Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ระยะการคลอด, อ้างอิง, จัดทำโดย นางสาวอนงค์นาถ ตันต้าว ชั้นปีที่ 2 …
ระยะการคลอด
การดูแลมารดาในระยะที่ 2 ของการคลอด
การหดรัดตัวของมดลูก โดยประเมินทุก 15 นาทีหรือทุกครั้งที่มีการหดรัดตัวของมดลูกและคลายตัว ถ้าผู้คลอดมีการรัดตัวมากกว่าปกติ อาจจะเกิดภาวะ bandl's ring อาจทำให้เกิดภาวะมดลูกแตกได้ และในทารกอาจเกิดภาวะ fetal distress
การเคลื่อนต่ำของส่วนนำ โดยการตรวจภายในเพื่อประเมินระดับส่วนนำของทารก การสังเกตบริเวณฝีเย็บ และการเคลื่อนต่ำของตำแหน่งเสียงหัวใจทารกในครรภ์ที่ฟังได้ชัดเจนที่สุด
แรงเบ่ง (bearing down effort) ทั้งนี้ถ้าผู้คลอดเบ่งแล้วการคลอดไม่ก้าวหน้า อาจเป็นเพราะทารกในครรภ์อยู่ในท่าที่ผิดปกติหรือเชิงกรานไม่กว้างพอ
กระเพาะปัสสาวะ เพื่อให้แน่ใจกว่าไม่มี full bladder เนื่องจากมีกระเพาะปัสสาวะเต็มเป็นสาเหตุทีทำให้มดลูกหดรัดตัวไม่ดีและขัดขวางการเคลื่อนต่ำของส่วนนำทารก
สภาวะของทารกในครรภ์โดยการฟังเสียงของหัวใจทารกในครรภ์ทุก 15-30 นาทีเป็นอย่างน้อยในรายที่มีภาวะผิดปกติ ต้องฟังทุกครั้งที่มดลูกคลายตัว เพื่อป้องกันภาวะขาดออกซิเจนในทารก
สัญญาณชีพ เพื่อดูแสดงว่ามีการตกเลือดในระยะคลอดและเกิดภาวะช็อค และการชักในระยะคลอดได้
สภาวะร่างกายของผู้คลอด โดยประเมินว่าผู้คลอดมีภาวะอ่อนเพลีย หมดแรง ขาดน้ำ ขาดอาหาร รวมทั้งการประเมินระดับความเจ็บปวดและพฤติกรรมการเผชิญความเจ็บปวดของผู้คลอด
สภาวะจิตใจของผู้คลอด ได้แก่การประเมินความรู้สึกวิตกกังวล และความหวาดกลัวของผู้คลอดต่อการคลอด ซึ่งอาจมีผลทำให้มดลูกหดรัดตัวน้อยกว่าปกติเกิดการคลอดล่าช้าได้
ระยะของการคลอด (Stage of labor)
ระยะที่ 1 ของการคลอด
(First stage of Labor)
เป็นระยะตั้งแต่เริ่มเจ็บครรภ์จริง
ปากมดลูกเปิดหมด10 เซนติเมตร
ช่วงปากมดลูกเปิดช้า (Latent phase) เริ่มตั้งแต่เจ็บครรภ์จริงจนกระทั่ง ปากมดลูกเปิด 3 เซนติเมตร ผู้คลอดจะรับรู้ถึงการหดรัดตัวของมดลูกเหมือนกับการปวดท้องขณะมีประจำเดือน
ช่วงปากมดลูกเปิดเร็ว (Active phase) เริ่มตั้งแต่ปากมดลูกเปิด 4 เซนติเมตรจนกระทั่งปากมดลูกเปิด 7 เซนติเมตร ผู้คลอดเริ่มมีความ ไม่สุขสบาย อึดอัด และต้องการผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด
ช่วงเปลี่ยนผ่าน (Transitional phase) เริ่มตั้งแต่ปากมดลูกเปิด 8 เซนติเมตรจนกระทั่งปากมดลูกเปิดหมด
ระยะที่ 2 ของการคลอด
(Second stage of labor)
เป็นระยะเริ่มตั้งแต่ปากมดลูกเปิดหมด
จนกระทั่งทารกคลอด
1) Early หรือ Late phase เป็นช่วงที่ต่อจากปากมดลูกเปิดหมด มารดามีอาการสงบลง สามารถนอนพักได้ช่วงเวลาสั้น เป็นช่วงที่จะเตรียมเบ่ง
ต่อไป ระยะนี้ใช้เวลา 10-30 นาที
2) Descent หรือ Active phase เป็นช่วงเวลาที่ส่วนนำเคลื่อนต่ำลงมา จนสามารถเห็น Labia minora แยกจากกันและเห็นส่วนนำทารก
3) Perineal phase เป็นช่วงที่ฝีเย็บเริ่มบางโปุงตึง มองเห็นทวารหนัก การหดรัดตัวของมดลูกรุนแรงมากขึ้น มารดาเริ่มมีการเบ่งคลอด
ระยะที่ 3 ของการคลอด
(Third stage of labor)
เป็นระยะของการคลอดรก โดยเริ่มตั้งแต่
ทารกคลอดจนถึงรกคลอด
1) ช่วงรกลอกตัว (Placenta separation) หลังจากทารกคลอดครบ มดลูกยังคงมีการหดรัดตัวแรงและลดขนาดลงอย่างรวดเร็ว
รกจะมีการลอกตัวสองลักษณะ
การลอกตัวตรงกลาง เรียกว่า กลไกแบบชูซ
(Schultz’s method) พบประมาณ 70% ของการลอกตัวทั้งหมด การลอกตัวของรกจะเกิดขึ้นตรงกลางของรก ทำให้มีเลือดออกอยู่ด้านหลังรก (Retroplacental bleeding) จึงทำให้ไม่มีเลือดออกมาให้เห็นทางช่องคลอด
การลอกตัวที่ริมรก เรียกว่า กลไกแบบดันแคน
(Duncan’s method) การลอกตัวของรกจะเกิดขึ้นโดยเริ่มที่บริเวณริมรกก่อนส่วนอื่น และเลือดที่เกิดจากการฉีกขาดของผนังมดลูกจะไหลซึมออกมาภายนอก
2) ช่วงรกคลอด (Placental expulsion) หลังจากรกลอกตัวออกจากผนังมดลูก มดลูกยังคงมีการหดรัดตัวอยู่จึงทำให้รกถูกขับออกมา ใช้เวลา 5-30 นาที่ ถ้านานจะมีภาวะรกติด ต้องช่วยทำคลอดรกเพื่อป้องกันการเสียเลือด
ระยะที่ 4 ของการคลอด
(Fourth stage of labor)
เป็นระยะที่นับจากหลังรกคลอดแล้ว
จนถึง 2 ชั่วโมงหลังคลอด เฝ้าระวังในระยะนี้อาจเกิด
ภาวะแทรกซ้อนโดยเฉพาะตกเลือดหลังคลอด
อาการแสดงว่าเข้าสู่ระยะที่ 2 ของการคลอด
อาการที่แสดงที่บ่งบอก
ผู้คลอดรู้สึกอยากเบ่ง
อยากถ่ายอุจจาระและปัสสาวะขณะที่มดลูกหดรัดตัว
มีเลือดสดออกทางช่องคลอดเล็กน้อย
ถุงน้ำทูนหัวแตก
ฝีเย็บตุง
มองเห็นส่วนนำของทารกทางช่องคลอด
อาการแสดงที่แน่นอน
จะคลำไม่พบขอบของปากมดลูก คือปากมดลูกเปิดหมด 10 เซนติเมตร
การเคลื่อนต่ำของทารก
หาระดับส่วนนำด้วยวิธี Leopold’s hand grip (ท่าที่ 3 และ 4) ได้ยาก
คลำส่วนของ cephalic prominences ไม่ได้ทางหน้าท้อง
ตำแหน่งเสียงหัวใจของทารกเคลื่อนต่ำลงเรื่อยๆ ค่อนมาทางกึ่งกลางลำตัวของผู้คลอด
และตรวจทางช่องคลอด พบระดับส่วนนำเคลื่อนต่ำลงมาเรื่อยๆ
การเตรียมด้านร่างกายและจิตใจเพื่อการคลอด
การเตรียมสถานที่สถานที่หรือห้องคลอดจะต้องดูแลให้สะอาดอยู่เสมอ
การเตรียมเครื่องมือเครื่องใช้ในการทำคลอด
เครื่องมือเครื่องใช้ในการท าคลอด ประกอบด้วย set คลอด set scrub ผ้าเช็ดมือ เสื้อกาวน์ ถุงมือ face sheild รองเท้าบูท ถังผ้าเปื้อน ไฟตั้ง และ crib รับทารก
วิธีการเตรียมเครื่องมือเครื่องใช้ในการทำคลอดโดยใช้คีมจับสำลีชุบน้ำยาฆ่าเชื้อ เช่นalcohol 70 % เช็ดทำความสะอาดโต๊ะ แล้วจัด set คลอด เครื่องมืออื่นๆ ได้แก่ ยาหยอดตา น้ำกลั่น หม้อนอน เครื่องมือที่ใช้ในการช่วยคลอดเช่น คีม เครื่องดูดสุญญากาศ ออกซิเจน
การเตรียมผู้คลอด
3.1 การเตรียมทางด้านร่างกาย
3.1.1 ท่าที่ใช้ในการคลอด
ท่านอนหงายชันเข่า (dorsal recumbent) ให้ผู้คลอดนอนหงายชันเข่าขึ้นแยกขาให้กว้าง เท้าจิกลงบนเตียง ท่านี้เมื่อรู้สึกเจ็บและเบ่งสามารถ
ดึงข้างเตียงได้สะดวก เมื่อหายเจ็บแล้วสามารถพักผ่อนได้อย่างสบาย
ท่านอนตะแคง ให้ผู้คลอดนอนตะแคงซ้าย การนอนท่านี้จะสามารถใช้มือช่วยดึงออกได้ง่าย แรงกดทับของมดลูกต่อเส้นเลือดดำใหญ่ที่นำเลือดเข้าสู่หัวใจน้อย ช่วยในการเงยของศีรษะได้ง่าย
ท่านอนหงายขึ้นขาหยั่ง ( lithotomy position) ในท่านี้ขาของผู้คลอดจะวางบนขาหยั่ง ช่วยให้กล้ามเนื้อหน้าท้องทำงานได้ดีขึ้น ถ้าขาดความชำนาญในการทำคลอด อาจเกิดอุบัติเหตุกับทารกได้
3.1.2 การฟอกทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก (scrub vulva) เพื่อให้บริเวณคลอดสะอาดปราศจากเชื้อแบคทีเรีย การฟอกจะฟอกไปทิศทางเดียวกันด้วยสำลีชุบน้ำสบู่หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น hibiscurb
3.2 การเตรียมทางด้านจิตใจ โดยบอกขั้นตอนการช่วยเหลือการคลอดให้ผู้คลอดเข้าใจ ให้กำลังใจดูแลผู้คลอดอย่างใกล้ชิด และบอกแนวทางในการปฏิบัติตัวของผู้คลอด
อ้างอิง
อุตม์ชญาน์ อินทเรือง. บทที่ 2 การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาในระยะคลอด. เว็บไซต์
https://administer.pi.ac.th/uploads/eresearcher/upload_doc/2016/academic/1452168934153843001489.pdf
ศีตรา มยูขโชติ. บทที่ 1 การคลอด และองค์ประกอบของการคลอด. เว็บไซต์
https://administer.pi.ac.th/uploads/eresearcher/upload_doc/2016/academic/1452168934051566003510.pdf
จัดทำโดย นางสาวอนงค์นาถ ตันต้าว ชั้นปีที่ 2
เลขที่ 152 รหัสนักศึกษา 612401155