Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพโรคเขตร้อน โรคติดต่อ และโรคอุบัติใหม่ -…
การพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพโรคเขตร้อน โรคติดต่อ และโรคอุบัติใหม่
MALALIA
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
• Thick and Thin Blood Smear
• Rapid Diagnostic test
• PCR
การวินิจฉัยโรคมาลาเรีย
1.ประวัติอาศัย/เดินทางจากพื้นที่ระบาดภายในระยะเวลา 1 เดือน เคยป่วยเป็นโรคมาลาเรียในระยะเวลา 3 เดือน
2.มีอาการไข้ และ/ ร่วมด้วยอาการ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดท้อง ปวดกล้ามเนื้อและข้อ หนาวสั่น เหงื่อออก เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน กรณีมาลาเรียรุนแรง ระดับสติลดลง หรือหมดสติ อ่อนเพลียมาก
Paroxysm
แบ่งออกเป็น 3 ระยะ
ระยะหนาวสั่น (Cold stage) ผู้ป่วยมีอุณหภูมิร่างกายลดลง
ระยะไข้ตัวร้อน (hot stage) ผู้ป่วยจะมีไข้สูง 40-41 องศาเซียลเซียส
ระยะเหงื่ออก ( Sweating stage) ผู้ป่วยจะมีเหงื่อออกจนชุ่มที่นอน
การรักษา Malaria
Artesunate
Mefloquine
Quinine
Choloroquine
Primaquine
Doxycycline
ไข้เลือดออก (Dengue hemorrhagic fever)
สาเหตุของโรคไข้เลือดออก
เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี่ ( Dengue Virus ) ซึ่งเป็น RNA ไวรัส โดยมียุงลาย Aedes aegyti ตัวเมีย บินไปกัดคนที่ป่วย
เกิดจากไวรัสเดงกีซึ่งมีอยู่ 4 สายพันธุ์ DEN1 DEN2 DEN3 DEN4
อาการสำคัญแบ่งออกได้ 3 ระยะ
ระยะไข้
ไข้สูง
เบื่ออาหาร
คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง
มักมีหน้าแดง
อาจมีผื่นหรือจุดเลือดออกตามลำตัว แขน ขา
2-7 วัน
ระยะช็อค
ซึม
เหงื่อออก มือเท้าเย็น ชีพจร
เต้นเบาแต่เร็ว
ปวดท้อง โดยเฉพาะบริเวณใต้ชายโครงขวา
ปัสสาวะออกน้อย อาจมีเลือดออกง่าย
24-48 ชั่วโมง
ระยะพักฟื้น
รู้สึกอยากรับประทานอาหาร
ความดันโลหิตสูงขึ้น
ชีพจรเต้นแรงขึ้นและช้าลง
ความรุนแรงของโรค
ผู้ป่วยไม่ช็อก เป็นไข้เลือดออกโดยที่ไม่มีจุดเลือดออก ทำ tourniquet test ให้ผลบวก
ผู้ป่วยไม่ช็อก มีจุดเลือดออกตามผิวหนัง มีเลือดกำเดาไหล หรืออาเจียนเป็นเลือด
ผู้ป่วยช็อก มีความดันโลหิตต่ำ ชีพจรเร็ว pulse pressure แคบ เหงื่อออก กระสับกระส่าย
การดูแลผู้ป่วย
การดูและระยะไข้สูง
-ระยะเวลาในการให้น้ำเกลือประมาณ 24-48 ชั่วโมงเพราะระยะนี้
-เช็ดตัวลดไข้
การประเมินสัญญาณชีพ ถ้าไข้ลดเข้าสู่ระยะช็อค
Rabies
-ระยะฟักตัวของโรคพิษสุนัขบ้า (ตั้งแต่ถูกกัดจนกระทั่งเกิดอาการ) คือ 5 วัน ถึง 8 ปี แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดขึ้นในช่วง 20-90 วัน
-เป็น Lyssavirus type 1 ในตระกูล Rhabdoviridae) ที่อยู่ในน้ำลายของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่พบได้บ่อยที่สุด คือ สัตว์ในตระกูลสุนัข*
อาการ
ระยะที่ 1 อาการนำของโรค (Prodrome)
ระยะที่ 2 ปรากฏอาการทางระบบประสาท (Acute neurologic)
1) แบบคลุ้มคลั่ง (Furious rabies)
ไข้ สับสน เห็นภาพหลอน กระวนกระวาย ซึ่งจะเกิดบ่อยเมื่อถูกกระตุ้นจากสิ่งเร้า เช่น แสง เสียง เป็นต้น
2) แบบอัมพาต (Paralytic rabies)
แบบอัมพาต (Paralytic rabies) ผู้ป่วยมักมีอาการไข้ร่วมกับกล้ามเนื้อแขนขาและทั่วร่างกายอ่อนแรง
3) แบบแสดงอาการไม่ตรงต้นแบบ (Non-classic)
การพยาบาล
การรักษาบาดแผลตามลักษณะของแผลที่ถูกสัตว์กัด ใส่ยาฆ่าเชื้อ ปิดแผลด้วยผ้าก๊อซ และอาจไม่เย็บแผลที่สัตว์กัดทันที
การให้รับประทานยาปฏิชีวนะ (เพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย)
การฉีดยาป้องกันบาดทะยัก ในกรณีที่ผู้ป่วยเคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคบาดทะยักมาแล้วอย่างน้อย 3 ครั้ง และได้เข็มสุดท้ายนานกว่า 5 ปีมาแล้ว แพทย์จะฉีดวัคซีนบาดทะยักเข้ากล้ามเนื้อให้ 1 เข็ม
หากมีอาการกลัวน้ำ กลัวลม กดูแลรักษาไปตามอาการ เช่น ให้ยานอนหลับ ยาแก้ชัก ให้สารอาหารแบบน้ำเข้าทางหลอดเลือด
คำแนะนำในการดูแลผู้ป่วยที่เป็นโรคพิษสุนัขบ้า
ควรแยกผู้ป่วยโรคพิษสุนัขบ้าออกจากสิ่งเร้าต่าง ๆ
Severe leptospirosis
อาการแสดง
ภาวะเยื่อบุตาบวมแดงเกิดขึ้นในตาทั้งสองข้าง
กดเจ็บกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง โดยเฉพาะที่น่อง
มีเลือดออกแบบต่างๆ โดยเฉพาะในรายที่มีอาการรุนแรง
ผื่น อาจจะพบได้หลายแบบ ผื่นแดงราบ ผื่นแดง ผื่นลมพิษ
อาการเหลือง
การวินิจฉัย
จากประวัติการสัมผัสโรค
CBC การตรวจเลือดทั่วไป
ESR เพิ่ม
ตรวจปัสสาวะ พบเม็ดเลือดแดง ไข่ขาวในปัสสาวะรวมทั้งพบน้ำดีbilirubin ในปัสสาวะ
การพยาบาล
-การให้ยาปฏิชีวนะ
-การให้ยาลดไข้
-การให้ยาแก้ปวด
-การให้ยาแก้คลื่นไส้อาเจียน
-การให้สารน้ำและเกลือแร่
-การพยาบาลเมื่อมีความรุนแรงของโรค
การให้ยากันชัก
-หากเกล็ดต่ำหรือเลือดออกง่ายก็อาจจะจำเป็นต้องให้เกล็ดเลือดหรือน้ำเหลือง
-การแก้ภาวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ
-การแก้ปัญหาตับวาย ,ไตวาย
Thyphoid
(ไข้รากสาดใหญ่)
สาเหตุ
เกิดจากการติดเชื้อไทฟอยด์ (Salmonella typhi) ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรีย
การติดต่อ
การติดต่อเกิดได้เฉพาะจากคนสู่คนเท่านั้น โดยผู้ที่ป่วยหรือผู้ที่เป็นพาหะจะขับเชื้อออกมาทางอุจจาระเป็นหลัก (และทางปัสสาวะเป็นส่วนน้อย)
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
-การเพาะเชื้อจากของเหลวหรือเนื้อเยื่อในร่างกาย
-การทดสอบไวดาล (Widal test)
-การตรวจหาสารภูมิต้านทานหรือแอนติบอดี้ (Antibody)
-การตรวจทางห้องปฏิบัติการอื่น ๆ
การดูแล/รักษา
การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ
การเฝ้าระวังภาวะ Shock
การรักษาประคับประคองตามอาการ
สังเกตภาวะแทรกซ้อน
การเฝ้าระวังการกลับเป็นซ้ำ
ผู้ที่เป็นพาหะ (Carrier)
ผู้ที่เป็นพาหะ (Carrier)
ภาวะแทรกซ้อน
เลือดออกในลำไส้ (ถ่ายเป็นเลือดสด ๆ อาจถึงช็อกได้) และลำไส้ทะลุ (ท้องอืด ท้องแข็ง) ซึ่งจะทำให้เชื้อสามารถแพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อที่อยู่ใกล้เคียงได้ โดยมักจะเกิดขึ้นหลังจากมีอาการได้ประมาณ 3 สัปดาห์เป็นต้นไป
Scrub Typhus
โรคไข้รากสาดใหญ่
ติดเชื้อแบคทีเรียในกลุ่มริกเก็ตเซีย Rickettsia tsutsugamushi ( Rickettsia orientalis)
ระยะฟักตัว คือ ตั้งแต่ได้รับเชื้อจนกระทั่งแสดงอาการประมาณ 6-20 วัน โดยเฉลี่ยประมาณ 10 – 12 วัน
พาหะ ตัวไรอ่อน (Chigger), หมัด(Flea)
อาการและอาการแสดง
มีไข้สูง
ปวดเมื่อยตามตัว
ปวดศีรษะมาก
ตาแดง
ตรวจพบแผลคล้ายโดนบุหรี่จี้ ตรงกลางเป็นสะเก็ดสีดำรอบๆจะแดง
การวินิจฉัยโรคไข้รากสาดใหญ่
การตรวจทางน้ำเหลือง (Serological Test)
การตรวจ Complement-Fixation
ภาวะแทรกซ้อนของโรคไข้รากสาดใหญ่
โรคตับอักเสบ
ปอดอักเสบ (Pneumonitis)
กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (Myocarditis)
เยื่อหุ้มสมองกับสมองอักเสบ (Meningoencephalitis)
บาดทะยัก (Tetanus)
การวินิจฉัย
ตรวจระดับของ serum antitoxin titer
พบเชื้อ Clostridium tetani
การพยาบาล
-ให้ยา Tetanus Immunoglobulin และยาปฏิชีวนะ
-นำเอาเนื้อเยื่อแผลที่ตายแล้วหรือสิ่งแปลกปลอม เช่น ฝุ่นและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ออกจากบาดแผล
-ให้ยาที่ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยและชักกระตุกของกล้ามเนื้อ เช่น ยาคลายกล้ามเนื้อและยาระงับประสาท
-ผู้ป่วยอาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจหากมีอาการหายใจลำบาก
Meliodosis
เป็นการติดเชื้อแบคทีเรีย Burkholderia pseudomallei ชนิด Gram-negative bacilli
การรับเชื้อเข้าสู่ร่างกายโดยการสัมผัส ดิน หรือ น้ำที่มีการปนเปื้อนผ่านผิวหนังที่มีแผล หรือ หายใจเอาฝุ่นละออง รับประทานอาหารหรือน้ำที่มีการปนเปื้อนเชื้อ
อาการLocalized Infection
Localized pain or swelling
Fever
Ulceration, Cellulitis
Abscess
อาการ Pulmonary Infection
Cough
Chest pain
High fever
Headache
การรักษา/การพยาบาล
Surgical drainage
การให้ยาปฏิชีวนะ
การให้สารน้ำตามแผนการรักษา
แนวทางการควบคุมเชื้อ
การแยกผู้ป่วย : ให้แยกผู้ป่วยไม่ให้ผู้อื่นสัมผัสกับสิ่งคัดหลั่งจากทางเดินหายใจ
การทำลายเชื้อ : ให้ทำลายเชื้อที่แยกได้จากเลือด และสิ่งส่งตรวจต่างๆ
การกักกัน,การให้ภูมิคุ้มกันแก่ผู้สัมผัส : ไม่จำเป็น
Leptospirosis
-ระยะฟักตัว 2- 20 วัน
-การติดเชื้อ Leptospira อาศัยอยู่ในท่อหลอดไตของสัตว์ได้หลายชนิด เช่น หนุ สุกร โค กระบือ สุนัข เชื้อมีชีวิตอยู่ได้นานหลายเดือนหลังถูกขับออกทางปัสสาวะจากสัตว์มีเชื้อ
-สาเหตุการติดต่อ การกินอาหาร ดื่มน้ำปัสสาวะของสัตว์ เดินลุยน้ำ อาบน้ำที่ปนเปื้อนปัสสาวะวะ เชื้อจะเข้าทางบาดแผล ทางเยื่อบุจมูก ปากหรือตา
อาการที่สำคัญแบ่งเป็น 2 ระยะ
-ระยะเชื้อเข้ากระแสเลือด (Leptospiremic phase )
ปวดศีรษะทันที มักจะปวด บริเวณหน้าผาก หรือหลังตา
ปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรงมากโดยเฉพาะบริเวณน่อง โคนขา กล้ามเนื้อหลังระยะเชื้อเข้ากระแสเลือด (Leptospiremic phase )
-ระยะร่างกายสร้างภูมิ (Immune phase) ระยะนี้ถ้าเจาะเลือดจะพบภูมิต่อเชื้อเพิ่ม
หลังจากมีไข้ 1 สัปดาห์ โดยจะเป็นระยะที่ไข้ลง 1-2 วันแล้วกลับมีไข้ขึ้นอีก
มีอาการ ปวดศีรษะ ไข้ต่ำๆ คลื่นไส้อาเจียน
คอแข็งมีการอักเสบของเยื่อหุ้มสมอง
อหิวาตกโรค (Cholera)
การติดเชื้อ เชื้อแบคทีเรีย vebrio cholera
การติดต่อ
ทางตรง การรับประทานอาหาร และนํ้าดื่มที่ไม่สะอาดมีเชื้อ อหิวาต์ปะปน การสัมผัสอุจจาระของผู้ป่วย การถูกผู้ป่วยอาเจียนใส่
ทางอ้อมใช้สื่งของร่วมกันหรือดื่มน้ำและรับประทานอาหารที่ไม่สะอาด
อาการ
-ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียนเล็กน้อย ถ่ายเหลวหรือถ่ายเป็นน้ำวันละหลายครั้งยโรคท้องเสียทั่วไปหรืออาหารเป็นพิษ
-ถ่ายเป็นน้ำรุนแรงโดยไม่มีอาการปวดท้อง (มีเพียงส่วนน้อยที่อาจมีอาการปวดบิดในท้อง) โดยอุจจาระมักจะไหลพุ่ง และผู้ป่วยแทบทุกรายมักจะมีอาการอาเจียนตามมาร่วมด้วย
-หากเป็นรุนแรงมาก ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกปริมาณอุจจาระมากกว่า 1 ลิตร/ชั่วโมง ผู้ป่วยจะมีอาการกระหายน้ำมาก ปากคอแห้ง ปัสสาวะน้อยเป็นสีเหลืองเข้มหรือไม่มีเลย ชีพจรเต้นเร็ว กระสับกระส่ายหรือซึม
ตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การตรวจอุจจาระและเพาะเชื้อจากอุจจาระ (Rectal swab culture)
การตรวจ Polymerase Chain Reaction:PCR
การพยาบาล
การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ Ringer lactate,Acetar,NSS)
การให้ Oral Dehydrate Salt
เตรียมเตียงที่มีช่องตรงกลางสำหรับให้ผู้ป่วยนอนถ่ายได้ โดยมีถังสำหรับรองรับที่สามารถดูลักษณะและวัดปริมาณอุจจาระได้
การให้ยาฆ่าเชื้อตามแผนการรักษา
แยกผู้ป่วย
ทำลายเชื้อโรคที่ติดมากับสิ่งขับถ่ายและภาชนะที่ผู้ป่วยใช้
วัณโรค
การแพร่ของเชื้อโรค Transmission เชื้อวัณโรคจะแพร่โดยเชื้ออยู่ในเสมหะที่มีขนาด 1-5 ไมครอน
สภาวะที่เอื้อต่อการติดเชื้อ
จำนวนเชื้อวัณโรคที่อยู่ในอากาศ
เชื้อที่เป็นสาเหตุ
M. tuberculosiso var hominis
M. bovis
M africanum
M. microti
พยาธิสภาพ
รับเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย เชื้อโรคจะเข้าที่เนื้อปอด แล้วแบ่งตัวในเซลล์มาโครฟาจของถุงลม เมื่อแบ่งตัวแล้วจะส่งไปยังระบบน้ำเหลืองที่ต่อมน้ำเหลืองขั้วปอด (Hilar node)
อาการของวัณโรคปอด
ไข้ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย น้ำหนักลด ครั่นเนื้อครั่นตัว เหงื่อออกกลางคืน
อาการเป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุดในระยะแรกๆอาจจะไอแห้งๆไม่มีเสมหะ หากไม่รักษา
เมื่อมีการอักเสบเพิ่มมากขึ้นและมีการทำลายเนื้อเยื่อก็จะทำให้มีเสมหะ
การวินิจฉัยโรค
การตรวจเสมหะ ควรจะตรวจเสมหะอย่างน้อย 3 ครั้ง
การ Tuberculin test
ประวัติการสัมผัสโรค
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา
ระบบทางเดินอาหาร ได้แก่อาการคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร หรือแม้กระทั่งอาการปวดท้อง จะปรากฏประมาณช่วง 2-3 สัปดาห์แรกของการรักษา
การปฏิบัติตนเมื่อเป็นวัณโรค
กินยาตามชนิดและขนาดที่แพทย์สั่งให้อย่างสม่ำเสมอจนครบกำหนด
ควรงดสิ่งเสพติดทุกชนิด เช่น เหล้า บุหรี่ ฯลฯ