Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ ๓ การช่วยเหลือผู้ใช้บริการในภาวะฉุกเฉิน อุบัติเหตุหมู่…
บทที่ ๓ การช่วยเหลือผู้ใช้บริการในภาวะฉุกเฉิน อุบัติเหตุหมู่ และการบรรเทาสาธารณภัย
1) การจัดบริการในหน่วยฉุกเฉิน :pencil2:
หมายถึง
:pencil2:
การช่วยเหลือผู้ป่วยหรือผู้ที่ได้รับการบาดเจ็บทั้งทางด้าน ร่างกาย และอารมณ์ในเบื้องต้นโดยพยาบาลหรือบุคคลากรทางการแพทย์ที่ผ่านการฝึกอบรมจนเกิดความ ชํานาญ ก่อนส่งผู้ป่วยไปโรงพยาบาลหรือก่อนการได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ :check:
ความสําคัญ :pencil2:
สามารถรักษาชีวิตของผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บได้
สามารถป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บมีอาการมากหรือหนักกว่าเดิม
สามารถบรรเทาอาการเจ็บปวดทรมานได้
สามารถส่งต่อผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บได้อย่างปลอดภัย
บทบาทหน้าที่ :pencil2:
ด้านการป้องกัน : วางแผน สามารถให้บริการได้รวดเร็วเหมาะสมทันเหตุการณ์
ด้านการรักษา : พยาบาล ต้องประเมินและผู้บาดเจ็บเพื่อให้การ ช่วยเหลือเบื้องต้นได้
ด้านการดูแลต่อเนื่องหลังจากการผ่านภาวะวิกฤต
วิเคราะห์จากวิดิโอ :pencil2:
ในการศึกษาทางวีดีโอจะมีผู้ป่วยรายหนึ่งที่มีอาการแผลไฟไหม้ที่หน้าอกและไม่สามารถรับได้หากแผลจะมีลักษณะแผลไฟไหม้ตลอดไปและจะหมอคนหนึ่งที่คอยรับฟังและคอยให้กำลังใจและหาวิธีแก้ไขปัญหาให้กับผู้ป่วยในการกระทำของคุณหมอแสดงให้เห็นว่าการรักษาไม่ไ้รักษาแค่ด้านร่างกายแต่ควรดูแลและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยด้วย
**
2.การจําแนกผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉิน
:red_flag:
ความหมาย :red_flag:
การคัดกรองผู้ป่วย ซักประวัติ
ตรวจผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว
ออกเป็นกลุ่ม
ประโยชน์ของการคัดกรองผู้ป่วย
:red_flag:
ช่วยลดความเครียด และเพิ่มความพึงพอใจของผู้ป่วยและญาติ
การลดค่าใช้จ่าย เพราะผู้ป่วยเจ็บหน้าที่ได้รับการักษา
ทําให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาทันการณ์และเหมาะสม
การเสียชีวิต 3ช่วง
:red_flag:
Immediate Deaths :no_entry:
อาจเกิดขึ้นในเวลาเป็นวินาที ถึงนาที
:
การขาดอาการหายใจ
การเสียเลือตอย่างมาก
หัวใจได้รับการระทบอย่างรุนแรง
Early Deaths :no_entry:
ระยะเวลาในการเสียชีวิตเป็นนาทีถึงชั่วโมงเป็นช่วง Golden hour ที่มีความสําคัญอย่างมากในการดูแลช่วยเหลือ
เกิดจากเลือดออกในเยื่อหุ้มสมอง
เลือดออกในช่องเยื่อหุ้มปอด
มีลมรั่วในซ่องเยื่อหุ้มปอด
Late Deaths :no_entry:
ระยะเวลาในการเสียชีวิตอาจเป็นวันถึงสัปดาห์หลังได้รับอุบัติเหตุ
การติดเชื้อในกระแสเลือด
อวัยวะภายในร่างกาย
ล้มเหลว
แบ่งประเภทของการ Triage่ :red_flag:
Field Triage :checkered_flag:
Disaster Triage อุบัติเหตุผู้ป่วยจำนวนมาก
Secondary Triage
ใช้หลัก Triage Sort จะทําในบริเวณที่ปลอดภัย (Cool zone)
respiratory rate, systolic blood pressure และGlasgow coma Scale
แบ่งผู้ป่วยจากการประเมินเป็น ๓ กลุ่ม คือ
คะแนน 1-10: จัดเป็น T๓ (สีแดง) ต้องนําผู้ป่วยไปยังจุตรักษาพยาบาลที่เป็นโซนสีแดง
คะแนน 11 : จัดเป็น T๒ (สีเหลือง) ต้องนําผู้ป่วยไปยังจุตรักษาพยาบาลที่เป็นโซนสีเหลือง (ประกอบด้วยพยาบาล, เจ้าหน้าที่กู้ชีพและอุปกรณ์พื้นฐานในการรักษาพยาบาล)
คะแนน 12 : จัดเป็น T๓ (สีเขียว) ต้องนําผู้ป่วยไปยังจุตรักษาพยาบาลที่เป็นโซนสีเขียว (ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่กู้ชีพ และอุปกรณ์พื้นฐานในการปฐมพยาบาล)
Primary Triage
START
(Simple Triage and Rapid Treatment)
เป็นการประเมินผู้ป่วยอย่างรวดเร็วโดยการประเมิน
ขั้นตอนการคัดแยก
กลุ่มผู้ป่วยสีเขียวผู้ป่วยเดิน ออกมายังบริเวณที่ปลอดภัยกลุ่มสีแดง (immediate) สีเหลือง (delayed ) สีดํา (deceased)
ผู้ป่วยที่ไม่หายใจให้ทําการเปิดทางเดินหายใจ โดยวิธีการ Head-Titty Chin-Lift ถ้าผู้ป่วยไม่หายใจจัดเป็นกลุ่มสีดํา แต่ถ้าผู้ป่วยกลับมาหายใจหลังเปิดทางเดินหายใจให้จัดเป็น กลุ่มสีแดง (immediate)
ผู้ป่วยกลุ่มที่หายใจได้ ให้ประเมินอัตราการหายใจ
อัตราการหายใจมากกว่า ๓๐ ครั้งต่อนาที จัดผู้ป่วยในกลุ่มสีแดง (immediate)
-อัตราการหายใจน้อยกว่า ๓๐ ครั้งต่อนาทีจัดผู้ป่วยในกลุ่มสีแดง (immediate)
Major Incident Medical
Management and Support (MIMMS)
จุดเกิดเหตุโดยการใช้ Triage sieve
เพื่อประเมินว่าผู้ป่วยรายใดมีความจําเป็นต้อง
เคลื่อนย้ายออกมาจากจุด เกิดเหตุเป็นรายแรก
ขั้นตอนการคัดแยก
ผู้ป่วยที่สามารถเดินได้ ให้ผู้ป่วยเดินออกจากที่เกิดเหตุ และจัดผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว :check:
หลังจากนั้นทีมกู้ชีพจะเข้าไปประเมินผู้ป่วยที่ไม่สามารถเดินได้ โดยการประเมินทางเดิน หายใจ (air way)
ผู้ป่วยที่สามารถหายใจได้ ให้ประเมินอัตราการหายใจ (Breathing) โดยถ้าหายใจน้อยกว่า ๓๐ ครั้ง/นาที หรือมากกว่า ๓๐ ครั้ง/นาที :สีเเดง :<3:
ถ้าผู้ป่วยหายใจ ต๐-๒๙ ครั้ง/นาที ให้ประเมินการไหลเวียน (Circulation)
prehospital Triage
การคัดแยกผู้ป่วยที่มีจํานวนไม่มาก
ประเภทสีแดง หมายถึง ผู้ป่วยที่ต้องการการรักษาที่จําเพาะเจาะจงทันที
ประเภทสีเหลือง หมายถึง ผู้ป่วยประเภทนี้ถ้าปล่อยทิ้งไว้ไม่ให้การดูแลรักษาพยาบาลอย่าง ถูกต้อง ก็อาจทําให้สูญเสียชีวิต
ประเภทสีเขียว ผู้ป่วยนัด Follow Up หรือผู้ป่วยเดินได้ สามารถรอการรักษาได้
ประเภทสีดํา เป็นกลุ่มที่ผู้ป่วยเสียชีวิต หรือมีโอกาสรอดชีวิตน้อย
Phone Triage :checkered_flag:
Emergency Department Triage :checkered_flag:
วิเคราะห์จากวิดิโอ :red_flag:
ในวีดีโอที่ได้ศึกษา ก่อนจะเข้าไปในแผนกแต่ละแผนกจะมีหมอละพยาบาลคอยยืนดูคนไข้และแยกอาการและอาการแสดงของผู้ป่วยที่ประสบอุบัติเหตุมาโดยแยกออกเป็นสีตามอาการที่ได้กล่าวไปเบื่องต้นและจะมีหมอและพยาบาลคอยดูแลอย่างใกล้ชิด*)
4.การช่วยเหลือผู้ป่วยบาดเจ็บที่ีภาวะหัวใจหยุดเต้น :<3:
สิ่งแปลกปลอมอุดกั้นในทางเดินหายใจ (Foreign body airway obstruction (choking)) :fire:
1.การรักษาภาวะทางเดินหายใจอุดกันบางส่วน (เล็กน้อย)
ควรปล่อยให้ไอเอาสิ่งแปลกปลอมออกมาเอง และกระตุ้นให้ไอแรงๆ
การรักษาภาวะทางเดินหายใจอุดกั้นโดยสมบูรณ์
หากผู้ป่วยอายุเกิน ๑ ปีขึ้นไป ยังไม่สติอยู่ให้ช่วยด้วยวิธีการตบหลัง (back blow) การรัด กระตุกใต้ลิ้นปี (abdominal thrust) และกดกระแทกที่หน้าอก (chest thrust)
3.การรักษาภาวะทางเดินหายใจอุดกั้นในผู้สําลักที่หมดสติ
ควรประคงผู้สําลักนอนกับพื้น เรียกหน่วย EMS ทันที แล้วเริ่ม CPR (กดหน้าอก) ทันทีโดยไม่ ต้องคลําชีพจร ทําการกดหน้าอก
การจมน้ํา (Drowning)
:fire:
๑. ป้องกันไม่ให้เกิดการจมน้ํา (Prevent drowning) ทั้งบุคคลที่อยู่ในน้ําและรอบๆบริเวณน้ำ
๒. การรับรู้ว่าอาจมีการจมน้ำ (Recognize distress) การเรียกหาความช่วยเหลือ
๓. ใช้อุปกรณ์ช่วยให้ผู้จมน้ำลอยตัว (Provide floatation)
๔. ช่วยผู้จมน้ําขึ้นจากน้ําทันที (Remove from water) โดยต้องคํานึงความปลอดภัยของผู้ช่วยเหลือ
๕. ช่วย CPR ถ้ามีข้อบ่งชี้ (Provide care as need)
การคิดคํานวณเปอร์เซ็นไฟไหม้
:fire:
ในปริมาณ ๔ มล.xน้ําหนักตัว (กิโลกรัม) x % บาดแผลไฟไหม้
3.การดูแลผู้บาดเจ็บในระยะก่อนถึงโรงพยาบาล :star:
ขั้นตอนในการดูแลผู้ป่วยนอก โรงพยาบาล :star:
การตรวจพบว่ามีเหตุบาดเจ็บ
หรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน (Detection)
:cake:
การรายงานเหตุการณ์/
การแจ้งของความช่วยหลือ (Reporting)
:cake:
การดําเนินการตอบสนอง (Response)
:cake:
การดูแล ณ จุดเกิดเหตุ (On Scene Care) :cake:
๑.๑ ประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยรอบ
๑.๒ ประเมิน หากเป็นผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บ
ทางเดินหายใจและกระดูกต้นคอ (Airway and C-spine) จะต้องทําการป้องกัน Cspine ให้ไม่ขยับโดยการทํา Manual in -Line :skull_and_crossbones:
การหายใจ (Breathing) ประเมินอาการของการหายใจลําบาก ใช้กล้ามเนื้อหน้าท้อง ช่วยหายใจ :skull_and_crossbones:
การไหลเวียน (Circulation) เป็นการประเมินหาจุดเลือดออก ภาวะช็อค โดยดูจาก ความเร็วและความแรงของชีพจร :skull_and_crossbones:
ระดับความรู้สึกตัว (Disability) โดยประเมิน GCS :skull_and_crossbones:
บาดแผลตามร่างกาย และกระดูกแขนขา (Exposure and Disability) หากมี กระดูกหักให้ดามกระดูกเบื้องต้น :skull_and_crossbones:
๕. การดูแลระหว่างการนําส่ง (Care on Transit)
:cake:
Level มีคุณสมบัติเหมือนในระดับ ๒ มีศัลยแพทย์เฉพาะทางทุกสาขา สามารถทําการผ่าตัด ฉุกเฉินได้ตลอด ๒๔ ชม
Level II มีคุณสมบัติเหมือนในระดับ ๓ โดยมีเพิ่มเติมคือ มีแพทย์เฉพาะทางสาขาต่างๆ อย่าง ครบถ้วนและสามารถผ่าตัดฉุกเฉินได้ตลอด ๒๔ ชม.
Level II มีแพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉินและแพทย์เฉพาะทางอุบัติเหตุสามารถทําการเอกซเรย์ได้ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง มีอุปกรณ์ในการมอนิเตอร์ต่างๆ เช่น Pulse Oximetry, Central venous
Level IV ดูแลกู้ชีพได้เบื้องต้นเท่านั้น และทําการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลระดับสูงต่อไป
การรักษาภาวะ open pneumothorax เบื้องต้น ทําได้โดยการปิดแผลด้วยแผ่นพลาสติปลอดเชื้อ แล้วปิดขอบ ๓ ด้าน (Three side Dress) ซึ่งทําให้อากาศจากภายนอกไม่สามารถเข้าสู่ช่องอกได้ในช่วงหายใจ เข้า แต่อากาศในช่องปอดสามารถออกสู่ภายนอกได้ในช่วงหายใจออก
การดูแลรักษาผู้บาดเจ็บที่มีอาการช็อค :fire:
๑. ดูแลทางเดินหายใจส่วนบน (Airway) การหายใจ (Breathing) ให้เป็นปกติ แล้วให้ออกซิเจน ประคับประคองระบบทางเดินหายใจ
๒. ประเมินหาตําแหน่งที่เสียเลือดจากบาดแผลภายนอกและทําการห้ามเลือดรวมทั้งพยายามมองหา สาเหตุของการเสียเลือดภายในร่างกายให้ได้
๓. นําส่งผู้บาดเจ็บไปยังศูนย์อุบัติเหตุที่มีความเหมาะสม
๔. การให้สารน้ำอย่างเหมาะสม
ขั้นตอนในการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน :fire:
ประเมินความปลอดภัยของสถานที่เกิดเหตุ
(Verify Scene safety) :cactus:
2.ประเมินผู้ป่วย
โดยตบที่หัวไหล่ของผู้ป่วย เบาๆ พร้อมตะโกนถามว่า “คุณๆเป็นอย่างไรบ้างคะ (ครับ)” :cactus:
เรียกขอความช่วยเหลือจาก EMS ทันที สําหรับประชาชนทั่วไป 1669 :cactus:
ขอความช่วยเหลือ ๑๖๖๙ โดยขอผู้ช่วยเหลือและเครื่องช็อคไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ (Automated external defibrillator: AED)
สําหรับเจ้าหน้าที่
ในทางปฏิบัติให้บุคคลกรทางการแพทย์การทําประเมินการหายใจและชีพจรทําไปพร้อมกัน จัดหาเครื่อง AED และอุปกรณ์ฉุกเฉิน
4.ประเมินการหายใจและชีพจร
(Check for breathing and check pulse)
:cactus:
5.การกดหน้าอก (C: Chest compressions)
ลักษณะการกดหน้าอกที่มีคุณภาพ
กดหน้าอกให้มีความลึกอย่างน้อย ๒ นิ้ว (๕ ซม.) แต่ไม่ควรลึกเกิน ๒.๔ นิ้ว (5 ซม.) - กดหน้าอกด้วยอัตราความเร็ว ๑๐๐-๑๒๐ ครั้งต่อนาที
:cactus:
6.การเปิดทางเดินหายใจ ("A"managing the Airway)
ขณะที่ผู้ป่วยหมดสติจะมีการปิดกั้นทางเดินหายใจและฝาปิดกล่องเสียง (epiglottis) ทําให้ ผู้ป่วยขาดอากาศหายใจได้ :cactus:
การช่วยหายใจ (“B” Rescue breathing)
:cactus:
การช่วยหายใจแบบปากต่อปาก (Mouth-to-Mouth) ทําได้โดยการเปิดทางเดินหายใจโดยใช้ วิธี head tilt - chin Lift และประกบปากของผู้ช่วยเหลือให้ปากของผู้ป่วยให้สนิท ปิดจมูก
การช่วยหายใจแบบใช้อุปกรณ์ป้องกัน (Mouth-to-Barrier Device)
เช่น pocket mask, face shield
การช่วยหายใจแบบปากต่อจมูก (Mouth-to-Nose) และการช่วยแบบ Mouth-to-Stoma
สําหรับการเป่าจมูกแนะนําให้ทําในกรณีที่ไม่สามารถช่วยหายใจทางปากได้
การช่วยหายใจโดยใช้ Bag และ Mask (bag-mask device)
แนะนําให้เลือกใช้หน้ากากที่มีความใส เพื่อให้เห็นว่าผู้ป่วยอาเจียนหรือสําลักอาหารหรือไม่
การช่วยหายใจโดยใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจขันสูง
(Advanced Airway)
louri laryngeal mask airway (LMA), laryngeal tube (King airway device),
การช็อกไฟฟ้าหัวใจโดยใช้เครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจแบบอัตโนมัติ (AED defibrillation) :cactus:
วิเคราะห์จากวิดิโอ :star:
การวิเคราะห์ วีดีโอจากการดูจะมีพยาบาลคนหนึ่งสอบถามผู้บาดเจ็บและยังมีผู้บาดเจ็บที่งหลงเหลืออยู่ที่เกิดเหตุณ์(Detection)และได้ทำการเรียกให้คนขับรถพาไปยังที่สถาณการณ์ที่เกิดเหตุเพื่อจะไปรับผู้ป่วยที่มีอาการเลือดออกในสมอง(Reporting)และได้นำทีมผู้ช่วยเหลือไปตามหาผู้ที่เกิดอุบัติเหตุจนเจอผู้ประสบอุบัติเหตุ(Response)และได้ประเมินอาการเบื้องต้นของผู้ป่วย(On Scene Care) และปฏิบัติการพยาบาลจนผู้ป่วยไปถึงโรงพยาบาล(Care on Transit)ทางโรงพยาบาลมีการเตรียมพร้อมในการรับผู้ป่วยและรถก็มีอุปกรณ์พร้อมสำหรับผู้ป่วย(Transfer to Definitive care)
:check:
การบรรเทาสาธารณภัย :santa:
อุบัติภัยหมู่ (Mass Casualty Incident, MCI)
หมายถึง เหตุการณ์ที่ทําให้มีผู้บาดเจ็ดหลายคนในคราวเดียวกันโดยที่ผู้บาดเจ็บหลายคนนั้น
ประเภทของภัยพิบัติ (type of disaster)
ภัยพิบัติทางธรรมชาติ (natural disaster) เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มักจะเกิดตาม ฤดูกาล
ภัยพิบัติที่เกิดจากการกระทําของมนุษย์ อาจเกิดจากความประมาท
ภัยจากเทคโนโลยีต่างๆ เช่น ภัยจากการทดลองอาวุธนิวเคลียร์
วิเคราะห์จากวิดิโอ :santa:
จากการดูวีดีโอ เป็นภัยพิบัติที่เกิดจากมนุษย์คือเป็นอุบัติเหตุที่ขับรถประสานงากันจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์นี้จำนวนมาก
6) หลักการพยาบาลผู้ป่วยฉุกเฉิน อุบัติเหตุหมู่และการบรรเทาสาธารณภัย
:rabbit:
การเเบ่งระยะการเกิดภัยพิบัติ :rabbit:
ระยะก่อนเกิดภัยพิบัติ :beer_mugs:
การเตรียมเเผน
เตรียมบุคลากร สถานที่ ยา
ระยะเกิดภัยพิบัติ :beer_mugs:
ช่วยเหลือเบื้องต้น
ใช้เวลามากน้อยขึ้นอยู่กับขนาดของภัยพิบัติ
ระยะหลังเกิดภัยพิบัติ :beer_mugs:
ช่วยเหลือด้านบรรเทาทุกข์เเละฟื้นฟูทางด้านร่างกาย
จิตใจ ที่อยู่อาศัย
วิเคราะห์จากวิดิโอ :rabbit:
ระยะเกิดภัยพิบัติ
(impact phase)เมื่อได้รับเหตุทุกคนจะมีความตื่นตัวและมีหัวหน้าคอยควบคุมให้ปฏิบัติตามหน้าที่ทุกคนมีความตื่นตัวและพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่และรับฟังหัวหน้า
ระยะหลังเกิดภัยพิบัติ
(post-impact phase)หลังจาการเกิดอุบัติเหตุณ์บุคลากรทางการแพทย์ได้ช่วยเหลือและให้คำแนะนำคนไข้จนสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้
ระยะก่อนเกิดภัยพิบัติ(pre-impact phase) ทุกคนมีความเตรียมพร้อมต่อ
สถาณการณ์ที่เกิดขึ้น