Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ความสัมพันธ์ของสภาพทางภูมิศาสตร์บนโลกกับความหลากหลายของไบโอม, 76B3B8C7…

- - - - แบ่งออกเป็น7ชนิด ได้แก่
        
        ป่าดิบชื้น
        
        มีฝนตกชุกตลอดทั้งปี
        
        พนได้ในบริเวณใกล้เส้นศูนย์สูตรของโลก
        
        มีความอุดมสมบูรณ์สูง
        
        มีพืชพรรณและสัตว์หลากหลายพันสปีชี่ส์
        
        เป็นป่าไม่ผลัดใบ
        
        อากาศร้อนชื้น
        
        ป่าผลัดใบเขตอบอุ่น
        
        อากาศค่อนข้างเย็น ฤดูร้อนอากาศอบอุ่น ฤดูหนาวไม่หนาวมาก
        
        พืชมีทั้งไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม และ ไม้ล้มลุก
        
        ทิ้งใบเมื่อฤดูแล้งและฤดูหนาว ผลิใบอีกครั้งเมื่อฝนตก
        
        ทุ่งหญ้าเขตอบอุ่น
        
        รู้จักกันในชื่อของ ทุ่งหญ้าแพรรี่ และ ทุ่งหญ้าเสตปป์
        
        มีฝนตกในช่วงฤดูร้อนและแห้งแล้งในฤดูหนาว
        
        พืชเป็นพวกพุ่มไม้หนาม ไม้ล้มลุก ไม้ทนแล้ง ทนไฟป่า และ หญ้า
        
        เหมาะแก่การทำปศุสัตว์เพราะดินมีความอุดมสมบูรณ์สูง
        
        ทะเลทราย
        
        พืชเป็นไม้ทนแล้ง อวบน้ำ ลดการสูญเสียน้ำโดยการเปลี่ยนจากใบเป็นหนาม หรือ หยั่งรากลึกไปในดินเพื่อดูดน้ำ
        
        สัตว์ส่วนใหญ่ออกหากินตอนกลางคืนเพราะอากาศไม่ร้อน
        
        สัตว์และพืชอาจได้รับน้ำจาก โอเอซิส
        
        ป่าสน
        
        เป็นป่าโปร่งไม่ผลัดใบ
        
        อากาศหนาวเย็นและแห้งแล้ง ดินเป็นกรดสูง
        
        ฝนตกช่วงดูร้อน
        
        พืชที่พบ ส่วนใหญ่เป็น พืชจำพวกสน เช่น ไพน์ เฟอ สพรูซ เฮมลอค เป็นต้น
        
        สะวันนา
        
        เป็นทุ่งหญ้าเขตร้อน
        
        เป็นป่ากึ่งผลัดใบ
        
        ดินแห้ง แข็ง และ ฝุ่นเยอะ
        
        มักเกิดไฟป่าในฤดูร้อน
        
        ทุนดรา
        
        มีลมพัดแรงตลอดเวลา
        
        มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี
        
        ชั้นดินที่ต่ำกว่าผิวดินชั้นบนลงไปจะเป็นน้ำแข็งถาวร
        
        มีพืชเล็กน้อย ส่วนใหญ่จะเป็น ไลเคนส์ มอส กก หญ้าเซดส์ และไม้พุ่มเตี้ย เช่น วิลโลแคระ
    - - ระบบนิเวศแหล่งน้ำจืด
        
        แบ่งเป็น2ประเภท ได้แก่
        
        แหล่งน้ำนิ่ง
        
        มีอยู่3บริเวณ คือ
        
        บริเวณชายฝั่ง
        
        เป็นบริเวณที่อยู่ติดกับพื้นดินและห่างจากฝั่งไม่มากนัก
        
        มักมีพืชน้ำจำพวกรากหยั่งลึกและพืชลอยน้ำอยู่จำนวนมาก
        
        บริเวณผิวน้ำ
        
        เป็นบริเวณที่อยู่ถัดจากชายฝั่ง
        
        มีบริเวณที่ผิวน้ำสัมผัสกับอากาศ
        
        ได้รับแสงอาทิตย์ที่ส่องลงมาอย่างทั่วถึง
        
        บริเวณน้ำชั้นล่าง
        
        เป็นบริเวณที่ต่ำกว่าระดับผิวน้ำลงไปจนถึงพื้นท้องน้ำ
        
        บริเวณนี้แสงไม่สามารถสีองลงไปถึงได้
        
        เช่น สระ หนอง บึง ทะเลสาบ
        
        แหล่งน้ำไหล
        
        2ชนิด คือ
        
        เกาะแก่ง หรือบริเวณน้ำไหลเชี่ยว
        
        แอ่งน้ำ
        
        เช่น ธารน้ำไหล และ แม่น้ำ
      - ระบบนิเวศแหล่งน้ำเค็ม
        
        แบ่งออกเป็น 2ชนิด
        ได้แก่
        
        ชายฝั่งทะเล
        
        เป็นบริเวรที่อยู่ติดกับพื้นดินที่มีความลาดชันน้อย มีความอุดมสมบูรณ์สูง
        
        ทะเลเปิด
        
        ระดับความลึกแบ่งออกเป็น3เขต คือ
        
        เขตที่แสงส่องถึง
        (0-200m)
        
        เขตที่มีแสงน้อย(200-1500m)
        
        เขตที่ไม่มีแสง(1500-15,000m)
        
        เป็นบริเวที่ห่างออกไปจากชายฝั่งและมีความลาดชันไปตามความลึก
        
        ประกอบด้วย ทะเลสาบ ทะเล มหาสมุทร
        
        แตกต่างกับแหล่งน้ำจืดตรงที่มีน้ำขึ้นน้ำลงเป็นปัจจัยทางกายภาพ
        
        เป็นระบบนิเวศขนาดใหญ่ 3/4ของโลก
        
        อาจแบ่งได้ตามลักษณะพื้นผิวทางกายภาพได้เป็น3ประเภท คือ
        
        หาดหิน
        
        ประกอบด้วยโขดหิน และ แอ่งน้ำ ซึ่งเป็นที่หลบของสัตว์ต่างๆ
        
        หาดทราย
        
        บริเวณชายฝั่งตั้งแต่น้ำลงต่ำสุดถึงน้ำขึ้นที่ละอองน้ำสาดไปถึง
        
        น้ำขึ้นน้ำลงเป็นปัจจัยให้มีความชื้นและอุณหภูมิแตกต่างกัน
        
        แนวปะการัง
        
        มีความหลากหลายทางชีวภาพ
        
        เป็นดัชนีวัดความอุดมสมบูรณ์ของชายฝั่งทะเล
      - ไบโอมแหล่งน้ำกร่อย
        
        คือ บริเวณที่มีน้ำจืด+น้ำเค็มปะปนกัน
        พบบริเวณ ปากแม่น้ำ
        
        มีความอุดมสมบูรณ์สูง เพราะมีแร่ธาตุจำนวนมาก
        
        เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ คือ ชายเลน
- - - - จุดชมวิวที่
        1.เฟิร์นยุคโบราณ
        2.ป่าเมฆ
        3.ป่าต้นน้ำ
        4.พืชพรรณไม้ป่าเมฆ
        5.ป่าซ่อมป่า
        6.เถาวัลย์
        14.ป่าร้อน ป่าหนาว
        15.สายน้ำ
        16.มอส ชอบน้ำแต่ทนแล้ง
        17.ป่าสองรุ่น
        18.สูงใหญ่แต่ล้มง่าย
        19.กูดต้น เฟิร์นสัญลักษณ์ป่าบริสุทธิ์
        20.เสียงป่า
        21.สรุป
      - มีต้นไม้ขึ้นหนาแน่น และ มีความชื้นพอเหมาะกับเฟิร์น มีกลุ่มต้นไม้ขึ้นหนาแน่นและเป็นต้นไม้ไม่ผลัดใบ ชุ่มชื้น อุดมสมบูรณ์
    - - พบในจุดชมวิวที่
        14.ป่าร้อน ป่าหนาว
      - มีอากาศหนาวเย็น
    - - พบในจุดชมวิวที่
        7.ทุ่งหญ้าเมืองหนาว
        8กูดเกี๊ยะ เฟิร์นทนไฟ
        9.จุดชมทิวทัศน์
        10.กวางผา ปลอดภัยในบ้านผาหิน
        11.ผาแง่มน้อย
        12.กิ่วแม่ปาน(ป่าสองมุมบนสันเขา)
        13.กุหลาบพันปี
      - มีไม้ล้มลุกปะปนกับไม้พุ่มขนาดเล็ก เรียกพงไม้นี้ว่า ทุ่งหญ้ากึ่งอัลไพน์ เป็นพื้นที่ที่มีแค่หญ้าและต้นไม้เตี้ยๆ
  - - - จุดชมวิวที่3.ป่าต้นน้ำ
        จุดชมวิวที่15.สายน้ำ
      - ปกคลุมด้วยป่าดิบเขา
        -อุดมสมบูรณ์
        -มีฝนตกชุก
        -มีสายน้ำไหลลงมาเป็นลำห้วยลงสู่แม่น้ำ
  - - - 2.ป่าเมฆ
        
        3.ป่าต้นน้ำ
        
        4.พืชพรรณไม้ป่าเมฆ
        
        5.ป่าซ่อมป่า
        
        6.เถาวัลย์
        
        ทุ่งหญ้าเมืองหนาว
      - 8.กู๊ดเกี๊ยะ เฟิร์นทนไฟ
        
        9.จุดชมทิวทัศน์
        
        10.กวางผา ปลอดภัยในบ้านผาหิน
        
        11.ผาแง้มน้อย
        
        12.กิ่วแม่ปาน
        
        13.กุหลาบพันปี
        
        1 more item...
      - 14.สายน้ำ ยอดเขาสูงสุดของไทย
        
        16.มอส ชอบน้ำแต่ทนแล้ง
        
        17.ป่าสองรุ่น
        
        18.สูงใหญ่แต่ล้มง่าย
        
        19.กูดต้น เฟิร์นสัญลักษณ์ป่าบริสุทธิ์
        
        20.เสียงป่า
        
        1 more item...