Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่1 แนวคิดและหลักการการพยาบาลมารดาทารกแบบองค์รวม - Coggle Diagram
บทที่1 แนวคิดและหลักการการพยาบาลมารดาทารกแบบองค์รวม
บทบาทผดุงครรภ์
มาตรฐานที่1 การปฏิบัติการผดุงครรภ์ทั่วไป
1.ปฏิบัติการผดุครรภ์แบบองค์รวม
2.ใช้การบวนการผดุงครรภ์ เป็นเครื่องมือในการดูแลผูรับบริการ
3.ประยุกแนวปฏิบัติการผดุครรภ์ หลักฐานเชิงประจักษ์ นวัตกรรมและความรู้จากวิจัย มาใช้ในการปฏิบัติการผดุงครรภ์ได้อย่างถูกต้อง
4.ให้ผู้รับบริการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและกำหนดแผนการดูแล
5.ประสานความร่วมมือระหว่างทีมผดุงครรภ์
มาตรฐานที่2 การดูแลก่อนและระหว่างการตั้งครรภ์
1.การเตรียมพร้อมชีวิตและครอบครัว
2.การระบุสตรีตั้งครรภ์
3.การประเมิน วางแผน และติดตามภาวะสุขภาพของสตรีตั้งครรภ์
4.การตรวจครรภ์
5.การจัดการเบื้องต้นสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยง ภาวะแทรกซ้อน
6.การเตรียมตัวเพื่อคลอด
มาตรฐานที่ 3 การดูแลในระยะคลอด
1.การดูแลในระยะรอคลอด
2.การทำคลอดที่ปลอดภัย
3.การช่วยคลอดโดยใช้สูติศาสตร์หัตถการ
มาตรฐานที่ 4 การดูแลหลังคลอด
การจัดการภายใน 2 ชม. แรกหลังคลอด
3.การช่วยคลอดโดยใช้สูติศาสตร์หัตถการ
1.การดูแลทารกแรกเกิด
มาตรฐานที่ 5 ปฏิบัติการผดุงครรภ์เพื่อรักษาชีวิต
การจัดการรักษาชีวิต
3.จากการคลอดที่ยาวนานและจากการคลอดติดขัด
4.จากภาวะรกค้าง
2.จากภาวะชักจากความดันโลหิตสูงร่วมกับตั้งครรภ์
5.จากการตกเลือดภายใน 24 ชม.
แรกหลังคลอด/หลัง 24 ชม.หลังคลอด
1.จากการเสียเลือดขณะตั้งครรภ์
6.จากการติดเชื้อในกระแสโลหิตหลังคลอด
7.จากภาวะขาดออกซิเจนของทารก
มาตรฐานที่ 6 การรักษาสิทธิผู้รับบริการการผดุงครรภ์
จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ
1.ปฏิบัติการผดุงครรภ์โดยยึดหลักคุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ
2.ส่งเสริมและกำกับติดตามให้ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ปฏิบัติการผดุงครรภ์บนพื้นฐานจริยธรรมและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
3.ปกป้องและรักษาไว้ซึ่งสิทธิของผู้รับบริการการผดุงครรภ์
มาตรฐานที่7 การพัฒนาคุณภาพการปฏิบัติการผดุงครรภ์
2.พัฒนานวัตกรรมการผดุงครรภ์ที่ตอบสนองต่อการให้บริการการผดุงครรภ์
3.ทบทวน ประเมินและปรับปรุงคุณภาพการปฏิบัติการผดุงครรภ์อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
พัฒนาแนวปฏิบัติทางการผดุงครรภ์ให้ถูกต้องเหมาะสม และทันสมัย
มาตรฐานที่ 8 การจัดการการดูแลต่อเนื่อง
2.พัฒนาความสามารถในการดูแลตนเองของผู้รับบริการและครอบครัว รวมทั้งประสานการใช้แหล่งประโยชน์ในการดูแลตนเองอย่างเหมาะสม
3.ส่งต่อการดูแลผู้รับบริการที่ต้องการการดูแลต่อเนื่อง
ทั้งภายในและภายนอกสถานพยาบาล
1.ประเมิน วางแผนและจัดการการดูแลต่อเนื่องร่วมกับทีมสุขภาพ
ผู้รับบริการ และครอบครัว
มาตรฐานที่ 9 การบันทึกและรายงานการผดุงครรภ์
2.บันทึกข้อมูลสำคัญที่สอดคล้องกับปัญหาและความต้องการของผู้รับบริการที่ถูกต้อง เป็นจริงและมีความต่อเนื่อง
3.รายงานการปฏิบัติการผดุงครรภ์ เพื่อสื่อสารในทีมการผดุงครรภ์
ทีมการพยาบาล และทีมสหวิชาชีพเพื่อการดูแลผู้รับบริการได้อย่างถูกต้อง
บันทึกข้อมูลสำคัญ 4 ส่วน ประกอบด้วย การประเมินภาวะสุขภาพ ปัญหา/ความต้องการของผู้รับบริการ กิจกรรมการผดุงครรภ์และการประเมินผลภายหลังปฏิบัติการผดุงครรภ์
4.ติดตามประเมินและพัฒนาคุณภาพการบันทึกและรายงานการผดุงครรภ์ อย่างต่อเนื่อง
ภูมิปัญญาท้องถิ่น
กลุ่มที่1 เหตุผลที่ทำสอดคล้องกับหลักวิทยาศาสตร์
และการดูแลเป็นประโยชน์
ห้ามรับประทานทุเรียน เพราะจะทำให้ร้อนใน
ห้ามรับประทานหน่อไม้ดอง เพราะจะทำให้ท้องเสีย
แนะนำให้รับประทานหัวปลี เพื่อบำรุงน้ำนม
แนะนำให้รับประทานขิง ข่า หัวว่านไฟ ตะไคร้ เพื่อบำรุงเลือดและขับลม
การอยู่ไฟตั้งแต่ 5-15 วัน หลังคลอดทุกคนที่คลอดบุตรเอง
งดมีเพศสัมพันธ์ 3 เดือนหลังคลอด เพื่อพักผ่อนและฟื้นฟูสุขภาพร่างกาย อีกทั้งยังป้องกันการติดเชื้อในโพรงมดลูกและแผลฝีเย็บ และเป็นการคุมกำเนิดด้วย
กลุ่มที่2 เหตุผลที่ทำสอดคล้องกับหลักวิทยาศาสตร์
แต่การดูแลไม่เป็นประโยชน์
การนั่งนอนโดยหนีบขาชิดกันบนเตียงไม้ขนาดเล็กและห้ามลุกออกบริเวณที่อยู่ไฟ ผู้สูงอายุเชื่อว่าแผลฝีเย็บจะติดเร็ว ทั้งนี้อาจเป็นเพราะการคลอดที่บ้านไม่ได้เย็บแผลฝีเย็บ แต่ปัจจุบันมีการเย็บแผลฝีเย็บดังนั้นการนั่งนอนบนเตียงไม้ขนาดเล็ก เพื่อให้แผลฝีเย็บติดกันจึงไม่มีความ จำเป็น
การจำกัดกิจกรรมการเคลื่อนไหวของหญิงหลังคลอด ซึ่งอาจมีผลต่อการขับถ่าย เพราะทำให้การเคลื่อนไหวของลำไส้น้อย แต่อย่างไรก็ตามการจำกัดกิจกรรมการเคลื่อนไหวของหญิงหลังคลอด อาจมีผลต่อการหายของแผลเร็วขึ้นและเป็นข้ออ้างในการปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์กับสามีได้ ซึ่งจะช่วยป้องกันการติดเชื้อของแผลได้อีกทางหนึ่ง
กลุ่มที่ 3 เหตุผลที่ทำไม่สอดคล้องกับหลักวิทยาศาสตร์
แต่เป็นการดูแลที่เป็นประโยชน์
ห้ามไปร่วมงานศพ ห้ามเตรียมของใช้ทารกก่อนคลอด หรือการอยู่ไฟ แต่เนื่องจากมีผลมากในแง่สุขภาวะทางจิตสังคม และจิตวิญญาณ เพราะเป็นการกระทำเพื่อให้เกิดความสบายใจทั้งตัวมารดาและผู้สูงอายุในครอบครัว
กลุ่มที่ 4 เหตุผลที่ทำไม่สอดคล้องกับหลักวิทยาศาสตร์
และการดูแลไม่เป็นประโยชน์
ห้ามรับประทานผักชะอม กบ เขียด เนื้อควาย ไข่เป็ด สัมตำและปลาร้าเพราะรับประทานแล้วจะแพ้ คลื่นไส้อาเจียน และทำให้ลูกท้องอืด และจะทำให้แผลไม่ติด หรือการรัปประทานข้าวกับเกลือ
ด้านการใช้ยาและสมุนไพรหลังคลอด พบว่ามีการซื้อยาสตรีเบนโลหรือยาจีนมารับประทาน เพื่อช่วยเรื่องการบำรุงเลือดขับน้ำคาวปลา ซึ่งต้องได้รับการแนะนำอย่างถูกต้อง ทั้งนี้พบว่ายาดองเหล้า ยาสตรีเบนโล และยาจีน ทั้งหมดมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ ดังนั้นควรมีมาตรการที่เป็นไปได้ในการแก้ปัญหา เช่น การติดฉลากคำเตือนบนขวดภาชนะที่ใส่ยาน้ำสมุนไพรว่า “ห้ามบริโภคขณะตั้งครรภ์ สงสัยว่ากำลังจะตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร”
ห้ามรับประทานเห็ดเพราะจะทำให้ไม่มีน้ำนม
ห้ามรับประทานกล้วยแฝด และมะขามคั่ว จะทำให้คลอดลูกยาก