Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
:pregnant_woman::skin-tone-2: กรณีศึกษาที่ 3 - Coggle Diagram
:pregnant_woman::skin-tone-2:
กรณีศึกษาที่ 3
:newspaper:
โจทย์กรณีศึกษา
:silhouette:
ตรวจร่างกายทั่วไป
:eye:เปลือกตาไม่ซีด
เต้านมหัวนมปกติ
HF 2/3 >SP
สัญญาณชีพ :fire:
RR = 20 ครั้ง/นาที
BP = 100/60 mmHg
PR = 80 ครั้ง/นาที
BT = 37 องศาเซลเซียส
:microscope:
ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ
DCIP ผล negative
HbsAg ผล negative
OF ผล negative
VDRL ผล non reactive
Hct = 36 vol%
Anti HIV ผล negative
การเจาะน้ำคร่ำส่งตรวจ
(Amniocentesis)
พบโครโมโซม 13, 18, 21 : disomy / disomy / trisomy
ประวัติการตั้งครรภ์
:hourglass_flowing_sand:
:pregnant_woman::skin-tone-3:หญิงตั้งครรภ์อายุ 35 ปี G3P0A2L0 อายุครรภ์ 16 สัปดาห์
ฝากครรภ์ครั้งแรกที่โรงพยาบาล มหาสารคามเมื่ออายุครรภ์ 10 สัปดาห์
มาฝากครรภ์ตามนัดสม่ำเสมอ ผลการตรวจครรภ์ปกติ
:syringe:ได้รับ Diptheria tetanus toxoid 1 เข็ม
คำถาม
:question:
:information_desk_person::skin-tone-3:
3. ให้อธิบายบทบาทพยาบาล
ในการดูแลหญิงตั้งครรภ์
ที่ได้รับการตรวจพิเศษรายนี้
บทบาทพยาบาลการเจาะน้ำคร่ำส่งตรวจ
(Amniocentesis) :syringe:
:syringe:ขณะเจาะน้ำคร่ำส่งตรวจ
อยู่กับผู้รับบริการขณะแพทย์ทำหัตถการ
สังเกตอาการผิดปกติที่อาจจะพบได้ เช่น supine hypotension syndrome
เนื่องจากนอนหงายเป็นเวลานาน
:rewind:ก่อนการเจาะน้ำคร่ำส่งตรวจ
:warning:2. ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจและการแก้ปัญหา ในกรณีที่มีความผิดปกติ
:writing_hand:4. ให้ลงนามในใบอนุญาตการยอมรับการตรวจ
:question::3. เปิดโอกาสให้หญิงตั้งครรภ์ได้ซักถามข้อสงสัยในการตรวจ
:bed:5. เตรียมผู้รับบริการถ่ายปัสสาวะก่อนตรวจเพื่อให้กระเพาะปัสสาวะว่าง จัดให้นอนในท่านอนราบบนเตียง
คลุมผ้าบริเวณหน้าท้องและทาเจลบริเวณที่หน้าท้องในตำแหน่งที่แพทย์จะใช้คลื่นความถี่สูงหาตำแหน่งของถุงน้ำคร่ำ
:speaking_head_in_silhouette:1. อธิบายให้หญิงตั้งครรภ์ทราบถึงขั้นตอนและวิธีการตรวจ
:eight_spoked_asterisk:6. ทำความสะอาดหน้าท้องโดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรค
ภายหลังการเจาะน้ำคร่ำส่งตรวจ:black_right_pointing_double_triangle_with_vertical_bar:
ภายหลังการตรวจให้ผู้รับบริการนอนหงาย กดแผลหลังจากแพทย์เอาเข็มออกด้วยก๊อซนานประมาณ 1 นาที
และปิดแผลด้วยพลาสเตอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการรั่วซึมของน้ำบริเวณที่แทงเข็ม
ไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดแผลบริเวณที่เจาะ สามารถเปิดแผลได้ในวันถัดไปและอาบน้ำได้ตามปกติ
หลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนหน้าท้อง 1 - 3 วันหลังเจาะ เช่น ยกของหนัก ออกกำลังกาย การเดินทางไกล
:hearts:3. ฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์ทุก 15 นาที จนครบ 1 ชั่วโมง
:red_cross:7. งดมีเพศสัมพันธ์ภายหลังการเจาะ 7 วัน
:bed:2. ดูแลให้ผู้รับบริการพักผ่อนประมาณ 30 นาที –1 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นทันที เช่น หน้ามืด เป็นลม หรือ ปวดท้อง
แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์สังเกตอาการแทรกซ้อน เช่น ถุงน้ำคร่ำแตกรั่ว มีเลือดออกทางช่องคลอด
ปวดท้องเป็นพักๆ และมีไข้ หากมีการอาการเหล่านี้ให้รีบมาโรงพยาบาลทันที
ถ้าปวดแผลบริเวณที่เจาะสามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการปวดแผลได้
:label:
2. ท่านคิดว่าหญิงตั้งครรภ์รายนี้
ควรส่งตรวจพิเศษอะไรเพิ่มเติม อย่างไร
การตรวจหา alpha-fetoprotien
(maternal serum alpha-fetoprotiemn
: MSAFP)
เป็นการตรวจเลือดของมารดาเพื่อประเมินความพิการแต่กำเนิด
และความผิดปกติทางโครโมโซมของทารก โดยเฉพาะภาวะ neural tube
defect (NTD) และในกรณีศึกษา มารดาตั้งครรภ์มีอายุมากและตรวจพบ
ความผิดปกติของโครโมโซมคู่ที่ 21
การตรวจอัลตราซาวด์
(ultrasounds) :computer:
การตรวจด้วยอัลตราซาวด์สามารถพบความผิดปกติบางอย่างที่สงสัย
ว่าเกี่ยวข้องกับความผิดปกติทางพันธุกรรมได้ เนื่องจากคลอดรายนี้มีอายุ 35 ปี
ในการตั้งครรภ์ถือว่าเป็นการตั้งครรภ์ที่อายุมาก
เพื่อคัดกรองความผิดปกติ เนื่องจากผู้คลอดรายนี้เคยแท้งบุตรมาแล้ว 2 ครั้ง
1. จงอภิปรายเหตุผลและผลการตรวจพิเศษ
ในหญิงตั้งครรภ์รายนี้
:speaking_head_in_silhouette:
การตรวจสุขภาพทารกในครรภ์เครื่องมือพิเศษ
โดย วิธี Biochemical Assessment
โดยการเจาะน้ำคร่ำส่งตรวจ (Amniocentesis)
:microscope:เหตุผลการตรวจพิเศษ
เนื่องจากกรณีศึกษาอายุ 35 ปี ในการตั้งครรภ์ถือว่าเป็นการตั้งครรภ์ที่อายุมาก
ซึ่งหญิงตั้งครรภ์ อายุ 35 ปี ความเสี่ยง 1 ใน 200 (1:200) หรือ 5 ใน 1,000
และโรคทางพันธุกรรมที่สามารถมีชีวิตอยู่ได้มากที่สุดในกลุ่มโรคโครโมโซมเกิน
พบได้ 1 ต่อ 500 ของการตั้งครรภ์ และ โดยมีหลักการเจาะ เป็นการเจาะดูดน้ำ
คร่ำซึ่งอยู่ล้อมรอบตัวทารกผ่านทางหน้าท้องมารดาเข้าสู่โพรงมดลูกและถุงน้ำคร่ำ
ในน้ำคร่ำจะมีเซลล์ amniocyte ซึ่งมี DNA เหมือนของทารกสามารถนำไปตรวจ
วิเคราะห์ทางด้าน molecular geneticเพื่อดูว่าทารกในครรภ์เป็นโรคหรือไม่ โดยใช้
เทคนิคเช่นเดียวกับในการตรวจ DNA จากชิ้นเนื้อรก
อายุครรภ์เหมาะสมในการตรวจคือ 16-20 สัปดาห์
:outbox_tray:ผลการตรวจพิเศษ
จากกรณีศึกษาหลังการเจาะน้ำคร่ำส่งตรวจ (Amniocentesis)
พบโครโมโซม 13disomy 18disomy 21 trisomy แปลผล คือ
มีความผิดปกติของ (Trisomy 21) คือกลุ่มอาการดาวน์
กลุ่มอาการดาวน์ (Trisomy 21) เกิดจากความผิดปกติของโครโมโซมคู่ที่ 21
เกินมา 1 โครโมโซม เป็นภาวะผิดปกติทางโครโมโซมที่พบได้บ่อยที่สุด
ทารกจะมีศีรษะค่อนข้างเล็กและแบน หางตาเฉียงขึ้น ดั้งจมูกแบน หูเกาะต่ำกว่าปกติ
ปากเล็ก ลิ้นมักยื่นออกมา อาจมีผนังกั้นห้องหัวใจรั่ว พัฒนาการช้า มีไอคิวค่อนข้างต่ำ
4. ท่านคิดว่าแบบการประเมินภาวะเสี่ยง
แบบใดที่เหมาะสมสำหรับนำมาประเมิน
หญิงตั้งครรภ์รายนี้
:bookmark_tabs:
:bookmark_tabs:แบบประเมินภาวะความเสี่ยง
ต่อการคลอดก่อนกำหนด
:warning:เคยแท้ง 2 ครั้ง
:pregnant_woman::skin-tone-2:อายุครรภ์น้อยกว่า 18 สัปดาห์
:pencil2:จัดทำโดย
นางสาวชวนันท์ รูปคุ้ม เลขที่ 18