Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ขบวนการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ - Coggle Diagram
ขบวนการสร้างเซลล์สืบพันธุ์
เพศชาย
อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก
ถุงอัณฑะ (Scortum) ทำหน้าที่ห่อหุ้มลูกอัณฑะ ดังนั้น มันจึงต้องควบคุมอุณหภูมิภายในให้พอเหมาะต่อการแบ่งเซลล์เพื่อสร้างเซลล์สืบพันธุ์และเลี้ยงดูให้ดีพร้อมใช้งาน โดยส่วนใหญ่จะทำให้มีอุณหภูมิต่ำกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของร่างกายอยู่ประมาณ 3-5 องศาเซลเซียส
องคชาต (Penis) ซึ่งมักจะถูกเรียกเหมารวมว่าเป็นอวัยวะเพศชาย แต่อย่างที่กล่าวมาข้างต้นมันประกอบไปด้วยหลายส่วน องคชาตเป็นเพียงอวัยวะที่ทำหน้าที่นำส่งเซลล์สืบพันธุ์เพศชายอย่างตัวอสุจิ ผ่านปากมดลูกเพศหญิงเข้าไปเพื่อผสมเข้ากับเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย เป็นกล้ามเนื้อที่ยื่นออกมาจากหน้าท้องรูปทรงกระบอก มีโครงสร้างคล้ายฟองน้ำโดยหดและขยายตัวเมื่อหลอดเลือดที่มีกระจายอยู่ทั่วไปกล้ามเนื้อนี้ หากเลือดเข้าไปคั่งอยู่ในหลอดเลือดฝอยทั้งหมดก็จะทำให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและแข็งตัว เพื่อใช้ในการร่วมเพศ
อัณฑะ (Testis) ซึ่งเป็นต่อมรูปไข่ มี 2 ต่อม มีหน้าที่สร้างตัวอสุจิ (Sperm) ซึ่งเป็นเซลล์สืบพันธุ์ และผลิตฮอร์โมนเพศ เพื่อการควบคุมลักษณะต่าง ๆ ของเพศชายเช่น หนวดเครา เสียง โดยหากมีเพียง 1 ต่อมจะนับว่าเป็นความผิดปกติ ซึ่งอาจทำให้ลักษณะทางเพศไม่สามารถถ่ายทอดออกมาได้สมบูรณ์รวมถึงไม่สามารถสร้างเซลล์สืบพันธุ์ได้มากพอที่จะทำให้เกิดการสืบพันธุ์ได้โดยง่าย
อวัยวะสืบพันธุ์ภายใน
ต่อมสร้างน้ำเลี้ยงอสุจิ (Seminal Vesicle) ทำหน้าที่สร้างอาหารสำหรับอสุจิ เนื่องจากเซลล์เหล่านี้ไม่ได้รับสารอาหารจากเลือดเหมือนกับเซลล์อวัยวะอื่น ๆ ในร่างกาย โดยอาหารสำหรับอสุจิประกอบไปด้วย น้ำตาลฟรักโทส เป็นต้น
ต่อมลูกหมาก (Prostate Gland) อยู่ตอนต้นของท่อปัสสาวะซึ่งจะหลั่งสารที่มีฤทธิ์เป็นเบสอ่อน ๆ ออกมา เนื่องจากปัสสาวะมีฤทธิ์เป็นกรด ท่อปัสสาวะซึ่งเป็นเส้นทางร่วมในการส่งอสุจิผ่านองคชาติไปยังมดลูกจึงมีฤทธิ์เป็นกรดด้วย และนั่นเป็นสภาวะซึ่งไม่เหมาะสมกับอสุจิ จึงจำเป็นต้องมีการปรับสภาพท่อปัสสาวะก่อนที่จะมีการปล่อยอสุจิออกมา
หลอดนำตัวอสุจิ (Vas Deferens) เชื่อมต่อกับหลอดเก็บตัวอสุจิ โดยทำหน้าที่ลำเลียงอสุจิไปเก็บไว้ที่ต่อมสร้างน้ำเลี้ยงอสุจิ
ต่อมคาวเปอร์ (Cowper's Gland) อยู่ติดกับต่อมลูกหมาก ทำหน้าที่หลั่งสารหล่อลื่นซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่าง เพื่อช่วยลดความเป็นกรดภายในท่อปัสสาวะและช่องคลอดเพศหญิงขณะมีเพศสัมพันธ์
หลอดเก็บตัวอสุจิ (Epididymis) อยู่ด้านบนของอัณฑะ มีลักษณะเป็นท่อเล็ก ๆ ขดไปมาเพื่อเก็บและพักตัวอสุจิให้เติบโต หากนำมายืดเป็นเส้นจะได้ขนาดยาวประมาณ 6 เมตร
อสุจิ เป็นส่วนหนึ่งของระบบสืบพันธุ์ที่สำคัญที่สุด ซึ่งจะเริ่มถูกสร้างในร่างกายของเด็กชายเมื่ออายุ 12 - 13 ปี และสร้างอย่างต่อเนื่องไปยังตลอดชีวิต อสุจิตัวเล็ก ๆ นี้ประกอบไปด้วยส่วนสำคัญ 3 ส่วน
2) ส่วนตัวของอสุจิมีรูปร่างเป็นทรงกระบอกยาว
3) ส่วนหาง ซึ่งทำหน้าที่เสมือนใบพัด เพื่อว่ายไปในสารหล่อลื่น และเพื่อไปปฏิสนธิ
1) ส่วนหัว ซึ่งเป็นส่วนที่มีนิวเคลียสของเซลล์อยู่ เป็นส่วนที่มีหน่วยพันธุกรรมซึ่งจะถูกนำไปผสมกับ ไข่ เซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย และเกิดการปฏิสนธิ
หลอดสร้างตัวอสุจิ (Seminiferous Tubule) มีลักษณะเป็นหลอดเล็ก ๆ ขดไปขดมาอยู่ภายในอัณฑะ ซึ่งทำหน้าที่สร้างตัวอสุจิ ปกติแล้วจะมีต่อมละ 800 หลอด
การสร้างเซลล์สืบพันธุ์ของเพศชาย (Spermatogenesis) อวัยวะที่ทำหน้าที่สร้างอสุจิ คือ อัณฑะ (testis) โดยภายในอัณฑะจะประกอบด้วย หลอดสร้างอสุจิ (seminiferous tubules) จำนวนมากมาย โดยระหว่างการเกิดอวัยวะสืบพันธุ์จะมีกลุ่มเซลล์ ชื่อ ไพรมอร์เดียล เจอร์มเซลล์ (primordial germ cell) เ ป็นกลุ่มเซลล์เริ่มแรก ที่เคลื่อนเข้ามาอยู่ในหลอดสร้างอสุจิของอัณฑะ มีการแบ่งตัวแบบ mitosis หลายครั้งได้เซลล์ที่เรียกว่า สเปอร์มาโทโกเนีย (spermatogonia) มากมายซึ่ง spermatogonia จะมีการจำลองโครโมโซมอีกเท่าตัว พร้อมที่จะแบ่งตัวแบบ meiosis เรียกเซลล์นี้ว่า สเปอร์มาโทไซต์ระยะแรก (primary spermatocyte) ซึ่งจะแบ่งตัวแบบ meiosis ขั้นที่ 1 ได้ สเปอร์มาโทไซต์ระยะที่ 2 (secondary spermatocyte) และแบ่งตัวแบบ meiosis ขั้นที่ 2 ต่อไป จะได้ สเปอร์มาติด (spermatid) ซึ่งจะเจริญต่อไปเป็นตัวอสุจิโดยการสลัด cytoplasm ทิ้ง ที่ส่วนหัวของสเปิร์มจะมี acrosome ซึ่งเปลี่ยนแปลงมาจาก Golgi bodies จึงมีเอนไซม์อยู่ด้วย (hyaluronidase) ที่ส่วน Middle piece จะมี centriole 2 อัน และมี mitochondria เรียงตัวเป็นเกลียวรอบ ๆ หลอด microtubules เพื่อสร้างพลังงานให้แก่เซลล์อสุจิ
เพศหญิง
การตกไข่
การตกไข่ หมายถึง การที่ไข่สุกและออกจากรังไข่เข้าสู่ท่อนำไข่ โดยปกติรังไข่แต่ละข้างจะสลับกันผลิตไข่ในแต่ละเดือน ดังนั้น จึงมีการตกไข่เกิดขึ้นเดือนละ 1 ใบ ในช่วงกึ่งกลางของรอบเดือน เมื่อมีการตกไข่ มดลูกจะมีการเปลี่ยนแปลงโดยมีผนังหนาขึ้นทั้งมีเลือดมาหล่อเลี้ยงเป็นจำนวนมาก
1) ถ้ามีอสุจิเคลื่อนที่เข้ามาในท่อนำไข่ในขณะที่มีการตกไข่ อสุจิจะเข้าปฏิสนธิกับไข่ที่บริเวณท่อนำไข่ด้านที่ใกล้กับรังไข่ ไข่ที่ได้รับการผสมแล้วจะเคลื่อนตัวเข้าสู่มดลูก เพื่อฝังตัวที่ผนังมดลูกและเจริญเติบโตต่อไป
2) ถ้าไม่มีตัวอสุจิเข้ามาในท่อนำไข่ ไข่จะสลายตัวก่อนที่จะผ่านมาถึงมดลูก จากนั้นผนังด้านในของมดลูกและเส้นเลือดที่มาหล่อเลี้ยง เป็นจำนวนมากก็จะสลายตัว แล้วไหลออกสู่ภายนอกร่างกายทางช่องคลอด เรียกว่า ประจำเดือน โดยปกติผู้หญิงจะเริ่มมีประจำเดือนเมื่อายุประมาณ 12 ปี ขึ้นไป รอบของการมีประจำเดือนแต่ละเดือนจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน โดยทั่วไปประมาณ 28 วัน และจะมีทุกเดือนไปจนกระทั่งอายุประมาณ 50 - 55 ปี จึงจะหยุดการมีประจำเดือน โดยจะขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของร่างกาย
อวัยวะสืบพันธุ์ภายใน
3.รังไข่ (Ovary)
รังไข่ เป็นอวัยวะขนาดเล็ก สีขาวมัน มีรูปร่างคล้ายเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ขนาดเท่าเมล็ดมะปราง มี 2 อัน อยู่บริเวณปีกมดลูกซ้าย-ขวา ทั้งสองข้าง เชื่อมติดกับมดลูกด้วยปีกมดลูกหรือท่อนำไข่
4.ท่อนำไข่ (Oviduct) หรือ ปีกมดลูก (Fallopian Tube)เป็นทางเชื่อมต่อระหว่างรังไข่ทั้งสองข้างกับมดลูก ทำหน้าที่เป็นทางผ่านของไข่ที่ออกจากรังไข่เข้าสู่มดลูก ท่อนำไข่เป็นบริเวณที่อสุจิจะเข้าปฏิสนธิกับไข่
2.มดลูก (Uterus)
มดลูกเป็นอวัยวะสืบพันธ์เพศหญิงที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีรูปร่างลักษณะคล้ายผลชมพู่ ตั้งอยู่ในอุ้งเชิงกราน และอยู่ระหว่างกระเพาะปัสสาวะซึ่งอยู่ด้านหน้า และทวารหนักซึ่งอยู่ด้านหลัง มีส่วนที่ติดต่อกับช่องคลอดทีเป็นปากมดลูก เรียกว่า เซอวิก (Cervix) ภายในมดลูกมีลักษณะเป็นโพรงแคบๆ มีเยื่อบุโพรงมดลูกที่เป็นกล้ามเนื้อหนา และมีความแข็งแรง มีเส้นเลือดมาเลี้ยงจำนวนมาก และสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดทุกรอบเดือนจากอิทธิพลของฮอร์โมนเพศเอสโตรเจน และโปรเจสเตอร์โรน เยื่อผนังมดลูกจะหลุดลอกขณะมีประจำเดือน แต่เมื่อตั้งครรภ์จะขยายตัวใหญ่เป็นที่ฝังตัวของไข่ที่ปฏิสนธิจากเชื้ออสุจิแล้ว และค่อยๆเจริญเติบโตเป็นทารกในครรภ์ หลังการคลอดผนังมดลูกจะกลับคืนสู่สภาพเดิมภายใน 45 วัน
1.ช่องคลอด (Vaginal Canal)
ช่องคลอด เป็นช่องอวัยวะภายในที่ตั้งอยู่ระหว่างช่องปัสสาวะกับช่องทวารหนัก ยาวประมาณ 7 – 8 เซนติเมตร เป็นช่องสำหรับผ่านของตัวอสุจิเพื่อเข้าไปปฏิสนธิกับไข่บริเวณปีกมดลูกหรือท่อนำไข่ รวมถึงเป็นทางออกของทารกในขณะคลอด ผนังภายในของช่องคลอดเป็นเยื่อเกือบติดกัน และสามารถแยกออกจากกันได้ สามารถยืดหดได้มาก และบริเวณปากช่องคลอดมีต่อมขนาดเล็กทำหน้าที่ขับน้ำเมือกมาเลี้ยงช่องคลอด เรียกว่า ต่อมบาร์โทลิน (Bartholin Grand)
อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก
แคมเล็ก (Labia Minora)
แคมเล็ก เป็นกลีบเล็กๆ อยู่ด้านในของแคมใหญ่ มีหน้าที่ป้องกันการติดเชื้อจากภายนอกเข้าสู่ช่องคลอด
เม็ดละมุด/คลิตอริส (Clitoris)
เม็ดละมุด/คลิตอริส หรือปุ่มกระสัน เป็นอวัยวะที่เทียบกับอวัยวะเพศชาย คือ องคชาต ตั้งอยู่เหนือรูเปิดท่อปัสสาวะ มีลักษณะเป็นตุ่มเนื้อขนาดเล็ก ขนาดประมาณ 0.5-1 ซม. เป็นส่วนที่มีเส้นเลือดมาเลี้ยงจำนวนมาก มีความไวต่อการสัมผัส และทำให้เกิดความรู้สึกทางเพศ
แคมใหญ่ (Labia Majora)
แคมใหญ่ มีลักษณะเป็นเนื้อนูนสองกลีบ ปิดช่องคลอด และอวัยวะภายใน
รูเปิดของท่อปัสสาวะ (Urethra)
รูเปิดของท่อปัสสาวะ ตั้งอยู่บริเวณด้านบนของปากช่องคลอด มีลักษณะเป็นตุ่มยื่นขนาดเล็ก บริเวณตรงกลางมีรูที่เป็นรูเปิดของท่อปัสสาวะสำหรับถ่ายปัสสาวะออกนอกร่างกาย
หัวหน่าว (Mons Pubis)
หัวหน่าว อยู่ใต้ท้องน้อยบนกระดูกหัวหนาวระหว่างขาหนีบทั้งสองข้าง มีลักษณะเป็นผิวหนังนูน ประกอบด้วย ไขมันเป็นจำนวนมาก เมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่นจะเกิดขนปกคลุม ขนมีลักษณะหยิกงอ สีดำ เส้นใหญ่ ยาว มีลักษณะการปกคลุมรูปสามเหลี่ยมตามลักษณะของหัวหน่าว แต่ลักษณะขน และปริมาณแตกต่างกันในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับพันธุกรรม