Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความผิดปกติของสิ่งที่คลอดออกมา (Abnormality of passenger), B8BC8BD8-E0C7…
ความผิดปกติของสิ่งที่คลอดออกมา
(Abnormality of passenger)
ประเภท
ความผิดปกติของส่วนนำและท่าของทารก
1.1 ท่าท้ายทอยอยู่ด้านหลังแล้วไม่หมุนมาด้านหน้า
(Occiput posterior persistence: OPP)
1.2 ท่าหน้า (Face presentation)
1.3 ท่าหน้าผาก (Brow presentation)
1.4 ท่าก้น (Breech presentation)
1.5 ท่าขวาง (Transverse lie)
ความผิดปกติของขนาดและรูปร่างของทารก
2.1 ทารกตัวโต (Mocrosomia)
2.2 ทารกหัวบาตร (Hydrocephalus)
2.3 ทารกแฝดติดกัน (Conjoined twins)
2.4 ทารกท้องโต
ความผิดปกติของส่วนนำ
และท่าของทารก
ท่าท้ายทอยอยู่ด้านหลังแล้วไม่หมุนมาด้านหน้า
(Occiput posterior persistence: OPP)
สาเหตุ
ศีรษะทารกก้มน้อยหรือช้าไปเมื่อเข้าสู่ช่องเชิงกราน
ศีรษะทารกใหญ่หรือเล็กเกินไป ทำให้ไม่กระชับกับช่องทางคลอด
เชิงกรานแคบ แคบในแนวขวางของ midpelvic
ผนังหน้าท้องหย่อนยานมาก
มีสิ่งกีดขวางการหมุน
มดลูกหดรัดตัวไม่ดี หรือแรงเบ่งน้อย
กล้ามเนื้อพื้นเชิงกรานหย่อน
ผลกระทบ
การคลอดยาวนาน คลอดยาก
ผู้คลอดปวดหลังและเอวมาก
ผนังช่องคลอดและผีเย็บฉีกขาดได้
ปากมดลูกบวม และฉีกขาดได้
ผู้คลอดเหนื่อยล้า ติดเชื้อและตกเลือดได้ง่าย
ทารกเกิดภาวะขาดออกซิเจน
เครียด วิตกกังวล
การพยาบาล
ประเมินการหดรัดตัวของมดลูกอย่างใกล้ชิด
ดูแลให้มดลูกหดรัดตัวดี เพื่อช่วยให้เกิดการหมุน การก้มและการเคลื่อนต่ำของศีรษะทารกได้ดี โดยกระตุ้นให้ปัสสาวะทุก 2 - 4 ชั่วโมง
จัดท่าผู้คลอดเพื่อช่วยการหมุนของทารก การช่วยให้มดลูกหดรัดตัวดี
3.1 นอนตะแคง (lateral position or sims position)
3.2 ท่าศีรษะและลำตัวสูง (upright position)
3.3 ท่าคุกเข่าฟุบหน้าบนหมอน (modified knee-chest position)
3.4 ท่าคลาน (four-leg position)
ให้ผู้คลอดงดน้ำและอาหารทางปากทุกชนิด
5, สอนให้ผู้คลอดใช้เทคนิคการบรรเทาปวด เช่น เทคนิคการหายใจ
การเพ่งจุดสนใจ การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ การลูบหน้าท้อง การนวด
กระตุ้นให้เบ่งอย่างถูกต้องเมื่อเข้าสู่ระยะที่ 2 ของการคลอด
ช่วยคลอดทำท้ายทอยอยู่ด้านหลังทางช่องคลอด โดยการตัดฝีเย็บแบบmediolateral ให้ยาวกว่าปกติเล็กน้อย
ท่าหน้าผาก (Brow presentation)
สาเหตุ
เชิงกรานแคบหรือศีรษะทารกโต
ทารกมีรูปร่างผิดปกติ เช่น Anencephaly กระดูกสันหลังผิดปกติ
ผนังหน้าท้องหย่อนมากทำให้ลำตัวทารก
ลงไปข้างหน้าลำคอเหยียดตรงขึ้น
ครรภ์แฝดน้ำทำให้ศีรษะเคลื่อนได้อย่างอิสระ
มีสิ่งกีดขวางในช่องเชิงกรานที่ขัดขวางการลงของท้ายทอย
ผลกระทบ
การคลอกยาวนาน
ผู้คลอดและทารกมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน
ผู้คลอดเหนื่อยล้า และขาดน้ำ
อาจเกิดภาวะมดลูกแตกจากการคลอดติดชัด
ผีเย็บและช่องทางคลอดฉีกขาดมาก
ทารกในครรภ์เสี่ยงต่อภาวะขาดออกซิเจน
การพยาบาล
ให้ผู้คลอดงดน้ำและอาหารทางปากทุกชนิด และดูแลให้ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำ
ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อตรวจความเข้มข้นของเลือด
ให้ผู้คลอดนอนพักและทำกิจกรรมบนเตียง เพื่อป้องกันถุงน้ำแตก
ดูแลความสุขสบายของร่งกาย และประดับประคองด้านจิตใจ
6.กรณีท่าหน้าเป็นส่วนนำ ต้องตัดฝีเย็บแบบเฉียงและให้ยาวมากขึ้น
ดูแลทารกแรกคลอดอย่างใกล้ชิด
7.1 ดูดสารคัดหลังจากปาก จมูกด้วยความนุ่มนวล
7.2 ประเมินอาการบวมช้ำของใบหน้า
7.3!ประเมินความผิดปกติของการหายใจ
7.4 ประเมินการดูดกลืน
แพทย์พิจารณาให้คลอดทางช่องคลอด
4.1 ตรวจภายใน เพื่อประเมินความก้าวหน้าของการคลอด
4.2 ประเมินการหดรัดตัวของมดลูกการมีรอยคอด Band!'s ring
4.3 ประเมินเสียงหัวใจทารก เพื่อเฝ้าระวังภาวะขาดออกชิเจน
ท่าหน้า (Face presentation)
การเงยของศีรษะแทนที่จะก้มตามปกติเมื่อผ่านเข้าสู่
ช่องเชิงกราน ท้ายทอยอยู่ชิดกับหลัง มีคางเป็นส่วนนำ
ศรีษะไม่หมุนมาด้านหน้า พบในรายที่ทารกตัวโตมาก
หรือเชิงกรานแคบมาก ต้องทำผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง
ท่าก้น (Breech presentation)
สาเหตุ
การคลอดก่อนกำหนด
ทารกตัวเล็ก
ครรภ์แฝด หรือครรภ์แฝดน้ำ
ผนังน้ำท้องหรือกล้ามเนื้อมดลูกหย่อน
กระดูกเชิงกรานแคบ
มีสิ่งกีดขวางการการเข้าสู่เชิงกราน
ผลกระทบ
ทารกในครรภ์ขาดออกซิเจนเนื่องจากภาวะสายสะคือพลัดต่ำ
ตกเลือดหลังคลอดช่องทางคลอดฉีกขาดมาก
การติดเชื้อหลังคลอด เนื่องจากมีการฉีกของช่องทางคลอดมาก
การฉีกขาดของช่องทางคลอดอ่อน เนื่องจากคลอดศีรษะยาก
2 ถุงน้ำแตกก่อนกำหนดเนื่องจากท่าผิดปกติ
ระยะการคลอดยาวนานโดยเฉพาะระยะที่ 2
ของการคลอดอาจเกิดการคลอดหยุดชะงัก
การพยาบาล
การพยาบาลระยะรอคลอด
ให้ผู้คลอดงดน้ำและอาหารทางปากทุกชนิด
และดูแลให้ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำ
ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ตรวจความเข้มข้นของเลือด
และหมู่เลือดตามแผนการรักษา
รายที่ถุงน้ำคร่ำแตกให้รีบฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์
และตรวจภายในทันที
ให้นอนพักบนเตียงในทำนอนตะแคง
โดยเฉพาะรายที่ถุงน้ำแตกแล้ว
ตรวจภายในเป็นระยะๆ
ประเมินและบันทึกการหดรัดตัวของมดลูก
ทุก 30 นาที - 1ชั่วโมง
ประเมินและบันทึกเสียงหัวใจทารกในครรภ์เป็นระยะๆ
ประเมินการดิ้นของทารกในครภ์เป็นระะๆ
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการคลอด แผนการดูแลรักษา
จัดเตรียมอุปกรณ์การช่วยทำคลอดท่กัน ทีมงาน
และอุปกรณ์ช่วยฟื้นคืนชีพทารกไว้ให้พร้อม
การพยาบาลระยะที่2 ของการคลอด
จัดเตรียมอุปกรณ์การช่วยทำคลอดท่ากัน และอุปกรณ์ช่วยฟื้นคืนชีพทารก
เตรียมผู้คลอด โดยจัดให้อยู่ใน lithotomy position
ประเมินและบันทึกการหดรัดตัวของมดลูกทุก 5 นาที่ ฟังเสียงหัวใจทารกทุกครั้งที่มดลูกคลายตัว
กระตุ้นให้ผู้คลอดเบ่งเมื่อส่วนนำลงมาต่ำแล้ว
สังเกตการทำคลอดของแพทย์ และคอยให้ความช่วยเหลือ
จดบันทึกเวลาที่ก้นบริเวณปุมกระดูกโคนขาของทารกโผล่
และเวลาที่สายสะดือโผล่ผ่านช่องคุลอดออกมา
เมื่อปากและจมูกทารกโผล่พ้นปากช่องคลอด ให้ช่วยดูด
สารคัดหลั่งในปากและจมูก
บันทึกข้อมูลการคลอดอย่างละเอียด เช่น ชนิดการคลอด ระยะเวลาในการคลอด Apgar score
ระยะที่ 4 ของการคลอด ฝ้าระวังภาวะตกเลือดหลังคลอดอย่างใกล้ชิด
ท่าขวาง (Transverse lie)
การพยาบาล
ดูแลให้ผู้คลอดนอนพักบนเตียง
ถุงน้ำแตกแล้ว ให้ฟังเสียงหัวใจทารกอย่างใกล้ชิด โดยระยะ 30 นาทีแรกฟังทุก 5-10 พาทีต่อมาทุก 15-30 นาที สังเกตการดิ้นของทารก
ให้ผู้คลอดงดน้ำและอาหาร ให้สารน้ำทางหลอดเสือดดำไว้ และเตรียมความพร้อมเพื่อการผ่าตัดคลอด
กรณีทารกทำชวางที่แพทย์พิจารณาให้หมุนกลับทารกทางหน้าท้อง ให้ดูแลเช่นเดียวกับการหมุนกลับทารกท่าก้น
กรณีคลอดทางช่องคลอด ให้รายงานกุมารแพทย์ วิสัญญีแพทย์ และให้การพยาบาลเช่นเดียวกับการคลอดทารกท่าก้นทางช่องคลอด
สาเหตุ
มีปัจจัยที่ทำให้ทารกเคลื่อนไหวได้สะดวกมาก
1.1 ผนังหนท้องและมดลูกหย่อนยาน
1.2 ครรภ์แฝดน้ำ
1.3 การคลอดก่อนกำหนด
มีปัจจัยที่ทำให้ ทารกเข้าสู่ช่องเชิงกรานไม่ได้
2.1 รกเกาะต่ำ
2.2 ช่องเชิงกรานแคบ
2.3 ทารกหัวบาตร
2.4 สายสะดือสั้นกว่าปกติมาก
2.5 มีเนื้องอกในอุ้งเชิงกราน
ผลกระทบ
การคลอดยาวนานหรือคลอดติดขัด
เกิดสายสะตือพลัดต่ำหรือถูกกดได้มาก โดยเฉพาะในช่วงหลังที่การคลอด
เกิดการติดเชื้อในโพรงมดลูกได้มาก เนื่องจากถุงน้ำมักแตกในระยะแรกๆ
มีอาการเจ็บปวดมาก เนื่องจากไหล่จะลงมาอัดแน่นในช่องเชิงกราน
เกิดมดลูกแตก
ปากมดลูกและผนังช่องคลอดฉีกขาดได้มาก เนื่องจากท่าผิดปกติ
ทารกมีโอกาสขาดออกซิเจนและเสียชีวิตได้มาก
ผู้คลอดมีความวิตกกังวล หวาดกลัวต่ออันตรายจากการคลอด
ความผิดปกติของขนาด
และรูปร่างของทารก
ทารกตัวโต (Mocrosomia)
ทารกหัวบาตร (Hydrocephalus)
ทารกแฝดติดกัน (Conjoined twins)
ทารกท้องโต
ผลกระทบ
คลอดยาก คลอดยาวนาน หรือคลอดติดขัด
ช่องทางคลอดอ่อนฉีกขาด
การพยาบาล
ให้ผู้คลอดNPO และดูแลให้ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำ
ดูแลให้ผู้คลอดนอนพักบนเตียง ลดการกระตุ้นที่จะส่งเสริมให้ถุงน้ำแตก ถ้าถุงน้ำคร่ำแตกแล้ว ให้นอนท่าตะแคง
ประเมินและบันทึกเสียงหัวใจทารกในครรภ์เป็นระยะ
ถุงน้ำคร่ำแตกให้รีบฟังเสียงหัวใจทารกและตรวจภายในทันที
ตรวจภายในเป็นระยะๆ ถ้าถุงน้ำคร่ำยังไม่แตก ตรวจด้วยความระมัดระวัง
ประเมินและบันทึกการหดรัดตัวของมดลูก ทุก 30 นาที -1 ชั่วโมง
ส่งตรวจทางตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ให้ช้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการคลอด
การคลอดไหล่ยาก
(shoulder dystocia)
สาเหตุ
ทารกตัวโตมาก
สาเหตุ
ผู้คลอดเป็นDM หรือเป็นDM ขณะตั้งครรภ์
ผู้คลอดอ้วน เฉพาะน้ำหนัก >90 กิโลกรัม หรือเพิ่ม >15 กิโลกรัมตลอดการตั้งครรภ์
ทารกในครรภ์> 4,000 กรัม
การตั้งครรภ์เกินกำหนด
ทารกมีเนื้องอกหรือพิการบริเวณต้นคอ ไหล่ และทรวงอก
ช่องเชิงกรานแคบ
ผลกระทบ
สายสะดื้อถูกกดทับ ระหว่างลำตัวทารกกับกระดูกช่องเชิงกราน
ทารกบาดเจ็บจากการช่วยคลอด
ทารกขาดออกซิเจนขณะคลอด จากการคลอดไหล่ยาก
ทารกเสียชีวิต จากภาวะ chromic brain injury
ช่องทางคลอดฉีกขาดหรือชอกช้ำ
ผู้คลอดตกเลือดหลังคลอด จากมดลูกหดรัดตัวไม่ดี
ผู้คลอดได้รับอันตราย ได้แก่ มดลูกแตก การติดเชื้อหลังคลอด
การพยาบาล
กรณีที่มีความเสี่ยง ให้รายงานแพทย์
ทำคลอดไหล่ยากหลังจากศีรษะออกมาให้รีบรายงานแพทย์ และเตรียมอุปกรณ์การฟื้นคืนชีพ
ทำคลอดไหล่หน้าไม่สำเร็จ ให้ทำคลอดไหล่หลังก่อน
ตรวจสอบการฉีกขาดของช่องทางคลอด เย็บซ่อมแชมแผลฝีเย็บ
ประเมินปริมาณเลือดอาการแสดงของการตกเลือด
ให้การดูแลด้านจิตใจของผู้คลอด โดยการอธิบายการพยาบาลที่ได้รับ
ประเมินอาการผิดปกติของทารก โดยเฉพาะอาการอัมพาตของแชน กระดูกไหปลาร้หัก การฉีกขาดของกล้ามเนื้อคอ