Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หลักการบริหารและพัฒนาองค์การ - Coggle Diagram
หลักการบริหารและพัฒนาองค์การ
การบริหารงานบุคคล
ความสำคัญของการบริหารงานบุคคล
เพื่อสรรหาและเลือกสรร (recruitment and selection) ให้ได้บุคคลที่มีความรู้ ความสามารถและความประพฤติดีเข้ามาท างาน
2.เพื่อใช้ประโยชน์ (utilization) ของบุคคลอย่างเต็มก าลังในการท างาน
เพื่อรักษาไว้ (maintenance) ซึ่งบุคคลให้ทำงานกับองค์การนานๆ
4.เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดี (relationships) ของบุคคลกลุ่มต่างๆขององค์การ
เพื่อพัฒนาทักษะและเสริมสร้างความสามารถของบุคลากรให้มีสมรรถภาพเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง
(development)
หลักการบริหารงานบุคคล
ระบบคุณธรรม (Merit System)
1.หลักความเสมอภาค (equality of opportunity)
2.หลักความสามารถ (Competency)
3.หลักความมั่นคง (Security of tenure)
4.หลักการเป็นกลางทางการเมือง (Political neutrality)
ระบบอุปถัมภ์ (Patronage System)
เป็นระบบการบริหารงานบุคคลที่ตรงข้ามกับระบบ
คุณธรรม ส่วนใหญ่จะยึดถือหลักพวกพ้อง เครือญาติ หรือมีผู้อุปการะ
ความสำคัญของการบริหารงานบุคคล
1.เพื่อสรรหาและเลือกสรร (recruitment and selection) ให้ได้บุคคลที่มีความรู้ ความสามารถและความประพฤติดีเข้ามาทำงาน
2.เพื่อใช้ประโยชน์ (utilization) ของบุคคลอย่างเต็มกำลังในการทำงาน
3.เพื่อรักษาไว้ (maintenance) ซึ่งบุคคลให้ทำงานกับองค์การนานๆ
เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดี (relationships) ของบุคคลกลุ่มต่างๆขององค์การ
5.เพื่อพัฒนาทักษะและเสริมสร้างความสามารถของบุคลากรให้มีสมรรถภาพเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง (development)
การสรรหาบุคคลกร
การสรรหาภายในองค์การ
ข้อดี
2.ประหยัดค่าใช้จ่าย
3.สร้างขวัญและกำลังใจ
1.พนักงานรู้สึกว่าเป็นที่ยอมรับและตั้งใจทำงาน
4.ทราบประวัติเป็นอย่างดี
ข้อเสีย
1.จำกับโอกาสของบุคคลภายนอก
2.พนักงานคนที่ไม่ได้เลื่อนตำแหน่งอาจจะไม่พอใจ
3.สืบทอดความคิดเดิมๆ
การสรรหาภายนอกองค์การ
ข้อเสีย
1.สิ้นเปลืองเวลาและค่าใช้จ่าย
2.เสียขวัญและกำลังใจของคนที่ทำงานอยู่เดิม
3.ต้องศึกษาพนักงานใหม่อยางรอบคอบ
4.อาจเกิดข้อขัดแย้งคนเก่าและคนใหม่
ข้อดี
2.มีโอกาสคัดเลือกพนักงานได้หลากหลาย
3.ไม่เกิดปัญหาขาดแคลน
1.มีภาพพจน์ดีไม่ปิดกั้น
4.มีโอกาสได้รับแนวคิดใหม่ๆมาใช้พัฒนางาน
การบริหารพัสดุ
วัตถุประสงค์การบริหารพัสดุ
1.เพื่อควบคุมการใช้ทรัพยากรต่างๆ ให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่
2.เพื่อจัดหาพัสดุให้เพียงพอต่อการใช้อยู่ตลอดเวลา
3.เพื่อประหยัดงบประมาณหรือเงินบำรุงในการจัดซื้อพัสดุ
4.ง่ายต่อการตรวจสอบ ป้องกันทุจริต
ประเภทของพัสดุ
พัสดุประเภทสำนักงาน
2.พัสดุทางการแพทย์
พัสดุวิทยาศาสตร์
พัสดุยานพาหนะ
พัสดุงานบ้าน
ขั้นตอนการบริหารพัสดุ
วางแผน / กำหนดโครงการ
กำหนดความต้องการ
จัดหา จัดซื้อ จัดจ้าง
การแจกจ่าย
การบำรุงรักษา (๑) แบบป้องกัน (๒) แบบแก้ไข
การจำหน่าย
หลักการบ ารุงรักษาพัสดุ
1.จัดทำสมุดทะเบียน
2.การควบคุมดูแล การเบิกจ่าย
3.จัดทำคู่มือบำรุงรักษา
4.รายงานการส่งซ่อมอุปกรณ์
การบริหารงบประมาณ (Budget)
มาตรฐานการจัดการทางการเงิน
1.การวางแผนงบประมาณเริ่มจากการกำหนดแผนกลยุทธ์ของหน่วยงาน
2.การกำหนดผลผลิตและการคำนวณต้นทุน โดยหน่วยงานต้องระบุกิจกรรมและผลผลิตที่เกิดจากกิจกรรม โดยนำข้อมูลต้นทุนช่วยตัดสินใจเรื่องคุ้มค่ากับต้นทุน
3.การจัดระบบการจัดซื้อจัดจ้าง
4.การบริหารทางการเงินและ การควบคุมงบประมาณ
5.การรายงานทางการเงินและผลการดำเนินงาน
6.การบริหารสินทรัพย์
7.การตรวจสอบภายใน (Internal Audit)
ความสำคัญและประโยชน์ของงบประมาณ
1.ใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารหน่วยงาน
2.ให้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาหน่วยงาน
2.เป็นเครื่องมือในการจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดให้มีประสิทธิภาพ
3.เป็นเครื่องมือกระจายทรัพยากร และเงินงบประมาณที่เป็นธรรม
4.เป็นเครื่องมือประชาสัมพันธ์ งานและผลงานของหน่วยงาน
บทบาทขององค์กรที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ
2.จัดระบบงานและองค์กรให้มีสายการบังคับบัญชาในองค์กรที่แน่นอนพร้อมทั้งมอบอำนาจและความรับผิดชอบให้ไว้เพื่อให้งานงบประมาณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
3.จัดให้มีการประสานงานกับในหน่วยงานขององค์กร ในการบริหารงบประมาณโดยเฉพาะงานงบประมาณและงานบัญชีการเงิน
1.จัดให้มีองค์กรกลางเป็นศูนย์รวมข้อมูลงบประมาณขององค์กร เพื่อใช้ประโยชน์ในการวางแผนงาน การบริหารงบประมาณ งานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกันในด้านข้อมูลที่ใช้
การบริหารการเปลี่ยนแปลง (Change Management)
รูปแบบของการเปลี่ยนแปลง
1.การเปลี่ยนแปลงเชิงรุก (Proactive) เป็นการเปลี่ยนแปลงตนเองก่อนที่จะได้รับการเปลี่ยนแปลงจากผู้อื่นซึ่งต้องอาศัยการวิเคราะห์สถานการณ์
2.การเปลี่ยน แปลงเชิงรับ (Reactive) เป็นการถูกเปลี่ยนแปลงโดยผู้อื่นตัวเองไม่ยอมที่จะเปลี่ยนแปลง
ความส าคัญของการบริหารการเปลี่ยนแปลง
2.องค์การที่มีการบริหารการเปลี่ยนแปลงที่ดี จะปรับตัวได้ทันกับปัญหาและการท้าทายจากสภาพแวดล้อมได้
3.การบริหารการเปลี่ยนแ ปลงที่ดี ช่วยให้องค์การเห็นโอกาส และภัยคุกคามต่างๆ ที่เกิดขึ้น
4.การบริหารการเปลี่ยนแปลงที่ดีจะช่วยให้การดำเนินงานขององค์การเป็นไปโดยราบรื่น ต่อเนื่องไม่ต้องติดขัด ชะงักงันโดยเฉพาะในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลง
5.การบริหารการเปลี่ยนแปลงที่ดี จะช่วยให้องค์การไม่สับสน วุ่นวาย เมื่อต้องเผชิญกับความจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนการดำเนินงาน
1.การบริหารการเปลี่ยนแปลงที่ดี จะช่วยให้องค์การได้ปรับปรุงตัวเองอย่างต่อเนื่องในด้านต่างๆและจะช่วยให้มีการนำศักยภาพที่มีอยู่ในองค์การมาใช้ได้อย่างคุ้มค่า
ปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลง
แรงต่อต้าน
3.ความกลัวว่าจะต้องสูญเสียประโยชน์ อำนาจ ความมั่นคง หรือสิ่งที่เคยมี เคยทำอยู่จนเคยชิน
4.ความรู้สึกหวั่นไหวต่อความคลุมเครือ ความไม่แน่นอน ความรู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงจะทำให้ตนถูกโดดเดี่ยว แปลกแยก และความรู้สึกที่จะต้องละจากแบบแผนของชีวิตที่ใช้มาจนเคยชิน
5.การขาดความรู้ความเข้าใจที่ดีพอเกี่ยวกับแนวทาง วิธีการ และจุดหมายปลายทางของการเปลี่ยนแปลง
2.ความไม่เชื่อถือ ไว้วางใจ ไม่เชื่อใจกัน ซึ่งทำให้ขาดการสื่อสารสร้างความเข้าใจ ซึ่งยิ่งบ่อนทำลายความไว้วางใจกันและกัน
1.ปัจจัยอื่นๆ เช่น ข้อจำกัดด้านทรัพยากร ความไม่ยืดหยุ่นของกฎระเบียบ ความยากลำบากในการสื่อสารฯลฯ
แรงเสริม
2.ความไม่พึงพอใจในสภาพปัจจุบันที่เป็นอยู่
3.ความสามารถในการรับรู้ข่าวสารร่วมกันในหมู่คนในองค์การ ซึ่งจะช่วยให้เห็นความจำเป็นของสถานการณ์ได้ตรงกัน พร้อมๆ กัน
4.ภาพลักษณ์ และการปฏิบัติตนของผู้นำที่แสดงถึงความมุ่งมั่น เอาจริงเอาจังต่อการเปลี่ยนแปลง
5.การเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลในตำแหน่งต่างๆ โดยเฉพาะในกลุ่มตำแหน่งผู้บริหาร
1.ความจำเป็นขององค์การที่ต้องใช้เทคโนโลยีในการดำเนินการ และความรวดเร็วของพัฒนาการทางเทคโนโลยีประเภทที่องค์การใช้เป็นหลักในการดำเนินการ