Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กฏหมายอาญาที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์,…
กฏหมายอาญาที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
กฏหมายอาญา
คือกฏหมายมหาชนประเภทหนึ่งที่กำหนดความสัมพันธ์
ระหว่างรัฐกับราษฎร
ประเภท
ประมวลกฏหมายอาญา
คือกฏหมายที่รวบรวมการกระทำผิดสำคัญๆ และบังคับใช้
เช่น
ปล้นทรัพย์
ยักยอก ฉ้อโกง
วิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์
ปลอมแปลงเอกสาร
รับของโจร
ข่มขืนกระทำชำเรา
ความผิดฐานลักทรัพย์
กฏหมายอาญาประเภทอื่นๆ
กฏหมายที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเฉพาะเรื่อง
เช่น
พระราชบัญญัติวิชาชีพการ พยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ.2528
พระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525
พระราชบัญญัติควบคุมการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ.2479
พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541
ความผิดทางอาญา
คือ การกระทำผิดที่มีผลกระทบต่อสังคมหรือคนส่วนใหญ่ของประเทศ
ประเภท
ความผิดต่อแผ่นดิน
ความผิดที่สำคัญและร้ายแรง มี
บุคคลที่ได้รับความเสียหายจะดำเนินคดีฟ้องี้องได้ด้วยตัวเองแล้ว รัฐจำเป็นต้องเข้าไปดำเนินคดี
ผลต่อกระทบต่อผู้ได้รับความเสียหายและสังคมส่วนรวม
ความผิดต่อส่วนตัว
ความผิดที่ไม่ร้ายแรง
มีผลกระทบต่อผู้ที่ได้รับความเสียหายฝ่ายเดียว
ผู้ที่ได้รับความเสียหายเท่านั้นที่จะฟ้องร้องได้เอง
หลักเกณฑ์ความรับผิดทางอาญา
ตามประมวลกฏหมายอาญา บุคคลจะต้องรับผิดทางอาญาเมื่อการกระทำของบุคคลนั้นครบองค์ประกอบ
ต้องมีการกระทำ
หมายถึง การเคลือนไหวร่างกายภายใต้การบังคับจิตใจและควบคุมได้
การเคลื่อนไหวร่างกายที่ไม่อยู่ในบังคับจิตใจ เช่น รีเฟล็กซ์ ชักกระตุก หรือไม่รู้สึก ไม่ถือเป็นการกระทำที่ต้องไได้รับโทษทางอาญา
ลักษณะ
การกระทำโดยงดเว้น
ป้องกันโดยชอบด้วยกฏหมาย
หลักเกณฑ์
ภยันตรายนั้นเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง
ต้องเป็นการกระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือของผู้อื่นให้พ้นจากภยันตรายนั้น
ต้องเป็นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย
ผู้ใดจำต้องกระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิ ของตนหรือของผู้อื่น ให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิด จากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และ เป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้ากระทำพอสมควร แก่เหตุการณ์กระทำนั้นเป็นการป้องกันโดยชอบ ด้วยกำหมาย ผู้นั้นไม่มีความผิด
หน้าที่จักต้องกระทำ
โดยการกระทำของผู้กระทำผิดเอง
1.โดยกฎหมายบัญญัติ
บิดา มารดา มีหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูบุตร ผู้เยาว์/หรือทุพพลภาพที่หาเลี้ยงตัวเองไม่ได้
สามีภรรยาต้องช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูซึ่งกันและกัน
บุตรต้องอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดา
บทบัญญัติของกฎหมายนี้ถือว่าการที่บุคคลใดมีหน้าที่ที่ จะต้องกระทำการใด เพื่อป้องกันผลร้ายอย่างใดอย่างหนึ่ง เกิดขึ้น ต้องถือบุคคลผู้มีหน้าที่นั้นเป็นผู้กระทำให้เกิดผล ร้ายแรงเอง
ความยินยอม
องค์ประกอบ
ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี ของประชาชน เช่น การยอมให้ฆ่าไม่อาจ กระทำได้เพราะผิดกฎหมาย
ความยินยอมต้องมีอยู่ในขณะกระทำผิด
ต้องยินยอมโดยบริสุทธิ์ใจ มิได้เกิดขึ้นจาก ความหลอกลวง ขู่เข็ญหรือสำคัญผิดใน ข้อเท็จจริง
หมายความว่า การอนุญาตให้ กระทำได้ เป็นการปล่อยให้เหตุการณ์เกิดขึ้น โดยไม่ขัดขวาง
การกระทำนั้นกฎหมายบัญญัติว่า
เป็นการกระทำผิดและกำหนดโทษไว้
ต้องกระทำโดยเจตนา หากเป็นการกระทำ
โดยประมาทหรือไม่เจตนา ต้องมีกฎหมาย
กำหนดไว้ด้วยว่าจะต้องรับโทษ
การกระทำโดยประมาท
มาตรา 59 วรรค 4 กระทำโดยประมาท ได้แก่ กระทำความผิดโดยมิได้เจตนา แต่ทำ โดยปราศจากความระมัดระวัง ซึ่งบุคคลเหล่านั้น จักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และผู้กระทำ อาจใช้ความระมัดระวังแต่ไม่เพียงพอ
องค์ประกอบ
1.การกระทำนั้นเป็นการกระทำที่ไม่เจตนากระทำผิด
2.ได้กระทำไปโดยปราศจากความระมัดระวัง ซึ่งบุคคลในภาวะ เช่นนั้น ต้องมีตามวิสัย และพฤติการณ์
3.ผู้กระทำอาจใช้ความระมัดระวังได้ แต่หาได้ใช้เพียงพอไม่
การกระทำโดยไม่เจตนา
หมายถึง การกระทำที่ไม่ทั้งประสงค์ต่อผลหรือเล็งเห็นผล ที่เกิดขึ้นจากการกระทำ
การกระทำโดยไม่เจตนานี้ผู้กระทำจะต้องได้รับโทษทางอาญาหากเป็นการกระทำซึ่งกฎหมายบัญญัติว่าต้องรับโทษแม้ไม่เจตนา
การกระทำโดยเจตนา
มาตรา 59 วรรค 2 การกระทำโดยเจตนา ได้แก่ กระทำ โดยรู้สึกในการ
กระทำและขณะเดียวกันผู้กระทำประสงค์ต่อ ผลหรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้น
องค์ประกอบ
ต้องกระทำโดยรู้สึกในการกระทำ
ต้องกระทำโดยประสงค์ต่อผลหรือเล็งเห็นผล
ไม่มีกฎหมายยกเว้นความรับผิด
หรือกฎหมายยกเว้นโทษ
เหตุยกเว้นโทษ
กระทำผิดด้วยความจำเป็น
เพราะอยู่ในที่บังคับหรือภายใต้อำนาจซึ่งไม่ อาจหลีกเลี่ยงหรือขัดขืนได้
เพราะเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นพ้นจาก ภยันตรายที่ใกล้จะถึงและไม่สามารถหลีกเลี่ยง ให้พ้นโดยวิธีอื่นก็ได้ เมื่อภยันตรายนั้นตนมิได้ ก่อขึ้น เพราะความผิดของตน
กระทำผิดเพราะไม่สามารถรู้ผิดชอบ
ผู้ใดกระทำความผิดในขณะไม่สามารถ บังคับตนเองได้เพราะมีจิตบกพร่องโรคจิตหรือจิต ฟั่นเฟือน ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษสำหรับความผิดนั้น
หลักเกณฑ์
ต้องกระทำผิดในขณะที่ไม่สามารถรู้รับผิดชอบหรือไม่ สามารถบังคับตนเองได้
2.เพราะจิตบกพร่อง โรคจิต หรือจิตฟั่นเฟือน
กระทำตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน
หลักเกณฑ์
2.คำสั่งนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย หมายถึง คำสั่ง ที่กฎหมายไม่ให้อำนาจที่จะให้ออกคำสั่งเช่นว่า นั้นได้
3.ผู้กระทำมีหน้าที่ หรือเชื่อโดยสุจริตใจว่ามีหน้า ที่ต้องปฏิบัติตาม
กระทำตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน เจ้าพนักงาน หมายถึง บุคคลที่ได้รับการแต่งตั้ง ตามกฎหมาย
ผู้ใดกระทำตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน แม้ คำสั่งนั้นจะมิชอบด้วยกฎหมาย ถ้าผู้กระทำ มีหน้าที่หรือเชื่อโดยสุจริตว่ามีหน้าที่ต้องปฏิบัติ ตาม ผู้นั้นไม่รับโทษ เว้นแต่จะรู้ว่าคำสั่งนั้นเป็น คำสั่งซึ่งมิชอบด้วยกฎหมาย
อายุความ และโทษทางอาญา
อายุความ
การลงโทษผู้กระทำผิดทางอาญา ต้องอยู่ในระยะของอายุความที่ศาลจะลงโทษได้ด้วย หากผู้เสียหาย ได้ปล่อยปละละเลยหรือจำเลยได้หลบหนีไปจน หมดอายุความแล้ว พนักงานอัยการผู้เป็นโจทย์ก็ จะสั่งฟ้องผู้ต้องหาไม่ได้ หรือศาลจะสั่งลงโทษ จำเลยอีกไม่ได้
โทษทางอายุ
สภาพบังคับของกฏหมาย
การลงโทษเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงความรู้สึกของชุมชนในการโต้ตอบผู้ที่กระทำละเมิด กฎระเบียบ
โทษสำหรับผู้กระทำ
ประหารชีวิต
จำคุก
กักขัง
ปรับ
ริบทรัพย์สิน
ความผิดทางอาญากับการประกอบ
วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
การทำหรือรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ
ผู้ใดในการประกอบการงานในวิชาแพทย์ กฎหมาย บัญชี หรือวิชาชีพอื่นใด ทำคำ รับรองเอกสารอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะ เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
ระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกิน สี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การเปิดเผยความลับผู้ป่วย
ผู้ใดล่วงรู้หรือได้มาซึ่งความลับของผู้ป่วยโดยเหตุที่เป็น เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ โดยเหตุที่ประกอบอาชีพเป็นแพทย์ เภสัชกร คนจำหน่ายยา ผู้พยาบาล นางผดุงครรภ์ นักบวช ทนายความ หรือผู้สอบบัญชี หรือโดยเหตุที่เป็นผู้ร่วมในการ ประกอบอาชีพนั้น แล้วเปิดเผยความลับนั้นในประการที่น่าจะ เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด
ทอดทิ้งหรือปล่อยปะละเลยผู้ป่วย
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน สามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ใดมีหน้าที่ตามกฎหมายหรือตามสัญญา ต้องดูแลผู้ซึ่ง พึ่งตนเองมิได้เพราะอายุ ความเจ็บป่วย กายพิการ หรือจิต พิการ ทอดทิ้งผู้ซึ่งพึ่งตนเองมิได้นั้นเสียโดยประการที่น่าจะ เป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ชีวิต
ประกอบวิชาชีพ โดยผู้ป่วยไม่ยินยอม
ต้องระวางโทษจำคุกไม่ เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ
ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่ กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้ กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจน ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น
ประมาทในการประกอบวิชาชีพ
กระทำโดยประมาท ได้แก่ กระทำความผิด มิใช่โดยเจตนา แต่กระทำโดยปราศจากความ ระมัดระวัง
ได้แก่
การฉีดยาที่สะโพก ผิดเทคนิค ทำให้เส้นประสาท SCIATIC ได้รับ บาดเจ็บผู้ป่วยมีอัมพาตของขา
การวางกระเป๋าน้ำร้อนและทำเกิดการไหม้ของผิวหนังผู้ป่วย
การไม่ช่วยเหลือหรือปฏิเสธการประกอบวิชาชีพ
โทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ใดเห็นผู้อื่นตกอยู่ในภยันตรายแห่งชีวิต ซึ่งตนอาจช่วยได้โดยไม่ควรกลัวอันตรายแก่ตน หรือผู้อื่น แต่ไม่ช่วยตามความจำเป็น
ได้แก่
การปฏิเสธไม่ ช่วยเหลือผู้ป่วยที่เข้ามาขอรับการรักษาพยาบาล ที่โรงพยาบาล
การอ้างกฎระเบียบของโรง พยาบาลหรืออ้างว่าอาการหนักเกินกว่าจะรับไว้ รักษาได้ หรือเตียงเต็ม
การทำให้แท้งลูก
ผู้ใดทำให้หญิงแท้งลูกโดยหญิงนั้นยินยอม
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
อ้างอิง : อาจารย์ ธิดารัตน์ ขาวเงินยวง.(2563).วิชาจริยศาสตร์และกกฏหมายวิชาชีพทางการพยาบาล บทที่ 3 เรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบวิชาชีพ.สืบค้นเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2563.จาก :
https://classroom.google.com/c/NTY0NzAxMDgyNzha/m/OTQyOTUwNDgxNDZa/details
นางสาว ปิยวรรณ แสวงวงษ์ เลขที่ 71 รุ่น 36/1 รหัสนักศึกษา 612001072