Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

บทที่3 การเตรียมและการช่วยเหลือมารดาและทารกที่ได้รับการตรวจด้วยเครื่องมือ…

- - - - หลักการเจาะ เจาะดูดน้ำคร่ำรอบตัวทารกผ่านทางหน้าท้องมารดาเพื่อดูว่าทารกในครรภ์เป็นโรคหรือไม่
        
        1.ตรวจหาความผิดปกติทางโครโมโซม เช่น Down's syndrome
        
        เช่น
        1.1มารดาอายุ>35ปี
        1.2เคยคลอดบุตรที่มีโครโมโซมผิดปกติ
        1.3บิดามารดามีความผิดปกทางโครโมโซมชนิด balance translocation
        
        ทำช่วงอายุครรภ์ 16-18wks.
        
        2.การตรวจสอบความสมบูรณ์ของปอดทารก
        
        2.1จากการดูสีน้ำคร่ำ มีเลือดปนใสหรือขึ่น มีสีของขี้เทาปนหรือไม่
        
        2.2จากการตรวจสอบความสมบูรณ์ของปอดทารก โดยวิธี L/S Ratio
        
        2.3การตรวจสอบความสมบูรณ์ของปอดทารกโดยวิธี clement's Foam หรือ Foam stability หรือ shake test
    - - บ่งบอกถึงภาวะการมีชีวิตของทารกในครรภ์และการทำหน้าที่ของรก
    - - เป็นการตรวจเลือดมารดาเพื่อประเมินความพิการแต่กำเนิดและความผิดปกติของโครโมโซมของทารก
    - - การตัดเนื้อ chronia มาตรวจโดยผ่านทางปากมดลูกหรือทางหน้าท้องอาศัยคลื่นถี่สูงในการหาตำแหน่ง โดยนำเนื้อมาตรวจโครโมโซมวิเคราะห์DNAและดูเอนไซม์ต่างๆ และสามารถทำได้ตั้งแต่ไตรมาสแรก
    - - เริ่มทำอายุครรภ์ 18wks.ขึ้นไป ดูความผิดปกติและโรคต่างๆของทารก
  - - - Ultrasound
        
        วินิจฉัยอายุครรภ์
        
        ติตามการเจริญเติบโต
        
        วินิจฉัยความพิการแต่กำเนิดของทารก
        
        วินิจฉัยครรภ์แฝด
        
        วินิจฉัยสาเหตึการมีเลือดออกทางช่องคลอด เป็นต้น
    - - การประเมินปริมาณน้ำคร่ำจะช่วยทำนายสุขภาพทารกในครรภ์
        
        วิธีวัดที่1 วัดแอ่งลึกสุดของนำคร่ำ
        
        การวัดความลึกน้ำคร่ำบริเวณที่ลึกที่สุด โดยตั้งฉากกับท้องมารดาโดยการวัดไม่ให้มีสายสะดือหรือส่วนต่างๆทารกขวาง ค่าปกติ 2.1-8cm.
        
        วิธีที่2วัดดัชนีปริมาณน้ำคร่ำ
        
        แบ่งหน้าท้อง4ส่วนเท่ากัน โดยอาศัยแนวสะดือ linea nigra และวัดความลึกของน้ำคร่ำบริเวณที่ลึกสุดในแนวตั้งแต่ละส่วน แล้วนำแต่ละส่วนมาบวกกัน รวมค่าปกติ 5-24cm.
    - - การประเมินภาวะสุขภาพทารกในครรภ์ อาศับหลักการ เมื่อทารกขาดออกซิเจน ศูนย์ควบคุมการทำงานของร่างกายที่ระบบประสาทส่วนกลางก็ขาดออกซิเจน ทำให้การทำงานร่างกายบกพร่อง
    - - วินิจฉัยดูขนาดของทารกการเจริญเติบโต ตำแหน่งรก
        ปัจจุบันไม่นิยม เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายต่อตัวทารกได้
  - - - 1.Internal or direct monitoring การตรวจจับคลื่นไฟฟ้าที่เกิดจากการเต้นของหัวใจโดยตรง
      - 2.External monitoring เป็นการตรวจอัตราการเต้นของหัวใจทารกโดยใชเ Doppler วางไว้ผนังหน้าท้อง
    - - non-stress test(NST)
        
        ตรวจการตอบสนองของอัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์เมื่อทารกดิ้นหรือเครื่องไหว
        
        ใช้เวลาทำประมาณ 20นาที
      - contraction stress test (CST)
        
        เมื่อมดลูกมีการหดรัดตัวจะทำให็ทารกขาดเลือดหรือออกซิเจนชั่วคราว