Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การปฏิสนธิ, Placental_cotyledon, Gray36, inner cell mass, Blastocyst-ovary…

- - - - สัปดาห์ที่ 1 มีการแบ่งเซลล์
      - สัปดาห์ที่ 2 เซลล์ที่เกิดจากการแบ่งตัวแยกออกเป็น 2 ส่วน
        โดยมีน้ำคั่นกลาง เรียกว่าระยะ blastocyst
      - สัปดาห์ที่ 3 เริ่มมีหัวใจ CRL=2-3 มิลลิเมตร
      - สัปดาห์ที่ 4 เกิดตุ่มของแขน ขา เริ่มมีการเจริญของตา หู ปาก คอหอย หลอดอาหาร หลอดลม หลอดเลือด aorta ทวารหนัก สายสะดือ เห็นหัวใจชัดเจน CRL=4-5 มิลลิเมตร น้ำหนัก0.4 กรัม
      - สัปดาห์ที่ 5 เริ่มมีการเจริญของสมอง เริ่มมีส่วนของนิ้วมือ นิ้วเท้า เริ่มมีส่วนของหูนูนขึ้น หัวเจริญมากเห็นชัดเจน
        CRL=7-8 มิลลิเมตร น้ำหนัก 0.8 กรัม
      - สัปดาห์ที่ 6 เริ่มมองเห็นอวัยวะต่างๆแยกจากกันชัดเจน เริ่มมีการสร้างกล้ามเนื้อของส่วนต่างๆ เริ่มมีการสร้างกระดูกของกะโหลกศีรษะและขากรรไกร เริ่มมีการสร้างช่องปาก ช่องจมูก ริมฝีปาก หัวใจแบ่งเป็น 4 ห้องเรียบร้อย CRL= 12 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1.2 กรัม
      - สัปดาห์ที่ 7 มีการเปลี่ยนแปลงแยกออกจากกันของทางเดินอาหารและลำไส้ ทางเดินปัสสาวะ อวัยวะสืบพันธ์จากเดิมที่อยู่ภายในท่อเดียวกัน
        CRL=15-20 มิลลิเมตรน้ำหนัก 1.5-2 กรัม
      - สัปดาห์ที่ 8 โครงสร้างของอวัยวะภายในและภายนอกของร่างกายส่วนใหญ่จะเจริญเกือบสมบูรณ์ เริ่มมีการเจริญของกล้ามเนื้อมัดใหญ่และเริ่มหดรัดตัว ทารกสามารถเคลื่อนไหวได้ CRL=25-30 มิลลิเมตร
        น้ำหนัก 3 กรัม
      - สัปดาห์ที่ 12 อวัยวะเพศภายนอกเริ่มแสดงให้เห็นว่าเป็นเพศชายหรือหญิง ตับเริ่มทำหน้าที่สร้างเม็ดเลือดแดง CRL=60-70 มิลลิเมตร
        น้ำหนัก 25-50 กรัม
      - สัปดาห์ที่ 16 แยกเพศได้จากการดูอวัยวะเพศภายนอก มีการเคลื่อนไหวแขน ขาที่ทำให้มารดารู้สึกได้ มีการดูดน้ำคร่ำและขี้เทาเกิดขึ้น
        CRL=120 มิลลิเมตร น้ำหนัก 110 กรัม
      - สัปดาห์ที่ 20 ลำตัวยาวเป็นครึ่งหนึ่งของขนาดความยาวของทารก
        เมื่อคลอดครบกำหนด มีขนอ่อนปกคลุมทั่วร่างกาย เริ่มมีผม
        CRL=250 มิลลิเมตร น้ำหนัก 300 กรัม
      - สัปดาห์ที่ 28 ระบบประสาทควบคุมการทำงานของร่างกายได้สมบูรณ์ ตาเปิด-ปิดได้ ทารกเพศชายลูกอัณฑะจะเคลื่อนลงมาอยู่ในถุง
        CRL=270 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1100 กรัม
      - สัปดาห์ที่ 32 กระดูกมีการเจริญเติบโตเต็มที่ เริ่มเก็บสะสมแร่ธาตุต่างๆ เช่น เหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส
        CRL=280 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1800 กรัม
      - สัปดาห์ที่ 36 เล็บยาวคลุมปลายนิ้วมือและเท้า ถ้าคลอดสามารถรอดชีวิต
        CRL=320 มิลลิเมตร น้ำหนัก 2600 กรัม
      - สัปดาห์ที่ 24 ผิวหนังบริเวณมือและเท้าหนาขึ้น สามารถกำมือได้ (grasp reflex) ทำให้เกิดลายนิ้วมือ ลายเท้าได้ มีไข (vernix caseosa) คลุมผิวหนัง หากคลอดขณะนี้จะพยายามหายใจและตายในเวลาสั้นๆ
        CRL=260 มิลลิเมตร น้ำหนัก 650 กรัม
      - สัปดาห์ที่ 40 ทารกพัฒนาเต็มที่ CRL=360 มิลลิเมตร น้ำหนัก 3400 กรัม
      - พัฒนาการของทารกในครรภ์ พัฒนาการของทารกด้านร่างกายด้านภาษา ด้านสติปัญญา ด้านอารมณ์และด้านสังคมจะเห็นได้ชัดภายหลังคลอดซึ่งเป็นพัฒนาการที่ต่อเนื่องมาจากระยะที่อยู่ในครรภ์มารดา
        
        การกระตุ้นพัฒนาการของทารกในครรภ์
        
        ด้านร่างกาย
        
        อายุครรภ์เริ่มต้นที่ควรได้รับการกระตุ้น
        ตลอดการตั้งครรภ์ วิธีการกระตุ้นพัฒนาการ
        รับประทานอาหาร 5 หมู่ เน้นผักใบเขียวสดที่มีโฟเลตและกรดโฟลิกป้องกัน NTD ธาตุเหล็กป้องกันภาวะซีดหรือ LBW ไอโอดีนป้องกันโรคเอ๋อ
        
        ด้านสมองและสติปัญญา
        
        การรับความรู้สึก
        
        อายุครรภ์เริ่มต้นที่ควรได้รับการกระตุ้น 20 สัปดาห์ วิธีการกระตุ้นพัฒนาการ ลูบหน้าท้อง
        
        การมองเห็น
        
        อายุครรภ์เริ่มต้นที่ควรได้รับการกระตุ้น 28 สัปดาห์ วิธีการกระตุ้นพัฒนาการ
        เปิดไฟฉายส่องบริเวณหน้าท้องนานไม่เกิน 8 วินาที
        
        การเคลื่อนไหว
        
        อายุครรภ์เริ่มต้นที่ควรได้รับการกระตุ้น 20 สัปดาห์ นั่งโยกตัวไปมา นั่งเก้าอี้โยกหน้า-หลัง 28 สัปดาห์ นั่งเก้าอี้หมุนซ้าย-ขวา
        
        การได้ยิน
        
        อายุครรภ์เริ่มต้นที่ควรได้รับการกระตุ้น 18 สัปดาห์ วิธีการกระตุ้นพัฒนาการ การพูดคุย
        
        24 สัปดาห์ ใช้หูฟังเปิดเพลงแนบหน้าท้อง
        
        ด้านจิตใจ
        
        อายุครรภ์เริ่มต้นที่ควรได้รับการกระตุ้นตลอดการตั้งครรภ์ วิธีการกระตุ้นพัฒนาการ การหายใจลึก-ยาวอย่างมีประสิทธิภาพ การฝึกผ่อนคลาย การสวดมนต์ การทำสมาธิ
        
        ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารกในครรภ์
        
        เชื้อโรค :explode:
        
        หัดเยอรมัน (0-12 สัปดาห์) ต้อกระจก ลิ้นหัวใจรั่ว หูหนวก
        
        Zika (ตลอดการตั้งครรภ์)ศีรษะเล็กกว่าปกติ
        
        รังสี x-ray ขนาดน้อยกว่า 5-10 rad (ไม่เกิดผลต่อทารก) ขนาด 10-25 rad(อาจเกิดผลกระทบได้) ขนาดมากกว่า 25 radทำให้เกิดความผิดปกติต่อทารก
        
        อายุครรภ์ 12-16 สัปดาห์ อาจเกิด mental retardation หรือgrowth retardation
        
        อายุครรภ์ หลังไข่ตก 2-3 สัปดาห์ แท้งหรือปกติ
        
        อายุครรภ์ หลัง 20 -หลังคลอด hair loss,skin lesion,bone marrow suppression
        
        อายุครรภ์4-12 สัปดาห์ อาจเกิด microcephaty,mental ratardation,cataract,growth retardation, microphthalmia
        
        โรค :!:
        
        เบาหวานชนิดพึ่งอินซูลินและมีระดับน้ำตาลสูง (ไตรมาสแรก โดยเฉพาะสัปดาห์ที่ 3-6) caudal regression syndrome
        
        ยา :star:
        
        กรดวิตามินเอเข้มข้น(ตลอดการตั้งครรภ์) ทารกพิการผิดรูป
        
        ยารักษาไวรัสตับอักเสบ(ตลอดการตั้งครรภ์) ความผิดปกติของ skull,palate,eye,skeleton,gastrointestinal track
        
        อินสุลินชนิดเม็ด(ตลอดการตั้งครรภ์) caudal syndrome
        
        สิ่งแปลกปลอม :warning:
        
        บุหรี่ (ตลอดการตั้งครรภ์) หัวใจเต้นผิดปกติ ทารกน้ำหนักตัวน้อย แท้ง คลอดก่อนกำหนด ตาย ไม่ทำให้พิการ
        
        Amphetamine(ตลอดการตั้งครรภ์) fetal-growth restriction และ behavioral abnormalities
        
        สภาพร่างกายมารดา :forbidden:
        
        ไตรมาสแรก โดยเฉพาะ4-14 สัปดาห์ fetal-growth restriction,CNS defect,facial anomalies และ minor limb anomalies เช่น syndactyly
  - - - ประมาณวันที่ 12 หลังจากปฏิสนธิ cytotrophoblast ที่ยื่นเข้าไปในโพรงมดลูกจะมีลักษณะเป็นแท่งตัน
    - - ประมาณวันที่ 12 หลังจากปฏิสนธิ syncytiotrophoblast ที่ยื่นเข้าไปในโพรงมดลูกจะมีลักษณะเป็นแท่งตัน
      - ทำหน้าที่บุกรุกโพรงมดลูกก่อนที่ cytotrophoblast จะงอกตามเข้าไป
      - วันที่ 17-18 หลังการปฏิสนธิ จะมีเส้นเลือดเกิดขึ้นภายในและช่องว่างที่อยู่รอบๆ syncytiotrophoblast เรียกช่องว่างที่มีเลือดขังอยู่ว่า inter villous space ซึ่งเป็นบริเวณที่มารดาและทารกใช้แลกเปลี่ยนน้ำ อาหารและอากาศกัน
      - Syncytiotrophoblast ด้านที่ติดกับโพรงมดลูกจะไม่มีการเจริญเติบโตต่อ แต่จะกลายเป็นเนื้อเยื่อหนาและเหนียว เรียกว่า chorion leave ซึ่งต่อไปจะเจริญเป็นเยื่อหุ้มทารก
      - syncytiotrophoblast ด้านที่ติดกับเยื่อบุมดลูกจะแตกแขนงและเจริญเติบโตต่อไปเป็นเนื้อรก
        
        เนื้อรกแต่ละแขนง เรียกว่า placenta cotyledon
        
        เยื่อหุ้มที่กั้น placenta cotyledon แต่ละก้อนเรียกว่า placenta septum
    - - เกรด 0 รกมีขอบเขตเรียบ เนื้อรกกลมกลืน แยกเป็นเนื้อรกไม่ได้
      - เกรด 1 เริ่มเห็นลักษณะเนื้อรกเป็นลอน
      - เกรด 3 รกแยกออกเป็น cotyledon ชัดเจน
      - เกรด 2 เห็นเนื้อรกเป็นลอนมากขึ้น