Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 3 การช่วยเหลือผู้ใช้บริการในภาวะฉุกเฉิน อุบัติเหตุหมู่…
บทที่ 3
การช่วยเหลือผู้ใช้บริการในภาวะฉุกเฉิน อุบัติเหตุหมู่ และการบรรเทาสาธารณภัย
การจัดบริการในหน่วยฉุกเฉิน
การให้พยาบาลฉุกเฉิน
สามารถรักษาชีวิตของผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บได้
สามารถป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บมีอาการมากหรือหนักกว่าเดิม
สามารถบรรเทาอาการเจ็บปวดทรมานได้
สามารถส่งต่อผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บได้อย่างปลอดภัย
บทบาทของพยาบาลชุมชน
ด้านการดูแลต่อเนื่องหลังจากการผ่านภาวะวิกฤต
เคลื่อนย้ายและส่งต่อผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัย
ด้านการรักษาพยาบาล
ต้องประเมินและจำแนกประเภทผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บเพื่อให้การช่วยเหลือเบื้องต้นได้
ด้านการป้องกัน
ต้องจัดระบบ วางแผน และเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ
การจำแนกผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉิน
ประโยชน์ของการคัดกรองผู้ป่วย
ช่วยลดความเครียด และเพิ่มความพึงพอใจของผู้ป่วยและญาติ
ช่วยลดความล่าช้าในการตรวจรักษา
ทาให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาทันการณ์และเหมาะสม
การลดค่าใช้จ่าย
ระบาดวิทยาของผู้เสียชีวิตจากการบาดเจ็บ
Immediate Deaths (การตายแบบฉับพลัน)
อาจเกิดขึ้นในเวลาเป็นวินาที ถึงนาที
สาเหตุการตายเกิดจากการขาดอาการหายใจ
เป็นการตายที่เราสามารถป้องกันได้ แต่ไม่สามารถรักษาได้
Early Deaths
ระยะเวลาในการเสียชีวิตเป็นนาทีถึงชั่วโมง
เลือดออกในเยื่อหุ้มสมอง เลือดออกในช่องเยื่อหุ้มปอด มีลมรั่วในช่องเยื่อหุ้มปอด ตับหรือม้ามแตก หรือมีการเสียเลือดอย่างมาก
เป็นช่วง Golden hour
Late Deaths
การเสียชีวิตอาจเป็นวันถึงสัปดาห์
การติดเชื้อในกระแสเลือด หรืออวัยวะภายในร่างกายล้มเหลว
อัตราการตายของผู้ป่วยกลุ่มนี้ก็ขึ้นอยู่กับการดูฉลรักษาผู้ป่วยในช่วงแรก
การจำแนกผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉิน
การแบ่งประเภทของการ Triage
การคัดกรองที่จุดเกิดเหตุ (Field Triage)
การคัดแยกผู้บาดเจ็บจำนวนมาก (Disaster Triage)
START (Simple Triage and Rapid Treatment)
ผู้ป่วยที่สามารถเดินได้
2.ผู้ป่วยที่หายใจได้
RR > 30 ครั้งต่อนาที
RR < 30 ครั้งต่อนาที
ประเมินชีพจรที่ข้อมือ (radial pulse)
คลำชีพจรที่ข้อมือไม่ได้ หรือ capillary refill มากกว่า 2 วินาที
RR < 30 ครั้งต่อนาที
ประเมินชีพจรที่ข้อมือ (radial pulse)
คลำชีพจรที่ข้อมือไม่ได้ หรือ capillary refill น้อยกว่า 2 วินาที
1 more item...
ผู้ป่วยที่ไม่หายใจ
เปิดทางเดินหายใจ
Head-Tilt/ Chin-Lift
ผู้ป่วยไม่หายใจ(deceased)
ผู้ป่วยกลับมาหายใจ(immediate)
JumpSTART
ใช้ในเด็กอายุ 1-8 ปี
กรณีผู้ป่วยเด็กที่ไม่หายใจหลังจากเปิดทางเดินหายใจแล้ว
คลำชีพจร
2 more items...
การประเมินการหายใจ
น้อยกว่า 15 ครั้ง/นาที หรือมากกว่า 45 ครั้ง/นาที
การประเมินการรู้สึกตัวในเด็ก
A = Alert
V = Verbal ตอบสนองต่อเสียงเรียกอย่างเหมาะสม
P = Pain ตอบสนองต่อความเจ็บป่วยอย่างเหมาะสม
U = Unresponsive ไม่ตอบสนองต่อการกระตุ้น
Major Incident Medical Management and Support (MIMMS)
ผู้ป่วยที่สามารถเดินได้ ให้เดินออกจากที่เกิดเหตุ(T3)
ประเมินผู้ป่วยที่ไม่สามารถเดินได้
ผู้ป่วยที่ไม่หายใจ ให้เปิดทางเดินหายใจ โดยการทา head tilt/ chin lift หรือ jaw thrust
ผู้ป่วยไม่หายใจ (T4)
ผู้ป่วยหายใจได้ (T1)
ผู้ป่วยที่สามารถหายใจได้
น้อยกว่า 10 ครั้ง/นาที หรือมากกว่า 30 ครั้ง/นาที (T1)
ถ้าผู้ป่วยหายใจ 10-29 ครั้ง/นาที
ให้ประเมินการไหลเวียน (Circulation) หรือชีพจร
ชีพจรน้อยกว่า 120 ครั้ง/นาที
ชีพจรมากกว่า 120 ครั้ง/นาที
การคัดแยกก่อน/ ขณะอยู่ในจุดรักษาพยาบาล (Secondary Triage)
ใช้หลัก Triage sort จะทาในบริเวณที่ปลอดภัย (Cool zone) ในตาแหน่งก่อนเข้าสู่จุดรักษาพยาบาล หรือเรียกว่า Triage gate
การประเมินโดยใช้ Triage sort จะใช้ Triage revised trauma score (TRTS) มาช่วยในการจัดกลุ่มประเภทผู้ป่วย
คะแนน 1-10: จัดเป็น T1 (สีแดง)
คะแนน 11 : จัดเป็น T2 (สีเหลือง)
คะแนน 12 : จัดเป็น T3 (สีเขียว)
การคัดแยกผู้ป่วยที่มีจานวนไม่มาก (Prehospital Triage)
การจำแนกประเภทผู้บาดเจ็บ
ประเภทสีแดง
ผู้ป่วยที่ต้องการการรักษาที่จาเพาะเจาะจงทันที ไม่สามารถรอได้
ประเภทสีเหลือง
ผู้ป่วยประเภทนี้ถ้าปล่อยทิ้งไว้ไม่ให้การดูแลรักษาพยาบาลอย่างถูกต้อง ก็อาจทาให้สูญเสียชีวิตหรือพิการได้
ประเภทสีเขียว
ผู้ป่วยนัด Follow Up หรือผู้ป่วยเดินได้ สามารถรอการรักษาได้
ประเภทสีดา
ผู้ป่วยเสียชีวิต หรือมีโอกาสรอดชีวิตน้อยมาก
การคัดกรองผู้ป่วยทางโทรศัพท์ (Phone Triage)
การคัดแยกที่โรงพยาบาลในห้องฉุกเฉิน (Emergency Department Triage)
การดูแลผู้บาดเจ็บในระยะก่อนถึงโรงพยาบาล
ขั้นตอนในการดูแลผู้ป่วยนอก
การตรวจพบว่ามีเหตุบาดเจ็บ หรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน (Detection)
การรายงานเหตุการณ์/ การแจ้งของความช่วยหลือ (Reporting)
การดาเนินการตอบสนอง (Response)
การดูแล ณ จุดเกิดเหตุ (On Scene Care)
ประเมินเหตุการณ์ (Scene Size Up)
การประเมินเบื้องต้น (Initial Assessment)
ทางเดินหายใจและกระดูกต้นคอ (Airway and C-spine)
การหายใจ (Breathing)
การไหลเวียน (Circulation)
ระดับความรู้สึกตัว (Disability)
บาดแผลตามร่างกาย และกระดูกแขนขา (Exposure and Disability)
การดูแลระหว่างการนาส่ง (Care on Transit)
การนาส่งโรงพยาบาลที่เหมาะสม ( Transfer to Definitive care)
การดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะ open pneumothorax
การดูแลผู้บาดเจ็บที่มีภาวะช็อคและการห้ามเลือดนอกโรงพยาบาล
การดูแลรักษา
ดูแลทางเดินหายใจส่วนบน (Airway) การหายใจ (Breathing) ให้เป็นปกติ
ประเมินหาตาแหน่งที่เสียเลือดจากบาดแผลภายนอกและทาการห้ามเลือด
นาส่งผู้บาดเจ็บไปยังศูนย์อุบัติเหตุที่มีความเหมาะสม
การให้สารน้าอย่างเหมาะสม
การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บที่มีภาวะหัวใจหยุดเต้น (CPR)
ภาวะหัวใจหยุดเต้น (cardiac arrest)
ห่วงโซ่ของการรอดชีวิต
ภาวะหัวใจหยุดเต้นเกิดนอกโรงพยาบาล (Out-of-hospital cardiac arrest: OHCA)
ห่วงโซ่ของการรอดชีวิตสาหรับภาวะหัวใจหยุดเต้นที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาล (In-Hospital cardiac arrest: IHCA)
การช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน (Basic life support; BLS)
ประเมินความปลอดภัยของสถานที่เกิดเหตุ (Verify scene safety)
ประเมินผู้ป่วย
เรียกขอความช่วยเหลือจาก EMS ทันที
ประเมินการหายใจและชีพจร (Check for breathing and check pulse)
การกดหน้าอก (C: Chest compressions)
การเปิดทางเดินหายใจ (“A”managing the Airway)
การช่วยหายใจ (“B” Rescue breathing)
การช็อกไฟฟ้าหัวใจโดยใช้เครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจแบบอัตโนมัติ (AED defibrillation)
สิ่งแปลกปลอมอุดกั้นในทางเดินหายใจ
การจมน้ำ (Drowning)
การคิดคานวณเปอร์เซ็นไฟไหม้
ในปริมาณ 4 มล.Xน้าหนักตัว (กิโลกรัม) X % บาดแผลไฟไหม้ :
หลักการเตรียมรับผู้ป่วยอุบัติเหตุหมู่
การบรรเทาสาธารณภัย
ภาวะภัยพิบัติ (Disaster)
อุบัติภัยหมู่ (Mass Casualty Incident, MCI)
วงจรการเกิดภัยพิบัติ (disaster cycle)
ประเภทของภัยพิบัติ (type of disaster)
การแบ่งประเภทตามลักษณะการเกิดหรือสาเหตุ
ภัยพิบัติทางธรรมชาติ (natural disaster)
ภัยพิบัติที่เกิดจากการกระทาของมนุษย์
ภัยจากเทคโนโลยีต่างๆ
การแบ่งตามสถานการณ์
ภัยพิบัติในภาวะปกติ
ภัยพิบัติในภาวะฉุกเฉิน
ภัยพิบัติในภาวะสงคราม
หลักการพยาบาลผู้ป่วยฉุกเฉิน อุบัติเหตุหมู่และการบรรเทาสาธารณภัย
การฟื้นฟูสภาพผู้ประสบภัย
การฟื้นฟูสุขภาพ
ด้านร่างกายและจิตใจ
ฟื้นฟูบูรณะสิ่งก่อสร้างและสาธารณูปโภ
การก่อสร้างอาคาร และสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ
จากการวิเคราะห์ภาพยนต์
ทีมแพทย์และพยาบาลมีการเตรียมพร้อมในการรับผู้ป่วย
แพทย์และพยาบาล สามารถป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยบาดเจ็บเพิ่มมากขึ้น
มีการจำแนกผู้ป่วยตามสี เพื่อให้เหมาะสมต่อการรับษา
สามารถรักษาชีวิตของผู้ป่วยได้อย่างสุดความสามารถ และทันถ่วงที
สามารถบรรเทาอาการบาดเจ็บของผู้ป่วยได้ จากการที่เป็นแผลไหม้
สามารถช่วยเหลือเบื้องต้น และส่งต่อผู้ป่วยจากที่เกิดเหตุได้อย่างปลอดภัย
ทีมแพทย์และพยาบาลมีการวางแผน จัดระบบ มีการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบ พร้อมอุปกรณ์สำหรับการรอรับผู้บาดเจ็บได้อย่างดี
จะเห็นว่ามีการจำแนกผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว และในขณะทำการรักษา ก็ยังคงจำแนกผู้บาดเจ็บอยู่ตลอดหากมีอาการเปลี่ยนแปลง
แต่จะเห็นได้ว่าทีมแพทย์และพยาบาลมีการประเมินผู้ป่วยก่อนทำการช่วยเหลือแล้ว จึงทำการช่วยเหลือโดยการใส่ท่อหายใจ และได้มีการใส่ท่อลึกเกินไป และไม่ได้ทำการประเมินหลังการใส่ท่อให้จัดเจน จึงส่งผลให้เกิดอันตรายต่อผู้บาดเจ็บในภายหลัง
จึงยกเป็นกรณีตัวอย่างคือ การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ มิเพียงแต่ช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ป่วยด้วย โดยการประเมินผู้ป่วยอย่างเสมอจนกว่าผู้ป่วยจะปลอดภัยอย่างแน่นอน
Hot (Red) Zone ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีการปนเปื้อนสารพิษมากที่สุด
Warm (Yellow) Zone อยู่ถัดออกมาจาก hot zone เป็นบริเวณที่มีการล้างสารพิษ
Cold (Green) Zone เป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยจากสารพิษหรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้น
กลุ่มที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน
กลุ่มผู้ป่วยถัดไปที่ต้องกการรักษาพยาบาล
กลุ่มผู้ป่วยกลุ่มถัดไปที่ได้รับการรักษาถัดจากสีเหลือง
กลุ่มที่ไม่ต้องทาการช่วยเหลือเนื่องจากโอกาสรอดชีวิตน้อยมาก
91 นางสาววิไลวรรณ แก้วจันทร์ รหัสนักศึกษา 602601093