Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
UNIT 4 ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิตและการพยาบาลจิตเวช - Coggle Diagram
UNIT 4 ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิตและการพยาบาลจิตเวช
ทฤษฎีชีวภาพ (Biological theory)
แนวคิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางชีวภาพและการเจ็บป่วยทางจิต
โครงสร้างหน้าที่ของสมอง (Brain
)
สมองส่วนหน้า (Forebrain)
Diencephalon
Limbic System
Amygdala
รับรู้ความทรงจําทางด้านอารมณ์ที่รวบรวมอารมณ์ในช่วงเวลาแห่งความสําเร็จหรือล้มเหลว ความหวังและความกลัว
Epithalamus
ทําหน้าที่เป็นนาฬิกาชีวภาพช่วยควบคุมการ
หลับและการตื่น
Thalamus
ทําหน้าที่เป็นตัวกลางในการส่งผ่านข้อมูลเกี่ยวกับการรับสัมผัส (ยกเว้นการได้กลิ่น) และทําหน้าที่เกี่ยวกับอารมณ์และความทรงจํา
Hypothalamus
การควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย ความหิว สมดุลของน้ํา วงจรการหลับ-ตื่น ระบบประสาทอัตโนมัติและการทํางานของร่างกาย
Hippocampus
ความทรงจําในระยะยาว
:warning: เกิดความผิดปกติด้านความจําการเรียนรู้,ความผิดปกติการตอบสนองด้านความต้องการพื้นฐาน
Cerebrum
frontal lobes
ทําหน้าที่เกี่ยวกับบุคลิกภาพ การวางแผน การแก้ปัญหา การควบคุมสติสัมปชัญญะ แรงจูงใจ ความคิด สติปัญญา ความจํา การควบคุมอารมณ์และพฤติกรรมการควบคุม
:warning: บุคลิกภาพเปลี่ยน,แสดงออกทางอารมณ์ไม่เหมาะสม,ขาดแรงจูงใจ,ขาดสมาธิ,บกพร่องในการพูด (พูดไม่ได้)
Parietal lobes
ทําหน้าที่เกี่ยวกับการรับข้อมูลจากการสัมผัส การควบคุมการรับสัมผัสทางกายและการแยกการรับความรู้สึกสัมผัสต่างๆ ได้แก่ การรับสัมผัสบริเวณขา แขน ลําตัว นิ้วมือ
:warning: ความผิดปกติเกี่ยวกับการรับสัมผัส,ปัญหาใน
การควบคุมการตื่นตัวในทางอารมณ์และสังคม
Temporal lobes
ทําหน้าที่รับและประเมินข้อมูลที่จากการรับกลิ่น การได้ยินความเข้าใจภาษาที่ได้ยิน อารมณ์ การเรียนรู้และทําหน้าที่สําคัญในด้านความจํา การระลึกได้ นําไปสู่การคิดและตัดสินใจ
:warning: บกพร่องในการควบคุมอารมณ์,บกพร่องด้านความจํา(การเรียนรู้), บกพร่องในการสื่อสารการอ่าน การเขียน ไม่เข้าใจภาษา(Wernicke’sarea)
Occipital lobe
ส่วนของสมองที่ทําหน้าที่รับข้อมูลจากการมองเห็น รับและแปลผลขล้อมูลจากการมองเห็น
:warning: แปลภาพผิด, มองไม่เห็นเป็นบางส่วนหรือทั้งหมด, เสียการรับรู้การเคลื่อนไหว
Basal Ganglia
ทําหน้าที่ในการควบคุมความตึงของกล้ามเนื้อ (Muscle Tone) และประสานงานด้านการเคลื่อนไหว(Coordination of Movement)
:warning: ไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมได้
Pituitary Gland
ต่อมใต้สมองส่วนหน้า
Tropic Hormone
Adrenocorticotropic Hormone (ACTH)
2.Thyroid stimulating hormone (TSH)
Gonadotrophin hormone
Peptide Hormone
Growth hormone: GH
Prolactin or memotropin
ต่อมใต้สมองส่วนหลัง
ทําหน้าที่ผลิต Neurohormones ฮอร์โมนของต่อมใต้สมองส่วนหลังซึ่งถูกสังเคราะห์จาก Hypothalamus ที่สําคัญได้แก่ Oxytocin
สมองส่วนกลาง (Midbrain)
Substantia Nigra
ทําหน้าที่เกี่ยวกับการควบคุมระบบสั่งการของ basal ganglia ในการควบคุมความตึงของกล้ามเนื้อ และประสานงานด้านการเคลื่อนไหวของร่างกาย
Ventral Tegmental Area (VTA)
ระบบรางวัลของสมอง
Raphe Nuclei
เป็นแหล่งกําเนิดเดียวของserotonin
Reticular Formation
การรู้สึกตัว (Consciousness) ควบคุมสภาวะตื่นตัวของร่างกาย
สมองส่วนหลัง (Hindbrain)
Cerebellum
ทําหน้าที่ในการควบคุมระบบกล้ามเนื้อให้สัมพันธ์กับการเคลื่อนไหว การทรงตัวและให้เกิดภาวะสมดุลในการเคลื่อนไหว
:warning: เสียความสามารถในการทรงตัว การทํางานประสานกันขอกล้ามเนื้อและการเคลื่อนไหว อาจพบอาการเวียนศีรษะ บ้านหมุน เดินเซ ทรงตัว ไม่ได้ พูดไม่ชัด แต่ไม่มีอาการอ่อนแรง
Medulla (oblongata)
การหายใจ การเต้นของหัวใจ การคลื่นไส้อาเจียน การไอ การจาม
:warning: มีปัญหาเกี่ยวข้องกับการทํางานของระบบประสาทอัตโนมัติ
Pons
ควบคุมการหลับและการตื่น การตอบสนองทางกายและทางอารมณ์ต่อความเครียด
:warning: ปัญหาการควบคุมการ หลับและการตื่น การตอบสนองทางกายและทางอารมณ์ต่อความเครียดและการรับสัมผัส
การทํางานของสารสื่อประสาท
Dopamine
มีบทบาทต่อการควบคุมอารมณ์ พฤติกรรมการเรียนรู้ การคิด การจดจํา การจูงใจ ควบคุมการ
เคลื่อนไหว การนอนหลับ ความตั้งใจในการกิจกรรมต่างๆ และระบบภูมิคุ้มกัน
Serotonin
มีบทบาทเกี่ยวข้องกับการควบคุมอารมณ์ ความรู้สึก และการรับรู้ให้อยู่ในระดับปกติ
นอกจากนั้นยังทําหน้าที่ในการควบคุมอุณหภูมิ การรับรู้ในการรับสัมผัส
Norepinephine
มีบทบาทเกี่ยวข้องการการตื่นตัว การฝัน และ
การควบคุมอารมณ์ และฮอร์โมนให้อยู่ในระดับปกติ
Acetylcholine
ควบคุมการทํางานของร่างกายเกือบทั้งหมด เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ การนอนหลับ การหายใจ การย่อยอาหาร การขับถ่าย การสืบพันธุ์การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ ควบคุมพฤติกรรม สร้างความจํา และการเรียนรู้
Epinephrine หรือ Adrenaline
ควบคุมและตอบสนองต่อความเครียด อารมณ์ ความรู้สึกกลัว โกรธ วิตกกังวล
Glutamate
ทําหน้าที่
เกี่ยวกับความจําและการเรียนรู้ การควบคุมอารมณ์จิตใจ
Gamma Aminobutyric Acid (GABA)
อารมณ์และความเครียด
Endophin
เป็นยาระงับความปวด
ตามธรรมชาติและบรรเทาความเครียด
แนวทางประยุกต์ทฤษฎีชีวภาพในการบําบัดรักษาและการพยาบาลผู้ป่วยจิตเวช
การประเมินสภาพผู้ป่วย
ประวัติการดูแลสุขภาพทั่วไป
การดําเนินชีวิตประจําวัน
การตรวจร่างกายทั่วไป และ การตรวจทางห้องปฏิบัติการ การได้รับภูมิคุ้มกันต่างๆ
การวินิจฉัยทางการพยาบาล
กําหนดปัญหาและความต้องการของผู้ป่วยที่สอดคล้องกับการ
เปลี่ยนแปลงทางชีวภาพ
การวางแผนทางการพยาบาล
กําหนด
วัตถุประสงค์ที่สามารถเห็นเปลี่ยนแปลงระบบชีวภาพของผู้ป่วย
การปฏิบัติการพยาบาล
เน้นให้ผู้ป่วยได้รับการตอบสนองทางด้าน
ร่างกาย
การประเมินผลการพยาบาล
ประเมินผลจากการเปลี่ยนแปลงของผู้ป่วยในด้านชีวภาพ
ทฤษฎีทางจิตสังคม
ทฤษฎีจิตวิเคราะห์
Sigmund Freud
ระดับของจิตใจ
ระดับจิตสํานึก
ระดับจิตใต้สํานึก
ระดับจิตไร้สํานึก
โครงสร้างของจิตใจ
ID เป็นสัญชาตญาณเดิมของมนุษย์ที่มีมา
Ego การควบคุม
บริหารจัดการต่อแรงผลักดันต่างๆ
Superego งความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่มีอยู่ในจิตใจ
พัฒนาการทางบุคลิกภาพ
Oral stage
อายุแรกเกิด – 18 เดือน
:check: ไว้วางใจ
:green_cross: เติบโตมีพฤติกรรมชอบรับประทานตลอดเวลา รับประทานจุบจิบ ชอบสูบบุหรี่ กัดเล็บ ดูดนิ้ว
หรืออาจใช้ปากในการพูดจาเยาะเย้ย ถากถางผู้อื่นเสมอ
Anal stage
อายุ 1-3 ปี
:check: ช่วยให้เด็กมีพัฒนา autonomy อย่างเหมาะสม เมื่อเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีความภาคภูมิใจในตนเอง สามารถทํางานร่วมกับผู้อื่นได้โดยไม่คอยขัดขวาง หรือยอมตามผู้อื่นในทุกเรื่อง
:green_cross: จะกลายเป็นคนดื้อ
ต่อต้าน ย้ําคิดย้ําทํา เจ้าระเบียบ ชอบเก็บ รักสะอาดมากเกินไป
Phallic stage
อายุ 3-5 ปี
:check: ไม่สับสนในการเลือกเลียนบทบาททางเพศที่เหมาะสม
:green_cross: สับสนในการเลือกเลียนบทบาททางเพศที่เหมาะสม
Latency stage
อายุ 6-12 ปี ในวัยนี้Libido ยังไม่เคลื่อนไปที่อวัยวะใด
:check: มีพฤติกรรมการคบเพื่อนที่เหมาะสม เข้ากับเพื่อนเพศเดียวกันได้และพร้อมที่จะพัฒนาไปสู่การคบเพื่อนต่างเพศในวัยรุ่นได้
Genital stage
อายุ 12 ปีจนถึงวัยผู้ใหญ่
:check: เติบโตทางบุคลิกภาพที่เหมาะสมกับเพศที่แท้จริง
:green_cross: จะแสดงบทบาททางเพศตรงข้ามกับเพศจริงของตนเอง
การประยุกต์แนวคิดจิตวิเคราะห์มาใช้ในการพยาบาลจิตเวช
พยาบาลควรซักถามเกี่ยวกับประวัติการเลี้ยงดูและวิธีการที่ใช้แก้ปัญหาที่ผ่านมาให้ชัดเจนเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์คามบกพร่องทางพัฒนาการ บุคลิกภาพ พฤติกรรมไม่เหมาะสมและกลไกป้องกันตัวเองทางจิตของผู้ป่วย
ทฤษฎีจิตสังคมหรือจิตพัฒนาการทางสังคม
(Erik H. Erikson)
ขั้นตอนจะมีพัฒนาการ
ขั้นความไว้วางใจ : ไม่ไว้วางใจ
อยู่ในช่วงอายุ 0-1 ปี
ขั้
นความเป็นตัวของตัวเอง : ความสงสัยไม่แน่นอน
อยู่ในช่วงอายุ 1-3 ปี
ขั้นความคิดริเริ่ม : ความรู้สึกผิด
อยู่ในช่วงอายุ 3-5 ปี
ขั้นการรู้เอกลักษณ์ของตนเอง : สับสนในบทบาท
อยู่ในช่วงอายุ 11-18 ปี
ขั้นความขยันหมั่นเพียร : ความรู้สึกมีปมด้อย
อยู่ในช่วงอายุ 6-11 ปี
ขั้นความผูกพันใกล้ชิด : การรู้สึกเปล่าเปลี่ยว
อายุระหว่าง 18-40 ปี
ขั้นการทําประโยชน์ให้สังคม : การคิดถึงแต่ตนเอง
อายุระหว่าง 40-65 ปี
ขั้นความมั่นคงทางจิตใจ : ความสิ้นหวัง
อายุตั้งแต่ 65 ปี ขั้นไป
การประยุกต์แนวคิดจิตสังคมมาใช้ในการพยาบาลจิตเวช
พยาบาลจะสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการในแต่ละช่วงวัยให้
เหมาะสม และสามารถพัฒนาเพื่อสร้างเสริมคุณลักษณะและบุคลิกภาพของบุคคลได้อย่างเหมาะสม
ทฤษฎีพฤติกรรมนิยม
(Ivan Pavlov)
มีความเชื่อว่าพฤติกรรมของมนุษย์เกิดจาก
การเรียนรู้ ความเชื่อของกลุ่มพฤติกรรมนิยมจึงเน้นที่การเรียนรู้ โดยเชื่อว่าพฤติกรรมที่ผิดปกติทั้งหลายเกิดจากการเรียนรู้มาผิดๆ จากสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้เรียนรู้ผิดดังนั้นการแก้ไขคือ ใช้กระบวนการเรียนรู้ การวางเงื่อนไขใหม่ หรือจัดสภาพให้เกิดการเรียนรู้พฤติกรรม ใหม่แทน เพื่อให้เกิดพฤติกรรมที่เหมาะสม
การนําทฤษฎีพฤติกรรมนิยมมาประยุกต์ใช้ในการพยาบาลจิตเวช
การจัดสิ่งแวดล้อมเพื่อการบําบัดที่เอื้อให้เกิดการเรียนรู้ใหม่อย่างเหมาะสม มีแบบอย่างในการปฏิบัติ
จัดกิจกรรมเพื่อการบําบัด โดยการสร้างสถานการณ์และการวางเงื่อนไขที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปในทางที่เหมาะสม หรือลดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมลง
ทฤษฎีมนุษยนิยม
กลุ่มปรัชญาฮิวแมนนิสติก
ทฤษฎีความต้องการของมาสโลว์
เป้าหมาย
เน้นการตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์อย่างเพียงพอ
ความต้องการที่จะรู้และเข้าใจ
ความต้องการด้านร่างกาย
ความต้องการการยอมรับยกย่อง
ความต้องการเป็นตนเองอย่างแท้จริง
ความต้องการความปลอดภัย
ความต้องการสุนทรียะ
ความต้องการความรักและการเป็นเจ้าของ
ทฤษฎีเกี่ยวกับตัวตนของโรเจอร์
ตัวตนของบุคคล
ตัวตนที่ตนมองเห็น (self-concept) คือ ภาพของตนที่เห็นเองว่า
ตนเองเป็นคนอย่างไร
ตัวตนตามอุดมคติ (ideal self) คือ ตัวตนที่อยากเป็น แต่ยังไม่มีไม่
เป็นในสภาวะปัจจุบัน
ตัวตนตามที่เป็นจริง (real self) คือ ลักษณะตัวตนที่เป็นไปตาม
ข้อเท็จจริง บ่อยครั้งที่ตนมองไม่เห็นข้อเท็จจริงของตน
จุดรวมของประสบการณ์(the organism)
ประสบการณ์ของบุคคลมีทั้งส่วนที่เป็นจิตสํานึกและจิตใต้สํานึก ทั้งที่
สามารถสื่อสารได้และสื่อสารไม่ได้ เป็นพลังกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรม
จุดมุ่งหมาย
คือ สร้างสถานการณ์อันทําให้ผู้รับการบําบัดพัฒนาความสามารถในการสื่อสารประสบการณ์ เฉพาะตนของเขาต่อตัวเขาและต่อผู้อื่นได้ สามารถรับรู้และเข้าใจได้ อันเป็นแนวทางหนึ่งในการนําไปสู่ความ เข้าใจตนเอง
เป้าหมายในชีวิตของบุคคล
เชื่อว่าวิธีการบําบัดบุคคลที่มีบุคลิกภาพไม่เหมาะสมทําได้โดยวิธีการทํา
จิตบําบัด
เป้าหมายการบำบัด
เน้นผู้รับบริการหรือผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง พยาบาลต้องช่วยให้ผู้ป่วยได้รู้จักและยอมรับตนเองตามความเป็นจริง เข้าใจในตนเอง สามารถตัดสินใจเรื่องต่างๆ เลือกเป้าหมายชีวิตและรับผิดชอบตนเองได้
ปรัชญาอัตภาวะนิยม
เป้าหมาย
การช่วยให้ผู้รับบริการมี ประสบการณ์รับรู้ถึงความมีอยู่ของตนเอง และศักยภาพที่ตนมีอยู่ มีเสรีภาพในการตัดสินใจด้วยตนเอง รับผิดชอบและนําชีวิตตนเอง และเปิดโอกาสให้ตนเองพัฒนาไปให้เต็มศักยภาพ
พยาบาลหรือผู้บําบัด
มีหน้าที่ช่วยให้ผู้ป่วยนหาความหมายในการมีชีวิตอยู่ของตนเอง ช่วยให้ผู้ป่วยกล้าเผชิญกับปัญหา และ ามารถตัดสินใจเลือกได้ และช่วยให้ผู้ป่วยสามารถปรับตัวและสร้างสัมพันธภาพระหว่างบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทฤษฎีปัญญานิยม (Cognitive theory)
ทฤษฎีทางปัญญาของเบค (Beck’s Cognitive Theory)
มุ่งตรวจสอบ
การรับรู้ที่บิดเบือน ความเชื่อที่ผิดพลาดและจุดบอดของบุคคล ซึ่งนําไปสู่ปฏิกริยาทางอารมณ์ที่ไม่เหมาะสมต่อเหตุการณ์ การแก้ไขปัญหาจะมุ่งที่การตรวจสอบความเป็นจริงโดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาเพื่อแก้ไขความคิดและกระบวนการคิดที่ผิดพลาด ซึ่งจะทําให้บุคคลเกิดการมองตนเองและมองโลกตามความเป็นจริงมากขึ้น
ทฤษฎีการบําบัดแบบเน้นเหตุผลอารมณ์และพฤติกรรม
สอนให้บุคคล
หยุดการตําหนิ ตนเองและยอมรับตนเองอย่างที่เป็นตนเองซึ่งมีข้อบกพร่อง ไม่สมบูรณ์แบบ แยกปัญหาจากความคิด อารมณ์ และพฤติกรรม
(หลัก ABC)
การประยุกต์ใช้ทฤษฎีปัญญานิยมในการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช
พยาบาล
จะต้องชี้ให้ผู้ป่วยเห็นถึงความเป็นจริงโดยสะท้อนพฤติกรรมทางบวกที่เป็นอยู่ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ป่วยเกิดความเชื่อมั่นว่าตนเองยังมีคุณค่า
ทฤษฎีการเรียนรู้เชิงปัญญาสังคม (Social cognitive learning theory)
ให้ความสําคัญกับบริบททางสังคมและมีปฏิสัมพันธ์ การเรียนรู้บทบาท และพฤติกรรมตามต้นแบบในสังคม
การประยุกต์ใช้ทฤษฎีการเรียนรู้เชิงปัญญาสังคมในการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช
พยาบาล
สามารถนําหลักการเกี่ยวกับการเป็นตัวแบบมาช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจว่าจะต้องประพฤติหรือปฏิบัติวิธีการใดจึงจะมีพฤติกรรมที่ถูกต้อง ตัวอย่างเช่น การฝึกการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ป่วยใหม่ให้เหมาะสม
ตัวอย่างพฤติกรรมที่เหมาะสมผ่านสื่อต่างๆ และการใช้บทบาทสมมุติในสถานากรณ์ที่ คล้ายคลึงกัน รวมทั้งพยาบาลต้องเป็นแบบอย่าง (Modeling) ที่ดีให้กับผู้ป่วยในการแก้ปัญหาและการใช้ชีวิตอย่างหมาะสม
ทฤษฎีสัมพันธภาพระหว่างบุคคล (Interpersonal theory)
เป้าหลักของทฤษฎี
สัมพันธภาพระหว่างบุคคลของ Sullivan
เป้าหมายเพื่อไปสู่ความพึงพอใจ (Satisfaction) เน้นความต้องการทางด้านชีววิทยาสรีรวิทยา
เป้าหมายเพื่อสู่ความมั่นคง (Security) เน้นความต้องการทางอารมณ์และสังคมความคงอยู่อย่างมีความสุขในสังคม
การประยุกต์ใช้ทฤษฎีสัมพันธภาพระหว่างบุคคลในการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช
พยาบาล
ต้องเน้นการสร้างสัมพันธภาพทางการพยาบาลและการสร้างสัมพันธภาพเพื่อการบําบัด ให้ผู้ป่วยเกิดความไว้วางใจ ปลอดภัย ผ่อนคลาย ลดความวิกลกังวล เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถพูดคุยด้วยความ สบายใจ สามารถค้นหาความขัดแย้งในใจของตนเอง ให้ผู้ป่วยเกิดความเข้าใจตนเอง ให้ความยอมรับนับถือในตัวเอง สามารถทําหน้าที่ตามบทบาททางสังคมได้