Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พัฒนาการวิชาชีพพยาบาลในประเทศไทย, วัลลภา บุญรอด.2555.เอกสารประกอบการเรียนก…
พัฒนาการวิชาชีพพยาบาลในประเทศไทย
ด้านการวิจัยทางการพยาบาล
พ.ศ.2538
มุ่งเน้นการพัฒนาบัณฑิตศึกษาและพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถในการวิจัย เพื่อให้ทำการวิจัยหลังสำเร็จการศึกษา จึงพบว่างานวิจัยทางการพยาบาลมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
พ.ศ. 2544
พบว่า มีพยาบาลจบการศึกษาระดับปริญญาโทและเอก จำนวน 2,579 คน และมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
พ.ศ. 2549
จากการสำรวจงานวิทยาพนธ์ทางการพยาบาลของคณะพยาบาลในมหาวิทยาลัยของรัฐในส่วนภูมิภาค
ได้แก่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มีงานวิจัยจำนวน 984 เรื่องที่ปรากฎในฐานข้อมูลของสถาบัน
พ.ศ. 2518
คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลได้จัดสัมนาการวิจัยทางการพยาบาลเป็นการกระตุ้นการทำวิจัย
พ.ศ.2521
คณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้จัดฝึกอบรม เชิงปฏิบัติการการวิจัยทางการพยาบาล มีการอบรมฟื้นฟูความรู้ด้านการวิจัยให้แก่คณาจารย์ และพยาบาลทั่วไป ตลอดจนการประชุมทางวิชาการและการ เสนอผลงานวิจัยทางการพยาบาล นอกจากนั้นได้จัดพิมพ์วารสารการศึกษาและวิจัยพยาบาลเล่มแรก
ด้านการปฏิบัติการพยาบาล
สมัยสุโขทัย
ไม่พบหลักฐานการปฏิบัติการทางพยาบาล แต่มีการใช้ยาสมุนไพร นำมาบดใช้รักษา
มีความเชื่อถือโชคลาง ไสยศาสตร์
พิธีเสียกบาล หินบด
สมัยอยุธยา
สมัยนี้มีการติดต่อกับชาวต่างชาติ พบบันทึกการแพทย์โบราณของต่างชาติ
มีการรักษาแบบตะวันตก ในราชวงศ์ แต่ชาวบ้านยังใช้วิธีทางไสยศาสตร์ สมุนไพรจากพืชและสัตว์ในการรักษา
สมัยธนบุรี
เป็นช่วงที่ทำศึกสงครามกับพม่าบ่อยจึงไม่มีหลักฐานมากนัก แต่เชื่อว่าคงไม่แตกต่างจากสมัยอยุธยาและสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นมากนัก
สมัยรัตนโกสินทร์
พ. ศ. 2439 - 2468
มีการสร้างโรงพยาบาลและโรงเรียนพยาบาลเพื่อประชาชนทั่วไปคือโรงเรียนพยาบาลสภากาชาดไทย
ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2
ารรักษาพยาบาลแผนใหม่ได้รับความนิยมสูงขยายถึงประชาชนมากยิ่งขึ้นมีการปรับปรุงมาตรฐานการพยาบาลโดยแพทย์และพยาบาลต่างประเทศ
เน้นการรักษาพยาบาลมากกว่าการป้องกัน
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2
มีการกระจายการป้องกันและการรักษาโรคออกไปตามท้องถิ่นมากขึ้นมีการสร้างโรงพยาบาลและสถานีอนามัยเพิ่มขึ้นทุกๆปี
พ.ศ 2499 - 2515
บริการสาธารณสุขแผ่ขยายไปอย่างรวดเร็วทั้งด้านการบริการและการศึกษารวมถึงแนวทางในการพัฒนาการสร้างความรู้ให้ชุมชนและผู้ป่วยให้ช่วยเหลือตัวเองได้
พ. ศ. 2515 - 2528
เป้าหมายในการสนองนโยบายขององค์กรอนามัยโลกให้ประชาชนทุกคนมีสุขภาพดีถ้วนหน้า
รัฐมีนโยบายให้บริการสาธารณสุขครอบคลุมทุกพื้นที่ทั้งในเมืองและชนบทเพิ่มการป้องกันโรคและฟื้นฟูสุขภาพให้ทัดเทียมกับการให้การรักษาพยาบาล
ด้านการศึกษาพยาบาล
ยุคริเริ่ม(พ.ศ.2439-2468)
มีการจัดตั้งโรงเรียนแพทย์ผดุงครรภ์และหญิงพยาบาล ของสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนารถขึ้น
เกิดจากทรงตระหนักถึงความทุกข์ทรมานและการเสียชีวิตในการคลอดของสตรีโดยหมอตำแยที่ไม่มีความรู้
พ. ศ. 2449
มีการเปิดสอนหลักสูตรพยาบาลชายขึ้นระยะเวลาการเรียน 1 ปีเรียกว่าบุรุษพยาบาลมีผู้สำเร็จการศึกษารุ่นแรกเมื่อปีพศ. 2450 ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพพยาบาล
พ. ศ. 2457
มีการจัดตั้งวิทยาลัยพยาบาลสภากาชาดไทยสอนหลักสูตรการพยาบาลในประเทศไทยเป็นแห่งแรก
ยุคปรับปรุง(พ.ศ.2469-2498)
สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร
พระองค์ท่านไปศึกษาต่างประเทศและกลับมาพัฒนาการแพทย์
โดยให้พยาบาลชาวอเมริกันมาปรับปรุงหลักสูตรการพยาบาลของไทยให้เป็นมาตรฐานเทียบเท่าสากล
ยุคทองของการพยาบาล
ยุคฟื้นฟู(พ.ศ.2499-2530)
มีการพัฒนาของการพยาบาลเปลี่ยนเป็นวิชาชีพพยาบาลที่มั่นคง
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติในปีพ.ศ. 2542 มีผลเกี่ยวกับวิชาชีพพยาบาล
มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
เปลี่ยนมาใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น
สนับสนุนและเน้นทักษะในเชิงวิชาชีพ
การพัฒนาองค์กรทางวิชาชีพทางการพยาบาล
พ.ศ. 2471
ก่อตั้งสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางวิจัยค้นคว้าในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและปรับปรุงมาตรฐานการพยาบาล
พ.ศ.2514
มีการจัดทำยกร่างพระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ฉบับแรก
พ.ศ.2518
มีการประชุมพยาบาลแห่งชาติครั้งที่ 1 และเสนอให้มีการปรับปรุงพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลป์
มีการจัดตั้งสภาการพยาบาลขึ้น
ทำหน้าที่ควบคุมมาตรฐานและการยกข้อกำหนดหรือจรรยาบรรณทางวิชาชีพ
มุมมองของสังคมต่อวิชาชีพพยาบาล
พยาบาลในความเห็นของสังคมถูกมองว่า เป็นอาชีพที่มีเกียรติ เป็นอาชีพที่ให้บริการโดยแท้จริง เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละอดทนและมีเมตตา เป็นอาชีพที่หางานทำได้ไม่ยาก
จากการสำรวจความคาดหวังพยาบาลที่ประชาชนต้องการ
คาดหวังในการได้รับบริการที่ดีและรวดเร็วและมักเกิดข้อเปรียบเทียบระหว่างโรงพยาบาลรัฐและโรงพยาบาลเอกชน
ต้องมีความรู้ที่แท้จริงสามารถช่วยเหลือและให้คำปรึกษากับผู้มารับบริการได้
วัลลภา บุญรอด.2555.เอกสารประกอบการเรียนการสอนรายวิชา 619413 ประเด็นและแนวโน้มทางวิชาชีพ.สืบค้นเมื่อ 8 พฤษภาคม 2563,
http://sutir.sut.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/5772
ไพลิน นุกูลกิจ.2529.การวิเคราะห์พัฒนาการของการศึกษาพยาบาลในประเทศไทย.สืบค้นเมื่อ 9 พฤษภาคม 2563,
http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/29994
อรนุช อักษรดี.2560.ภาพลักษณ์ของพยาบาลตามการรับรู้ของผู้ใช้บริการที่แผนกผู้ป่ วยนอก.สืบค้นเมื่อ 10 พฤษภาคม 2563,
http://digital_collect.lib.buu.ac.th/dcms/files/55920300.pdf