Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ปรากฎการณืทางดาราศาสตร์เกิดขากความสัมพันธ์ของ โลก ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ -…
ปรากฎการณืทางดาราศาสตร์เกิดขากความสัมพันธ์ของ โลก ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์
โลก
ถือเป็นดาวเคราะห์ดวงเดียวที่มีอุณหภูมิและแก๊สต่างๆมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต
มีความสัมพันธ์กับดวงอาทิตย์และดาวเคราะห์ดวงอื่นด้วย
โลกกับดวงอาทิตย์
โลกจะหมุนรอบตัวเองทำให้เกิดเป็นช่วงเวลากลางวันและกลางคืน ในแต่ละวันจะเห็นพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกเห็นแสงสุดท้ายของแต่ละวันเมื่อดวงอาทิตย์เคลื่อนไปทางทิศตะวันตกประเทศที่อยู่ทางทิศตะวันออก จะได้เห็นแสงสว่างก่อนประเทศทางตะวันตกเสมอ
ช่วงเวลากลางวัน
ผิวโลกด้านที่ได้รับแสงสว่างจะเป็นเวลากลางวัน
ช่วงเวลากลางคืน
ด้านที่ไม่ได้รับแสงสว่างจะเป็นเวลากลางคืน
การหมุนรอบตัวเองของโลกครบหนึ่งรอบเท่ากับ 1 วันหรือ 24 ชั่วโมง
การโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์หนึ่งรอบจะใช้เวลาประมาณ 365.24 วันทำให้ในทุก 4 ปีจะมีวันเกินมา 1 วันเรียกว่าอธิกสุรทินทำให้ในทุก 4 ปีเดือนกุมภาพันธ์จะมี 29 วัน
เกิดเป็นฤดูกาล
การโคจรของโลกในลักษณะที่แกโลกเอียงทำมุม 23 ½ องศา กับแนวตั้งฉากกับระนาบวงโคจรทำให้บริเวณขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ในแต่ละช่วงของปีมีอุณหภูมิแตกต่างกันหรือเกิดเป็นฤดูกาลเนื่องจากได้รับพลังงานความร้อนจากดวงอาทิตย์ไม่เท่ากัน
ฤดูร้อน
บริเวณใดเอียงเข้าหาดวงอาทิตย์จะเป็นฤดูร้อนเพราะได้รับพลังงานความร้อนจากดวงอาทิตย์ เต็มที่ทำให้อุณหภูมิโดยเฉลี่ยสูง
ฤดูหนาว
บริเวณที่เอียงออกจากดวงอาทิตย์จะมีอุณหภูมิต่ำหรือเป็นฤดูหนาวเนื่องจากได้รับพลังความร้อนจากดวงอาทิตย์น้อยกว่า
โลกกับดวงจันทร์
โลกมีดวงจันทร์เป็นบริวาร 1 ดวง ดวงจันทร์ใช้เวลาหมุนรอบตัวเองประมาณ 27.322 วัน เท่ากับเวลาที่โคจรรอบโลกหนึ่งรอบดังนั้นจึงเห็นดวงจันทร์ด้านเดียวเสมอการหมุนรอบตัวเองและโคจรของดวงจันทร์รอบโลกทำให้เกิดปรากฏการณ์ต่างๆดังนี้
1 การเกิดข้างขึ้นข้างแรม
เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากการหมุนรอบตัวเองและการโคจรรอบโลกของดวงจันทร์ส่งผลให้แต่ละคืนตำแหน่งของดวงจันทร์จะเปลี่ยนไปจากเดิม
วันข้างขึ้น
ช่วงเวลาที่มองเห็นส่วนสว่างของดวงจันทร์ค่อยๆโตขึ้นกำหนดให้เป็น วันข้างขึ้น จะเห็นด้านสว่างของดวงจันทร์อยู่ทางทิศตะวันตกนี้วันที่ส่วนสว่างของดวงจันทร์เต็มดวง เรียกว่าวันเพ็ญ
วันข้างแรม
หลังจากวันเพ็ญจะเห็นแสงสว่างของดวงจันทร์ค่อยๆเล็กลง กำหนดให้เป็น วันข้างแรม จะเห็นแสงสว่างของดวงจันทร์อยู่ทางทิศตะวันออกวันที่เรามองไม่เห็นส่วนสว่างของดวงจันทร์เลยเรียกว่า วันเดือนดับ
ตั้งแต่วันเพ็ญหนึ่งไปจนถึงวันเพ็ญถัดไปกำหนดให้เป็นเวลาหนึ่งเดือนหรือประมาณ 30 วัน เป็นการนับวันทางจันทรคติ โดยอาศัยตำแหน่งการเคลื่อนที่ของดวงจันทร์รอบโลกในการรับแสงจากดวงอาทิตย์จึงสามารถแบ่งวันทางจันทรคติได้ดังนี้
วันแรม 15 ค่ำวันเดือนดับดวงจันทร์จะอยู่ระหว่างลูกกับดวงอาทิตย์และหันด้านมืดให้โลกทำให้มองไม่เห็นดวงจันทร์
วันขึ้น 8 ค่ำดวงจันทร์เพื่อนที่มาอยู่ตำแหน่งทำมุมฉากกับโลกและดวงอาทิตย์ทำให้มองเห็นด้านสว่างและด้านมืดของดวงจันทร์ที่มีขนาดเท่ากัน
1 more item...
จันทรุปราคา หรือจันทรคราส
เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากโลกโคจรไปบางแสนอาทิตย์ทำให้แสงอาทิตย์ส่งไปไม่ถึงดวงจันทร์เราจึงมองเห็นดวงจันทร์มืดลงชั่วขณะหนึ่งปรากฏการณ์นี้จะเกิดในเวลากลางคืน
สุริยุปราคา หรือสุริยคราส
เกิดจากการที่โลกดวงจันทร์และดวงอาทิตย์เล่นที่บาร์อยู่ในแนวเดียวกันโดยดวงจันทร์อยู่ระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ทำให้ไม่สามารถมองเห็นดวงอาทิตย์เนื่องจากดวงจันทร์ไปบางแสนจากดวงอาทิตย์ทำให้บริเวณที่แสงอาทิตย์ถูกบดบังมืดลงชั่วขณะซึ่งปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นในเวลากลางวัน
น้ำขึ้นน้ำลง
เกิดจากดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ต่างส่งแรงดึงดูดมายังโลกส่งผลให้เกิดน้ำขึ้นน้ำลง