Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

แบบของการวิจัย, นางสาวอรณิชา ไชยเดช รุ่น 36/2 เลขที่ 58 รหัสนักศึกษา…

- - - - เป็นการหาคำตอบเกี่ยวกับตัวแปรที่ศึกษาว่าเป็นอย่างไร
      - เช่น จำนวน ร้อยละ มาก-น้อย สูง-ต่ำ เป็นต้น
      - ไม่มีการเปรียบเทียบว่าอะไรมาก-น้อย แตกต่างกันหรือไม่แตกต่าง ทำเพียง explore ดูว่าตัวแปรนั้นเป็นอย่างไร มีจำนวนเท่าไร สูง-ต่ำ อย่างไร
    - - เป็นการวิจัยคล้ายกับแบบสำรวจตรงที่ไม่มีการทดลองในการวิจัยนั้นๆ แต่สามารถมีการเปรียบเทียบตัวแปร
      - เช่น การบริการตามการรับรู้ของพยาบาลเปรียบเทียบกับการบริการตามการรับรู้ของผู้ป่วยเป็นต้น
    - - ไม่มีการทดลอง แต่หาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ หรือหาปัจจัยที่มีผลต่อตัวแปรได้
      - เป็นการหาคำตอบเพื่ออธิบายว่าปัจจัยใดบ้างที่มีอิทธิผล/สัมพันธ์ต่อตัวแปร เช่น พิสูจน์ว่าปัจจัยด้านเพศ อายุ การศึกษา อาชีพ และรายได้ นั้นมีปัจจัยใดที่มีผลต่อการดื่มน้ำอัดลม
    - - เป็นการวิจัยที่ให้ผลการวิจัยที่บอกสิ่งที่ยังไม่เกิด แต่คาดไว้ว่าจะเกิดอย่างไร
      - เช่น หาความสัมพันธ์ระหว่างความเข้มแข็งกับความวิตกกังวล ถ้ามีความสัมพันธ์กันหมายความว่า ถ้าความเข้มแข็งเปลี่ยน ความวิตกกังวลจะเปลี่ยนด้วย อาจเป็นแบบคนละทางคือสัมพันธ์ทางลบ หรือทางเดียวกันคือสัมพันธ์ทางบวกก็ได้
    - - เป็นการวิจัยเพื่อค้นหาปัญหาหรือสาเหตุของปัญหา เมื่อวิจัยเสร็จจะได้ทราบคำตอบ คำตอบก็จะเป็นประโยชน์ในการแก้ปัญหาต่อไป
  - - - เป็นวิจัยที่มุ่งสร้างทฤษฎี สูตร หรือกฎ (เช่นกฎทางคณิตศาสตร์)
      - เพื่อเป็นพื้นฐาน ในการศึกษา เรื่องอื่น ๆ ต่อไป ผลจากการวิจัยนี้จะเป็นสูตร กฎ หรือทฤษฎีในการเรียนหรือการวิจัยในสาขานั้นๆต่อไป
    - - เป็นวิจัยที่เป็นไปเพื่อจะนำผลวิจัยที่เกิดขึ้นไปใช้ในการทำงานจริง
      - เช่น เมื่อมีความรู้ว่าสารในพืชชนิดหนึ่งทำให้น้ำตาลลดลงได้ ก็ทำวิจัยเพื่อทดลองยานั้นในผู้ป่วยที่มีระดับน้ำตาลสูง เมื่อได้ผลเป็นอย่างไรก็จะนำไปสู่การตัดสินใจใช้เป็นยารักษาโรคเบาหวานต่อไป
    - - เป็นการวิจัยที่มุ่งทำให้เกิดผลที่เป็นพัฒนางานหรือแก้ไขข้อบกพร่องของหน่วยงาน
      - ผลที่ได้จากการวิจัยแบบนี้มีความเฉพาะเจาะจงว่าวิธีการที่พิสูจน์ว่าแก้ปัญหาได้นั้น สามารถยืนยันว่าใช้ได้ผลเฉพาะที่หน่วยงานนั้นๆ ไม่สามารถบอกได้ว่าถ้านำวิธีการที่ใช้ในการวิจัย ไปใช้กับหน่วยงานอื่นนั้นจะได้ผลหรือไม่
  - - - ประเมินว่า
        
        context คือบริบทของงานที่ประเมินเป็นอย่างไร วัตถุประสงค์กับปัญหาสอดคล้องกันไหม
        
        input คือปัจจัยนำเข้า เช่น งบประมาณ บุคลากร อุปกรณ์ ฯลฯ เพียงพอไหม
        
        process คือ กระบวนการทำได้ครบไหม มีปัญหาอะไรเข้ามาแทรกไหม
        
        product คือผลผลิต ได้ผลเป็นอย่างไร บรรลุวัตถุประสงค์ไหม เป็นต้น
  - - - แบบคู่ขนาน
      - แบบตามลำดับก่อน-หลัง
  - - - เป็นการวิจัยที่ผู้วิจัยทำการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการสังเกต
      - นิยมใช้มากทางด้ามานุษยวิทยา เป็นการสังเกตพฤติกรรมของบุคคลในสังคมในแง่ของ สถานภาพ (Status) และบทบาท (Role)
    - - เป็นการวิจัยที่นักสังคมสงเคราะห์นิยมใช้มาก ที่เรียกว่าการศึกษาเฉพาะกรณีก็เพราะเป็นการศึกษาเรื่องที่สนใจในขอบเขตจำกัดหรือแคบ ๆ และใช้จำนวนตัวอย่างไม่มากนัก
- - - - ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน
        
        นักเรียน ครอบครัว ครู โรงเรียน
        -ปัจจัยด้านครูและนักเรียนคงที่ (เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทฤษฎีรองรับ)
        -ปัจจัยด้านครอบครัวและโรงเรียนที่มีอิทธิพล….
        -กำหนดขอบเขต เช่น เลือกศึกษาในโรงเรียนเดียว/ห้องเรียนเดียว
        ที่มีครูและนักเรียนเป็นคนเดียวกัน
        -กำหนด ครูที่จบปริญญาตรี นักเรียนที่ลงทะเบียนเรียนวิชา…
  - - - เขียนอธิบายความสัมพันธ์ สอดคล้อง เกี่ยวข้อง ของตัวแปร และอธิบายเหตุผลที่ไม่ได้เขียนถึงตัวแปรครบทุกตัว
      - ใช้คำบรรยายประกอบแผนภาพ
      - เลือกเขียนเฉพาะตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย
      - เขียนแสดงตัวแปรไม่ครบทุกตัว
    - - มักเขียนเป็น diagram
      - เขียนครอบคลุมทุกตัวแปรที่เกี่ยวข้อง
      - เขียนแสดงความสัมพันธ์ เชื่อมโยงของตัวแปรตามหลักการทางทฤษฎีที่มีอยู่
    - - กระบวนการสร้างมโนทัศน์จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจริงตามธรรมชาติ
      - เขียนแล้วได้เป็นกรอบแนวคิดเชิงทฤษฎี (Theoretical framework)
      - ใช้ความรู้จากทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องมาใช้ในการเขียน