Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความผิดปกติของหัวใจและโครงสร้างวิชาการพยาบาลผู้ใหญ่ 2 - Coggle Diagram
ความผิดปกติของหัวใจและโครงสร้างวิชาการพยาบาลผู้ใหญ่ 2
ส่วนประกอบของหัวใจ
กล้ามเนื้อหัวใจ
หลอดเลือด
ลิ้นหัวใจ
ระบบไหลเวียน
หัวใจ
หลอดเลือด
หลอดเลือดดำ
หลอดเลือดฝอย
หลอดเลือดแดง
เลือด
ภาวะหัวใจวาย
เป็นภาวะที่หัวใจทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่สามมารถบีบเลือดไปเลี้ยงทั่วร่างกายได้
สาเหตุ
โรคหลอดเลือดหัวใจ
หัวใจทำงานหนัก
กล้ามเนื้อหัวใจทำหน้าที่ผิดไป
หัวใจนเต้นผิดปกติ
โรคเกี่ยวกับปอด
ความผิดปกติของหัวใจห้องล่างซ้าย
หยุดหายใจขณะหลับ
โรคเรื้อรัง
พยาธิสภาพ
กล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างซ้ายอ่อนแรง
ความผิดปกติของการเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ
กล้ามเนื้อหัวใจโต
การเพิ่มปริมาตรเลือดที่ออกจากหัวใจ
การหดตัวของหลอดเลือดแดง
การเพิ่มแรงบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ
อาการ
ปัสสาวะน้อย
ซีด เขียว
บวมจากความดันหลอดเลือดส่วนปลายเพิ่มขึ้น
ทำกิจกรรมได้น้อยลง
มึนศีรษะ สับสน
คลื่นไส้ เบื่ออาหาร
หายใจเหนื่อยตอนกลางคืน
การตรวจร่างกาย
คลำพบ Heaving และ Thrill
เคาะพบตับโต
pulse irregular
เสียงหัวใจเต้นผิดปกติ
ท้องบวม หลอดเลือดโป่งพอง
การประเมินทางห้องปฏิบัติการ
Blood for electrolyte
BUN, Cr, CrCI
Urine analysis
Hb,Hct
การตรวจพิเศษ
CXR
Echocardiogram
EKG
การป้องกัน
ควบคุมระดับความดันโลหิต
รักษาแต่เนินๆ
หัวใจห้องล่างซ้ายวาย
สาเหตุ
จากภาวะความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคลิ้นหัวใจ
อาการ
ใจสั่น หอบเหนื่อย เจ็บหน้าอก หายใจลำบากตอนกลางคืน ไอ ซีด เขียว
หัวใจห้องล่างขวาวาย
สาเหตุ
กล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างขวาขาดเลือด หลอดเลือดปอดมีความดันโลหิตสูง
อาการ
บวมที่ส่วนล่างของร่างกายทั้ง2ข้าง กดบุ๋ม ปวดแน่นท้อ เบื่ออาหาร คลื่นไส้
การรักษาภาวะหัวใจวาย
ดูแลให้ยากลุ่มDigitalis
ดูแลให้ยากลุ่ม เบต้าบล็อคเกอร์
ให้ออกซิเจน
ACEI
ลดกิจกรรม
ให้ยาขับปัสสาวะ
การพยาบาลหลังการผ่าตัด
บริหารยาหลังผ่าตัด
ให้ยาที่ทำให้หลอดเลือดหดตัว
ประเมินการทำงานของหัวใจหลังผ่าตัด
ลดกิจกรรมที่ทำให้หัวใจทำงานมากขึ้น
จัดการภาวะเสี่ยงต่างๆ
หัตถการเกี่ยวกับหัวใจ
การสวนหัวใจ
วิธีการทำ
ทำบอลลูนเพื่อขยายบริเวณที่ตีบ
ใส่Sent เพื่อป้องกันหลอดเลือดตีบซ้ำ
ใส่สายสวยหัวใจผ่านผิวหนัง บิเวณข้อมือ ขาหนีบ ข้อเท้า
การพยาบาลก่อนสวนหัวใจ
เจาะเลือด X-ray EKG
งดน้ำ งดอาหารหลังเที่ยงคืน 6 ชั่วโมงก่อนทำการรักษา
สื่อสารกับแพทย์เกี่ยวกับ โรคประจำตัว ยาที่รับประทาน
การพยาบาลหลังทำ
นอนราบ 8 ชั่วโมง
สังเกตอาการอย่างใกล้ชิด
รับประทานอาหารที่เป็นน้ำ ของเหลว
ให้ผู้ป่วยพักฝื้นท่ดรงพยาบาล1-2วัน
Coronary artery bypass graft
เป็นการผ่าตัดตัดต่อเส้นเลือด
การพยาบาลก่อนทำ
ให้สารละลายทางหลอดเลือดดำ
ให้ยาSedative
ให้ยาระงับความรู้สึก
สวนปัสสาวะค้าง
ใส่ท่อช่วยหายใจ
ขณะผ่าตัด
เปิดช่องอกSternum และ rib
ใช้เครื่องผยุงการทำงานของหัวใจ
นำเส้นเลือดที่เหมาะสมมาทำBypass
ทำเสร็จใช้เครื่องกระตุ้นให้หัวใจกลับมาทำงาน
หลอดเลือดโป่งพอง(Aneurysm)
ฌป็นภาวะที่ผนังหลอดเลือดแดงหรือดำอ่อนแอ หรือการสะสมของไขมัน
อาการ
คลำพบก้อนได้ที่หน้าท้องใต้ลิ้นปี่ ปวดท้องเรื้อรัง
การรักษา
ถ้ามีอาการแน่นหน้าอก ปวดหลัง หน้ามืด ไอเป็นเลือดให้ระวังการแตกของ Anuerysm
การพยาบาล
ควบคุมความดันโลหิต งดบุหรี่
หลีกเลี่ยงการเบ่งถ่าย
สังเกตภาวะแทรกซ้อน
โรคเกี่ยวกับลิ้นหัวใจตีบ/รั่ว
ลิ้นหัวใจไมตรัลตีบ
สาเหตุ
ไข้รูมาติก การติดเชื้อรูมาติก
พยาธิสภาพ
การอักเสบของลิ้นหัวใจทำให้เกิดการแข็ง หดรัดตัว ทำให้รูเปิดแคบลง
อาการ
เหนื่อยล้า หายใจลำบาก นอนราบไม่ได้
ไอเป็นเลือด ตับโต
การรักษา
ควบคุมอาหาร จำกัดเกลือ งดบุหรี่
การผ่าตัดขยายลิ้นหัวใจ
การใช้ยาได้แก่ยาขับปัสสาวะและควบคุมโซเดียม
ลิ้นหัวใจไมตรัลรั่ว
สาเหตุ
การติดเชื้อ การเสื่อมของเนื้อเยื่อ ลิ้นหัวใจฉีกขาด
พยาธิสภาพ
การปิดไม่สนิททำให้เลือดไหลย้อนจากเวนตริเคิลซ้ายไปเอเตรียมซ้าย
อาการ
เจ็บหน้าอกแบบAngina หายใจลำบาก หมดสติเมื่อออกแรง นอนราบไม่ได้
การรักษา
ระยะรุนแรง ผ่าตัด
ระยะแรก รักษาตามอาการ ปรับพฤติกรรม
ลิ้นหัวใจเอออร์ตารั่ว
สาเหตุ
เกิดจากความผิดปกติของลิ้นหัวใจและการติดเชื้อ
พยาธิสภาพ
เกิดจากเยื่อบุหัวใจอักเสบติดเชื้อ หลอดเลือเอออร์ตาฉีกขาด
ในระยะสุดท้ายหัวใจปรับตัวไม่ได้ เลือดย้อนเข้าสู่เวนตริเคิลและเกิดหัวใจล้มเหลว
อาการ
ใจสั่น หายใจลำบาก นอนราบไม่ได้ เจ็บหน้าอกแบบAngina มีเสียงฟู่
การดูแลรักษา
ระยะรุนแรง ผ่าตัดใส่ลิ้นหัวใจเทียม
ระยะแรกรักษาตามอาการ
การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ
การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียม เป็นการผ่าตัดเอาลิ้นหัวใจเทียมมาใส่ จะทำเมื่อลิ้นหัวใจเสียไม่สามารถซ่อมแซมได้
ข้อบ่งชี้
ลิ้นหัวใจเทียมที่ทำจากสิ่งสังเคราะห์
ลิ้นหัวใจเทียมที่ทำจากนื้อยื่อคนหรือสัตว์
การพยาบาล
รับประทานยาอย่างต่อเนื่อง
ควรป้องกันการติดเชื้อ โดยไม่อยู่ในสถานที่ที่คนแอ้อัด
ไม่ควรตั้งครรภ์ 3 เดือนแรกหลังผ่าตัด
สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ เมือสามารถทำกิจวัตรได้โดยไม่เหนื่อย
สอนให้สังเกตอาการแสดงที่ต้องมาพบแพทย์
ลดโซเดียม
สามารถทำงานได้หลังผ่าตัด 6 สัปดาห์
ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
พักผ่อนอย่างน้อย8-10ชั่วโมง
เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ
สาเหตุ
ติดเชื้อได้แก่ เชื้อไวรัส แบคทีเรีย
ปฏิกิริยาออโต้อิมมูนของร่างกายได้แก่ โรค SLE, ไข้รูมาติค
การใช้ยา Procainamide
พยาธิสภาพ
ความจุหัวใจลดลง ความดันรอบหัวใจสูงขึ้น
เกิดการอักเสบที่เยื่อหุ้มหัวใจ
การอักเสบของเยื่อหุ้มหัวใจทำให้เกิดไฟบรินและน้ำเกินบริเวณเยื่อหุ้มหัวใจ
อาการ
ไข้ (Fever)
เจ็บหน้าอก (Chest pain) ร้าวไปแขน ไหล่ และคอ
หนาวสั่น (Chill)
ฟังหัวใจได้ยินเสียง rub หรือ Grating sound
การประเมินสภาพ
อาการและอาการแสดงที่สำคัญคือ เจ็บหน้าอก
ประวัติความเจ็บป่วย
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ น้ำในเยื่อหุ้มหัวใจ
การตรวจทางห้องปฎิบัติการ
การตรวจพิเศษอื่นๆ
การรักษา
การใช้ยา NSAID, cochicin
การระบาย (Drainage)
การดูแลระบบไหลเวียนเลือดเพื่อเพิ่ม Cardiac output
การพยาบาล
ติดตามการทำงานของหัวใจ
เตรียมและให้การพยาบาลก่อนและหลังการทำหัตถการ
ประเมินความผิดปกติระบบไหลเวียน
การดูแลระบบไหลเวียนเลือดเพื่อเพิ่ม Cardiac output
ให้น้ำเกลือเพื่อเพิ่มปริมาตรเลือด
ติดตามวัดประเมินความดันโลหิต คลำชีพจร
กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
สาเหตุ
ส่วนเชื้อ Bacteria และเชื้อราก็พบได้ในแง่ของสาเหตุของโรคอื่นๆ ก็พบได้จากโรคเนื้อเยื้อเกี่ยวพัน
เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจเสียหายจากเชื้อโรคเช่น เชื้อไวรัส
อาการ
อาจมีภาวะแทรกซ้อนต่อการท างานของกล้ามเนื้อหัวใจ
จนเป็นภาวะหัวใจล้มเหลวเรื้อรังได้
อาการเหมือนไข้หวัดใหญ่ (Flu-live symptom) มีไข้ หนาวสั่น
เหงื่อออกปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
เจ็บหน้าอก หัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจเต้นช้า
การวินิจฉัยโรค
เอกซเรย์ปอด
คลื่นไฟฟ้าหัวใจ
เอนไซม์กล้ามเนื้อหัวใจ
การตรวจหัวใจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ
การตรวจหัวใจด้วยเครื่องแม่เหล็กหัวใจ
การรักษา/พยาบาล
การให้ยาคุ้มกันหรือยาต้านการอับเสบ
การให้ยารักษาภาวะกล้ามเนื้อหัวใจทำงานลดลง
การช่วยเหลือการทำงานของหัวใจ โดยใช้เครื่องช่วยการทำงานของ
หัวใจแบบพิเศษ
การรักษาโดยไม่ใช้ยา
การผ่าตัด
เยื่อบุหัวใจอักเสบ
สาเหตุ
เยื่อหุ้มหัวใจชั้นในอักเสบ
พยาธิสภาพ
บริเวณที่มีการไหลเวียนเลือดช้า เกิดการ
อักเสบที่เยื่อบุหัวใจหรือลิ้นหัวใจ
เมื่อเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายเข้าสู่ระบบไหลเวียนไปที่หัวใจและฝังตัวอยู่ในเยื่อบุหัวใจชั้น Endothelium
อาการ
ในรายที่มีอาการรุนแรงจะตรวจพบความผิดปกติของ T-wave
อ่อนเพลีย ไข้ เม็ดเลือดขาวสูง คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว
ประเมินสภาพ
การตรวจร่างกาย
การตรวจพิเศษอื่น ๆ
ประวัติความเจ็บป่วย
การรักษา/การพยาบาล
ให้ยาเพิ่มการบีบรัดตัวของหัวใจ เช่น Digitalis
ให้ยาขับปัสสาวะ
ให้ยาต้านการติดเชื้อจนครบ
ติดตามการทำงานของหัวใจ
Cardiac Pacemaker/Artificial Pacemaker
การดูแลผู้ใส่เครื่องกำหนดจังหวะการเต้นของหัวใจ
ก่อนใส่เครื่องกำหนดจังหวะการเต้นของหัวใจ
ขณะใส่เครื่องกำหนดจังหวะการเต้นของหัวใจ
หลังใส่เครื่องกำหนดจังหวะการเต้นของหัวใจ
สอนผู้ป่วยเกี่ยวกับการดูแลตนเองที่บ้าน
การจับชีพจรด้วยตนเอง โดยให้นั่งพักก่อน 5 นาที และจับชีพจรเต็ม
1 นาที
ให้สังเกตอาการที่บ่งบอกว่าเครื่องทำงานผิดปกติ
สามารถใช้เครื่องไฟฟ้าได้ตามปกติ
หากท่านใช้โทรศัพท์มือถือรุ่น Digital ควรถือด้านที่ไม่ได้ใส่เครื่อง
ให้ระวังอันตรายจากกระแสไฟฟ้าอื่นๆที่มีความถี่สูง
ป้องกันการกระทบกระแทกบริเวณที่ฝังเครื่องไว้
พกบัตรประจำตัวผู้ใส่เครื่องกำหนดจังหวะการเต้นของหัวใจไว้
ตลอดเวลา
แจ้งแพทย์ และทันตแพทย์ทราบทุกครั้งที่เข้ารับการรักษา
ผู้ป่วยสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ในขณะใส่เครื่อง