Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 8 การประเมินภาวะสุขภาพ การดูแลช่วยเหลือมารดาและทารก ในระยะที่ 2, 3…
บทที่ 8 การประเมินภาวะสุขภาพ การดูแลช่วยเหลือมารดาและทารก ในระยะที่ 2, 3 และ 4 ของการคลอด
-
การตัดและซ่อมแซมฝีเย็บ
การตัดฝีเย็บ
คือ การตัดเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อบางส่วนของช่องคลอดและฝีเย็บ เพื่อขยายทางคลอดให้กว้างขึ้น ศีรษะและไหล่ของทารกจะได้ผ่านออกมาโดยสะดวก
ชนิดของการตัดฝีเย็บ
Lateral episiotomy เป็นการตัดจาก posterior fourchette ไปทางด้านข้าง ขนานกับแนวราบ ไม่ควรตัดเฉียงขึ้นไปมาก เพื่อหลีกเลี่ยงการตัด Bartholin’s gland วิธีนี้ไม่นิยมทำ เนื่องจากเสียเลือดมาก แผลหายช้า หลังจากแผลหายแล้วรูปร่างของช่องคลอดมักผิดปกติ และอาจตัดโคนท่อ Bartholin’s gland
Median episiotomy เป็นการตัดจาก posterior fourchette ลงไปตามแนวดิ่งและควรหยุดห่างจากกล้ามเนื้อหูรูดทวารหนักอย่างน้อย 1 เซนติเมตร เป็นวิธีที่นิยมทำ เนื่องจากเสียเลือดน้อย การเย็บซ่อมแซมทำได้ง่าย และไม่รู้สึกเจ็บปวดที่บาดแผลภายหลังคลอดเท่ากับแบบ Medio-Lateral แต่มีโอกาสฉีกขาดลุกลามไปถึง rectum ได้มากกว่าแบบ Medio-Lateral episiotomy
Medio - Lateral episiotomy เป็นการตัดจากจุด posterior fourchette ลงไป โดยทำมุมกับแนวดิ่ง 45 องศา เป็นวิธีที่นิยมทำอีกวิธีหนึ่ง เนื่องจากมีโอกาสฉีกขาดลุกลามไปถึง rectum ได้น้อยกว่าแบบ median แต่การเย็บซ่อมแซมยากกว่า median
ประโยชน์ของการตัดฝีเย็บ
-
ป้องกันการฉีกขาดของ Perineal body, External anal sphincter และผนังของ rectum
-
-
การซ่อมแซมฝีเย็บ
-
ชนิดของการเย็บแผล
Interrupted simple suture คือ การเย็บแผลทั้งสองข้างให้มาบรรจบกันตรงกลางแล้วผูกปม การเย็บควรใช้เข็มตักให้ห่างจากขอบแผลประมาณ 1 เซนติเมตร และลึกลงข้างใต้แผลประมาณ 1 เซนติเมตร หรือมากกว่า แล้วแต่ความลึกของแผล เพื่อป้องกันไม่ให้เหลือช่องว่างใต้แผล การเย็บวิธีนี้ทำได้ง่ายและเร็ว ใช้เย็บเยื่อบุผนังช่องคลอด กล้ามเนื้อของช่องคลอดและฝีเย็บ
Horizontal figure-of-eight suture (การเย็บรูปเลข 8 ) ใช้เย็บจุดเลือดออก เย็บ rectus sheath และแผลอื่น ๆ แทนการเย็บแบบที่ 1 ได้
Continuous non-locking ใช้ไหมเส้นเดียวเย็บตลอดความยาวของแผลแล้วจึงผูกปม วิธีนี้ทำได้ง่าย ใช้เย็บเนื้อเยื่อที่ไม่ต้องการแรงยึดมากนัก เช่น เนื้อเยื่อและไขมันใต้ผิวหนัง เป็นต้น
Continuous lock วิธีเย็บคล้ายกับแบบ simple suture แต่ใช้ไหมเส้นเดียวกันเย็บตลอดความยาวของแผล ใช้เย็บในรายที่ต้องการให้ส่วนที่เย็บตึงมากกว่าวิธีที่ 3 เป็นการช่วยให้เลือดหยุด ใช้เย็บเยื่อบุผนังช่องคลอด กล้ามเนื้อของช่องคลอดและฝีเย็บ
Subcuticular stitch ใช้เย็บชั้นใต้ผิวหนัง เริ่มต้นจากมุมแผล แล้วใช้เข็มแทงใต้ผิวหนังเข้าไปห่างจากขอบอย่างน้อย 0.3 เซนติเมตร เข้าและออกในขอบแผลทั้งสองข้างที่ระดับเดียวกันจนถึงมุมแผลอีกข้างจึงผูกปม การเย็บวิธีนี้มีข้อดี คือ แผลเล็ก เรียบ สวยงาม แต่มีข้อเสีย คือ ถ้าแผลไม่ตื้นพอจะทำให้มีช่องว่างใต้ผิวหนังมาก อาจเกิดก้อนเลือดคั่งข้างในและแผลไม่ติด
ระดับการฉีกขาดของฝีเย็บ
- First degree tear เป็นการฉีกขาดที่บริเวณ fourchette ผิวหนังด้านหน้าของเยื่อบุช่องคลอดเท่านั้น
- Second degree tear เป็นการฉีกขาดตั้งแต่ผิวหนังด้านหน้าของเยื่อบุช่องคลอดลึกลงไปถึงกล้ามเนื้อ perineal body แต่ไม่ถึงกล้ามเนื้อรอบรูทวารหนัก จะมีการฉีกขาดของช่องคลอดทั้งสองข้างมองเห็นเป็นรูปสามเหลี่ยม
- Trird degree tear เป็นการฉีกขาดตั้งแต่ผิวหนังด้านหน้าของเยื่อบุช่องคลอดลงไปถึงกล้ามเนื้อ perineal body และลึกลงไปถึงกล้ามเนื้อรอบรูทวารหนัก
- Fourth degree tear เป็นการฉีกขาดตั้งแต่ผิวหนังด้านหน้าของเยื่อบุช่องคลอด กล้ามเนื้อ perineal body กล้ามเนื้อรอบรูทวารหนักและลงไปจนถึงผนังด้านหน้าของทวารหนัก
-
-
-
-