Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ระยะการคลอด, NL02, NL04, นางสาววิภา ลุงตะ เลขที่114, อ้างอิง https://w1…
ระยะการคลอด
ระยะที่สองของการคลอด (Second stage of labor)
เป็นระยะเริ่มตั้งแต่ปากมดลูกเปิดหมดจนกระทั่งทารกคลอด มดลูกมีการหดรัดตัวทุก 2-3 นาที นาน 60-90 วินาทีความรุนแรงในการหดรัดตัวอยู่ในระดับรุนแรงมาก โดยทั่วไปครรภ์แรกใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง ครรภ์หลังใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง
1) Early หรือ Late phase
เป็นช่วงที่ต่อจากปากมดลูกเปิดหมด มารดามีอาการสงบลง สามารถนอนพักได้ช่วงเวลาสั้น เป็นช่วงที่จะเตรียมเบ่งต่อไป ระยะนี้ใช้เวลา 10-30 นาที
2) Descent หรือ Active phase
เป็นช่วงเวลาที่ส่วนนำเคลื่อนต่ำลงมา จนสามารถเห็น Labia minora แยกจากกันและเห็นส่วนนำทารก ถ้าการหดรัดตัวของมดลูกดีจะเห็นส่วนที่กว้างที่สุดของส่วนนำ (Crowning) และส่วนนำจะไม่กลับเข้าไปอีกแม้ว่ามดลูกมีการคลายตัว
3) Perineal phase
เป็นช่วงที่ฝีเย็บเริ่มบางโป่งตึง มองเห็นทวารหนัก การหดรัดตัวของมดลูกรุนแรงมากขึ้น มารดาเริ่มมีการเบ่งคลอด
ระยะที่หนึ่งของการคลอด (First stage of labor)
ระยะนี้ปากมดลูกเริ่มเปิดขยาย 0-10
เซนติเมตร
โดยมารดาครรภ์แรกจะใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 12 ชั่วโมง
มารดาครรภ์หลังโดยทั่วไปประมาณ 6 ชั่วโมง
แบ่งออกเป็น 3 ระยะ
ระยะปากมดลูกเปิดเร็ว (Active phase)
เป็นระยะการเปิดขยายของปากมดลูกอย่างรวดเร็ว ในระยะนี้ปากมดลูกจะมีการเปิดขยายตั้งแต่ 4-7 เซนติเมตร
ครรภ์แรกปากมดลูกเปิดขยายประมาณ 1.2 เซนติเมตรต่อชั่วโมง ครรภ์หลังปากมดลูกเปิดขยายประมาณ 1.5 เซนติเมตรต่อชั่วโมง
การบางตัวของปากมดลูกอยู่ประมาณ 40-80%
มดลูกมีการหดรัดตัวทุก 2-5 นาที นาน 45-60 วินาที ความรุนแรงในการหดรัดตัวอยู่ในระดับรุนแรงปานกลาง
ระยะปากมดลูกเปิดเร็วโดยทั่วไปครรภ์แรกใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง
ครรภ์หลังใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ระยะนี้แบ่งออกเป็นช่วงๆ
1) ระยะ Acceleration เป็นระยะที่ปากมดลูกเปิดขยาย 3-4 เซนติเมตร ใช้เวลา 2ชั่วโมงในครรภ์แรก และ 1 ชั่วโมงในครรภ์หลัง
2) ระยะ Phase of maximum slop ระยะนี้ปากมดลูกเปิดขยายอย่างรวดเร็ว จาก4-9 เซนติเมตร ใช้เวลา 2 ชั่วโมงในครรภ์แรก และ 1 ชั่วโมงในครรภ์หลัง
3) ระยะ Deceleration เป็นระยะที่ปากมดลูกเริ่มเปิดขยายช้าลง จาก 9-10 เซนติเมตร ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที ในครรภ์แรก และไม่เกิน 30 นาที ในครรภ์หลัง
ระยะปากมดลูกเปลี่ยนผ่าน (Transitional phase)
ในระยะนี้ปากมดลูกจะมีการเปิดขยายตั้งแต่8-10 เซนติเมตร
การบางตัวของปากมดลูกอยู่ประมาณ 80-100%
มดลูกมีการหดรัดตัวทุก 1 1⁄2 -2 นาที นาน 60-90 วินาทีความรุนแรงในการหดรัดตัวอยู่ในระดับรุนแรงมาก
การเคลื่อนต่ าของส่วนน าในมารดาครรภ์แรกจะอยู่ station +2 ถึง +3
ระยะนี้โดยทั่วไปครรภ์แรกใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ครรภ์หลังใช้เวลาประมาณ 30 นาที
ระยะปากมดลูกเปิดช้า (Latent phase)
การเปิดขยายของปากมดลูกจะเป็นไปอย่างช้าๆ ใช้ระยะเวลายาวนานมากกว่าระยะปากมดลูกเปิดเร็วและระยะปากมดลูกเปลี่ยนผ่าน ในระยะนี้เป็นระยะตั้งแต่หญิงตั้งครรภ์เริ่มมีการอาการเจ็บครรภ์จนถึงปากมดลูกเปิด 3 เซนติเมตร
การเปิดขยายของปากมดลูกครรภ์แรกปากมดลูกเปิดขยาย 0.3เซนติเมตรต่อชั่วโมง ครรภ์หลังปากมดลูกเปิดขยาย 0.5
เซนติเมตรต่อชั่วโมง
การบางตัวของปากมดลูกอยู่ประมาณ 0-40%
การหดรัดตัวทุก 5-10 นาที นาน 30-45 วินาที
ความรุนแรงในการหดรัดตัวอยู่ในระดับรุนแรงน้อย
ระยะที่สามของการคลอด (Third stage of labor)
ช่วงรกลอกตัว (Placenta separation)
หลังจากทารกคลอดครบ มดลูกยังคงมีการหดรัดตัวแรงและลดขนาดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการดึงรั้งระหว่างพื้นที่ของผนังมดลูกและรกจนเกิดการฉีกขาด ทำให้รกหลุดลอกออกจากผนังมดลูกได้
เป็นระยะของการคลอดรก โดยเริ่มตั้งแต่ทารกคลอด จนถึงรกคลอดทั้งครรภ์แรกและครรภ์หลังใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที
ช่วงรกคลอด (Placental expulsion)
หลังจากรกลอกตัวออกจากผนังมดลูก มดลูกยังคงมีการหดรัดตัวอยู่จึงทำให้รกถูกขับออกมา รกจะถูกขับออกมาโดยใช้เวลา นานประมาณ 5-30 นาที ถ้านานกว่านั้นอาจมีภาวะรกติดต้องมีการช่วยทำคลอดรก หลังรกคลอดต้องคลึงมดลูกให้แข็งเพื่อป้องกันการสูญเสียเลือด
ระยะที่สี่ของการคลอด (Fourth stage of labor)
เป็นระยะที่นับจากหลังรกคลอดแล้วจนถึง 2 ชั่วโมงหลังคลอด ร่างกายมารดาเริ่มมีการปรับตัวเพื่อกลับสู่สภาวะปกติ ในระยะนี้อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนโดยเฉพาะตกเลือดหลังคลอด
ในทางปฏิบัติจะเป็นช่วงเวลาของการตรวจสอบรกว่าคลอดออกมาครบถ้วนสมบูรณ์ดี ไม่มีส่วนใดตกค้างในโพรงมดลูก และตรวจสอบแผลฝีเย็บรวมถึงการฉีกขาดของช่องทางคลอด และทำการเย็บซ่อมแซม ซึ่งระยะนี้มีความสำคัญเนื่องจากเป็นช่วงที่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน โดยเฉพาะการตกเลือดหลังคลอด (Postpartume hemorrhage) จากสาเหตุต่างๆ แต่ที่พบบ่อยคือจากการที่มดลูกหดรัดตัวได้ไม่ดี (Uterine atony) ดังนั้นในช่วง 1 ชั่วโมงแรกหลังการคลอด หรือในระยะที่ 4 ของการคลอดนี้ จึงต้องมีการตรวจวัดสัญญาณชีพของมารดา โดยเฉพาะความดันโลหิตและชีพจร รวมทั้งมีการตรวจสอบอย่างใกล้ชิดว่ามดลูกหดรัดตัวดีหรือไม่
นางสาววิภา ลุงตะ เลขที่114
อ้างอิง
https://w1.med.cmu.ac.th