Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 1 แนวคิด ทฤษฎีการบริหารทางการพยาบาล - Coggle Diagram
บทที่ 1 แนวคิด ทฤษฎีการบริหารทางการพยาบาล
1.ความหมายของการบริหาร
การบริหารการพยาบาล
การดำเนินงานตามกระบวนการบริหาร โยอาศัยปัจจัยต่างๆ ที่จำเป็นต่อการบริหาร เพื่อให้บุคลากรสามารถให้การพยาบาลที่มีคุณภาพและตามวัตถุประสงค์ขององค์กรพยาบาล
สรุป การบริหาร
การที่บุคคลทำงานอย่างสำเร็จบรรลุเป้าหมาย
โดยผ่านผู้อื่นหรือผู้อืนดำเนินการตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป
เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยนำศาสตร์มาร่วมกันดำเนินงานโดยใช้วิธีการที่เหมาะสมอย่างมีศิลปะทุกกระบวนการ
การบริหาร
กิจกรรมที่บุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปนำศาสตร์มาร่วมกันดำเนินงานโดยใ
ช้วิธีการที่เหมาะสมอย่างมีศิลปะ
เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
ความสำคัญของการบริหาร
การบริหารเป็นศาสตร์แขนงหนึ่ง
โดยนำองค์ความรู้ด้านการบริหารไปประยุกต์ใช้สู่การปฏิบัติ
นั่นคือการใช้กระบวนการและเทคนิคทางการบริหารกับคนเพื่อให้คนทำงานได้สำเร็จตามเป้าหมาย
เพื่อให้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้
การบริหารการพยาบาลจึงมีความสำคัญ ดังนี้
2.1 ช่วยให้บุคลากรพยาบาลร่วมกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
2.2 ช่วยชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มความสำเร็จขององค์กรในอนาคต
2.3 ช่วยให้องค์กรพยาบาลมีความก้าวหน้า การคงอยู่ อย่างยั่งยืน
2.4 เป็นเครื่องมือในการจัดระเบียบองค์กรพยาบาลที่ซับซ้อน
2.5 เป็นการแสดงถึงความสามารถของผู้บริหารการพยาบาลที่ต้องใช้เครื่องมือในการวินิจฉัยสั่งการ โดยจะต้องคำนึงถึงปัจจัยสภาพแวดล้อมต่างๆ
2.6 เป็นเครื่องมือช่วยให้บุคลากรทางการพยาบาลปฏิบัติหน้าที่ที่มีคุณภาพต่อผู้ใช้บริการ
ระบบการทำงานร่วมกัน
แนวคิดการบริหาร
ดังนั้นแนวคิดด้านการบริหารการพยาบาลก็มีความหลากหลาย
ซึ่งขึ้นอยู่กับว่า ผู้บริหารนั้นจะมีแนวคิด เพื่อนำสู่การปฏิบัติอย่างไร
การบริหารมีแนวคิดที่หลากหลาย
แนวคิดด้านการบริหารไว้ 4 ประการดังนี้
3.1 การบริหารที่มุ่งผลงาน (Task center)
ผู้บริหารการพยาบาลที่มีแนวคิดแบบนี้จะมุ่งงานเป็นหลัก
ปรับคนให้เข้ากับงาน
กำหนดวิธีการทำงานที่ดีที่สุด
มองผลงานและกำไรเป็นสิ่งสำคัญ
3.2 การบริหารที่มุ่งตัวบุคคล( Personal center)
ผู้บริหารการพยาบาลที่มีแนวคิดแบบนี้จะให้ความสำคัญกับคน เชื่อว่า คนดีแล้วผลงานจะดีตามมา จึง“ปรับงานให้เข้ากับคน”
3.3 การบริหารที่มุ่งคนและงาน (Modern development)
เป็นแนวคิดที่ผสมผสานระหว่างการบริหารที่มุ่งที่ตัวบุคคล และ มุ่งที่ผลงาน จึงเป็นการมองระบบความสัมพันธ์ทั้งคน องค์กร และระบบสังคม
3.4 การบริหารที่มุ่งถึงประสิทธิภาพตามสถานการณ์
แนวคิดนี้เชื่อว่าไม่มีวิธีบริหารใดที่ดีที่สุด หากแต่ขึ้นอยู่กับความจำเป็นของสถานการณ์นั้น ๆ
องค์ประกอบการบริหาร
ผลการบริหาร (product or output)
product or output
หากมองในเชิงการบริหารการพยาบาล
สุขภาพของผู้ใช้บริการด้านสุขภาพนั่นเอง
ผลทั้งหมดที่เกิดจาการบริหาร
process
การวางแผน (Planning)
การนำแผนสู่การปฏิบัติ (Implementation)
การประเมินผล (Evaluation)
Input
เงิน (Money)
วัสดุอุปกรณ์ (Material)
คน (Man)
วิธีจัดการ (Management)
IPP Model
กล่าวโดยสรุป
การบริหารการพยาบาลเป็นการใช้กระบวนการบริหารที่มีองค์ประกอบและปัจจัยต่างๆที่สนับสนุนให้เกิดผลลัพธ์ที่มีคุณภาพต่อสุขภาพของประชาชน
ทฤษฎีการบริหาร
ทฤษฏีทางการบริหารมีวิวัฒนาการมาโดยตลอด เริ่มตั้งแต่ ศตวรรษที่ 18 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน มีนักทฤษฎีและนักวิชาการได้เสนอทฤษฎีทางการบริหารไว้หลายทฤษฎี
5.4 ทฤษฎีบริหารร่วมสมัย (Contemporary Theory)
5.4.2 ทฤษฎีบริหารตามสถานการณ์ แนวคิดนี้มุ่งเน้นว่าในทางปกิบัติไม่มีวิธีบริหารใดที่ดีที่สุด (no one the best way) วิธีการบริหารไม่ตายตัว ใช้เทคนิคบริหารแบบผสมผสาน
5.4.3 การบริหารงานแบบเน้นวัตถุประสงค์ (Management by objective: MBO)
การมีวัตถุประสงค์ร่วมกัน (Objective)
การมีส่วนร่วม (Participation)
การมีข้อมุลย้อนกลับ (Feedback)
การกำหนดระยะเวลาให้ชัดเจน (Time Schedule)
5.4.1 ทฤษฎีระบบ (System Theory)
ทฤษฎีนี้มีความเชื่อว่า ทุกสิ่งทุกอย่างมีความเกี่ยวข้องกัน ระบบหนึ่งย่อมประกอบด้วยหน่วยย่อยอื่นๆ คือ Herbert G. Hicks
การประยุกต์ใช้ในการบริหารการพยาบาลโดยผู้บริหารต้องมีแนวคิดที่ชัดเจนเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ และภารกิจของหน่วยงาน
แนวคิดในการบริหารยุคนี้ นักวิชาการเชื่อว่า การบริหารงานจะประสบผลสำเร็จถ้าคนในหน่วยงานร่วมือร่วมใจ สามัคคีกัน มุ่งสู่วัตถุประสงค์เดียวกัน เรียกว่าการทำงานเป็นกลุ่ม หรือเป็นทีม และงานเหล่านั้นต้องเป็นระบบ แนวคิดทฤษฎีนี้มีดังนี้
5.5 ทฤษฎีบริหารที่เกิดขึ้นใหม่ (Emerging Theory)
5.5.1 การวางแผนองค์กร (Corporate planning) คือการวางแผนกลยุทธ์ที่สามารถปรับตัวด้านแผนงานอย่างมีประสิทธิภาพ
5.5.2 การเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กร (Corporate culture) เป็นแนวคิดทางการบริหารสมัยใหม่ที่เสริมสร้างประเพณีปฏิบัติและค่านิยมสำหรับทุกฝ่ายในองค์กร
5.3 ทฤษฎีบริหารเชิงปริมาณ ( Quality Theory)
5.3.2 ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร (Management Information System : MIS )
เน้นการออกแบบและนำเอาข้อมูลสารสนเทศโดยอาศัยคอมพิวเตอร์มาใช้ในการบริหาร (Computer Based Information System : CBISs) จะผลิตข้อมูลแลพสารสนเทศที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริหารทุกระดับอย่างกว้างขวางและแพร่หลาย
5.3.3 การจัดการปฏิบัติการ (Operations Management)
เป็นทฤษฎีใหม่ที่พัมนามาจากทฤษฎีการจัดการ เน้นการใช้แนวทางปริมาณช่วยในการตัดสินใจ ทั้งนี้เพราะฝ่ายจัดการซึ่งมีความจำเป็นต้องมีข้อมูลข่าวสารมากขึ้นและข้อมูลต้องมีคุณภาพดี
5.3.1 การบริหารศาสตร์ (Management Science)
เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจให้กับผู้บริหาร ในการบริหารการพยาบาลจะใช้รูปแบบการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Operational Research)เพื่อศึกษาสภาพความเป็นจริงแล้วนำผลการวิจัยมาบริหารจัดการ
5.2 ทฤษฎีบริหารโดยใช้พฤติกรรมศาสตร์ (Behavior Theory)
เน้นลักษณะผลกระทบต่อพฤติกรรมของคนในองค์กร
5.2.2 Douglas Mc Gregor เจ้าของทฤษี X และ Y
สมมติฐานทฤษฎี X
1) คนส่วนใหญ่จะขี้เกียจ ไม่ชอบการทำงาน มักเลี่ยงงาน
2) บุคคลโดยเฉลี่ยต้องถูกบังคับ ควบคุม สั่งการจึงจะทำงาน
3) คนส่วนใหญ่มักไม่มีความพยายามและความรับผิดชอบ
4) คนส่วนใหญ่ชอบจะมีการชี้นำ เพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบมีความทะเยอทะยานน้อย
สมมติฐานทฤษฎี Y
1) โดยพื้นฐานของคนพร้อมที่จะให้ความร่วมมือสนับสนุน
2) คนโดยทั่วไป มีความขยันหมั่นเพียรและมีความรับผิดชอบ
3) คนโดยพื้นฐานมีความคิดริเริ่มด้วยตนเองถ้าได้รับแรงจูงใจที่ถูกต้อง
4) คนโดยทั่วไปพื้นฐานจะพยายามพัฒนาตนเองและวิธีการทำงานอยู่เสมอ
5.2.3 William G. Quchi
เป็นแนวคิดการบริหารงานแบบญี่ปุ่น โดยอเมริกานำมาประยุกต์เป็นรูปแบบ วิธีการทำงานแบบกลุ่มคุณภาพ
ผู้ปฏิบัติงานส่วนใหญ่มุ่งแสวงหาความสัมพีนธ์ใกล้ชิดระหว่างกัน
ผู้ปฏิบัติงานจะขาดความคุ้นเคยกันเพราะสภาพแวดล้อมของงานที่จัดวัทำให้เกิดช่องว่างของความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกโดยไม่จำเป็น
ปฏิบัติงานต่างมีจิตสำนึกที่ดีด้านความผูกพันทางใจ ความรัก ความสามัคคีอยู่แล้ว
ผู้ปฏิบัติงานสามารถไว้วางใจได้ ดดยทำงานไม่บกพร่อง ผู้บริหารเพียงแต่เอาใจใส่ ดูแลสวัสดิภาพความเป็นอยูให้ดีเท่านั้น
ดังนั้นคุณลักษณะขององค์กรจึงประกอบไปด้วยการจ้างงานตลอดชีพ การประเมินผลบุคลากรนานๆครั้ง การแบ่งงานกันทำ ไม่แยกชำนาญเฉพาะ การควบคุมโดยทางอ้อม การตัดสินเป็นกลุ่ม และการรีวมกันรับผิดชอบโดยที่การเสี่ยงจะถูกกระทบไปยังสมาชิกทุกคน
5.2.1 Elton Mayo
บำเหน็จรางวัลทางจิตใจ มีผลต่อการทำงานมากกว่าบำเหน็จทางทรัพย์อย่างเดียว
การแบ่งแยกกการทำงานตามลักษณะเฉพาะของงานมิได้เป็นหลักประกันว่าจะอำนวยผลประโยชน์สูงสุดในการทำงานเสมอไปแต่มีปัจจัยอื่นๆ อีกมาก
ปริมาณการทำงานของบุคลากรไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสามารถทางกายภาพอย่างเดียว หากขึ้นยู่กับความสามารถทางสังคมด้วย
บุคลากรไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อการจัดการทางสังคมหรือ บำเหน็จรางวัลมากนัก หากแต่ตอบสนองในลักษณะที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคม
บุคคลจะปฏิบัติงานได้ดีขึ้นหากปฏิบัติต่อเขาเหมือนมนุษย์
การที่บุคลากรได้มีความสัมพันธ์แบบไม่เป็นทางการบ้างจะเป็นผลการปฏิบัติงานที่ทำให้เกิดความจงรักภักดีและเป็น้ำหนึ่งใจเดียวกัน
5.6 ทฤษฎีทัศนะเชิงคุณภาพ เน้น การบริหารคุณภาพทั้งองค์กร
( T.Q.M : Total Quality Management) เป็นแนวคิดการบริหารที่ยึดคุณภาพเป็นหัวใจของทุกเรื่อง โดย มีหลักการยึดลูกค้าเป็นสำคัญ ( Customer Focus) ปรับปรุงกระบวนการ ( Process Improvement) มีส่วนร่วมทั้งองค์กร ( Total Improvement)
5.1 ทฤษฎีการบริหารแบบดั้งเดิม (Classical Theory)
เป็นทฤษีที่เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยแรกๆ
5.1.1 ทฤษฎีบริหารเชิงวิทยาศาสตร์
1) Frederick Winslow Taylor
วางแผนการทำงานแทนการปล่อยให้คนงานเลือกการทำงานเอง
คัดเลือกคนงานที่มีความสามารถแล้วฝึกอบรมให้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ร่วมกัน
กำหนดวิธีการทำงานทดแทนการทำงานแบบลองผิดลองถูก
ใช้หลักการแบ่งงานกันระหว่างผู้บริหารและคนงาน หัวใจสำคัญของหลักการดังกล่าว คือ กำหนดวิธีการทำงานที่ดีที่สุด ส่วนในการจัดสิ่งจูงใจ เชื่อว่า เงินเป็นปัจจัยจูงใจที่สำคัญ
2) Henry L. Gantt เจ้าของ Gantt’s chart
Gantt’s chart
3) Frank Bunker Gillbreth ได้ศึกษาความเบื่อหน่ายและผลกระทบของสภาพแวดล้อมในการทำงานที่มีต่อคนงาน
5.1.2 ทฤษฎีการจัดการเชิงบริหาร (administrative management)
1) Henry Fayol ไว้ 5 ประการ คือ POCCC
การวางแผน (Planning)
การจัดองค์การ (Organizing)
การบังคับบัญชาและการสั่งการ (Commanding)
การประสานงาน (Coordinating)
การควบคุม (Controlling)
หลักการของ Fayol นำมาใช้ในการบริหารการพยาบาลหลายประการ เช่น การแบ่งงานกันตามความชำนาญ จะเห็นว่าการบริหารการพยาบาลในโรงพยาบาลใหญ่ๆ จะแบ่งผู้ป่วยออกเป็นหอผู้ป่วยที่เฉพาะทาง
2) Luther Gulick and Lyndall Urwick
การจัดองค์กร (Organizing)
การจัดบุคลากร (Staffing)
การวางแผน(Planning)
การอำนวยการ (Directing)
การประสานงาน ( Coordinating)
การบันทึกรายงาน ( Reporting)
งบประมาณ (Budgeting)
5.1.3 ทฤษฎีระบบราชการ ( Bureaucracy) นักทฤษฎีคือ Max Weber เป็นทฤษีที่เสนอแนวคิดเกี่ยวกับโครงสร้างขององค์กร
บุคลากรทำหน้าที่ที่กำหนดไว้อย่างเป็นทางการ ต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบ
การจ้างงานใช้หลักคุณสมบัติทางวิชาชีพ
มีการกำหนดระเบียบข้อบังคับ กฎเกณฑ์ต่างๆ
มีความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่ อาชีพมั่นคง
จัดระบบตำแหน่งหน้าที่ตามสายบังคับบัญชาระดับสูงมายังระดับต่ำ
มีอำนาจหน้าที่ตามตำแหน่ง โดยมีระเบียบรองรับ
มีการแบ่งงานกันทำตามความรู้ความสามารถ
ปัจจุบันการบริหารการพยาบาลยังคงมีสายบังคับบัญชาจากระดับสูงมาต่ำ ทำให้เกิดการปฏิบัติงานล่าช้า หลายขั้นตอน เน้นในกฎระเบียบแบบแผน ทำให้บุคลากรพยาบาลไม่ค่อยริเริ่มสร้างสรรค์
5.7 การบริหารเชิงพุทธ องค์ความรู้การบริหารเชิงพุทธนี้ มักถูกนำเสนอในเชิงหลักกการเกี่ยวกับคน ( People Management) เช่น ผู้บริหารกับทศพิธราชธรรม และพรหมวิหารสี่ (เมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขา) สำหรับด้านการวางแผนงานนั้นพระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ใน สัปปุริสธรรม 7 ประการ
แนวคิดการดูแลเพื่อเพื่อนมนุษย์ (Humanization)
แนวคิดการเห็นอกเห็นใจกัน(Empathy)
แนวคิด/ค่านิยมสำหรับ (Humanized health care)
เน้นเริ่มที่ใจและรู้จักการให้/สุขที่ได้เป็นผู้ให้
เน้นชื่นชมการทำความดี…มองเห็นความงาม…การทำให้เกิดความสุข
การกำหนดความกว้างและความลึกของชีวิต
รู้จักให้อภัยตนเอง/ผู้อื่นและ…รู้จักขอโทษผู้อื่นก่อนเสมอ
ลดอัตตา…ทำตัวให้เล็กลง
การสร้างและขยายเมล็ดพันธ์แห่งความดี
แนวคิดองค์รวม (Holistic care)
4.แนวคิดเรื่องระดับการพัฒนาสุขภาวะทางปัญญา (Spiritual Health Development ,SpD)
จัดทำโดยนางสาวยาวารี รือเเม 604N46243