นการหายของแผลขนาดใหญ่ลึก
        
        มีแผลเป็นชัดเจน
        
        เยื่อบุที่สร้างใหม่จะมีความบางน้อยกว่าเดิม
        
        3.การหายแบบตติยภูมิ
        
        เป็นการหายที่มีช่องว่างระหว่างแผล
        
        มีการเย็บปิดปากแผลหรือนำผิวหนังมาปลูก
  - - - โปรตีน
        
        คาร์โบไฮเดรต
        
        ไขมัน
        
        วิตามิน
        
        เกลือแร่
        
        เพื่อใช้ในเมตตาบอลิซึมของกระบวนการหายของแผล
    - - การติดเชื้อ
        
        การแยกของแผล
        
        สิ่งแปลกแปลม
        
        ลักษณะของแผล
        
        การเคลื่อนไหว
        
        เทคนิคการเย็บแผลและการทำแผล
- - - - 3.1.1เชื้อที่เป็นสาเหตุหรือเชื้อก่อโรค
        
        แบคทีเรีย
        
        โปรโตซัว
        
        เชื้อรา
        
        ไวรัส
        
        พยาธิ
      - 3.1.2รังโรค
      - 3.1.3ทางออกของเชื้อจากรังโรค
        
        ระบบทางเดินหายใจ
        
        ระบบสืบพันธ์ุ
        
        ระบบทางเดินปัสสาวะ
        
        ระบบโลหิต
        
        เชื้อบนแผล
        
        เชื้อจากมารดาสู่ทารกในครรภ์ผ่านสายสะดือ
        
        จากแมลงกัดและดูดเลือด
      - 3.1.4วิธีการแพร่กระจายเชื้อ
        
        วิธีการที่เชื้อออกรังโรคใช้เพื่อเข้าสู่โฮสต์
        
        การสัมผัสทั้งทางตรงทางอ้อม
        
        การแพร่เชื้อในอากาศ
      - 3.1.5ทางเข้าของเชื้อที่เข้าสู่ร่างกาย
        
        ทางเดินหายใจ
        
        ทางเดินอาหาร
        
        อวัยวะสืบพันธ์ุ
        
        ผิวหนังที่ฉีกขาด
      - 3.1.6ความไวของบุคคลในการรับเชื้อ
        
        ลักษณะของโฮสต์ที่เหมาะสมต่อการเกิดโรค
  - - - เชื้อเข้าสู่โฮสต์มีการแบ่งตัว
      - แพร่กระจายเข้าสู่อวัยวะเป้าหมาย
      - ระยะเวลาชั่วโมงถึงปีขึ้นกับชนิดเชื้อและสภาพโฮสต์
      - ไม่พบอาการและอาการแสดง
    - - โฮสต์เริ่มแสดงความผิดปกติ
        
        เบื่ออาหาร
        
        ปวดเมื่อยตามตัว
        
        ปวดศีรษะ
        
        ปวดกล้ามเนื้อ
        
        ปวดข้อ
    - - อาการและอาการแสดงมีความรุนแรง มี2ประเภท
        
        1.Localized
        
        สามารถระบุตำแหน่งได้ชัดเจน
        
        2.Systemic
        
        ร่างกายใช้เมตตาบอลิซึมเพิ่มขึ้น
        
        มีไข้
        
        หนาวสั่น
        
        หัวใจเต้นเร็ว
        
        หายใจเร็ว
    - - โฮสต์ได้รับการรักษาจนหาย
      - ไม่พบอาการและอาการแสดงของภาวะการติดเชื้อ
  - - - เป็นอนุภาคโปรตีนที่ก่อโรคและขนาดเล็กสุด
      - คล้ายฟองน้ำ
      - เมื่อติดเชื้อจะมีโรคดังนี้
        
        โรควัวบ้า
        
        โรคครอยตส์เฟลดต์-จาค๊อบ
        
        GSSS
        
        โรคคูรู
    - - แบ่งย่อยตามชนิดสารพันธุกรรมนิวคลีอิคแอซิด
        
        DNA
        
        RNA
        
        ตามรูปร่างของโปรตีนห่อหุ้ม
    - - เมื่อเข้าสู่ร่างกายทำให้เกิดโรคและความรุนแรง
      - สารพิษที่สร้างแบ่งได้ 2 ประเภท
        
        1.Exotoxins
        
        เป็นโปรตีนละลายน้ำ
        
        สร้างช่วงแบคทีเรียมีการเจริญเติบโต
        
        เป็นสารพวกเอนไซม์ที่มีความจำเพาะในการทำลายเนื้อเยื่อ
        
        2.Endotoxins
        
        สร้างจากผนังเซลล์ของแกรมลบแบคทีเรีย
        
        bacteriaที่สร้างเรียกว่า Pyrogenic bacteria
        
        ส่วนประกอบสำคัญคือ lipid A
        
        Polysaccharides
        
        fatty acid
    - - ขนาดใหญ่และผนังเซลล์หนา
      - เชื้อราที่มีชนิดเดียว
        
        เรียกว่า ยีสต์
      - เชื้อราชนิดที่มีหลายเซลล์
        
        เรียกว่าโมล
        
        เป็นเส้น
      - เชื้อราสองรูป
        
        สามารถเปลี่ยนรูปร่างไปมาได้ระหว่างราและยีสต์
      - สามารถแพร่กระจายที่ต่างๆ โดยอาศัย สปอร์
      - แบ่งความรุนแรงของการเกิดโรคได้ 4 ชนิด
        
        Superficial mycoses
        
        อยู่ตื้นสุด
        
        มีพยาธิสภาพจำกัด
        
        ขน
        
        ผม
        
        ผิวหนังชั้นนอกสุด
        
        Cutaneous mycoses
        
        สามารถลุกลามจากชั้น Stratum corneum ไปรูขุมขน
        
        ขน
        
        เล็บ
        
        ผม
        
        เมื่อติดเชื้อจะบวมแดง
        
        Subcutaneous mycoses
        
        กระดูก
        
        หลอดเลือด
        
        ต่อมน้ำเหลือง
        
        4.Systemic mycoses
        
        การตรวจวินิจฉัย
        
        การตรวจหาเชื้อโดยตรง
        
        ย้อมด้วย KOH
        
        การตรวจหาเชื้ออ้อม
        
        เน้นตัวเชื้อราก่อโรค
        
        ระบบภูมิคุ้มกันของโฮสต์
  - - - เซลล์เดียว
        
        เคลื่อนตัวแบบอะมีบา
        
        สร้างเกราะหุ้มตัว (ชีสต์)
    - - อาศัยในโฮสต์
      - พบบ่อย
        
        พยาธิใบไม้ในตับ
        
        พยาธิตัวตืด
        
        2.1พยาธิตืดหมู
        
        2.2พยาธิตืดวัว
- - - - ไม่รุนแรง
        
        ปวดศีรษะ
        
        อ่อนเพลีย
    - - รุนแรงขึ้น
        
        ขนลุก
        
        ผิวซีด
        
        หนาว
        
        นิยมทำเพาะเลือด
    - - ไข้สูง
        
        เหงื่อออกมาก