Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 5 การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาการติดเชื้อ - Coggle Diagram
บทที่ 5 การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาการติดเชื้อ
โรคหัด (Measles/Rubeola)
อาการและอาการแสดง
ระยะออกผื่น: ประมาณ 3-5 วัน หลังจากเป็นไข้ (T=39.5-40.5 ºC) ตาแดงจัด
ระยะผื่นจางหาย: ประมาณ 5-8 วันของโรค ไข้เริ่มลดลง และหายไปภายใน 2-3 วันอาจมีอาการไอ เมื่อผื่นถึงเท้าจะจาง หายไป เหลือเป็นรอยสีคล้้า
อาการนำ: ไข้สูง อ่อนเพลีย ไอ น้้ามูกน้้าตาไหล เยื่อบุตาอักเสบ กลัวแสง หนัง ตาบวม ทอนซิลโตและแดง ลักษณะเม็ด ขาวเล็กๆขนาดเท่าหัวเข็ม
โรคแทรกซ้อน
สมองอักเสบ, ปอดอักเสบ, หูชั้นกลางอักเสบ, เยื่อบุ ตาอักเสบ, ล้าไส้อักเสบ, กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
สาเหตุ: เชื้อไวรัส (Parayxovirus)
ระยะติดต่อ: ประมาณ 8-12 วัน คือ 4 วันก่อนผื่นขึ้นจนถึง 4 วัน หลังผื่นขึ้น ติดต่อทางอากาศและสัมผัสน้้ามูกน้้าลายหรือเสมหะของ ผู้ป่วย
การระบาดของโรค: ตลอดทั้งปี วัยเด็กมักเป็นโรคหัดอายุ 1-7 ปี อายุน้อยกว่า 6 เดือนไม่พบว่าเป็นโรคหัด
ระยะฟักตัว: ประมาณ 10 วันหลังจากได้รับเชื้อจนกระทั่งมีไข้ หรือ ประมาณ 14 วัน จนกระทั่งปรากฏผื่น
การรักษา
ให้พักผ่อน ยาลดไข้ และให้น้้าเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย oถ้าติดเชื้อแบคทีเรียซ้้า ต้องให้ยาจุลชีพที่เหมาะสม
การป้องกัน
โดยให้ Gamma globulin ฉีดเข้ากล้ามเนื้อภายใน 5 วันหรือน้อยกว่า 6 วันหลังจาก ได้รับเชื้อ ให้ในเด็กเล็ก เด็กที่เจ็บป่วยเรื้อรัง หญิงมีครรภ์และผู้มีอิมมูนพร่อง อยู่นาน 3-6 สัปดาห์
วัคซีนที่ท้าจากเชื้อมีชีวิตฉีดเข้าใต้ผิวหนังครั้งเดียว ควรให้ในเด็กอายุไม่ต่้ากว่า 1 ขวบ แอนตี้บอดี้จะเกิดประมาณ 12 วันหลังฉีด ถ้าให้ก่อนสัมผัสโรคทันที หรือให้หลังสัมผัสโรคภายใน 48 ชั่วโมงจะสามารถ ป้องกันโรคได้ในเด็ก 6-12 เดือน
โรคหัดเยอรมัน (Rubella)
การวินิจฉัยโรค
แยกเชื้อไวรัสจากน้้ามูก swab จากคอ เลือด ปัสสาวะ และน้้าไขสันหลัง แยกผู้ป่วยครบ 7 วันหลังผื่นขึ้น ใน Congenital rubella อาจมีเชื้อ ได้นานถึง 1 ปี
ติดตามตรวจเชื้อไวรัสใน Nasophalynx และในปัสสาวะเมื่ออายุ 36 เดือน แล้วไม่พบเชื้อ ให้วัคซีนป้องกัน
การพยาบาล
การแยกเด็กแบบ Respiratory Isolation ตั้งแต่มีอาการถึง 5-7 วันหลังผื่น ขึ้น
เช็ดตัวลดไข้
ดูแลทั่วไปๆ ผิวหนัง ตา หู ปากฟัน และจมูก
ระยะไข้สูง ให้อาหารอ่อน หรืออาหารเหลว ดื่มน้้ามากๆ
อาการและอาการแสดง
เจ็บคอ, คอแดงเล็กน้อย, มีผื่นอย่างน้อย 1-2 วัน
มีไข้ต่้าๆ (37.5 ºC); ปวดศีรษะ, อ่อนเพลีย, มีน้้ามูก,เจ็บคอ, คอแดง, เยื่อบุตา อักเสบ
ถ้ามีไข้สูง (39 ºC); วิงเวียน เบื่ออาหาร หนาวสั่น น้้ามูกไหล คอแดง เจ็บคอ เยื่อบุตาแดงอักเสบ ปวดศีรษะ หลังจากนั้น 4-5 วันอาจจะมีอาการทางระบบ ประสาทร่วมด้วย
สาเหตุ: เชื้อไวรัส (Rubi-virus)
ระยะฟักตัว: ประมาณ 14-21 วัน เฉลี่ย 16-18 วัน
ระยะติดต่อ: ประมาณ 2-3 วัน ก่อนมีผื่นขึ้นจนไปถึง 7 วันหลังผื่น ขึ้น ทารกที่ติดเชื้อในครรภ์ เชื้อไวรัสอยู่ในล้าคอและขับถ่ายออกมา ทางปัสสาวะได้นานถึง 1 ปี
โรคสุกใส (Chickenpox / Vericella)
การวินิจฉัย
ขูดพื้นขอตุ่มใสมาสเมียร์บนสไลด์
การป้องกัน
ระยะแพร่เชื้อ เริ่มตั้งแต่ 24 ชม.ก่อนที่ผื่นขึ้นจนถึงตุ่ม แห้งหมดแล้ว ควรให้ผู้ป่วยอยู่ในห้องแยก strict isolation ควรหยุด เรียน
โรคแทรกซ้อน
1.การติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง 2. ปอดอักเสบ ข้ออักเสบ กระดูกอักเสบ 3. สมองอักเสบ 4. Hemorrhagic chickenpox: เกล็ดเลือดต่้า เลือดออกทางเดินอาหาร เลือดก้าเดาไหล 5.Disseminate varicella: สุกใสชนิดแพร่กระจายไปอวัยวะภายใน มีตุ่มขึ้น ใหม่เป็นระยะเวลานาน มักพบในผู้ป่วยโรคมะเร็ง เช่น ปอดอักเสบ
การรักษา
ยาต้านไวรัส คือ Acyclovir (Zovirax) ทั้งชนิดกินและ ทา ชนิดฉีดให้ 200 mg 5 dose/day ทุก 4 ชั่วโมง เป็นเวลา 5 วัน
ลักษณะผื่น
เริ่มจากจุดแดงราบ (macule) ขนาด 2-3 mm. แล้ว เปลี่ยนเป็นตุ่มนูน (papule) อย่างรวดเร็วภายใน 8-12 ชั่วโมง และ ตุ่มน้้าใส (vesicle) ต่อมาเป็นตุ่มหนอง (pustule) แห้งตกสะเก็ด (crust)
การพยาบาล
1.แยกเด็กไว้จนกว่าแผลตกสะเก็ดหมด พักผ่อน ใช้ dermapon ฟอก หรือให้คาลาไมน์โลชั่นทาหลังอาบน้้า ให้ยา Antihistamine oตัดเล็บมือให้สั้น ใส่ถุงมือให้เด็กเล็ก 2.อาหารธรรมดา 3.สังเกตภาวะแทรกซ้อน 4.วัคซีนป้องกันโรคสุกใส ถ้าสัมผัสโรคไม่เกิน 3 วัน ป้องกันโรคได้ มากกว่า 90%
อาการนำ
มีไข้ต่ำๆพร้อมกับผื่น อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ เบื่ออาหาร 1-2 วัน ปวดท้องเล็กน้อย
สาเหตุ
1.ขึ้น บริเวณหนังศีรษะ ใบหน้า คอ และเยื่อบุช่องปากก่อนแล้วจึง ลามไปที่แขนขา 2.กระจายแบบ Centripetal 3.ผื่นมักจะอยู่บริเวณล้าตัว ใบหน้า มากกว่าแขนขา 4.ระยะฟักตัว: ประมาณ 10-21 วัน
โรคคอตีบ (Diphtheria)
การวินิจฉัย: ตรวจแผ่นเยื่อในล้าคอ โดยใช้ Throat swab
การรักษา
ให้ยาปฏิชีวนะเพนนิซิลิน เป็นเวลา 14 วัน หรือ Erythromycin แทน
ถ้าทางเดินหายใจตีบ ต้องเจาะคอเพื่อช่วยให้หายใจได้
การให้ Diptheria Antitoxin (DAT) ต้องรีบให้เร็วที่สุด เพื่อไปท้าลายพิษ (Exotoxin) ก่อนที่จะเกิดอันตรายต่อกล้ามเนื้อหัวใจและปลายประสาท
ต้องมีการพักผ่อนอย่างเต็มที่ อย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ ให้สารน้้าทางหลอด เลือด ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจเป็นระยะ เพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อนทางหัวใจ ซึ่ง มักจะเกิดขึ้นปลายสัปดาห์ที่ 2
โรคแทรกซ้อน
oการอุดตันของทางเดินหายใจส่วนบน พบในเด็กเล็กวันที่ 2-3 ของโรค กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หัวใจเต้นไม่สม่้าเสมอ เต้นเร็วหรือช้า
การป้องกัน
ผู้ใกล้ชิดผู้ป่วย เนื่องจากโรคคอตีบติดต่อกันได้ง่าย จึงควรติดตามดูอาการ อย่างใกล้ชิด โดยการเพาะเชื้อจากล้าคอและติดตามอาการ 7 วัน
ในเด็กทั่วไป โดยให้วัคซีนป้องกันคอตีบ 4 ครั้ง เมื่ออายุ 2,4,6,18 เดือนและ กระตุ้นอีกครั้งหนึ่งเมื่ออายุ 4-6 ปี (ต่อไปอาจกระตุ้นทุก 10 ปี)
ต้องมีการแยกผู้ป่วยจากผู้อื่น อย่างน้อย 3 สัปดาห์ หลังเริ่มมี อาการ หรือ ตรวจเพาะเชื้อไม่พบเชื้อแล้ว 2 ครั้ง และต้องให้วัคซีนป้องกันโรค คอตีบแก่ผู้ป่วยที่หายแล้วทุกคน
อาการและอาการแสดง
ไข้ต่้าๆอาการคล้ายหวัด ไอเสียงก้อง เจ็บคอรุนแรง เบื่ออาหาร ต่อมน้้าเหลือง ที่คอโตและบริเวณรอบๆรุนแรง คอบวม “Bullneck”
คอพบแผ่นเยื่อสีขาวปนเทาติดอยู่บริเวณทอนซิล บริเวณลิ้นไก่ แผ่นเยื่อนี้เกิด จากพิษที่ออกมามีน้้ามูกปนเลือด มีกลิ่นเหม็น
ระบาดวิทยา
พบในคนเท่านั้น ในจมูกหรือล้าคอ โดยไม่มีอาการ ติดต่อกัน ทางไอ จามรดกัน พูดคุยระยะใกล้ชิด เชื้อเข้าทางปากหรือการหายใจ รืออาจ ใช้ภาชนะร่วมกัน เช่น แก้วน้้า
สาเหตุ
เชื้อแบคทีเรีย
โรคคางทูม (Mumps)
ระยะฟักตัว
12-25 วัน
อาการ
ไข้ ครั่นเนื้อครั่นตัว อ่อนเพลีย ขากรรไกรบวมแดงปวด ร้าวไปที่หู ขณะกลืน เคี้ยว และอ้าปาก อาการบวมจะค่อยๆยุบหายไปใน 7-10 วัน
โรคแทรกซ้อน
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ *พบน้อย
หูชั้นในอักเสบ ไตอักเสบ
ส่วนน้อยพบ Orchitis (ลูกอัณฑะอักเสบ: ไข้สูง อัณฑะบวม ปวด อาจเป็นหมันได้)
การวินิจฉัย
แยกเชื้อไวรัสจาก Throat washing จากปัสสาวะและ น้้าไขสันหลัง
การติดต่อ
ไอ จาม หายใจรดกัน 1-2 วัน ก่อนเริ่มมีอาการจนถึง 9 วัน หลังจากต่อมน้้าลาย paratid เริ่มบวม
สาเหตุ
เชื้อไวรัส Paramyxovirus (อยู่ในน้้าลายหรือเสมหะ)
การรักษา
รักษาตามอาการ: ให้นอนพัก ดื่มน้้ามากๆ เช็ดตัวลดไข้ ให้ยาลดไข้ 2. ลูกอัณฑะอักเสบ: ให้ prednisolone 1 mg/kg/day
การแยกผู้ป่วย
แยกผู้ป่วย 9 วัน หลังเริ่มมีอาการบวมของต่อมน้้าลาย
การป้องกัน
ให้วัคซีนป้องกันคางทูม