Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การดูแลระยะที่ 2 ของการคลอด - Coggle Diagram
การดูแลระยะที่ 2 ของการคลอด
การหดรัดตัวของมดลูก
โดยประเมินทุก 15 นาทีหรือทุกครั้งที่มีการหดรัดตัวของมดลูกและคลายตัว ปกติมดลูกจะมีการหดรัดตัว ทุก 2-3 นาทีนาน 60-90วินาทีความรุนแรงระดับ +++
คลอดที่มีการหดรัดตัวของมดลูกมากกว่าปกติชนิดไม่คลาย(tetanic contraction) ถ้ามีร่วมกับ bandl , s ring อาจเกิดภาวะมดลูกแตกได้
มารดาครรภ์หลังควรระวังอาการที่มดลูกหดรัดตัวมากกว่าปกติ เพราะอาจทำให้เสียเลือดมากและเกิดภาวะช็อคได้ส่วนทารกในครรภ์อาจเกิดภาวะขาดออกซิเจนเนื่องจากการไหลเวียนของเลือดบริเวณมดลูกและรกลดลง
การเคลื่อนต่ำของส่วนนำ
ตรวจภายในเพื่อประเมินระดับส่วนนำของทารกการสังเกบริเวณฝีเย็บ และการเคลื่อนต่ำของตำแหน่งเสียงหัวใจทารกในครรภ์ที่ฟังได้ชัดเจนที่สุด
การคลอดก้าวหน้าดีตำแหน่งที่ฟังเสียงหัวใจทารกจะเคลื่อนต่ำลงมาเรื่อยๆ และเบนเข้าหาแนวกลางของหน้าท้องเมื่อศีรษะมาอยู่ที่พื้นเชิงกราน ตำแหน่งที่ฟังเสียงหัวใจทารกควรอยู่เหนือรอยต่อของกระดูกหัวหน่าวพอดี
ถ้ามดลูกหดรัดตัวไม่ดีหรือแรงเบ่งไม่ดีการเคลื่อนต่ำของส่วนนำก็จะไม่ดี เกิดของการคลอดยาวนาน (prolonged second stage of labor)
แรงเบ่ง (bearing down effort)
ประเมินลักษณะการเบ่งของผู้คลอดว่าถูกต้องหรือไม่เบ่งแล้วการคลอดก้าวหน้าหรือไม่
ถ้าผู้คลอดเบ่งแล้วการคลอดไม่ก้าวหน้าอาจหมายความว่าแรงเบ่งน้อย( poor maternal effort) หรืออาจเป็นเพราะทารกในครรภ์อยู่ในท่าที่ผิดปกติหรือเชิงกรานไม่กว้างพอ
กระเพาะปัสสาวะ
ประเมินว่ากระเพาะปัสสาวะเต็มหรือไม่ เพราะเป็นสาเหตุทีทำให้มดลูกหดรัดตัวไม่ดีและขัดขวางการเคลื่อนต่ำของส่วนนำทารกท ำให้ระยะเวลาของการ คลอดยาวนานผิดปกติและมดลูกจะไปกดกระเพาะปัสสาวะนานเกินไปทำให้เกิด necrosis ตรงบริเวณที่ถูกกดซึ่งทำให้เกิดverico- vaginal fistula
การเคลื่อนต่ำของส่วนนำจะไปกดบริเวณ urethra หรือ bladderทำให้ถ่ายปัสสาวะลำบาก
การสวนปัสสาวะในระยะนี้จะลำบากเพราะศีรษะทารกลงมากด ดังนั้นควรใช้นิ้วมือสอดเข้าช่องคลอดเพื่อดันศีรษะทารกให้ก้มต่ำลงจึงจะสอดสายยางเข้าไปง่ายขึ้น
แนะนำให้ผู้คลอดพยายามถ่ายปัสสาวะ ถ้าถ่ายเองไม่ได้ควรสวนปัสสาวะให้ตามความจำเป็น
สภาวะของทารกในครรภ์
การฟังเสียงของหัวใจทารกในครรภ์ทุก 15-30 นาทีต้องฟังทุกครั้งที่มดลูกคลายตัว
มารดาที่มีโรคแทรกซ้อนที่อาจเกิดผลเสียต่อการไหลเวียนเลือด ควรฟังทุกครั้งที่มดลูกคลายตัว
ถ้าหากพบอัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์น้อยกว่า 100 ครั้งต่อนาที หรือมากกว่า 160 ครั้งต่อนาทีหรือจังหวะการเต้นไม่สม่ำเสมอ แสดงว่าทารกในครรภ์ในภาวะขาดออกซิเจนเกิดขึ้นแล้ว
สัญญาณชีพ
โดยการจับชีพจร นับการหายใจ และวัดความดันโลหิต ทุก 30 นาทีถึง 1 ชม
อัตราการเต้นของชีพจรมากกว่า 90 ครั้งต่อนาทีความดันโลหิตต่ำกว่า 90/60 มิลลิเมตรปรอทหรือสูงกว่า 130/90 mmHg และหายใจเร็วกว่า 24 ครั้งต่อนาทีอาจแสดงว่ามีการตกเลือดในระยะคลอดและเกิดภาวะช็อค ต้องรีบรายงานแพทย์และให้การช่วยเหลือ
สภาวะร่างกายของผู้คลอด
ประเมินว่าผู้คลอดมีภาวะอ่อนเพลีย หมดแรง ขาดน้ำ ขาดอาหารหรือไม่
การประเมินระดับความเจ็บปวดและพฤติกรรมการเผชิญความเจ็บปวดของผู้คลอด
สภาวะจิตใจของผู้คลอด
การประเมินความรู้สึกวิตกกังวล และความหวาดกลัวของผู้คลอดต่อ
การคลอด ซึ่งอาจมีผลทำให้มดลูกหดรัดตัวน้อยกว่าปกติเกิดการคลอดล่าช้าได้