Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การเจริญเติบโตและพัฒนาการทารกในครรภ์ - Coggle Diagram
การเจริญเติบโตและพัฒนาการทารกในครรภ์
พัฒนาการของรกและเยื่อหุ้มรก
หน้าที่ของรก
สร้างฮอร์โมน เชน่ HCG , HPL,Estrogen,progesterone
ใหภู้มิต้านทานแก่ทารก
ให้อาหารแก่ทารก
ทําหน้าที่แทนปอดให้การแลกเปลี่ยน O2 และ CO2
ทําหน้าที่แทนไต ในการขับถ่ายของเสีย
ลักษณะรก กลม แบน กวา้ง 15-20 cm. หนัก 500 g
รกด้านมารดา maternal surface : ยืดเกาะผนังมดลูกมีสีแดงเหมือนเปลือกลิ้นจี่ ปกคลุมด้วย desidua บางๆ แยกกันเป็นก้อนเรียกว่า cotyledon 15-20 ก้อน แต่ละ lobe มีร่องกันอยู่เรียกว่า placenta surcus
รกด้านทารก fetal surface สีเทา มัน ปกคลุมด้วย amnion มีสายสะดือติดอยู่ มีหลอดเลือดกระจายจากตําแหน่งที่เกาะสายสะดือ ห่างจากของ 1-2 cm. เห็นเส้นวงสีขาวโดยรอบเกิดจากการเชื่อมติดกันของ desidua vera กับdesidua capsularis เรียกว่า Closing ring of wringle waldeyer
ประมาณวันที่ 9 หลังปฏิสนธิblastocyst จะฝังตัวมิดรอบด้านอยู่ใน desidua โดยแยกจาก myometrium ด้วย desidua basalis จะมีการเจริญ ขึ้นเห็นเป็น villi เป็นกระจุก มีเลือดมาเลี้ยงมาก เรียกว่า choronic villi ต่อมาจะเจริญเป็น chorionic frondosum และเจริญ ไปเป็นก้อนเนื้อรก cotyledon
แบ่งเป็น 3 ชนิด
ระยะตัวอ่อน (Zygote หรอื Pre-embryonic stage) เริ่ม1วัน - 2 wk.
ระยะตัวอ่อน Embryonic stage 3-8 wk. สัปดาห์ที่ 3 จะมีการสร้างเซลล์ส่วนที่3 คือ Mesoderm ตัวอ่อนเริ่มสร้างอวัยวะที่สําคัญเรียกว่า Trilaminar embryo
Endodermal germ layer
ต่อมใต้สมอง ต่อมน้ำนม
ปาก ทวารหนัก ช่องจมูกและไซนัส
ระบบประสาทส่วนกลาง สมอง ไขสันหลัง,ระบบประสาทส่วนปลาย
อวัยวะรับความรู้สึก แก้วตา หูชั้นในและนอก
ผิวหนัง ผม เล็บ สารเคลือบฟัน
Mesoderm
ระบบทางเดินปัสสาวะส่วนบน :ไต ท่อไต
ระบบโครงสร้างร่างกาย :เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เอ็นยึดข้อต่อกระดูก กระดูกอ่อน กล้ามเนื้อและเอ็น
เนื้อฟัน
ม้าม หัวใจ ระบบไหลเวียนเลือด: เม็ดเลือดและน้ำเหลือง
ระบบอวัยวะสืบพันธ์: ต่อมเพศ ท่อต่อมเพศ
Endoderm
ระบบทางเดินปัสสาวะและส่วนล่าง :กระเพาะปัสสาวะ ท่อปัสสาวะ
เยื่อหุ้มหัวใจ ปอด ตับ ตับอ่อนและเยื่อบุช่องท้อง
ระบบทางเดินอาหาร ทางเดินหายใจ ทอนซิล ไทรอยด์ไทมัส และต่อพาราไทรอยด์
การเจริญเติบโตและพัฒนาการทารกในครรภ์
1 wk. ตกไข่ ปฏิสนธิและเกิดการฝังตัว อยู่ในระยะ blastocyte ที่จะเจริญไปเป็นทารก
2 wk. blastocyst จะเกิดช่องว่าง 2 แห่ง คือ inner cell mass และ trophoblast ต่อมาโพรงนี้จะกลายเป็นถุงน้ำคร่ำ amniotic cavity และช่องว่างที่เป็น biastocele กลายเป็น primitive yolk sac ทําหน้าที่สะสมอาหารสําหรับตัวอ่อนจะหมดหน้าที่ลงเมื่อถุงไข่ในระยะsecondary yolk sac เจริญเต็มที่ใช่เวลา 9 wk.
3 wk. ตัวอ่อนเจริญอย่างรวดเร็วมีการพัฒนาตัวอ่อนส่วนที 3 คือ mesoderm เรียกตัวอ่อนระยะนี้ว่า trilamina embryo ในระยะแรกของสัปดาห์ที่3 เริ่มมี extoderm การเจริญเติบโตของตัวอ่อนระบบของร่างกายระบบแรกที่เกิดขึ้นคือระบบหลอดเลือดและหัวใจ เมื่อสิ้นสุดสัปดาห์ที่3 หัวใจเริ่มเต้น
4 wk. เริ่มสร้างอวัยวะท่อประสาทกล้าเนื้อกระดูก เกิดการงอตัวมากขึ้น คล้ายตัว c C-shaped curve เมื่อสิ้นสุด wk .4 เริ่มเกิดตุ่มแขน ขา
5 wk. ส่วนหัวจะเจริญขึ้นมากกว่าส่วนอื่นๆ เริ่มมีการเจริญของสมอง มีcranial nerve 5 คู่ใน 10 คู่ เริ่มสร้างนิ้วเท้า หูนูนขึ้น
6 wk. มองเห็นส่วนต่างๆแยกกันชัดเจนขึ้น เช่น หูตา นิ้ว มือ เท้า ลําตัวยืดออก มีการสร้างกล้ามเนื้อหัวใจมีการแบ่งห้องเรียบร้อย เริ่มสร้างช่องปาก ช่องจมูกและริมฝีปาก
7 wk. เริ่มมองเห็นลูกตาเด่นชัดขึ้นมีการเจริญของเบ้าตา ลิ้น เพดาน
8 wk. ใบหน้า ตา หูจมูก แขนและขาชัดเจน เริ่มมีการสร้างอัวยวะสืบพันธุ์ภายนอกแต่ยังแยกเพศไม่ได้เป็นระยะที่สําคัญที่สุดในการเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารกในครรภ์
9-12 wk./ 3 mo. เริ่มคลํายอดมดลูกได้ที่เหนือกระดูกหัวเหน่า เริ่มสร้างเนื้อกระดูก เริ่มแยกเพศได้ ทารกเริ่มมีการเคลื่อนไหวร่างกาย
13-16 wk./4 mo. มีการสร้างขนออ่ น lanugo hair โดยเฉพาะบรเิวณศีรษะ สามารถแยกเพศได้ชัดเจน ลําไส้เริ่มมีขี้เทา สามารถกลืนน้ำคร่ำได้ มีการเคลื่อไหวจนมารดูรู้สึกได้
17-21 wk./5 mo. มีขนอ่อนทั้งตัวเริ่มมีไขคลุมผิวหนัง เริ่มสร้างขนคิ้วดิ้นจนมารดารู้สึกได้อย่างชัดเจน ฟังเสียงหัวใจได้ด้วยหูฟัง
21-24 wk./6 mo. เริ่มมีreflex การกํามือ ถุงลมในปอด alveoli เริ่ม ทํางาน ถ้าการตั้งครรภ์ยุติลงในระยะนี้ทารกจะมีชีวิต ได้2-3 hr เพราะระบบหายใจยังไม่เจริญเต็มที่
25-28 wk./7 mo. ระบบประสาทเจริญสมบูรณ์สั่งงานร่างกายได้ควบคุมการทํางานของลูกตาให้เปิดปิดได้ ลูกอัณฑะเคลื่อนลงถุง เริ่ม แลกเปลี่ยนก๊าซได้
29-32 wk./8 mo. ขนอ่อนตามลําตัวน้อยลงทารกเริ่มสะสมเหล็ก แคลเซียม และฟอสฟอรัสอัณฑะลงถุงเรียบร้อย
33-36 wk./9 mo. ปอดเจริญเต็มที่และมีสาร surfactant
37-40 wk./10 mo. ทารก 37 wk.ขึ้นไปถือว่าคลอดครบกําหนด
พัฒนาการของระบบต่างๆในร่างกายทารก
ระบบหลอดเลือดและหัวใจ
หัวใจและหลอดเลือด มีการสร้างเม็ดเลือดใน embryo และ fetus สร้างจาก blood island ใน yolk sac ในเดือนที่2 จะสร้างจากตับ เดือนท่ 6 จากม้าม thymus gland เดือนที่ 4-5 สร้างจาก bone marrow
การไหลเวียนเลือดของทารกในครรภ์
การไหลเวียนเลือดของรกด้านมารดา
Respiratory system สัปดาห์ที่ 11 มีการเคลื่อนไหวของทรวงอกมีการหายใจ 30-70 ครั้งต่อนาทีสัปดาห์ที่ 24 เซลล์ถุงลมปอดสร้างสาร serfactant ช่วยลดความตึงของผนังหลอดลม ถ้าพบอัตราของ lecithin ต่อ sphingomyelin มากกว่า 2:1แสดงว่าทอกทํางานสมบูรณ์
ระบบทางเดินอาหาร
Fore gut เจริญเป็นหลอดลมคอ ทางเดินหายใจส่วนล่าง หลอดอาหารกระเพาะอาหาร ลําไส้เล็กส่วนต้น ตับ ตับอ่อน ทางเดินน้ำดี
Mid gut เจริญเป็นลําไส้เล็กส่วนปลาย ลําไส้ใหญ่ส่วน ascending colonและ 2 ใน 3 ของ transverse colon
Hind gut เจริญเป็นส่วนที่ 3 ของลําไส้และส่วนต้นของ anal canal
สัปดาห์ที่ 12 ลําไส้เริ่มมีการเคลื่อนไหวแบบ peritalsis เริ่มมีการกลืนเกิดขึ้น
ระบบขับถ่ายปัสสาวะ สัปดาห์ที่ 12 เริ่มสร้างปัสสาวะและสัปดาห์ที่16 เริ่มถ่ายปัสสาวะได้ nephron สามารถขับของเสียผ่านglomerulus ได้
ระบบประสาท (ดูตามพัฒนาการ)
ระบบกล้ามเนื้อและกระดูกจากสัปดาห์ที่ 8จนถึงหลังคลอดจะมีการสะสมของ Calcium เริ่มมีการเคลื่อนไหวครรภ์แรกจะรู้สึก 18-20 wk. ครรภ์หลังจะรู้สึก 16-18 wk.
ระบบสืบพันธุ์(ดูตามพัฒนาการ)
ระบบภูมิคุ้มกัน 13 wk.พบว่าทารกสามารถสร้าง comprement ในเลือดได้ตั้งแต่ไตรมาสแรก IgG สร้างโดยมารดาส่งผ่านรก
ระบบต่อมไร้ท่อ
ต่อมไทรอยด์เริ่มสร้างฮอร์โมนเมื่ออายุครรภ์10-12 ไทรอยด์ฮอร์โมนมีบทบาทในการพัฒนาอวัยวะแทบทุกส่วนของร่างกายโดยเฉพาะสมอง
พัฒนาการของ amnion และ umbilical cord
ตําแหน่งการเกาะสายสะดือ
หน้าที่
ช่วยให้มีการเปิดขยายของปากมดลูกขณะเข้าสู่ระยะคลอด
เป็นแหล่งอาหารแก่ทารก
ป้องกันแรงกระทบของภายนอก
ช่วยให้มีการเคลื่อนไหวได้สะดวก
ควบคุมอุณหภูมิร่างกาย
Maginalis insertion (battledore insertion) เกาะริมของรก
Maginalis insertion (battledore insertion) เกาะริมของรก
Lateralis insertion เกาะด้านในด้านนึงของรก
Membranous insertion (vellamentosa)
เกาะบนเยื่อหุ้มรกและมีเส้นเลือดผ่าน อาจก่อให้เกิดอันตราย
สายสะดือมีสารเมือกสีขาวหุ้มล้อมรอบเรียกว่า whaeton's jelly จะช่วยทําให้สายสะดือลื่นไม่หักพับ งอ หรือผูกกันแน่นเป็นปมได้ง่าย เส้นเลือมี3 เส้น คือ Umbilical vein 1 เส้น : นําเลือดดีจากรกไปสู่ทารก และ Umbilical artery 2 เส้น : นําเลือดที่ใช้แล้วจากทารกไปสู่รก
ลักษณะการผูกปม false knot
false jelly knot เกิดจากการขดตัวของเมือกสีขาวใส
เกิดจากการขดตัวของเส้นเลือด /เส้นเลือดขอด
true knot ผูกคล้ายปมเชือก
น้ำคร่ำหรือน้ำล่อเลี้ยงเด็ก Amniotic fluid/liquor amnii จะสร้างเมื่อสัปดาห์ที่ 2 พร้อมการก่อตัว amniotic cavity เมื่อตัวอ่อนเจริญขึ้น มีการเกิดการขับถ่ายปัสสาวะของทารกออกมา500 ml/day น้ำคร่ำประกอบด้วย น้ำ 98% และ 2% เป็น epidermal cell ขนอ่อน ไข แร่ธาตุ PH 7.2 สีขาวนวล ขุ่น คล้ายสีฟางข้าว ปริมาณ 500-1500 cc. มากกว่า 2000 cc เรยีกวา่ polyhydramnios น้อยกว่า 300 cc เรียกว่า oligohydramnios