Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 2 ปัจจัยที่มีผลต่อสุขภาพครอบครัว กลุ่มคนและชุมชน, นางสาวรุ่งนภา …
บทที่ 2 ปัจจัยที่มีผลต่อสุขภาพครอบครัว กลุ่มคนและชุมชน
สุขภาพ
สุขภาพครอบครัว
สถาบันพื้นฐานของสังคมที่เล็กที่สุด เป็นสังที่มีปฎิสัมพันธ์กันภายในและระบบใหญ่มีความใกล้ชิด มีความผูกพันกันทางอารมณ์ มีการแบ่งปันซึ่งกันเเละกัน ครอบครัวมีการเปลี่ยนแปลงเวลาตลอดเวลา เปลี่ยนแปลงเมื่อบุคคล ส่งผลให้ระบบอื่นๆในครอบครัวเปลี่ยนแปลงไปด้วย
สุขภาพดี
การไม่มีความเจ็บป่วย
ความเเข็งแรง
ความสามารถในการกระทำตามบทบาทหน้าที่
ความรู้สึกเป็นสุข ความสมดุล
การมีความสัมพันธ์ทางสังคมที่ดี
ทฤษฎีดุลยภาพ
All for Health การที่ทุกภาคส่วนร่วมมือช่วยกัน
Health for all การมีส่วนร่วมทุกภาคส่วนทำให้เกิดสุขภาพดีทั่วหน้า
ปัจจัยกำหนดสุขภาพ
ปัจจัยภายใน
หมายถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับบุคคลโดยตรง
เช่น กรรมพันธุ์ พฤติกรรม ความเชื่อ จิตวิญาณ
การเปลี่ยนแปลงด้านพันธุกรรม เช่นทางด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ สังคม บุคลิกภาพ
ทัศนคติ ความเชื่อส่วนบุคคล การเกิดพฤติกรรมการดูแลสุขภาพ ขึ้นอยู่กับการรับรู้เเต่ละบุคคล เช่น การรับรู้โอกาศเสี่ยงต่อการเกิดโรค ความรุนแรงของโรค ภาวะคุกคามของโรค ประโยชน์ที่จะได้รับ อุปสรรค/ค่าใช้จ่าย ความสามารตนเอง
ค่านิยม ได้รับอิทธิพลจากสังคม บุคคลที่พยายามแสดงออกถึงค่านิยมของตนที่มีโอกาสค่านิยมของสังคมจะมีอิทธิพลต่อการประพฤติของบุคคลในสังคม
ความเครียดของบุคคลมีผลต่อสุขภาพเหมือนกัน ถ้าเครียดน้อยก็จะทำให้เกิดผลที่ผลักดันตัวเองเเต่ไม่ควรเครียดเกินไป
พฤติกรรมสุขภาพ ขึ้นอยู่กับความเชื่อ การดำเนินชีวิตเเต่ละคนก็จะต่างกัน เเบบเเผนการดำเนินชีวิต็เปลี่ยนไป
คามรู้เเละสติปัญญา ต้องมีการพัฒนาความรู้เเละเกิดการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา
ด้านสังคม ด้านรับผิดชอบ สัมพันธภาพของสมาชกในครอบครัวและชุมชน ของครอบครัวกลุ่มบุคคลและชุมชน
ปัจจัยภายนอก
เช่น สิ่งแวดล้อม สภาพเศรษฐกิจ การเมือง สังคม การปกครอง โครงสร้างสุขภาพ ประชาชน วัฒนธรรม/ศาสนา ความมั่นคง การสือสารคมนาคม เทคโนโลยี
สิ่งแวดล้อม
ทางด้ายกายภาพ ชีวภาพ เช่น พวกเชื้อโรคต่างๆ หนอนพยาธิต่างๆ พืชต่างๆเชื้อรา สิ่งแวดล้อมที่ไม่มีชีวิต สภาพทางภูมิศาสตร์ ที่อยู่อาศัย มลพิษต่างๆ เช่นมลพิทางน้ำ มลพิษทางอากศ
อาหาร ต้องระมัดระวังเรื่องความสะอาด เราต้องดูตั้งเเต่ต้นทางของอาหาร เช่นพวกผัก
วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี
เกิดการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตผู้คน ตอนนี้เราอยู่ในศตวรรษที่ 27
โลกที่เชื่อมต่อกันอย่างสนิท (Globalization)
เราสามารถติดต่อกันได้ทั่วโลก
การติดต่อสื่อสาร (Digitization)
มีการติดต่อสือสารหลายรูปแบบ ทุกคนสามารถเข้าถึงสือต่างๆได้หมด
สัดส่วนของผู้คนในเมือง(Urbanization)
มีการปฏิสัมพันธ์ของคนเมืองมากขึ้น
ผู้คนในศตวรรษที่ 21 จะเป็นปัจเจก (Individualizatiom)
มีความคิดเป็นของตนเอง กล้าเเสดงอออกมากขึ้น ในโลกที่ยิ่งเชื่อม่อกันมาก
การติดต่อมากขึ้น(Communization)
ติดต่อกันทางอินเตอร์เน็ตมากขึ้น
ระบบบริการสุขภาพ
เช่น ความเสมอภาค ความครอบคลุม ประเภทและระดับบริการ คุณภาพ/ประสิทธิภาพ รัฐ/เอกชน
สุขภาพขึ้นอยู่กับอะไร
ชนชั้น the social gradient
มีความเเตกต่างกันทางด้านอาชีพ คนที่มีทักษะมากจะมีคุณภาพมากกว่า
ความเครียด
คนที่ที่มีความเครียดมากอาจจะทำให้เกิดโรคต่างๆได้
เงื่อนไขชีวิตช่วงต้น
สุขภาพของเรามีผลตั่งเเต่ ตั่งครรภ์ ต้องมีการดูแล
การถูกกีดกันทางสังคม
เด็กที่มีภาวะยากจน ถูกมองว่าขาดการดูเเล ทำให้คนที่ถูกกีดกันทางสังคมมักมีสุขภาพที่ไม่ดี
ลักษณะงาน
เช่นประเทศที่มีรายได้น้อง จากลักษณะงานทำให้มีผลต่อรายได้เเละมีผลต่อสุขภาพเหมือนกัน
การว่างงาน
คือการไม่มั่นทางการทำงาน ทำให้ส่งผลต่อสุขภาพ ต้องมีคนมาดูเเล
ความเกื้อกูลซึ่งกันเเละกัน
หลายหน่วยงานมีการเข้ามาดูเเลประชาชนที่เกิดความลำบาก
อาหาร
ลักษณะอาหารว่าบริโภคเเบบไหน ควรมีการกินที่พอดี ไม่ควรกิน หวาน เค็ม ไขมันมากเกินไปเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคต่างๆ
การคมนาคม
มีการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนเพื่อป้องกันทางด้านสุขภาพ
ผลกระทบจากการที่ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ
ผลกระทบต่อรัฐบาล เกิดค่าใช้จายเพิ่มขึ้น รัฐต้องนำเงินภาษีของประชาชนวัยทำงานไปจัดสรรสวัสดิการดูแลผู้สูงอายุ
ผลกระทบด้านแรงงาน เพราะ กลุ่มผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ทำให้วัยทำงานลดลง
แนวคิดThailand 4.0
สร้างความเข้มเเข็งจากภายใน ปรับเปลี่ยนใน 4 ทิศทางโดยการ ผลิตสินค้าเชิงนวัตกรรม การสน้างความเข้มเเข็งของเศรษฐกิจภายในประเทศ การเน้นทุนมนุษย์และเทคโนโลยี การกระจายของความมั่งคั่งอละโอกาส
การเชื่อมโยงกับประชาคมโลก เมื่อเศรษฐกิจเข้มเเข็งจะพัฒนาเเละมีภูมิคุ้มกันที่ดีที่จะไปเจอโลกภ่ยนอก เพราะประเทศไทยสามารถป้องกันโควิดได้ดี ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ระบบสุขภาพ
พระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 ได้นิยามระบบสุขภาพว่าเป็นระบบความสัมพันธ์ทั้งมวลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ เป็นระบบที่ครอบคลุมระบบย่อยต่างๆทั่งที่เกี่ยวข้อง การพัฒนาสุขภาพโดยตรงและโดยอ้อม ซึ่งครอบบคลุมไปถึ ระบบเกี่ยวกับปัจจัยกำหนดสุขภาพ เช่น ระบบด้านสังคม เศรษฐกิจสิ่งเเวดล้อม การเมื่อง สวัฒนธรรม การศึกษา กังนั้นระบบสุขภาพจะรวมไปถึง ระบบสุขภาพตั่งเเต่ปัจเจกบุคคลและสุขภาพที่ดำเนินนอกตัวบุคคลเเละกิจกรรมต่างๆที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ
ระบบบริการสุขภาพ
การจัดการเกี่ยวกับการป้องกันสุขภาพและส่งเสริม ตรวจวินิจจัย การบำบัดการเจ็บป่วย การส่งเสริมสุขภาพของประชาชน
องค์ประกอบของระบบสุขภาพ
สิทธิหน้าที่ด้านสุขภาพ
(All for Health)ทุกคนต้องๆได้รับสิทธิด้านสุขภาพที่จำเป็นตามหลักมนุษยชน เพื่อที่ทุกคนต้องได้เข้าถึงการบริการสุขภาพและปัจจัยอื่นๆที่มีผลต่อสุขภาพโดยทุกภาคส่วนต้องมีส่วนร่วมในการ มหน้าที่ปกป้องคุ้มครอง ส่งเสริมและสนับสนุนสิทธิด้านสุขภาพโดยไม่เลือกปฎิบัติ
การสร้างเสริมสุขภาพ
การส่งเสริมและสนับสนุนบุคคล ครอบครัว ให้จัดการหรือพัฒนาสุขภาพของตน ครอบครัว ชุมชน ร่วมกันมีส่วนร่วมเสริมสร้างพลังทุกภาคส่วนในการพัฒนาสุขภาพตามเเนวทาง (ทกนโยบายห่วงใยสุขภาพ) เน้นการสร้างนำซ่อม
การป้องกันและควบคุมโรค
และปัจจัยที่คุกคามสุขภาพ สิทธบุคคลเเละชุมชนอยู่ภายใต้สิ่งเเวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ และป้องกันเเละควบคุมโรคเพื่อควบคุมปัจจัยที่ทำให้เกิดโรค
การบริการสาธารณสุขและการสร้างหลักประกัน
ตอบสนองต่อความจำเป็นด้านสุขภาพของประชาชนทุกกลุ่มและทุกวัย รวมทั่งให้ความสำคัญกับความเป็นธรรมใน การเข้าถึงและได้รับการบริการที่มีคุณภาพ
การส่งเสริม สนับสนุน การใช้และพัฒนาภูมิปัญญาทองถิ่นด้านสุขภาพการแพทย์แผนไทย
การส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดการยอมรับภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพโดยพัฒนาต่อยอดฐานอย่างเดิมมอย่างเป็นระบบ
การคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ
โดยมีระบบที่มีเป้าหมายเพื่อปกป้องและคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภค มุ้งเน้นการดำเนินงานในการสร้างกระบวนการเรียนรู้เพื่อเสริมศักยภาพของผู้บริโภค
การสร้างความรู้ด้านสุขภาพ เ
ป็นตัวกำหนดทิศทางการพัฒนาระบบสุขภาพที่จำเป็น ในระดับพื้นที่คือการให้ึความรู้ระดับชุมชนเพื่อให้ได้รับความรู้ที่รอบด้าน
การเผยแพร่คสามรู้และข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพ
จะต้องมีการบริหารเเละการสือสารอย่างถูกต้อง ครบถ้วน รอบด้าน เชื่อถือได้ เข้าใจง่าย เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย โดยรัฐและทุกภาคส่วนต้องให้ความสำคัญกับความรู้ที่เท่าทันด้านสุขภาพที่เหมาะสม
การสร้างและพัฒนากำลังด้านสุขภาพ
คือ การมีสุขภาพดีของประชาชนซึ่งการวางแผนกำลังคนด่านสุขภาพจะต้องรับกับการออกแบบที่สอดคล้องกับความจำเป็นด้านสุขภาพของประชาชนรวมถึงการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและความสุขเเละความเป็นธรรมตอบสนองต่อความต้องการด้านสุขภาพของปรชาชนอย่างเเท้จริง
การงินการคลังด้านสุขภาพ
เป็นไปด้วยความยั่งยืน มีสถานการ์เงินที่เพียงพอ การบริหารที่เป็นธรรม ต้องคำนึกถึงผลกระทบต่อระบบสุขภาพในภาพรวมทั่งในระยะสั้นและระยะยาวรวมถึงความมั่งคงของระบบสุขภาพ
สุขภาพจิต
มุ่งส่งเสริมสุขภาพ ส่งเสริมในการจัดการกับปัญหาชีวิต ให้เกิดประโยชน์กับตนเองและครอบครัว
สุขภาพทางปัญญา
การปฏิบัติทางปัญญานำไปสู่ภาวะของมนุษย์ที่มีความรู้ทั่วไป ความรู้เท่าทัน ความเข้าใจอย่างเเยกเเยะได้ในเหตุผล ความมีประโยชน์และมีโทษซึ่งนำไปสู่ความมีจิตใจอันดีงาม
การอภิบาลระบบสุขภาพ
ต้องได้รับการดูแล ยึดประโยชน์สาธารณะของประชาชน โดยมีการอภิบาลโดยรัฐมีการสนับสนุนทุกภาคส่วนเพื่อสามารถทำงานกับชุมชนเเละภาคส่วนอื่นๆอละจัดการสุขภาพได้อย่างทั่วถึง
ธรรมนูญสุขภาพพื้นที่
การกำหนดทิศทางระบบสุขภาพให้ระบบสุขภาพเป็นไปตามบริบทเเต่ะพื้นที่ โดยการมีข้อกำหนดทิศทางเเละข้อตกลงกับชุมชน โดยมี อบต และรัฐมีการให้ความส่วนร่วม
ระบบการดูแลสุขภาพในครอบครัว (Home Health Care)
เป็นปัจจัยที่ช่วยทำให้ระบบสุขภาพเข้มเเข็งขึ้น เน้นการดูแลสุขภาพมากขึ้น เนื่องจากมีการเปลี่ยนเเปลงด้านประชาการศาสตร์และด้านระบาดวิทยาของโรคโดยมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ต้องได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง ต้องมีการให้บริการระดับครอบครัว
มุ่งให้บริการแบบเบ็ดเสร็จแบบองค์รวม ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ สังคมและสิ่งเเวดล้อมเพื่อมุ่งให้ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถพึ่งพาตนเองได้
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อครอบครัว
การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร การลดลงเเละวัยเเรงงานและเพิ่มวัยของผู้สูงอายุ ทำให้มีผลกระทบต่อโครงสร้างครอบครัวและสังคม
การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ ครอบครัวมีภาระในการเลี้ยงดูและจัดการศึกษาให้แก่สมาชิกในครอบครัว เพื่อให้สามารถปรับตัวได้
การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม คนเห็นแก่ตัวมากขึ้นและมีอัตตราสูง เชื่อมั่นในตนเอง ชีวิตโดดเดี่ยว แปลกแยก ใช้ชิวตตามวิถีสุขนิยมอีกทั่งการใช้ความรุนแรงทางสังคม
สังคมอุตสาหกรรมหรือสังคมเมืองส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตแบบดั่งเดิมของสังคมไทยจากเกษตรกรรมที่มีวิถีชีวิตความเป็นอยู่กลายเป็นบริโภคนิยมและวัตถุนิยมมากขึ้น
อิทธิพลของสื่อเทคโนโลยีและสารสนเทศ สื่อเทคโนโลยีมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงของคนในสังคม เช่นกลุ่มเด็กและเยาวชนที่มีพฤติกรรมก้าวเร้ามีการใช้ความรุนแรงขากการพัฒนาทางสังคมและขาดทักษะในการอยู่ร่วมกัน
การเปลี่ยนแปลงทางสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงของสภาวะของโลกเเละความหลากหลายทางชีวภาพมีเเนวโน้มลดลงจากการใช้ทรัพยากรและสิ่งเเวดล้อม
การเปลี่ยนแปลงลักษณะของครอบครัว การเเตงงานช้าลงมีการจดทะเบียนสมรสลดลง การเปลี่ยนแปลงของครอบครัวและพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต
แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของสถาบันครอบครัว
มีบุตรน้อยลงเนื่องจากทั่งหญิและชายมีอัตราครองโสดหรือไม่เเต่งงานสูงขึ้น
รูปแบบครอบครัวมีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น เป็นลักษณะเฉพาะที่มีรูปแบบลักษณะเฉพาะตัวมีสภาพปัญหาและความต้องการความช่วยเหลือแตกต่างกัน
ผู้หญิงออกมาทำงานนอกบ้านมากขึ้น และยังเป้นฝ่ายที่รับภาระในการทำงานเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เกิดภาวะเหน็ดเหนื่อยเเละภาวะเครียด
การเเต่งงานและจดทะเบียนลดลง การอยู่กินฉันท์สามีภรรยาโดยไม่เเต่งงานเพิ่มขึ้น
การครองโสดสูงขึ้น สัดส่วนการเป็นโสดของชายหญิงในช่วงปี พ.ศ.2513-2553 มีเเนวโน้ม เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขาดความตระหนักความสำคัญของครอบครัวลดน้อยลงเริ่ทมีสถาบันอื่นเข้ามาเเทรกแทรง เช่น การเอาไปส่งสถาบันเลี้ยงเด็กหรือผลักภาระให้กับโรงเรียน
สรุป
ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะสุขภาพครอบครัว กลุ่มคนและชุมชนเป็นประเด็นสำคัญที่พยาบาลอนามัยชุมชนควรทราบเพื่อใช้ในการประเมินผลต่อภาวะสุขภาพครอบครัวและนำไปสู่การพยาบาลครอบครัวอย่างเป็นองค์รวมเพ่อช่วยให้ครอบครัวมัสุขภาพที่ดี และสามารถดูแลสุขภาพได้อย่างเหมาะสมต่อไป
นางสาวรุ่งนภา อินทร์ทิม 611001041