Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ขบวนการสร้างเซลสืบพันธุ์เพศชายและเพศหญิง - Coggle Diagram
ขบวนการสร้างเซลสืบพันธุ์เพศชายและเพศหญิง
เพศชาย
อวัยวะที่เป็นส่วนประกอบของระบบสืบพันธุ์เพศชาย
ถุงอัณฑะ ทำหน้าที่สร้างและบรรจุเซลล์อสุจิไว้หลายล้านตัวมีลักษณะเป็นถุงรูปทรงไข่ มีความยาวประมาณ2นิ้วและมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ1นิ้ว
องคชาต(penis) เป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่นําพาตัวอสุติผ่านเข้าปากมดลูกเพศหญิงขณะร่วมเพศและเป็นอวัยวะสำคัญสำหรับรวมเพศของเพศชาย โดยเป็นส่วนกล้ามเนื้อที่ยื่นออกมาจากหน้าท้องมีลักษณะรูปร่างทรงกระบอกมีขนาดแตกต่างกันในแต่ละคน
ลูกอัณฑะ(Testis)เป็นต่อมที่มีลักษณะรูปไข่จำนวน2อันบรรจุอยู่ภายในถถุงอัณฑะข้างละ1อันยาว3-4ซม .กว้างประมาณ2-3ซม.น้ำหนักประมาณ 50 กรัมแต่ละคนมีขนาดแตกต่างกันภายในลูกอัณฑะประกอบด้วยหลอดสร้างตัวอสุจิ(Seminiferous Tubule)ที่ทำหน้าที่สร้างตัวอสุจิ
หลอดเก็บตัวอสุจิ(Epididymis) มีหน้าที่หลักสำหรับเก็บพักตัวอสุจิชั่วคราวและเพื่อให้ตัสอสุจิเจริญเติบโตเต็มที่ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 4-7วันก่อนไหลผ่านไปยังท่อหลอดนําอสุจิ
หลอดนําตัวอสุจิ(Vas Deferens)เป็นที่สำหรับพักชะลอน้ำอสุจิก่อนปล่อยออกสู่ท่อปัสสาวะ
ถุงผลิตน้ำเลี้ยงอสุจิ (Seminal Vesicle) เป็นส่วนที่มีหน้าที่สร้างน้ำเมือกดขุ่นสีขาวที่เป็นอาหารเลี้ยงตัวอสุจิและมีคุณสมบัติเปันด่างที่เอื้อต่อการอาศัยของตตัวอสุจิสารนี้ประกอบด้วยน้ำตาลฟลุกโตสเป็นส่วนประกอบหลักเพื่อเป็นสารให้พลังงานในการเคชื่อนไหวของตัวอสุจิถุงผลิตน้ำเลี้ยงอสุจินี้จะมีท่อรวมกับกระเปราะพักอสุจิเรียกว่าท่อฉีดน้ำอสุจิมีความยาวประมาณ 2 ซม.
ต่อมลูกหมาก (Prostate Grand)เป็นต่อมที่มีรูปร่างคล้ายปีรามิดแบ่งเป็น3กลีบประกอบด้วย กลีบข้าง2กลีบและกลีบกลาง1กลีบ ตั้งอยู่ด้านล่างของกระเพาะปัสสาวะล้อมรอบท่อฉีดน้ำอสุจิและท่อปัสสาวะตอนต้นโดยบริเวณกลางต่อมลูกหมากจะมีรูเปิดของหลอดจากกระเพาะปัสสาวะและหลอดถุงเก็บตัวอสุจิและเชื่อมต่อกับหลอดปัสสาวะผ่านตามแนวยาวขององคชาต
ต่อมเคาเปอร์(Cowper’s Grand)ทำหน้าที่สร้างเมือกเพื่อผสมกับตัวอสุจิ ทำให้น้ำอสุจิมีสีขาวข้นเรียกว่าซีเมน(Semen)รวมถึงช่วยให้ตัวอสุจิมีชีวิตและเคลื่อนตัวได้สะดวกเมื่อมีการหลั่งน้ำอสุจิ
การสร้างเซลล์สืบพันธุ์ในเพศชาย
-เป็นการสร้างตัวอสุจิ เกิดขึ้นที่หลอดสร้างตัวอสุจิ
-การสร้างเริ่มต้นตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ 2-8 เดือน จากเซลล์ต้นกำเนิดการแบ่งสร้างเซลล์สืบพันธุ์ คือ Primodial Germ Cell ที่มีโครโมโซม 2n ซึ่งเซลล์นี้มีต้นกำเนิดมาจากถุงไข่แดง แต่ได้เคลื่อนย้ายมาที่อัณฑะในภายหลัง
-เมื่ออยู่ในท้องแม่ 2-8 เดือน Primodial Germ Cell (2n) จะแบ่งตัวแบบไมโทซิส 4 ครั้งได้เป็น Spermatogonia (2n)
-Spermatogonia (2n) เป็นระยะพัก พบได้ตลอดชีวิต
-เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น อายุ 13 ปีขึ้นไป ฮอร์โมน FSH จะกระตุ้นให้ Spermatogonia ขยายขนาเป็น Primary Spermatocyte(2n)
-Primary Spermatocyte (2n) แบ่งเซลล์ไมโอซิสครั้งที่ 1 เป็น Secondary Spermatocyte(n)
-Secondary Spermatocyte(n) แบ่งเซลล์ไมโอซิสครั้งที่ 2 ได้เป็น Spermatid (n) จำนวน 4 เซลล์
-
Spermatid (n) ผ่านการ Differentiation ได้ตัวอสุจิ คือ Spermatozoa/Sperm (n) จำนวน4 ตัวในที่สุด
เพศหญิง
ระบบสืบพันธุ์เพศหญิง
อวัยสืบพันธ์ุภายนอก
1.หัวหน่าว(Mons Pubis)อยู่ อยู่ใต้ท้องน้อยบนกระดูกหัวหน่าวระหว่างขาหนีบทั้งสองข้างมีลักษณะเป็นผิวหนังนูนประกอบด้วยไขมันเป็นจำนวนมากเมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่นจะเกิดขนปกคลุมขนมีลักษณะหยิกงอสีดำเส้นยาว
2.แคมใหญ่(Labia majora) มีลักษณะเป็นอนื้อนูนสองกลีบปิ ปิดช่องคลอดและอวัยวะภายใน
แคมเล็ก(Labia minora)เป็นกลีบเล็กๆอยู่ด้านในของแคมใหญ่มี หน้าที่ป้องกันการติดเชื้อจากภายนอกเข้าสู่ช่องคลอด
เม็ดละมุด/คลิตอริส(Clitoris)หรือปุ่มกระสัน
เป็นอวัยวะที่เทียบกับอวัยวะเพศชายหรือองคชาตเป็นส่วนที่
มีเส้นเลือดมาเลี้ยงเป็นจำนวนมากและทำให้เกิดความรู้สึกทางเพศ
5.รูเปิดท่อปัสสาวะ(Uretha)ตั้งอยู่บริเวณด้านบนของปากช่องคลอดมีลักษณะเป็นตุ่มยื่นขนาดเล็กบริเวณตรงกลางมีรูที่เป็นรูเปิดของท่อปัสสาวะสำหรับถ่ายปัสสาวะออกนอกร่างกาย
อวัยวะสืบพันธ์ุภายใน
ช่องคลอด(Vaginal canal) เป็นช่องสำหรับผ่านตัวอสุจิเข้าไปปฏิสนธิ กับไข่บริเวณปีกมดลูกหรือท่อนำไข่รวมถึงเป็นทางออกของทารกในขณะคลอด
มดลูก(Uterus)เป็นอวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดลักษณะคล้ายผลชมพู่ตั้งอยู่ในอุ้งเชิงกรานและอยู่
ระหว่างกระเพาะปัสสาวะซึ่งอยู่ด้านหน้า
และทวารหนักซึ่งอยู่ด้านหลัง มีส่วนที่ติดต่อกับช่องคลอดที่เป็นปากมดลูก เรียกว่า เซอวิก (Cervix)
ภายในมดลูกมีลักษณะเป็นโพรงแคบๆ มีเยื่อบุโพรงมดลูกที่เป็นกล้ามเนื้อหนา
และมีความแข็งแรง มีเส้นเลือดมาเลี้ยงจำนวนมาก
และสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาทุกรอบเดือนจากอิทธิพลของฮอร์โมนเพศเอสโตรเจน และโปรเจสเตอร์โรน
เยื่อผนังมดลูกจะหลุดลอกกขณะมีประจำเดือน แต่เมื่อตั้งครรภ์จะขยายตัวใหญ่เป็นที่ฝังตัวของไข่ที่ปฎิสนธิจากเชื้ออสุจิแล้ว
และค่อยๆเจริญเติมโตเป็นทารกในครรภ์
หลังการคลอดผนังมดลูกจะกลับคืนสู่สภาพเดิมภายใน
45 วันหน้าที่ของมดลูก
-การมีประจำเดือน ที่เกิดจากการหลุดลอกของเยื่อบุมดลูก
ภายหลังที่ไม่มีไข่มาฝั่งตัว ซึ่งจะมีการฉีกขาดของเส้นเลือด
ทำให้เลือดไหลออก หรือที่เรียกทั่วไปว่าการเป็นประจำเดือน
-การตั้งครรภ์ เป็นที่ฝังไข่ที่ปฎิสนธิแล้ว
และพัฒนาเป็นตัวอ่อนจนกระทั้งเจริญเติมโตเป็นทารก
-การคลอด อันมาจากการครบกำหนดของการเติบโต
ของทารกในครรภ์ ขณะคลอดผนังมดลูกจะมีการหดตัวระยะๆ
เพื่อให้ทารกคลื่นออกผ่านมาถึงช่องคลอด
3.รังไข่(Ovary)เป็นอวัยวะขนาดเล็ก สีขาวมัน มีรูปร่างคล้ายเม็ดมะม่วงหิมพานต์ มี2อันอยู่บริเวณมดลูกซ้าย-ขวา
หน้าที่ของรังไข่
-สร้างเซลล์สืบพันธุ์ได้แก่ เซลล์ไข่
-สร้างฮอร์โมนเพศได้แก่ ฮอร์โมนเอสโตรดจน ฮอร์โมนโปรเจสเตอร์โรน และแอนโดรเจน
4.ท่อนำไข่(Oviduct)หรือปีกมดลูก(Fallopian Tube)เป็นทางเชื่อมระหว่างท่อนำไข่ทั้งสองข้างกับมดลูกทำหน้าที่เป็นทางผ่านของไข่ที่ออกจากรังไข่เข้าสู่มดลูกท่อนำไข่เป็นบริเวณที่อสุจิจะเข้าปฏิสนธิกับไข่
การสร้างเซลล์สืบพันธุ์ของเพศหญิง
-Primodial Germ Cell จะแบ่งตัวแบบไมโทซิสได้ Oogonium (2n)
-เริ่มต้นสร้างเมื่ออยู่ในท้องแม่ 2-8 เดือน จากเซลล์ต้นกำเนิด คือ Primodial Germ Cell ที่มีโครโมโซม 2n
-Oogonium (2n) เข้าสู่ Meiosis I ค้างไว้ที่ระยะ Prophase I กลายเป็น Primary Oocyte ที่เมื่อโตขึ้นก็จะฝ่อลงไปเรื่อยๆ
-เป็นการสร้างไข่ เกิดขึ้นที่ชั้นนอกของรังไข่
-Primary Oocyte เป็นระยะพักพบได้จนกว่าจะหมดประจำเดือน
-เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น (12ปีขึ้นไป) ฮอร์โมน FSH จะกระตุ้นให้ Primary Oocyte (2m) แบ่งตัวแบบ Meiosis I ให้จบเรียกว่าระยะไข่สุกซึ่งได้เซลล์ขนาดไม่เท่ากันจากการแบ่งไซโทพลาสซึมไม่เท่ากัน ดังนี้
เซลล์ขนาดใหญ่ Secondary Oocyte (n)
เซลล์ขนาดเล็ก First Polar Body
-จบระยะ Meiosis I และเริ่ม Meiosis II
-ฮอร์โมน LH กระตุ้นให้ไข่ในระยะ Secondary Oocyte ให้ตกจากรังไข่
-ไข่ที่สุก หากได้รับการผสมกับอสุจิ จะเกิดการแบ่งแบบไมโอซิสครั้งที่ 2 (Meiosis II) ต่อจนจบ ดังนี้
เซลล์ขนาดใหญ่ Egg/Ovum(n)
เซลล์ที่มีขนาดเล็ก Second Polar Body (n)
-First Polar Body เกิด Meiosis II ได้ Second Polar Body (n) 2 เซลล์
ผลิตภัณฑ์สุทธิของการแบ่งตัวแบบ Meiosis I และ Meiosis II
-Second Polar Body จำนวน 3 เซลล์ ซึ่งจะสลายตัวในเวลาต่อมา
-สุดท้ายเหลือเพียงเซลล์เพียง 1 เซลล์เท่านั้นและเจริญไปเป็นไซโกต (2n) เมื่อผสมกับ Sperm