Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารกในครรภ์, นางสาวสิรามล มนต์ช่วย…
การเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารกในครรภ์
การเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ แบ่งเป็น 3 ระยะ คือ
ระยะตัวอ่อน (The Embryonic Stage) ต้นสัปดาห์ที่3- สัปดาห์ที่ 8
ระยะตัวแก่ (The Fetal Stage)
สัปดาห์ที่9– ครบกาหนดคลอด
ระยะก่อนเกิดตัวอ่อน
(Ovum, Zygote , Blastocyst)
เริ่มจากการมีเพศสัมพันธุ์ – 2 สัปดาห์
การแบ่งตัวภายหลังการปฏิสนธิ
วันที่ 4 เจริญเป็น morula ลักษณะคล้ายลูกน้อยหน่า มีจานวนเซล 12 – 16 เซล แต่ละเซลเรียกว่า Blastomere
วันที่ 7 เกิดการฝังตัวของ Blastocyst ที่บริเวณโพรงมดลูกส่วนบน โดยจะเอาด้านที่มี inner cell mass ที่เรียกว่า embryonic pole แตะลงบนเยื่อบุโพรงมดลูก และแทรกตัวกินทะลุเข้าไปในระบบไหลเวียนเลือดของแม่บริเวณมดลูก
วันที่ 13 การฝังตัวเสร็จสมบูรณ์ การที่ตัวอ่อนฝังตัวลงในเยื่อบุโพรงมดลูกของแม่ อาจทาให้มีเลือดออกมาทางช่องคลอดของแม่ เรียกว่า Implantation bleedingสัปดาห์ที่ 3 ระยะนี้จะมีการเจริญอย่างชัดเจน 3 อย่าง คือ
วันที่ 1 แบ่งตัวแบบ mitosis จาก 1 เป็น 2 เซล เรียก Clevage stage
Trophoblast ซึ่งเจริญไปเป็นรกและ chorion
วันที่ 5-6 เจริญเป็น Blastocyst ซึ่งมีลักษณะแตกต่างจาก morula คือ
zona pellucida หายไป
inner cell mass เจริญเป็นตัวเด็กภายในช่องว่างระหว่างเซลของ inner cell Mass จะเจริญเป็น blastocoelel
outer cell mass เจริญเป็น trophoblast
Body stake ซึ่งเจริญไปเป็นสายสะดือ
Embryoblast ซึ่งเจริญไปเป็น ทารก น้าหล่อเด็ก และ amnion ในขณะที่มีการเปลี่ยนแปลงของไข่ที่ได้รับการผสมแล้ว เยื่อบุมดลูกก็จะเปลี่ยนแปลงไปเป็น
decidua
การเจริญเติบโตของรก สายสะดือ เยื่อหุ้มเด็ก และน้าหล่อเด็ก
รก (Placenta)
แลกเปลี่ยนสารอาหารจากแม่สู่ลูกในท้อง
สร้างฮอร์โมน (hormone production) ทาหน้าที่คล้ายกับเป็นต่อมไร้ท่อชั่วคราว
หายใจ (respiration) รกเปรียบเสมือนปอด
ขับถ่ายของเสีย (excretion) รกทาหน้าที่คล้ายกับไต
ป้องกันอันตราย (protection) รกเป็นโครงสร้างที่ขัดขวางไม่ให้สารหรือmicroorganism บางอย่างผ่านเข้าไปทาอันตรายต่อลูกอ่อน
เป็นแหล่งเมตาโบไลต์สารบางอย่าง เช่น แอนติบอดี (antibody)
เป็นอวัยวะที่สร้างขึ้นมาในขณะตั้งครรภ์เมื่อมีการตกไข่ ไข่จะเคลื่อนที่ไปในท่อนาไข่จนมาถึงมดลูก และฝังตัวที่โพรงมดลูก ประมาณวันที่ 6-7 หลังจากตกไข่รกทาหน้าที่แทนระบบต่างๆ ในระหว่างที่เซลล์กาลังพัฒนาขึ้นเป็นอวัยวะต่างๆ หน้าที่ของรก คือ
น้้าหล่อเด็ก (Amniotic fluid)
น้ำหล่อเด็กบางครั้งเรียก น้าทูนหัวทารก เป็นของเหลวที่อยู่ในถุงน้าคร่า/ถุงที่เป็นที่อยู่ของทารกในครรภ์โดยน้าคร่าจะอยู่รอบ ๆตัวทารก ขณะอยู่ในครรภ์ในโพรงมดลูกของมารดา ทารกจะลอยตัวอยู่ในน้าคร่าในถุงน้าคร่า โดยน้าคร่านี้จะทาหน้าที่เป็นเกราะป้องกันการกระทบกระเทือนต่อทารกทาให้ทารกเคลื่อนไหวน้าคร่านี้
น้ำหล่อเด็กบางส่วน มาจากของเหลวจากเลือดของมารดาที่ซึมผ่านถุงน้าคร่า และ/หรือ ผิวหนังของทารกแต่ส่วนใหญ่มาจากปัสสาวะของทารกโดยปริมาณน้าคร่าจะมากหรือน้อย ขึ้นกับความสมดุลของการกลืนน้าคร่าของทารกและการขับปัสสาวะของทารกที่อยู่ในครรภ์ หากทารกไม่มีไตจะไม่สามารถสร้างปัสสาวะได้ ทาให้ไม่มีน้าคร่าหรือมีน้อยมาก (Oligohydramnios) แต่หากทารกไม่สามารถกลืนน้าคร่าได้ จะทาให้น้าคร่ามากกว่าปกติ ( Hydramnios หรือ Polyhydramnios)
สายสะดือ(Umbilical cord)
สายสะดือ เป็นเนื้อเยื่อที่เชื่อมต่อระหว่างรกในผนังมดลูกของมารดากับหน้าท้องของเด็ก สายสะดือจะประกอบไปด้วยเส้นเลือด 3 เส้น คือ เส้นเลือดดาเส้นใหญ่จะมีหน้าที่ส่งอาหารและออกซิเจนไปสู่ทารกในครรภ์ ส่วนอีก 2 เส้นจะเป็นเส้นเลือดแดง มีหน้าที่ นาของเสียออกจากร่างกายของทารกมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1-2 เซนติเมตร และจะมีความยาวประมาณ 50 เซนติเมตร อาจจะสั้นหรือยาวกว่านี้ก็ได้
การเจริญของทารกในครรภ์และภายหลังคลอด
Cephalo-caudal directionเจริญจากหัวถึงหาง ศีรษะเจริญได้เร็วกว่าส่วนอื่นเป็นการเจริญทั้งในหน้าที่และขนาด เช่น ยกศีรษะได้ก่อน แล้วจึงสามารถใช้ตัวก่อนใช้แขนขา
Medial- lateral direction เจริญจากส่วนกลางออกไปสู่ด้านข้าง เช่น ลาตัวมีการเจริญก่อนแขนขาแล้วจึงไปถึงนิ้วมือ นิ้วเท้า
นางสาวสิรามล มนต์ช่วย รหัส61122230025 เลขที่22 :<3: