Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การพยาบาลทารก แรกเกิดที่มีปัญหาซับซ้อน, บรรณานุกรม …

- - - - มีถุงยื่นผ่านจากกระดูกไขสันหลังออกมาตามตําแหน่ง
        ที่บกพร่องนั้น เช่น พบบ่อยที่สุดที่บรเิวณ lumbosacrum
  - - - อาจเกิดถุงแตกหรือติดเชื้อบริเวณรอยโรค
        
        ให้ถุงน้ำชุ่มชื้นเสมอใช้ผ้าก๊อสชุบน้ำเกลือสะอาดปิดก้อนเอาไว้ไม่ปิดพลาสเตอร์ที่บรเิวณถุงน้ำ
        
        ตรวจสอบการติดเชื้อหรือการระคายเคืองบริเวณถุงน้ำถ้าพบผิดปกติรายงานแพทย์ถ้าพบผิดปกติรายงานแพทย์
        
        จัดให้นอนคว่ำหรือนอนตะแคง และไม่สวมเสื้อผ้า เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนหรือระคายเคืองและการแตกของถุงน้ำ
        
        ประเมินสัญญาณชีพและอาการแสดงทางระบบประสาทเพื่อประเมินการติดเชื้อ
      - 2.มีโอกาสติดเชื้อ ระบบทางเดินปัสสาวะหรือมีการอักเสบบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์
        
        รักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ทุกครั้งหลังขับถ่าย
        
        ดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวนะอย่างถูกต้องตามแผนการรักษา
        
        ดูแลให้ทารกได้รับการสวนปัสสาวะเป็นครั้คราว(intermittent catheterilization) ตามแผนการรักษา
        
        ประเมินการตรวจการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะทางห้องปฏิบัติการ
        
        ใช้มือกดบรเิวณกระเพาะปัสสาวะทุก 2-4 ชั่วโมงเพื่อป้องกันการคั่งของปัสสาวะ
    - - มีโอกาสติดเชื้อบรเิวณแผลผ่าตัดได้ง่ายจากการปนเปื้อนอุจจาระหรือปัสสาวะ
        
        จัดให้ทารกนอนตะแคงหรือคว่ำ เพื่อป้องกันการปนเปื้อนแผลผ่าตัด
        
        สังเกตอาการแสดงการติดเชื้อที่บริเวณแผลผ่าตัดเช่น แผลบวมแดง แผลแยก
        
        รักษาความสะอาดแผลผ่าตัดทุกครั้งที่มีการปนเปื้อน
        
        ดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวนะอย่างถูกต้องตามแผนการรักษา
      - มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด
        เช่น ภาวะน้ำคั่งในกะโหลกศีรษะ
        เยื้อหุ้มสมองอักเสบ แผลกดทับ
        ข้อติดแข็ง อัมพาต
        ความผิดปกติของสะโพก
        หรือปอดอักเสบจากการไม่เคลื่อนไหว
        
        วัดรอบศีรษะทุกวัน เพื่อประเมินภาวะ
        hydrocephalus
        
        พลิกตะแคงตัวทุก 2 ชั่วโมง
        เพื่อป้องกันการเกิด
        แผลกดทับและปอดอักเสบ
        
        สังเกตอาการและอาการแสดงของภาวะแทรกซ้อนดังต่อไปนี้
        
        อาการของเยื้อหุ้มสมองอักเสบเช่น ซึม มีไข้คอแข็งไวต่อการกระตุ้น
        
        อาการของ hydrocephalus เช่น กระหม่อมโป่งตึง ซึม ไวต่อการกระตุ้น กระสับกระส่าย ร้องเสียงแหลม
        
        ทําการบริหารแขนและขา
        (passive range of motion)
        อย่างนุ่มนวล ป้องกันข้อติดแข็ง
        
        ประเมินสัญญาณชีพและอาการทางระบบประสาททุก 2-4 ชั่วโมง
- - - - 4.ดูดเสมหะน้ำเมือกและน้ำลายในปากในลำคอบ่อยๆหรือต่อเป็น continuous
      - 5.สังเกตและบันทึกอาการผิดปกติของการหายใจ เช่น การหายใจลําบาก หยุดหายใจ เขียว
      - 3.พลิกตะเเคงตัวทุก 2 ชั่วโมง
      - 6.นำทารกเข้าตู้อบและการให้ออกซิเจนที่มีความชื้นสูงเพื่อช่วยลดภาวะการหายใจหอบเหนื่อย
      - 2.ให้ทารกนอนตะแคงในแนวราบ
      - 7.สังเกตการพร่องออกซิเจนเช่น ปลายมือปลายเท้าเขียว
      - 1.งดน้ำและอาหารทางปาก ให้สารน้ำและอิเล็กโทรไลต์ทางหลอดเลือดดำตามแผนการรักษา
      - 8.จัดศีรษะและลำตัวของทารกเพื่อป้องกันการสำลักน้ำและอาหารเข้าทางเดินหายใจ
      - 9.ดูแลให้ยาปฏิชีวนะตามแบบเเผนการรักษา เพื่อป้องกันภาะปอดอักเสบจากการสูดสําลัก
    - - 2.ดูดเสมหะ น้ำลาย และลําคอบ่อยๆโดยระมัดระวังไม่ให้สายลึกเกินกว่า แพทย์กำหนดเพราะอาจเกิดอันตรายต่อหลอดอาหารและไม่เคาะปอดหรือสั่นสะเทือนใน 3 วัน หลังผ่าตัด
      - 3.จัดท่านอนให้นอนตะแคงศีรษะเล็กน้อยพลิกเปลี่ยนท่าทุก 2 ชั่วโมงเพื่อไม่ให้เกิดการคั่งค้างของเสมหะและการสูดสําลัก
      - ประเมินลักษณะการหายใจ สีผิว หรืออาการของเสมหะ
        อุดกั้นทางเดินหายใจ เช่น หายใจลําบาก เขียว หยุดหายใจ
        เพื่อการวางแผนให้การดูแลได้ทันท่วงที
      - 4.เตรียมอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือทารกใหพร้อมเพื่อการช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินได้ทันท่วงที
- - - - โดยการถ่างขยาย anal dilatation ใช้ในพวกที่มีรูเปิดตาม
        ปกติแต่รูเปิดเล็กโดยใช้เครื่องขยาย Hegar เพิ่มขนาดอย่าง
        ช้าๆ
        2.โดยการเปิดทางติดต่อไปทางด้านหลัง (cutback procedure) ใช้ในความผิดรูประดับต่ำที่มีรูเปิดของทางติดต่อห่างจากตําแหน่งรูเปิดที่ควรจะเป็นมาทางด้านหน้า
        ประมาณ 1 เซนติเมตร ใช้ได้ดีกับเพศชาย
        3.ผ่าตัดย้ายรูเปิดทวารหนัก (anal transposition) เหมาะกับเพศหญิงที่มีความผิดรูประดับต่ํา
    - - การทํา colostomy ทําได้ทั้งตําแหน่ง transverse หรือ sigmoid colon และจะได้รับการผ่าตัดตกแต่งทวารหนักประมาณ 6-12 เดือน
        2.การตกแต่งรูทวารหนัก (anorectoplasty) หลักการคือจัดให้ rectum ผ่านลงมาใน levetor ani
        และเปิดออกที่ ตําแหน่งปกติของทวารหนักภายนอก
        พร้อมกับปิดรู fistula ที่ติดต่ออวัยวะอื่น
  - - - บรรเทาอาการท้องอืด โดยให้ทารกนอนศีรษะสูง
        หรือใส่สายสวนคากระเพาะอาหาร
        
        แก้ไขปัญหาการขาดสมดุลของน้ำและอิเล็คโตรลัยท์
    - - 1.กรณีตกแต่งทวารหนักตั้งแต่เกิด ทําความสะอาดแผลหลังการขับถ่ายทุกครั้ง
        2.กรณีที่ต้องทํา Colostomy และทําการตกแต่งรูทวารหนักต้องอธิบาย ให้พ่อแม่เข้าใจทําไมต้องทํา Colostomy แนะนําแนวทางการรักษาต่อเนื่องอย่างไร
        3.กรณีที่เด็กได้รับการผ่าตัดตกแต่งทวารหนักภายหลังทํา Colostomy ระยะแรกดูแลแผลผ่าตัดเช่นเดียวกับพวกที่ตกแต่ง รูทวารหนัก ถ่างขยายรูทวารหนักเริ่มทําหลังผ่าตัด 1-2 สัปดาห์ วันละ 2 ครั้งทุกสัปดาห์ค่อยๆเพิ่มขนาดจนถึงขนาดที่ต้องการ
- - - - 2.ปากแหว่งสองข้าง
        อาจเป็นชนิดมีรอยแหว่งบางส่วนหรือ
        รอยแหว่งตลอด
      - 1.ปากแหว่งข้างเดียว คือมีรอยแยกฝีปากบนด้านเดียว
      - 3.ปากแหว่งตลอดริมฝีปากและเหงือก
    - - 1.เพดานโหว่บางส่วนและเพดานโหว่ใต้ชั้นเยื่อเมือก โดยมีลักษณะเพดานโหว่ซ่อนอยู่ในส่วนเพดานอ่อน
      - 2.เพดานโหว่ตลอด เกิดตั้งแต่เพดานอ่อนรวมไปถึงเพดานแข็ง
  - - - 2.จัดท่าให้เหมาะสมหัวสูงให้เต้านมแม่ปิดตรงรอยแหว่ง ใช้มือบีบน้ำนมใส่ปากลูกขณะลูกดูดนมเพื่อให้ได้น้ำนมมากขึ้นและไม่เหนื่อยมาก
      - 3.เตรียมร่างกายเด็กก่อนเข้ารับการผ่าตัดโดยงดน้ำและนมหรืออาหารก่อนผ่าตัด 6 ชั่วโมง
      - ดูแลให้เด็กได้รับน้ำและนมอย่างเพียงพอ ป้องกันการสำลักน้ำและนม
      - ส่งผลเลือดตรวจ (CBC)และเตรียมขอเลือด วัดสัญญานชีพเด็กก่อนส่งเข้าห้องผ่าตัด
    - - การดูแลหลังผ่าตัดปากแหว่ง
        
        2.หลังดูดนมให้ดูดน้ำตามเพื่อเป็นการทำความสะอาดปากและลดการติดเชื้อที่แผลผ่าตัด
        
        ระวังอย่าให้ผู้ป่วยหกล้มเอาหน้าคว่ำ เพราะจะทําให้แผลผ่าตัดปริได้ถ้าเกิดแผลแยกปริใิห้รีบพบแพทย์เพื่อแก้ไขทันที
        
        ทําความสะอาดบรเิวณบาดแผลด้วย cotton bud ชุบน้ำเกลือ ล้างแผลแล้วเช็ดให้แห้ง ป้ายยา 1 เปอรเ์ซ็น kemicitine ointment วันละ 4 ครั้ง
        
        4.หลังจากไหมละลาย 2 สัปดาห์ให้นวดเบาๆบริเวณเเผลเป็นเพื่อป้องกันการนูนแข็งของแผลเป็น
      - การดูแลหลังผ่าตัดเพดานโหว่
        
        2.การทําความสะอาด
        
        ระวังอย่าให้ผู้ป่วยดูดนม,นิ้ว ,ลูกอม ใน 2-3 สัปดาห์แรก
        
        ถ้ามีเลือดออกจากแผลให้ลองอมน้ำเย็นจัด ถ้าเลือดออกยังไม่หยุดให้รีบพบแพทย์
        
        3.ควรนัดให้บิดามารดาพาเด็กมาตรวจ 1 สัปดาห์ หลังผ่าตัด
        
        1.การให้อาหาร
        
        สัปดาห์แรก ให้อาหารเหลวที่ไม่ร้อนและไม่มีรสเปรี้ยว ห้ามใช้หลอดดูด ห้ามดูดจากหัวนม
        
        สัปดาห์ที่2 ให้อาหารอ่อน
        
        สัปดาห์ที่ 3 อาหารปกติ
      - 3.งดน้ำและนมนานอย่างน้อย 4 ชั่วโมง เมื่อครบ 4 ชั่วโมงถึงป้อนน้ำและนมโดย (Syring) ให้เด็กอยู่ในท่าศีรษะสูง
        
        4.การป้อนนมป้อนน้ำ เด็กปากแหว่ง เพดานโหว่ต้องใช้เวลา ป้อนช้าๆโดยเว้นระยะและระวังการสําลัก ควรลูบหลังหรือตบหลังเด็กเบาๆ หรืออุ้มเด็กพาดบ่า เพื่อให้เด็กเรอลมออกจากกระเพาะอาหาร
        
        บันทึกสัญญานชีพทุก 2 ชั่วโมง 2 ครั้งจนปกติ ต่อไปทุก 4 ชั่วโมงและไม่ควรวัดปรอททางปากจนกระทั่ง 7-10 วัน หลังผ่าตัด
        
        ดูแลทางเดินหายใจให้โล่งโดยใช้ลูกยางแดงดูดเสมหะในจมูกและมุมปากเบา ๆ
        
        1.ประเมินภาวะติดเชื้อในช่องปาก เช่น แผลบวมแดง
        
        บรรเทาอาการปวดโดยใช้ยาตามแผนการรักษาของแพทย์คือพาราเซตามอล (Paracetamol)
- - - - จะเป็นคนปัญญาอ่อนที ไม่ก้าวร้าว ยิ้มแย้ม แจ่มใส
    - - มักมีหัวใจพิการแต่กําเนิด
    - - 3.จมูกและหู จมูกเล็กและแฟบ ใบหูเล็กและอยู่ต่ำกว่าปกติ
        ตาห่าง หางตาชี้ขึ้นบน อาจสูญเสียการได้ยิน
      - 4.ปากและคอ เพดานปากโค้งนูน บางรายอาจโหว่
        ขากรรไกรบนไม่เจริญเติบโต ทำให้ช่องปากแคบ ลิ้นคับปาก
        ปากอ้าและลิ้นมักยื่นออกมา มีรอยแตกที่ลิ้น คอสั้น
        และผิวหนังด้านหลังของคอค่อนข้างมากและนิ่ม
      - 2.ศีรษะและตา สมองเล็ก กะโหลกศีรษะแบนกว้าง
        ท้ายทอยแบน ตายาวรีเฉียงออกด้านนอกและขึ้นบน
        ขนตาสั้นขึ้นไม่เป็นระเบียบ
      - 5.ทรวงอกและหัวใจ (หัวใจพิการ)
      - 1.มือและเท้า นิ้วมือป้อมสั้น นิ้วก้อยโค้งงอเข่า เนื่องจากกระดูกกลางนิ้วเล็กมาก อาจมี 2 ข้อ ลายมือผิดปกติ
        ลายมือมีเส้นขวางฝ่ามือ [Simian line]
        มีนิ้วหัวแม่เท้าและนิ้วชี้ห่างกันมากจนเกิดเป็นช่อง
      - 6.ท้อง มีหน้าท้องยื่น กล้ามเนื้อหย่อนยาน
        มีการแตกของกล้ามเนื้อ rectus
        และมักมีไส้เลื่อนสะดือ
      - 7.กล้ามเนื้อและกระดูก กระดูกยาวช้า
        ทําให้ดูตัวสั้นกล้ามเนื้ออ่อนปวกเปียก
        ผิวแห้งแตก
    - - การเจริญเติบโตทางเพศด้อยกว่าปกติ
  - - - แนะนําการพาเด็กมาตรวจตามนัด
      - ให้คำปรึกษาในเรื่องการศึกษาที่เหมาะสม เพื่อให้เด็ก บิดามารดา ยอมรับตนเอง
      - การฟื้นฟูสมรรถภาพ กระตุ้นให้มีพัฒนาการทุกด้าน
      - แนะนําบิดามารดาพาบุตรเพศหญิงที่มีภาวะปัญญาอ่อน
        มาคุมกําเนิดแบบถาวร เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น เนื่องจากมีโอกาส
        ถูกล่วงละเมิดทางเพศสูง
      - ให้ความรู้เกี่ยวกับตัวเด็ก คือสาเหตุของภาวะปัญญาอ่อน
        ที่เด็กเป็นพัฒนาการทางด้านร่างกาย
- - - - อุดกั้นแบบสมบูรณ์
      - ถุงลมแฟบ
      - ถ้าน้ำคร่ำมีขี้เทาข้นเหนียวจำนวนมาก (Thick Meconium)
    - - อุดกั้นแบบไม่สมบูรณ์
        
        อากาศจะถูกกักในถุงลม ใต้ตำแหน่งที่อุดกั้น
        
        ถุงลมโป่งพอง
        
        อากาศเข้าได้แต่ ออกไม่ได้
        
        อากาศรั่วในปอด (Ari Leak)
        
        เกิดลักษณะ Ball Valve Effect
      - ปอดอักเสบ (Chemicle Pnuemonitis)
      - อุดกั้นแบบสมบูรณ์
        
        ถุงลมแฟบ
      - กดการสร้างลดแรงตึงผิว
      - อุดหลอดลมเล็กๆ
      - การกำซาบที่ถุงลมแต่ไม่มีการระบายอากาศ
        เรียกว่า Intrapulmonary Suning
      - ภาวะแรงดันเลือดสูงในปอด (Persistent Pulmonary
        Hypertension of the Newborn : PPHN)
      - ภาวะเลือดขาดออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์สูง