Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

กฎหมายสาธารณสุขอื่นที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ…

- - - - เย็บบาดแผลที่ไม่สาหัส
      - ชะล้าง ทำแผล ตกแต่งบาดแผล
      - ผ่าเอาสิ่งแปลกปลอมซึ่งอยู่ในตำแหน่งซึ่งไม่เป็นอันตรายต่ออวัยวะสำคัญของร่างกายออก โดยฉีดยาระงับความรู้สึกทางผิวหนัง
      - ผ่าฝี
    - - การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค รวมถึงการฉีดวัคซีนป้องกันโรค
      - การวางแผนครอบครัว การฉีดยาคุมและจ่ายยาเม็ดคุมกำเนิด
      - ทำการช่วยเหลือในกรณีที่จะมี การทำแท้ง หรือหลังแท้งแล้ว
      - การเจาะโลหิตจากปลายนิ้วหรือหลอดเลือดดำเพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ หรือเพื่อบริจาคเข้าธนาคารเลือด
      - ทำการช่วยเหลือขั้นต้นในรายที่มีการคลอดผิดปกติ
      - ด้านปัจจุบันพยาบาล ให้การปฐมพยาบาลเกี่ยวกับการได้รับสารพิษ และสัตว์ มีพิษกัดต่อย การแพ้ยาการแพ้เซรุ่ม
      - ทำคลอดในรายปกติ
    - - การฉีดเซรุ่มแก้พิษงู
      - การสวนปัสสาวะ
      - การสวนล้างกระเพาะปัสสาวะอาหารโดยใช้สายยางในรายที่สงสัยว่ารับประทานสารพิษ
      - การให้น้ำเกลือในผู้ป่วยท้องเดินอย่างรุนแรง
- - - - รายการเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม การพยาบาล การผดุงครรภ์ ทันตกรรม เภสัชกรรมหรือผู้ประกอบโรคศิลปะ ซึ่งประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลนั้น
      - อัตราค่ารักษาพยาบาลและค่าบริการ
      - สิทธิของผู้ป่วย
      - ชื่อสถานพยาบาล
  - - - ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษา หรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่ เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ
      - มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย
      - มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
      - ไม่เป็นโรคที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา
      - ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
      - ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต คนไร้ความสามารถ หรือ คนเสมือนไร้ความสามารถ
  - - - สถานที่รวมตลอดถึงยานพาหนะ ซึ่งจัดไว้เพื่อการประกอบ
        โรคศิลปะตามกฎหมาย โรคศิลปะ วิชาชีเวชกรรม การพยาบาล การผดุงครรภ์ ทันตกรรม
    - - ผู้ขอรับบริการในสถานพยาบาล
    - - ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล
    - - ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล
    - - ผู้ประกอบโรคศิลปะ ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมการพยาบาล การผดุงครรภ์ ทันตกรรม เภสัชกรรม หรือผู้ประกอบวิชาชีพอื่นตามที่รัฐมนตรีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
  - - - ผู้รับอนุญาตหรือผู้กระทำการหรือละเว้นกระทำการจนเป็นเหตุให้ผู้อยู่ในสถานพยาบาลหรือใกล้เคียงกับสถานพยาบาลเดือดร้อนหรือเกิดอันตราย
      - สถานพยาบาลไม่แก้ไขปรับปรุงการประกอบกิจการ เครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์ตามที่มีคำสั่งภายในเวลาที่กำหนด
      - ผู้รับอนุญาตไม่ชำระค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการสถานพยาบาลตามเวลาที่กำหนด
      - ผู้รับอนุญาตหรือผู้ดำเนินการปฏิบัติไม่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติหรือผู้รับอนุญาตไม่ปฏิบัติภายในเวลาที่กำหนด
    - - ไม่ช่วยเหลือผู้ป่วยในภาวะอันตรายและไม่ช่วยเหลือมีโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
      - โฆษณาสถานพยาบาลอันเป็นเท็จหรือโอ้อวดเกินความจริงมีโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาทและปรับอีกวันละไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทนับแต่วันที่ฝ่าฝืนจนกว่าจะระงับการโฆษณานั้น
      - ไม่จัดให้มีผู้ประกอบวิชาชีพ เครื่องมือ ยาเวชภัณฑ์ ไม่จัดทำรายงานการรักษาพยาบาล ไม่ดูแลสถานที่มีโทษจำคุกไม่เกิน
        หนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
      - จัดทำหลักฐานค่ารักษาพยาบาลหรือเอกสารแสดงผลการรักษาพยาบาลอันเป็นเท็จ มีโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
      - ไม่แสดงใบอนุญาตไว้ในที่เปิดเผยโทษปรับไม่เกินหมื่นบาท
  - - - สถานพยาบาลการผดุงครรภ์ ให้บริการมารดาและทารกก่อนคลอดและหลังคลอดการคลอดปกติ การส่งเสริมสุขภาพและการอนามัยแม่และเด็ก โดยสามารถรับผู้ป่วยไว้ค้างคืนไม่เกิน 30 เตียง
      - สถานพยาบาลผู้ป่วยเรื้อรัง ให้บริการผู้ป่วยเรื้อรังโดยวิธีการทางการพยาบาล ซึ่งหน้าที่ของผู้ประกอบวิชาชีพตามบทบาทหน้าที่
      - คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ให้บริการด้านการพยาบาล การดูแลมารดาและทารกก่อนคลอดและหลังคลอด ยกเว้นการทำคลอด
- - - - การแยกผู้สัมผัสโรค หรือพาหะพ้นระยะฟักตัว
    - - การแยกผู้สัมผัสโรคหรือพาหะ ออกไว้ต่างหากจากผู้อื่นพ้นระยะติดต่อ
    - - การควบคุมดูแลผู้สัมผัสหรือพาหะโดยไม่กักกันผู้นั้นต้องแสดงตัวต่อเจ้าพนักงานสาธารณสุขประจำท้องที่นั้นเพื่อตรวจ
    - - ท้องที่หนึ่งท้องที่ใด ในหรือนอกราชอาณาจักรที่มีโรคติดต่อเกิดขึ้น
    - - ระยะเวลาที่เชื้อโรคสามารถจะแพร่จากคนหรือสัตว์ที่มีเชื้อโรคไปยังผู้อื่นได้
    - - ยาน สัตว์ หรือวัตถุ ซึ่งใช้ในการขนส่งคน สัตว์หรือส่งของทางบก ทางน้ำ หรือทางอากาศ
    - - ระยะเวลาตั้งแต่เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายจนถึงเวลาที่ผู้ติดโรคแสดงอาการป่วยของโรคนั้น
    - - ผู้รับผิดชอบในการควบคุมพาหนะ
    - - คนซึ่งได้ใกล้ชิด คน สัตว์ หรือสิ่งของ ติดโรค จนเชื้อโรคนั้นอาจติดต่อถึงผู้อื่นได้
    - - คนซึ่งเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร รวมทั้งผู้ควบคุมพาหะ และคนประจำพาหนะ
    - - คนหรือสัตว์ ซึ่งไม่มีอาการของโรคติดต่อปรากฎแต่ร่างกายมีเชื้อโรคนั้นซึ่งอาจติดต่อถึงผู้อื่นได้
    - - การกระทำทางการแพทย์ยต่อคนหรือสัตว์เพื่อให้เกิดอำนาจต้านทานโรค
    - - โรคติดต่อซึ่งรัฐมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษาให้เป็นโรคติดต่อต้องแจ้งความ
    - - ที่ใดๆซึ่งเจ้าพนักงานสาธารณสุขกำหนดให้เป็นที่สำหรับแยกกักเพื่อควบคุมไม่ให้โรคแพร่
    - - โรคซึ่งรัฐมนตรีปและรัฐมนตรีหรือผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษาให้เป็นโรคติดต่อด้วย
    - - เจ้าพนักงานซึ่งได้รับแต่งตั้งให้มีหน้าที่รับผิดชอบสาธารณสุขเฉพาะท้องที่
    - - ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
    - - รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
  - - - โรคติดต่ออันตราย หรือต้องแจ้งความ หรือสงสัยแจ้งต่อเจ้าพนักงานสาธารณสุขหรือพนักงานเจ้าหน้าที่แห่งท้องที่ภายใน 24 ชั่วโมง นับแต่เริ่มมีการเจ็บป่วยหรือสงสัย
    - - มีการเจ็บป่วยหรือมีเหตุสงสัยว่าได้มีการป่วยโดยโรคติดต่อเกิดขึ้นในบ้านให้เป็นหน้าที่เจ้าบ้าน ผู้คุมดูแล หรือแพทย์
      - มีการชันสูตรทางแพทย์ตรวจพบว่าอาจมีเชื้อให้เป็นหน้าที่ของผู้ทำการชันสูตรทางแพทย์หรือผู้รับผิดชอบ
      - มีโรคติดต่ออันตราย หรือต้องแจ้งความ หรือสงสัย แจ้งเจ้าพนักงานสาธารณสุขหรือเจ้าหน้าที่
      - มีการป่วยหรือมีเหตุสงสัยว่าได้มีการป่วยด้วยโรคติดต่อเกิดขึ้นในสถานพยาบาลให้เป็นหน้าที่ของผู้รับผิดชอบในสถานพยาบาลนั้น
    - - เจ้าบ้านหรือผู้ควบคุมดูแลบ้าน ต้องแจ้งชื่อและที่อยู่ของตนความสัมพันธ์กับผู้ป่วย
      - แพทย์ผู้ทำการรักษา หรือผู้รับผิดชอบต้องแจ้งชื่อที่อยู่และสถานที่ทำงานของตน
        ผู้ทำการชันสูตรทางแพทย์ส่งวัตถุตัวอย่าง ผลการชันสูตร
      - ชื่อ อายุที่อยู่ของผู้ป่วย สถานที่ที่ผู้ป่วยพักรักษา วันเริ่มป่วยและอาการสำคัญของผู้ป่วยวันแรกรับไว้รักษาการวินิจฉัยโรคขั้นต้น และสภาพผู้ป่วยขณะแจ้งความ
    - - นายอำเภอเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ในเขตจังหวัดนั้นๆ
      - นายกเทศมนตรี หัวหน้าฝ่ายสาธารณสุข ประธานกรรมการสุขาภิบาลและหัวหน้าฝ่ายสาธารณสุขสุขาภิบาล เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่เฉพาะเขตเทศบาล
      - ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ในเขตจังหวัดนั้นๆ
      - กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่เฉพาะในเขตตำบลหรือหมู่บ้านนั้นๆแล้วแต่กรณี
      - หัวหน้าฝ่ายสาธารณสุขเมื่อพัทยา เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่เฉพาะในเขตเมืองพัทยา
      - ผู้มีอำนาจในการควบคุมโรคติดต่อตาม พ.ร.บ ฉบับนี้
      - ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคติดต่อ สำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ในเขตกรุงเทพมหานคร
    - - มีโรคติดต่ออันตรายเกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรรัฐมนตรีหรือ
        มอบหมายมีอำนาจประกาศให้ท้องที่หรือเมืองท่าในต่างประเทศนั้นๆเป็นเขตติดโรค
      - ค่าใช้จ่ายต่างๆที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานสาธารณสุขในการควบคุมและป้องกัโรคติดต่อ
      - กำหนดให้ช่องทางและด่านตรวจคนเข้าเมืองต เป็นด่าน
        ควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศไม่ว่าจะเป็นดรคติดต่ออันตรายหรือไม่
    - - ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศ หรือคำสั่งของเจ้าพนักงานสาธารณสุขซึ่งรัฐมนตรีหรือผู้ว่าราชการจังหวัดกำหนดและประกาศไว้ มีโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
      - เจ้าของยานพาหนะหรือผู้ควบคุมยานพาหนะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานสาธารณสุขมีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
      - บุคคลใดไม่แจ้งต่อเจ้าพนักงานสาธารณสุข มื่อมีโรคติดต่ออันตรายมีโทษปรับไม่เกินสองพันบาท
    - - ผู้แจ้งความโรคติดต่อ เมื่อพบหรือสงสัยว่าผู้ป่วยหรือผู้มาขอรับบริการสาธารณสุขป่วยด้วยโรคติดต่ออันตรายแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขภายใน 24 ชั่วโมง นับแต่เมื่อพบหรือมีเหตุสงสัย
      - ผู้ควบคุมการระบาดของโรค เมื่อมีผู้ป่วยโรคติดต่ออยู่ในความดูแลการแยกผู้ป่วย การเฝ้าดูอาการเมื่อมีเหตุสงสัยว่าอาจเป็นโรคติดต่อ การเคร่งครัดต่อมาตรฐานความปลอดภัย
- - - - การควบคุมผู้สัมผัสโรคหรือพาหะพ้นความเป็นพาหะ
    - - การควบคุมดูแลผู้สัมผัสโรคหรือพาหะโดยไม่กักกัน และอาจจะอนุญาตให้ผ่านไปในที่ใด ๆ ก็ได้ต้องแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่
    - - การแยกผู้สัมผัสโรคหรือพาหะไว้พ้นระยะติดต่อ
    - - ระยะเวลาตั้งแต่เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายจนถึงเวลาที่ผู้ติดโรคแสดงอาการป่วยของโรคนั้น
    - - ระยะเวลาที่เชื้อโรคสามารถแพร่จากคนหรือสัตว์ที่มีเชื้อโรค ไปยังผู้อื่นได้โดยทางตรงหรือทางอ้อม
    - - ท้องที่หรือเมืองท่าใดนอกราชอาณาจักรที่มีโรคติดต่ออันตราย หรือโรคระบาดเกิดขึ้น
    - - คนซึ่งได้เข้าใกล้ชิดคน สัตว์ หรือสิ่งของติดโรค จนเชื้อโรคนั้น อาจติดต่อถึงผู้นั้นได้
    - - กระบวนการเพื่อหาสาเหตุแหล่งที่เกิดและแหล่งแพร่ของโรคเพื่อประโยชน์ในการควบคุมโรค
    - - คนหรือสัตว์ซึ่งไม่มีอาการของโรคติดต่อปรากฏแต่ร่างกายมีเชื้อโรคนั้น ซึ่งอาจติดต่อถึงผู้อื่นได้
    - - การสังเกต การเก็บรวบรวม และการวิเคราะห์ข้อมูลและการติดตามผลของการแพร่อย่างต่อเนื่องด้วยกระบวนการที่เป็นระบบ
    - - ยานพาหนะ สัตว์ หรือวัตถุ ซึ่งใช้ในการขนส่งคน สัตว์ หรือสิ่งของ โดยทางบก ทางน้ำ หรือทางอากาศ
    - - โรคติดต่อหรือโรคที่ยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคแน่ชัด ซึ่งอาจแพร่ไปสู่ผู้อื่นได้อย่างรวดเร็วและกว้างขวาง
    - - โรคติดต่อที่ต้องมีการติดตาม ตรวจสอบ หรือจัดเก็บ ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง
    - - ตัวแทนเจ้าของ ผู้เช่าตัวแทนผู้เช่า หรือผู้ครอบครอง พาหนะนั้น
    - - ผู้รับผิดชอบในการควบคุมพาหนะ
    - - โรคติดต่อที่มีความรุนแรงสูงและสามารถแพร่ไปสู่ผู้อื่นได้ อย่างรวดเร็ว
    - - โรคที่เกิดจากเชื้อโรคหรือพิษของเชื้อโรคซึ่งสามารถแพร่โดยทางตรง หรือทางอ้อมมาสู่คน