Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
IUGR (Intrauterine Growth Retardation) หรือ ภาวะทารกในครรภ์เจริญเติบโตช้า …
IUGR (Intrauterine Growth Retardation) หรือ ภาวะทารกในครรภ์เจริญเติบโตช้า
ความหมาย
ภาวะที่ทารกในครรภ์เจริญเติบโตช้ากว่าที่ควรจะเป็น โดยทารกจะมีขนาดตัวที่เล็ก และมีน้ำหนักตัวน้อยกว่าเปอร์เซ็นไทล์ที่ 10 เมื่อเปรียบเทียบกับทารกที่อยู่ในช่วงอายุครรภ์เดียวกัน หรือต่ำกว่าน้ำหนักเฉลี่ย 2 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานที่อายุครรภ์นั้นๆ ซึ่งจัดเป็นกลุ่มน้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์ ทารกเจริญเติบโตช้าแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
Symmetrical IUGR
ทารกในกลุ่มนี้จะมีอัตราการเจริญเติบโตที่ช้าในทุกอวัยวะ ซึ่งความผิดปกติมักเกิดตั้งแต่ระยะเริ่มแรกของการตั้งครรภ์ โดยอาจเป็นผลจากการได้รับสารเคมี การติดเชื้อไวรัส หรือรวมไปถึงการที่มีโครโมโซมผิดปกติ ทำให้เกิดการลดลงของทั้ง cell number and size
Asymmetrical IUGR
ทารกในกลุ่มนี้จะมีขนาดเล็กในทุกระบบอวัยวะ ยกเว้นขนาดศีรษะที่ปกติหรือมีผลกระทบน้อยกว่าส่วนอื่นๆ โดยสาเหตุในกลุ่มนี้มักเกิดในช่วงระยะท้ายของการตั้งครรภ์ เช่น ภาวะ placental insufficiency จากภาวะความดันโลหิตสูง เป็นต้น ซึ่งส่งผลต่อเฉพาะ cell size เท่านั้น จากภาวะนี้ทำให้ทารกมีการปรับตัว เกิดภาวะ brain sparing phenomenon ขึ้น
สาเหตุ
สาเหตุของ Symmetrical IUGR
1.สภาพแวดล้อม : ที่อาศัยอยู่ในภูมิประเทศที่สูงทำให้ทารกในครรภ์มีภาวะขาดออกซิเจนเรื้อรัง
2.ภาวะทุพโภชนาการ : สตรีมีครรภ์มีน้ำหนักก่อนคลอดน้อยกว่า 45 กิโลกรัมหรือน้ำหนักไม่เพิ่มขึ้นขณะตั้งครรภ์
3.การได้รับรังสี : โดยเฉพาะในไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์
4.ยาและสิ่งเสพติดยา : ยาที่รักษาโรคในสตรีมีครรภ์ทำให้ทารกเกิด IUGR เช่น ยาป้องกันชักบางกลุ่มเช่น Dilantin หรือยาลดความดันโลหิตเช่น propranolol เป็นต้น การสูบบุหรี่ตั้งแต่ 10 มวนต่อวัน การดื่มสุราวันละ 1 ออนซ์ รวมทั้งการใช้สารเสพติดต่างๆ เช่น โคเคน เฮโรอื่น
5.พันธุกรรม : ทารกในครรภ์ที่มีความผิดปกติของโครโมโซมมีโอกาสเกิด IUGR ร้อยละ 17-38 เช่น trisomy 13-18 หรือ 21, Turner's syndrome, multiple sex chromosome XXX เป็นต้น
6.พิการแต่กำเนิด : โดยเฉพาะทารกที่มีความพิการของระบบหัวใจและหลอดเลือด
7.การติดเชื้อของทารกในครรภ์
สาเหตุของ Asymmetrical IUGR
1.สตรีมีครรภ์เป็นโรคหลอดเลือด เช่น โรคความดันโลหิตสูงเรื้อรัง (chronic hypertension) ความดันโลหิตสูงจากการตั้งครรภ์ โรคเบาหวาน โรคของระบบภูมิคุ้มกัน (autoimmune)
2.สตรีเป็นโรคเกี่ยวกับเม็ดเลือดแดงในการจับออซิเจน เช่น โรคโลหิตจาง โรคหัวใจที่มีภาวะเขียว (tetrology of fallof) เป็นต้น
3.สตรีมีครรภ์เป็นโรคไตเรื้อรัง มีการสูญเสียโปรตีนออกทางปัสสาวะ
4.ภาวะครรภ์แฝด
5.ความผิดปกติของรกและสายสะดือ
ผลกระทบต่อสุขภาพมารดาและทารก
ผลต่อมารดา
เพิ่มอัตราการผ่าตัดคลอดทารกทางหน้าท้องเนื่องจากพบทารกมีภาวะเครียดในอัตราค่อนข้างสูง
เพิ่มภาระในการเลี้ยงดู และส่งผลกระทบต่อจิตใจ
ผลต่อทารก
1.มีโอกาสเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (hypoglycemia)
2.ภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ (hypocalcaemia)
3.ภาวะความเข้มข้นของเลือดสูง (polycythemia)
4.ภาวะตัวเหลือง (hyperbilirubinemia)
5.เสี่ยงต่อภาวะ mecronium aspiration syndrome
6.เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื่อเพราะภูมิต้านทานต่ำ
7.การตายปริกําเนิดเพิ่มขึ้น
การประเมินและการวินิจฉัย
การซักประวัติหาสาเหตุและปัจจัยส่งเสริมของการเกิดภาวะทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์
การตรวจร่างกาย
การตรวจครรภ์ ขนาดของมดลูกเล็กกว่าอายุครรภ์ 3 เซนติเมตรขึ้นไป
การชั่งน้ำหนักของสตรีมีครรภ์ น้ำหนักเพิ่มขึ้นน้อยหรือไม่มีการเพิ่มขึ้น
การตรวจทางห้องปฏิบัติการการเจาะเลือดเพื่อค้นหาสาเหตุ ได้แก่ CBC,FBS, BUN, C, HBsAg. VDRL, Anti HIV และ TORCH titer
การตรวจพิเศษ โดยการตรวจด้วยคลื่นความถี่สูงซึ่งสามารถวินิจฉัยภาวะ IUGR ได้ดังนี้
-การวัด AC ได้ค่าน้อยกว่า -2SD ของค่า AC
-การวัดสัดส่วนระหว่างเส้นรอบศีรษะและเส้นรอบท้อง ได้ค่าน้อยกว่า 1แต่ในกรณีที่ทารกมีภาวะ asymmetrical IUER จะพบว่าค่า HC / AC
-การวัดสัดส่วนระหว่างความยาวของกระดูกต้นขาและเส้นรอนท้อง (FL / AC ratio) ได้ค่ามากกว่า 24% แสดงว่ากาวะasymmetrical IUGR
-การตรวจดูระดับความเสื่อมของรก (placental grading) หากพบว่าอยู่ในระยะต้นของไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์ อาจเกิดภาวะ IUGR
การรักษา
1.การวินิจฉัยภาวะทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์
2.การตรวจครรภ์ด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงทุก 2-3 สัปดาห์
3.รับไว้ในโรงพยาบาลเมื่อมีภาวะแทรกซ้อนของมารดา
การกําหนดเวลาคลอดที่เหมาะสม ภาวะเสี่ยงมากควรพิจารณาให้คลอดโดยเร็วที่สุดและบาดเจ็บน้อยที่สุด หลีกเลี่ยงการให้ยาระงับปวดหรือยากดประสาทแก่สตรีมีครรภ์มากเกินไป
การพยาบาลเพื่อป้องกันหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะทารกเจริญเติบโตในครรภ์ช้า
เพื่อป้องกันการเกิดภาวะ IUGR
1.ซักประวัติอย่างละเอียดค้นหาปัจจัยเสี่ยง
2.ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวขณะตั้งครรภ์เพื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง
ควรมาฝากครรภ์โดยเร็ว มาตรวจตามนัดทุกครั้ง
นอนพักผ่อนอย่างเพียงพอ
รับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ
งดสูบบุหรี่และสารเสพติด
ปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยาทุกครั้ง
เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากภาวะ IUGR
ระยะตั้งครรภ์
1.อธิบายให้ทราบเกี่ยวกับIUGR แผนการรักษา เพื่อให้สตรีมีครรภ์เข้าใจและให้ความร่วมมือ
2.พักผ่อนให้เพียงพอ นอนตะแคงซ้ายเพิ่มปริมาณเลือดเลี้ยงมดลูก
3.แนะนำรับประทานอาหารที่มีคุณค่า เพิ่มโปรตีน
4.สังเกตการดิ้นของทารก หากดิ้นน้อยกว่า 10 ครั้งต่อวันให้มาพบแพทย์
5.ติดตามระดับยอดมดลูกและการเพิ่มของน้ำหนักตัวของหญิงตั้งครรภ์
ระยะคลอด
1.พักผ่อนให้เพียงพอ นอนตะแคงซ้ายเพิ่มปริมาณเลือดเลี้ยงมดลูก
2.ติดตามความก้าวหน้าของการคลอดอย่างใกล้ชิด
3.ประเมินการหดรัดตัวของมดลูก และFHS ทุก ครึ่ง-1 ชั่วโมง
4.กรณีถุงน้ำคร่ำแตกในสังเกตขี้เทาในน้ำคร่ำ
5.หากพบว่ามี maconium ในน้ำคร่ำ หรือ FHS ผิดปกติ ควรแก้ไขโดยให้ผู้คลอดนอนตะแคงซ้าย ดูแลให้ได้รับ O2 ปรับสารน้ำ และรายงานแพทย์
6.หลีกเลี่ยงการใช้ยาบรรเทาปวด เพราะกดการหายใจของทารก
1 more item...
ระยะทารกแรกคลอด
1.ให้การช่วยเหลือทารกที่มีน้ำหนักตัวน้อย เน้นกาาควบคุมอุณหภูมิของทารก
2.ตรวจร่างกายอย่างละเอียดเพื่อประเมินความผิดปกติและให้การพยาบาลเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน
3.ส่งเสริมสัมพันธภาพระหว่างมารดาและทารกโดยให้มารดาสัมผัสและสำรวจทารกก่อนนำทารกไปหน่วยแรกเกิด พร้อมทั้งอธิบายลักษณะของทารกน้ำหนักตัวน้อยให้มารดาเข้าใจ
4.อธิบายให้มารดาเข้าใจถึงแผนการรักษาแก่ทารกแรกเกิดน้ำหนักตัวน้อย เปิดโอกาสให้มารดาซักถามข้อสงสัยและระบายความรู้สึก
5.เน้นให้เห็นความสำคัญของการเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดา
6.ให้ดูแลมารดาหลังคลอดเช่นเดียวกับมารดาหลังคลอดทั่วไป