Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การช่วยเหลือพยาบาลวิชาชีพในการดูแลบุคคลวัยผู้ใหญ่และผู้สูงอายุที่มีปัญหากา…

- - - - ปวดหัว เจ็บคอ คัดจมูก ไอ มีไข้มากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส มีหนาวสั้น หายใจลำบาก
    - - การใช้ของร่วมกัน เช่น ดื่มนำ้จากแก้วนำ้รับประทานอาหารจากช้อนด้วยกัน การไอจาม การสัมผัส
    - - แนะนำผู้รับบริการ ล้างมือบ่อยๆ อย่างถูกวิธี เช็ดให้แห้งใช้หน้ากากปิดปากปิดจมูก
    - - ระบบทางเดินหายใจ
        
        ท้องเสีย
      - อาการทั่วไป
        
        ไข้ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ
      - ระบบไหลเวียนโลหติ
        
        เม็ดเลือดขาวลดลง (ติดเชื้อง่าย)
      - ระบบทางเดินหายใจ
        
        ไอและคัดจมูก นำ้มูกไหล เจ็บคอ
        
        หายใจไม่อื่ม หายใจลำบาก
      - ระบบขับถ่าย
        
        ไตทำงานลดลง หากรุนแรงพบไตล้มเหลว/ไตวาย
- - - - เลือดออกผิดปกติ
      - เหนื่อยหอบ นำ้ท่วมปอด
      - ระดับการรับรู้สติลดลงหรือหมดสติ
      - อ่อนเพลียมาก ซัก
      - ซ็อด
    - - ปวดกล้ามเนื้อและข้อ ร่วมกับไข้หนาวสั่น เหงื่อออก
      - ไม่สบายในท้อง ปวดท้อง
      - ปวดศีรษะ
      - อ่อนเพลียไม่มีเรียวแรง
    - - นำ้ลายยุงก้นปล่องเพศเมีย
      - เป็นโรคติดเชื้อของมนุษย์และสัตว์อื่นที่มียุงเป็นพาหะ
      - มีสาเหตุจากปรสิต
    - - การป้องกันไม่ให้ถูกยุงกัดมุ้งเคลีอบนำ้ยา
      - ยารักษาโรค/ต้านมาลาเรีย
      - การกำจัดยุงพ่นยาฆ่ายุง
      - สวมเสื้อผ้าปกปิดมิดชิด
- - - - ปอดอักเสบจากการติดเชื้อ
        
        พบได้บ่อยที่สุด โดยเชื้อโรคที่เข้าสู่ปอดและทำให้เกิดการอักเสบของถุงลมปอดและเนื้อเยื่อรอบๆ
        
        ปอดอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ
        
        เกิดจากการหายใจเอาสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ เช่น ฝุ่น ควัน สารเคมีที่ระเหยได้
    - - มีไข้ เหงื่อออก หนาวสั่น
      - ไอมีเสมหะ เจ็บหน้าอกขณะหายใจหรือไอ
      - หายใจเร็ว หอบ หายใจลำบาก
      - คลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสีย
    - - สร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
      - หลีกเลี่ยงฝุ่นควัน ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ หรือ อาการที่หนาวเย็น
      - ไม่สูบบุหรี่ เนื่องจากบุหรี่จะทำลายกระบวนการป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ
      - ดูแลสุขอนามัยส่วนตัว หมั่นล้างมือหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่คนหนาแน่น
      - เมื่อเป็นหวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ควรรักษาให้หายขาดแต่เนิ่นๆ
- - - - ผู้ป่วยที่ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
      - การได้
      - การเจ็บป่วย
      - การได้รับการสอดใส่อุปกรณ์เข้าสู่ร่างกาย
    - - ด้านสิ่งแวดล้อม
        
        บุคคลได้แก่ เจ็บป่วยด้วยโรคติดเชื้อ
        
        ที่อยู่อาศัย สิ่งแวดที่ไม่ดีได้แก่ ปนเปื้อนในอุปกรณ์การแพทย์มีสัตว์และแมลง
      - ด้านผู้ป่วย
        
        ภายใน ได้แก่ อายุ โรค การบาดเจ็บ ความต้านทานตํ่าความเครียด
        
        ภายนอกได้แก่ เศรษฐกิจ อาชีพ การผ่าตัด
    - - ้เชื้อทีอยู่ภายใน เชื้อประจำถิ่น ได้แก่ แบคเรีย ไวรัส เชื้อราชนิดต่างๆ
        
        เชื้อแบคที่อยู่ภายนอกร่างกาย เชื้อแบคทีเรียที่มาจากสิ่งแวดล้อม ได้แก่อุปกรณ์ต่างๆ
    - - ในบ้าน ชุมชน
        
        เชื้อที่มากับอาหาร
        
        บุคคล
        
        สัตว์เลี้ยง
        
        เชื้อในอากาศ
      - ในโรงพยาบาล
        
        เชื้อจากผู้ป่วย
        
        อุปกรณ์ เสื้อผ้า
        
        เครื่องนุ่งห่มต่างๆ
    - - สาเหตุ
        
        ความรุนแรงขึ้นอยู่กับจำนวนเซลล์ตับที่ถูกทำลาย
        
        เป็นแบบชนิดเฉียบพลันหรือเรื้อรัง
        
        เชื้อไวรัสสามารถติดต่อได้หลายทาง
      - อาการ
        
        ชนิดเฉียบพลัน(Acute viral hepatitis)พบบ่อยไม่มีอาการตาตัวเหลือมีเพียงอาการอ่อนเพลีคล้ายเป็นหวัด
        
        ชนิดเหลือง(icteric hepatitis)ตาตัวเหลือง
- - - - อาจเกิดโรคหลอดลมและปอดอักเสบได้
      - มีไข้สูง
      - ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
      - ไอรุนแรง
      - ปวดกระดูก
    - - ฉีดวัคซีนป้องกันทุกปี
      - ล้างมือบ่อยๆ
      - หลีกเลี่ยงผู้ป่วย
      - สวมหน้ากากอนามัย
      - รักษาสุขภาพให้แข็งแรง
- - - - ในรายที่มีอาการรุนแรงจะพบมีการเปลี่ยนแปลงระดับความรู้สึกตัวได้
      - อาการไข้ หนาวสั่น จะมีอาการเหมือนอาการติดเชื้อทั่วไป เช่น อ่อนเพลีย ไอแห้งๆ หรือไอมีเสมหะ
    - - เชื้อเข้าสู่ร่างกายผ่านบาดแผล การสำลักหรือกลืนนำ้ลายหรือหายใจเอาละอองฝุ่นของดินที่มีเชื้อปนเปื้อน
      - เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากแบคทีเรียกรัมลบ
      - มักติดต่อจากการสัมผัสดินหรือนำ้ที่ปนเปื้อนเชื้อ
    - - ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวานและผู้ที่มีบาดแผลควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสดินหรือแหล่งนำ้
      - ในแหล่งที่มีโรคชุกชุม ควรให้ความรู้แก่ประชาชนในพื้นที่โดยเฉพาะผู้ทีมีโรคประจำตัวเรื้อรังหรือมีบาดแผล
- - - - ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอ ไอ มีนำ้ มีไข้สูง
    - - การสัมผัสสัตว์โดยตรงการใช้ของร่วมกัน เช่น ดื่มนำ้จากแก้วนำ้ รับประทานอาหารจากซ้อนด้วยกัน การไอจาม การสัมผัส
    - - แนะนำผู้รับบริการล้างมือบ่ายๆอย่างถูกวิธีเช็ดให้แห้งใช้หน้ากากปิดจมูก
- - - - เกิดจากเชื้ แบคเรียติดต่อจากคนสู่คน ผ่านทางละอองเสมหะที่เกิดจากการไอจามหรือใช้เสีย เข้าสู่ทางเดินหายใจ
    - - ระยะแรกอาการไม่ชัดเจนให้สังเกตอาการตนเอง ถ้าไอเรื้อรังเกิน2สัปดาห์ไข้ตํ่าๆ ช่วงบ่าย เหงื่อออกตอนกลางคืน นำ้หนักลด เบื่ออาหาร ไอมีเสมหะปนเลือด
    - - วัณโรครักษาที่มีประสิทธิภาพสูงกินยาให้ครบ 6-8 เดือน
    - - การดูแลรักษาผู้ป่วยให้หายขาด ป้องกันการแพร่กระจายสู่ผู้อื่น ใช้ผ้าปิดปากจมูกเมื่อไอจาม
- - - - มีไข้สูงแสดงอาการ/อาการแสดงของการติดเชื้อนั้นๆ ตรวจเลือดผลเป็นเชื้อดื้อยา
    - - สัมผัส อาการ
    - - ควบคุมเชื้อตามแนวทาของโรงพยาบาลแยกของผู้ป่วย ใส่ถุงมือ ใส่เสื้อกาว