Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การเปลี่ยนแปลงของระบบไหลเวียน ทางด้านกายวิภาค และสรีระ (องค์ประกอบของเลือ…

- - - - ความดันโลหิตต่ำลงทันทีเมื่อนอนหงาย เรียกว่า supine hypotension
        
        สตรีตั้งครรภ์จะมีสาเหตุเกิดมาจากเมื่อนอนหงาย มดลูกจะกดทับเส้นเลือดใหญ่ (inferior vena cava )
        
        ทำให้มี arterial hypotension
    - - diastolic จะลดลงมากกว่า systolic ลดลงถึง 10 mmHg
        
        กลับมาสู่ระดับปกติตอนอายุครรภ์ 36 สัปดาห์
  - - - Preeclampsia-eclampsia
        
        ภาวะความดันโลหิตสูงที่จำเพาะกับการตั้งครรภ์ (Pregnancy-induced hypertension; PIH) ร่วมกับมีความผิดปกติของร่ายกายในหลายระบบ (multisystem involvement) โดยทั่วไปมักเกิดหลังอายุครรภ์ (Gestational age; GA) 20 สัปดาห์ ร่วมกับตรวจพบโปรตีนในปัสสาวะ (Proteinuria)
      - Chronic hypertension
        
        หญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ ไม่ว่าจากสาเหตุใดใดก็ตาม
        
        ตรวจพบความดันโลหิตสูงก่อนอายุครรภ์ 20 สัปดาห์
      - Chronic hypertension with superimposed preeclampsia : Preeclampsia
        
        เกิดในหญิงตั้งครรภ์ที่เป็น Chronic hypertension > หญิงตั้งครรภ์ที่มีความดันโลหิตปกติ 4 – 5 เท่า
      - Gestational hypertension
        
        ภาวะความดันโลหิตสูงที่จำเพาะกับการตั้งครรภ์ ที่ตรวจพบหลังอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ แต่ไม่พบ Proteinuria
    - - สามารถปรับเปลี่ยนได้ (modifiable factors)
        
        ค่าดัชนีมวลกาย (body mass index)
        
        การเลือกบริโภคอาหาร
        
        พฤติกรรมการออกกำลังกาย
      - ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ (non modifiablefactors)
        
        ประวัติการเจ็บป่วยในครอบครัว
        
        ลำดับการตั้งครรภ์
        
        สถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคม
      - การประเมินทางคลินิก (clinical assessment factors)
        
        การประเมินจากระดับความดันโลหิต
- - - - สตรีมีครรภ์จึงต้องได้รับเพิ่มขึ้นประมาณ 800-1,000 mg
    - - เกิดภาวะโลหิตจางชนิด megalohemoglobinemia คือเม็ดเลือดแดงมีขนาดใหญ่แต่ทำหน้าที่ได้ไม่เต็มที่
      - เกิดภาวะ neural tube disorders(ภาวะหลอดประสาทไม่ปิด) ของทารกในครรภ์
    - - การรับประทานโฟเลต
        
        ไตรมาสที่2
        
        รับประธานธาตุเหล็กประมาณ 30-60 มิลลิกรัมต่อวัน
        
        ไตรมาสแรก
        
        รับประทาน 400 ไมโครกรัมต่อวัน
        ของการต้ังครรภ์
      - ประโยชน์ของการรับประทาน
        
        ช่วยในการสร้างเม็ดเลือด
        
        ใช้ในการพัฒนาของตัวอ่อนในครรภ์และรก
        
        ป้องกันภาวะโลหิตจาง
- - - - plasma จะเพิ่มตั้งแต่อายุครรภ์ 6 สัปดาห์จนกระทั่งสูงสุดที่อายุครรภ์ 30-34 สัปดาห์ คิดเป็นร้อยละ 50
      - Red blood cell (RBC) จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 450 ml หรือคิดเป็นร้อยละ 33
        
        เกิดภาวะโลหิตจางจากการเจือจาง หรือ (Physiologic anemia of pregnancy) ระดับของ Hemoglobin ในไตรมาสที่ 1และ3 ควรมากว่า 11 g/dl ไตรมาสที่ 2 ควรมากกว่า 10.5 g/dl
    - - 500 mgใช้เพื่อสร้างเม็ดเลือด
      - 300 mg ใช้เพื่อการเจริญเติบโตของทารก
      - 200 mg เสียไปจากการขับถ่าย
      - ร่างกายจะมีเหล็กสะสมอยู่เพียง 0.3 g ซึ่งไม่เพียงพอในช่วงการตั้งครรภ์ โดยเฉลี่ยควรได้ธาตุเหล็กเพิ่ม 6.7 mg/d(3)
    - - Factor I หรือ fibrinogen จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 50
      - factor VII, VIII, IX และ X ส่วน Factor II หรือ prothrombin, factor V , XII, protein C และ antithrombin III ไม่เปลี่ยนแปลง
      - จะมีบางตัวที่ลดลงได้แก่ protein S
  - - - เพิ่มความเสี่ยงการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในระหว่างตั้งครรภ์และหลังคลอดถึง 5 เท่าเมื่อเทียบกับคนปกติ
  - - - ระดับ Hemoglobin เฉลี่ยอยู่ที่ 12.5 g/dl
      - ระดับเม็ดเลือดขาว leukocyte count อยู่ระหว่าง 5000-12000 /L
      - ระดับ fibrinogen อยู่ระหว่าง 300-600 mg/dL โดยเฉลี่ย 450 mg/dL
      - clotting time (5-8 นาที) ส่วนใหญ่ไม่เปลี่ยนแปลง ถึงแม้มีภาวะ hypercoagulable state