Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

บทบาทพยาบาลในการประเมินภาวะสุขภาพของมารดาและทารกในครรภ์ ดาวน์โหลด,…

- - - - แบบกำหนดช่วงเวลา เช่น วิธี Sadovsky & Polishuk และ Rayburn
      - แบบกำหนดจำนวนครั้งที่ทารกดิ้น เช่น วิธี Pearson และ Basskett & Lision
    - - Rayburn
        
        นับการดิ้นวันละครั้งในช่วงเวลาที่สะดวกนาน 1 ชม.
        
        นับได้น้อยกว่าหรือเท่ากับ 3 ครั้ง/ชม.ใน 2 ชม. ติดกันถือว่ามี Fetal inactivity
      - Pearson
        
        "Cardiff Count to ten" นับตั้งแต่ 08.00 น./09.00 น. จนครบ 10 ครั้งหยุด ทำเมื่อ 32 wks ขึ้นไป
        
        ใน 12 ชม. น้อยกว่า 10 ครั้ง ถือว่ามี Fetal inactivity
      - Sadovsky & Polishuk
        
        นับการดิ้นครั้งละ 30-60 นาทีหลังอาหารเช้า กลางวัน เย็น
        แล้วนำมาบวกกันถือเป็นการนับ 12 ชั่วโมง
        
        นับได้ น้อยกว่าหรือเท่ากับ 10 ครั้งใน 12 ชม.ถือว่ามี Fetal inactivity
      - Basskett & Lision (นิยม)
        
        "Modified Cardiff Count" เหมือนวิธีของ Pearson แต่ลดเวลาลงเหลือ 4 ชม.(08.00-12.00 น.) ทำเมื่อ 30 wks ขึ้นไป
        
        ใน 12 ชม. น้อยกว่า 10 ครั้ง ถือว่ามี Fetal inactivity
- - - - การแบ่งประเภท
        
        Doppler ultrasound ใช้ตรวจหาการเต้นของหัวใจทารกในระยะตั้งครรภ์และระยะคลอด
        
        M-mode (time-motion method) ใช้วินิจฉัยความผิดปกติของหัวใจได้แต่การตรวจก่อนคลอดทำได้ยาก
        
        B-mode (brightness mode) ใช้วินิจฉัยการตั้งครรภ์ในระยะแรก เช่น หาตำแหน่งรก การตั้งครรภ์แฝด
        
        Real-time ultrasound ใช้ตรวจดูการเคลื่อนไหวของทารก การหายใจของทารกและการทำงานของทารก
        
        A-mode (amplitude mode)
        ใชในการตรวจความยาวของ BPD ของศีรษะทารกเพื่อประเมินอายุครรภ์
      - ระดับการตรวจ
        
        การตรวจระดับที่ 2
        
        ตรวจหาความพิการของทารกที่ซ่อนอยู่ เช่น anencephaly
        
        เริ่มทำ GA 15-20 wks
        
        การตรวจระดับที่ 3
        
        การตรวจที่คลอบคลุมถึงการวินิจฉัยที่ยาก เช่น หัวใจพิการแต่กำเนิด
        
        การตรวจระดับที่ 1
        
        ตรวจประเมินอายุครรภ์และการเจริญเติบโตของทารก
        
        การตรวจหาส่วนนำและท่าของทารก
        
        การตรวจดูปริมาณน้ำคร่ำ
        
        ตรวจหาความพิการของทารก
- - - - เริ่มตรวจ GA 28 wks. จนอายุครรภ์ครบกำหนด ตรวจ 3 ครั้ง/wks
        ให้สตรีตั้งครรภ์ปัสสาวะทิ้งก่อน 1 ครั้ง จากนั้นเก็บ urine จนครบ 24 ชม. หากเก็บไม่ครบผลตรวจอาจ
    - - Estriol ลดลงฉับพลัน ต่ำกว่า 4 mg/4 hr. (ทารกอาจตายในครรภ์)
        
        Estriol ต่ำเรื้อรัง ต่ำกว่า Standard deviation สาเหตุจาก IUGR, ทารกพิการ, ทารกติดเชื้อ เป็นต้น
  - - - ระดับของ alkaline phosphatase ลดลง ในรายที่ทารกขาดอาหารหรือขาดออกซิเจนเรื้อรัง
        
        ระดับ oxytocinase ลดลงในรายที่ทารกตายในครรภ์
    - - การตรวจหาระดับ unconjugated estriol (uE3) ใน plasma
        จะสัมพันธ์กับ estriol ในปัสสาวะ การตรวจ estriol ในเลือดได้ผลแน่นอนกว่าการตรวจในปัสสาวะถ้าสตรีตั้งครรภ์มีปัญหาเกี่ยวกับไต
      - ค่า uE3 ใน Plasma สูงพบได้ในสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะเบาหวาน ครรภ์แฝดหรือไตทำหน้าที่บกพร่อง
        
        ค่า uE3 ใน Plasma ลดลง พบในทารกที่มีภาวะผิดปกติ
    - - เพื่อประเมินความพิการและความผิดปกติของทารกโดยเฉพาะ neural tube defect
        
        ระยะเวลาเหมาะสมในการตรวจ คือ GA 16-18 wks
        
        ระดับ MSAFP สูงผิดปกติจะพบได้ในกรณีที่ทารกมี ภาวะ open neural tube defect
        
        ระดับ MSAFP ต่ำกว่าปกติพบว่าสัมพันธ์กับ Down's syndrome และ Edward's syndrome
    - - H.hCG สร้างจากรกตรวจพบในเลือดของสตรีตั้งครรภ์ตั้งแต่วันที่ 8 หลัง fertilization
        
        ระดับสูงสุดเมื่ออายุครรภ์ 60-90 วัน
        
        ช่วยวินิจฉัยภาวะแท้งคุกคม
    - - ค่า hPL สร้างจากเซลล์ syncytitrophoblast ของรก
        
        ค่า hPL ใกล้ก้าหนดคลอด 5.4 – 7.0 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร
        
        ระดับ hPL ต่ำกว่า 4 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร แสดงถึงทารกในครรภ์อยู่ในภาวะอันตราย
  - - - ทำเมื่ออายุครรภ์ 18 สัปดาห์ขึ้นไป
        
        ใช้การ U/S ร่วมเพื่อหาตำแหน่งสายสะดือ
        
        เจาะจากเส้นเลือดดำห่างจากรก 1-2 cm.
    - - ตรวจภาวะกรด-ด่าง ของทารกจากภาวะ fetal distress ระยะเจ็บครรภ์คลอด
        
        ค่าปกติ 7.25-7.45
        
        ค่า PH 7.20-7.24 ถือว่าเป็น Pre-acidosis
        
        ค่า PH ต่ำกว่า 7.20 มีภาวะ acidosis
  - - - เป็น sufactant อยู่ที่พื้นผิวของ alveoli ในปอด ช่วยให้ขยายตัวได้ดีไม่แฟบ
        
        L:S ratio สัมพันธ์กับการเกิด respiratory distress syndrome
        
        ค่า L:S ratio ปกติมากกว่า 2.0 แสดงถึงปอดเจริญเติบโตสมบูรณ์
- - - - Non-reactiveไม่มี FHS accelaration หรือมีน้อยกว่า 2 ครั้งโดยที่ FHS เร็วขึ้นน้อยกว่า 15 ครั้ง/นาทีแสดงว่าทารกอยู่ในภาวะเสี่ยง
      - Suspicious หรือ Unsatisfactory เมื่อทารกดิ้นแล้วมี FHS accelaration ไม่แน่นอน
      - Reactive มี FHS accelaration อย่างน้อย 2 ครั้งใน 20 นาทีติดต่อกัน โดยที่ FHS เร็วขึ้น 15 ครั้ง/นาทีและนานอย่างน้อย 15 วินาที FHS baseline ระหว่าง 110-160 ครั้ง/นาที แสดงว่าทารกอยู่ในภาวะปลอดภัย
  - - - Negatiive มดลูกมีการหดรัดตัว 3 ครั้งใน 10 นาที มี Duration อย่างน้อย 40 วินาที แล้วไม่มี late deceleration เกิดขึ้น บ่งชี้ว่าทารกไม่มีอันตรายจาก Uteroplacental insufficiency ภายใน 1 สัปดาห์
      - Positive เมื่อมดลูกหดรัดตัวมี late deceleration เกิดขึ้น แสดงว่าทารกอยู่ในภาวะอันตรายควรให้คลอดโดยเร็ว
      - Eqivocalผลการทดสอบก้ำกึ่งไม่สามารถแปลผลได้ควรทดสอบซ้ำภายใน 24 ชั่วโมง