Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

คดีเมือง - Coggle Diagram

- - - - หลักดินแดน
        
        ทฤษฎี
        แยกว่ารัฐจะใช้จุดเกาะเกี่ยวอะไรในการกำหนดเขตอำนาจ
        
        การใช้เขตอำนาจรัฐตามหลักดินเเดนที่เป็นอัตวิสัย
        
        ใช้กฎหมายของดินแดนเเม้ว่าการกระทำจะเกิดที่รัฐอื่น
        
        การใช้เขตอำนาจรัฐตามหลักดินเเดนที่เป็นภาวะวิสัย
        
        ให้ดูผลของการกระทำว่าเกิดขึ้นที่รัฐใด ดินแดนที่ได้รับผลจากการกระทำนั้นสามารถใช้เขตอำนาจของตนได้
        
        Lotus case
        เรือชนฝรั่งเศสชนเรือตุรกี มีคนตาย เรือฝรั่งเศสพาคนที่รอดมาส่งที่ตุรกี เเต่ถูกตุรกีจับ >> เเม้เหตุจะเกิดในทะเลหลวง เเต่ผลของการ
        กระทำเกิดในเรือตุรกี(เป็นส่วนหนึ่งของดินเเดนตามหลักขยายอำนาจรัฐ) + ความเห็นวิชาการบอกว่าการที่ตุรกีจับฝรั่งเศสไม่ผิด เพราะไม่ได้เอาเรืออีกลำออกไปจับเเต่รอให้เขาเข้ามา
      - หลักสัญชาติ
        
        คือการขยายอำนาจยอกดินแดน เพราะไม่ใช่ดินเเดนเเต่เป็นส่วนที่เพิ่มออกมา
        
        สัญชาติ ไม่ได้หมายถึงเเต่เฉพาะบุคคลธรรมดา เเต่รวมถึงบุคคลสมมติอื่นๆซึ่งเป็นสิ่งที่กฎหมายระหว่างประเทศกำหนดให้สัญชาติด้วย
        
        การทางทฤษฎีการให้สัญชาติแก่สิ่งใดมักมีจุดเกาะเกี่ยว 2 อย่างคือ ดินแดน(เกิด/จัดตั้งที่ใด) เเละสายเลือด(ผู้ให้กำเนิดเป็นคนสัญชาติใด)
        
        การใช้เขตอำนาจนอกดินเเดนในกรณีนี้ ได้แก่การที่มีการกระทำเกิดขึ้นนอกดินแดน เเต่เมื่อการกระทำทำโดยคนชาติของรัฐ รัฐจึงกำหนดให้การกระทำนั้นเป็นความผิดในดินเเดนของรัฐ
        
        ส่วนใหญ่มักใช้กับความผิดที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงเเละเศรษฐกิจของประเทศ
        
        สัญชาติ
        European Convention on Nationality 1997
        สัญชาติคือข้อผูกพันระหว่างบุคคลกับรัฐโดยที่ไม่ได้ระบุชาติพันธุ์ของบุคคลนั้น
        
        การที่รัฐจะมอบสัญชาติให้บุคคลเป็นเอกสิทธิ์ของรัฐนั้นๆที่จะให้สัญชาติกับบุคคล เเต่อย่างไรก็ตามควรมีกฎเกณฑ์ที่เป็นมาตราฐานด้วย ดังนั้นจึงมีการตรา พ.ร.บ.สัญชาติขึ้น
        
        ในกรณีที่มีการเปลี่ยนสัญชาติ
        
        หลัก ต้องได้สัญชาติมาก่อนมีการกระทำความผิด หากได้สัญชาติมาภายหลังการกระทำความผิดเเล้วกฎหมายอาญาไม่สามารถย้อนหลังไปลงโทษได้
        
        เป็นไปตามหลักที่สันนิษฐานว่าบุคคลย่อมรู้กฎหมายเพียงของรัฐที่ตนมีสัญชาติ
        
        ทางปฏิบัติ กฎหมายสวีเดนให้กฎหมายมีผลย้อนไปยังคนที่ได้สัฐชาติสวีเดนมาภายหลังจากที่ได้กระทำความผิดด้วย
        
        สิ่งที่อาจมีสัญชาติได้
        
        บุคคลธรรมดา
        
        Nottebohm Case
        
        การจะให้สัญชาตินั้นเป็นเอกสิทธิ์ของรัฐที่จะให้กับใครก็ได้ เเต่การที่จะมองว่าเป็นคนชาติของรัฐใด้นั้นจะต้องมี Genuine Link/ จุดเกาะเกี่ยวที่มีประสิทธิภาพ กับรัฐนั้นด้วย
        
        นิติบุคคล
        
        Barcelona Traction Case
        
        หลัก อาศัยชาติของรัฐที่บริษัทนั้นจัดตั้ง
        ข้อยกเว้น บรษัทนั้นถูกควบคุมโดยคน/ผู้ถือหุ้นของอีกรัฐหนึ่ง เเละไม่มีกิจกรรมทางธุรกิจที่สำคัญในรัฐที่จัดตั้ง อีกทั้งตัวผู้มีอำนาจจัดการเเละการควบคุมทางการเงินของบริษัทก็ยังอยู่ในรับอื่น ; ให้เอากฎหมายของรัฐที่ผู้มีอำนาจจัดการบริษัทเป็นรัฐเจ้าของสัญชาติ โดยไม่คำนึงว่าจดทะเบียนที่ไหน
        
        ผู้ถือหุ้นของนิติบุคคล
        
        ปฎิเสธความคุ้มครองทางการฑูตที่ให้กับผู้ถือหุ้นเว้นเเต่กรณีที่นิติบุคคลนั้นเลิกกัน มองว่าสิทธิของนิติบุคคลเเละู้ถือหุ้นเป็นคนละส่วนกัน
        
        เรือ
        
        เป็นทรัพย์ที่เคลื่อนที่ได้ซึ่งกฎหมายระหว่างประเทศกำหนดให้มีสัญชาติ (ทรัพย์อย่างอื่นเเม้เคบื่อนที่ได้ เเต่ถ้ากฎหมายระหว่างประเทศไม่ได้กำหนดให้สามารถให้สัญชาติได้ ก็ไม่สามารถให้สัญชาติได้ เช่น รถไฟ)
        
        ต้องมีความเกาะเกี่ยวระหว่างเรือเเละรัฐโดยมีการจะทะเบียนเเละระบุรหัสประเทศเเละเลขไว้
        
        อากาศยาน
        
        ตามที่มีการจดทะเบียน
        
        อื่นๆ
        
        วัตถุอวกาศ
        
        รัฐที่จดทะเบียนมีอำนาจควบคุม เเต่ไม่มีสัญชาติ ; มีเขตอำนาจเฉพาะตามกฎหมายอวกาศ เเต่เขตอำนาจตามหลักสัญชาติหรือดินเเดน
      - หลักสัญชาติผู้เสียหาย
        
        คนต่างชาติที่เป็นผู้กระทำผิดอาจถูกลงโทษในการกระทำนอกดินเเดนของรัฐที่ใช้เขอำนาจได้ หากการกระทำนั้นได้ทำต่อคนชาติของรัฐที่ใช้เขตอำนาจตามหลักนี้
        
        เป็นหลักที่ปรากฎในกฎหมายของหลายประเทศเเละได้รับการโต้เเย้งน้อยมาก >> มี state practice + ได้รับการยอมรับ เริ่มก่อตัวเป็น CIL
        
        Cutting case
        คนอเมริกาลงข้อความหมิ่นประมาทคนชาติเม็กซิโก คนชาติเม็กซิโกเเจ้งความเอาผิดต่อคนอเมริกัน ต่อมาคนอเมริกันเข้ามาในเม็กซิโกเเละถูกจับ
      - หลักป้องกัน
        
        เป็นกรณีที่รัฐใช้อำนาจเพื่อป้องกันตนเองจากการกระทำผิดบางประการที่จะส่งผลเสียหายต่อผลประโยชน์ ความมั่นคงภายใน หรือความมั่นคงทางเศรษฐกิจของรัฐ โดยไม่พิจารราถึงจุดเกาะเกี่ยวอย่างสัญชาติ เเต่พิจารณาเพียงว่ามีการกระทำที่สุ่มเสี่ยงเกิดขึ้น
        
        กฎหมายที่เกี่ยวข้อง กฎหมายของอเริกาที่ให้อำนาจในการจับกุมเรือที่ต้องสงสัยว่ามีสิ่งของผิดกฎหมายที่คิดว่าจะเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของรัฐ + ไม่มีสัญชาติเรือได้ / ม.7 ป.อ.
      - หลักผลกระทบ
        
        ให้รัฐสามารถเข้าไปมีเขตอำนาจได้ในกรณีที่การกระทำนั้นได้ทำขึ้นนอกดินเเดนของรัฐเเต่จะส่งผลกระทบให้รัฐได้รับความเสียหาย
        
        คล้ายกับหลักป้องกัน เเต่ต่างกันตรงที่ หลักป้องกันต้องเป็นกรรีที่จะกระทบกับความมั่นคงของรัฐ ในขณะที่หลักผลกระทบ ใช้กับการกระทำความผิดที่เกิดนอกดินเเดนเเต่รัฐจะได้รับผลกระทบ เเละความผิดนั้นรัฐอื่นก็รองรับว่าเป็นความผิดโดยปกติธรรมดา
        
        หลัก เกิดนอกดินแดน+ได้รับผลกระทบ+เป็นความผิดที่รัฐอื่นยอมรับ
      - เขตอำนาจเหนือเรือเเละอากาศยาน
        
        หลัก เรือเเละอากาศยานถือว่าเป็นราชอาณาจักรของรัฐที่มีการจดทะเบียน
        
        ถ้ามีการกระทำความผิดในเรือหรืออากาศยาน กรณีต้องด้วยหลักสัญชาติเเละหลักเขตอำนาจ ให้ใช้หลักเขตอำนาจเหนือเรือหรืออากาศยาน
        
        ถ้าอากาศยาน/เรือจอดอยู่ในรัฐอื่น รัฐใดใช้เขตอำนาจ
        
        เป็นกรณีที่เขตอำนาจทับซ้อนกัน ในทางกฎหมายระหว่างประเทศ ต้องดูว่ามีการจัดลำดับการใช้เขตอำนาจไว้หรือไม่ ซึ่งมักมีการทำความตกลงโดยทั่วไปให้รัฐเจ้าของดินเเดนใช้อำนาจเป็นรัฐเเรก เพราะการกระทำนั้นย่อมกระทบต่อความสงบเรียบร้อบของรัฐเจ้าท่า นอกจากนี้หากให้รับเจ้าท่าเป็นผู้จัดการเเล้วก็สามารถที่จะทำการสอบสวนเเละดำเนินกรต่างๆได้อย่างสะดวกรวดเร็วกว่า ในทางปฏิบัตินอกเหนือจากความตกลงรับเจ้าของเรือหรืออากาศยานก็มักให้รัฐเจ้าท่าเป็นผู้จัดการเเละมักร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐเจ้าท่า
        
        ในกรณีที่การกระทำผิดนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกเรือของเรือนั้นซึ่งไม่มีสัญชาติของรัฐเจ้าท่า
        
        ในทางปฏิบัติหากไม่มีความตกลงเฉพาะ รัฐเจ้าของดินเเดนจะรอรัฐเจ้าของเรือเป็นผู้จัดการ หากรัฐผู้เป็นเจ้าของเรือไม่จัดการรัฐเจ้าท่าจะเข้าจัดการ
        
        UNCLOS Art 218 ได้กำหนดให้รัฐเจ้าท่าเรือมีเขตอำนาจในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิ่งเเวดล้อมทางทะเล
        
        การที่ UNCLOS เขียนไว้เเบบนี้ไม่เป็นการตัดสิทธิของรัฐที่จำเข้าทำสนธิสัญญาเพื่อกำหนดเขตอำนาจให้ชัดเจน
      - การขยายเขตอำนาจโดยสนธิสัญญา
        
        ex. Convention for the suppression of unlawful acts against the safety of civil aviation Art 5
      - หลักความผิดสากล
        
        ความผิดที่ทุกรัฐมีอำนาจป้องปราม บางเรื่องเป็น Jus cogens เช่นการเอาคนลงเป็นทาส / บางเรื่องไม่เป็น เช่น โจรสลัด(เเต่เป็น CIL เพราะมี Genaral practice)
        
        ตัวอย่างคดีโจรสลัด
        Alondra Rainbow case
        
        DRC Congo v Belguim
        
        รัฐมนตรีคองโกมีความคุ้มกัน ไม่อาจถูกดำเนินคดีได้ (ศาล)
        
        รัฐไม่สามารถใช้อำนาจนอกดินแดนของตนได้ (โอดะ)
        
        การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และการก่อการร้ายนี้ได้รับการยอมรับในเรื่องเขตอำนาจ สากล(โอดะ)
        
        โจรสลัดเท่านั้นทีเ่ป้นความผิดตามเขตอำนาจสากล เพราะเกิดในทะเลหลวงซึ่งอยู่นอกดินแดนของรัฐทุกรัฐ(รานเจวา)
        
        การที่เบลเยียมอ้าง Jurisdiction in absentia หรือการที่รัฐอื่นไม่ทำเลยทำเเทนนั้น อ้างไม่ได้ ไม่ทำให้เบลเยี่ยมเกิดอำนาจที่จะลงโทษ กฎหมายยังพัฒนาไปไม่ถึงขั้นนั้น
    - - ฎ.3223/2525 บุคคลที่อยู่ในราชอาณาจักรไทยย่อมจะต้องตกอยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายไทย ข้อพิพาทที่เกิดขึ้นบังคับตาม ปพพ เเต่ในกรณีมีปัญหาว่าจะประใช้กฎหมายของชาติใดให้ไปดู พ.ร.บ.ว่าด้วยการขัดกันของกฎหมาย
    - - ทุกรัฐมีอำนาจอธิปไตยเสมอกัน ไม่สามารถใช้อำนาจอธิปไตยของตนเหนือดินเเดนของรัฐอื่นได้เว้นเเต่โดยความยินยอมของรัฐนั้น
      - การบังคับกิจกรรมนอกดินเเดน
        
        อาญา
        
        หรือจากสนธิสัญญา เช่น Convention implementing the Schengen Agreement of 14th June 1985 Art 40** ให้สิทธิรัฐภาคีในการดำเนินคดี สอบสวนในดินเเดนของรัฐภาคีอื่นได้หากเข้าเงื่อไขตามที่กำหนดไว้ในสนธิสัญญา
        
        ความยินยอมอาจเกิดจากข้อมติหรือสนธิสัญญาก็ได้ (มติของSC ในLockerbie case)
        
        เเพ่ง
        
        โดยหลักต้องมีความตกลงร่วมกัน หรือมีกฎหมายกำหนด เราถึงจะยอมรับ เช่น กฎหมายของ EU ที่บอกว่าจะยอมรับ
      - ตัวอย่าง
        
        ในไทย
        
        พ.ร.บ. องค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย 2533; ให้ทั้งเข่ตอำนาจในทางเเพ่งเเละทางอาญาตามที่ยอมรับกัน
        
        สนธิสัญญาไทย-กันพูชาว่าด้วยการส่งตัวผู้ร้ายข้ามเเดน
        
        การส่งตัวผู้ร้ายข้ามเเดน
        
        หลัก ไม่ส่งคนชาติของตนให้รัฐอื่น เว้นเเต่ มีพันธะกรณีกำหนดไว้
        
        เรื่องของการกระทำความผิด ต้องเป็นความผิดที่ร้ายเเรงเพียงพอ เป็นความผิดทั้งในรัฐผู้ส่งเเละรัฐผู้รับ คดีไม่ขาดอายุความ ไม่มีการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำซ้อน เเละอาจสงวนสิทธิในบางกรณีได้
        
        ข้อยกเว้น จะต้องไม่ใช่ความผิดทางทหาร หรือความผิดเกี่ยวกับภาษีอากร
        
        ข้อยกเว้นของข้อยกเว้น ความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย ทุจริต ประพฤติมิชอบ ส่งตัวผู้ร้ายข้ามเเดนได้
        
        หากไม่ส่งตัว ต้องปฏิบัติตามหลัก Aut de dere, Aut Judicare ต้องดำเนินคดีซะ
  - - - ประกอบไปด้วยการที่รัฐเรียกร้องผ่านช่องทางทางการฑูตหรือช่องทางอื่นใดที่ใช้ในการระงับข้อพิพาทโดยสันติ เกี่ยวกับความรับผิดชอบของรัฐหนึ่ง ที่เกี่ยวข้องกับความเสียหายที่เกิดจากการกระทำที่ผิดในทางระหว่างประเทศของรัฐนั้นต่อบุคคล ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นบุคคละรรมดาหรือนิติบุคคล
        
        เป็นกรณีที่รัฐซึ่งให้สัญชาติการะกรำการต่ออีกรัฐหนึ่งเนื่องจากรัฐนั้นกระทำการฝ่านฝืนกฎหมายระหว่างประเทศจนคนชาติของรัฐเสียหาย
    - - 1758 ใครก็ตามที่ปฏิบัติอย่างไม่เหมาสมต่อคนชาติ เท่ากับเป็นการทำร้ายรัฐนั้นทางอ้อม เพราะรัฐมีหน้าที่ที่จะต้องคุ้มครองคนชาติของตน
        
        1995 การคุ้มครองโดยวิธีการทางศาลเป็นมาตราการเพื่อป้องกันสิทธิของรัฐ สอดคล้องกับเเนวคิดปัจเจกชนที่เป็นเพียงวัตถุตามกฎหมายระหว่างประเทศ ไม่ใช่ผู้ทรงสิทธิ
        
        ปัจเจกชนสามารถฟ้องได้เองต่อเมื่อเป็นประเด็นเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน หรือเป็นการฟ้องรัฐผู้รับลงทุน
      - Barcelona Traction รัฐเท่านั้นที่จะเป้นผู้ตัดสินว่าจะให้ความคุ้มครองหรือไม่ เพียงใด เเละจะหยุดให้เมื่อใด
        
        ILC's Draft Art 19 รัฐมีสิทธิใช้ความคุ้มครองทางการฑูต เเต่ควรพิจารณาถึงความเป้นไปได้ที่จะใช้ความคุ้มครองทางการฑูตเมื่อมีความเสียหายอย่างมีสาระสำคัญ
    - - การกระทำผิดในทางระหว่างประเทศ
        
        มีการกระทำความผิดในทางระหว่างประเทศ
        
        รัฐผู้ร้องต้องพิสูจน์ว่ารัฐผู้ถูกกว่ากล่าวหาละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปฎิบัติต่อบุคคลต่างชาติ เช่น ทางกงสุล เชื้อชาติ
      - สัญชาติ
        
        บุคคลธรรมดา
        
        ต้องมี Genuine link / จุดเกาะเกี่ยวที่สำคัญ
        
        นิติบุคคล
        
        ผู้ถือหุ้น
        
        Barcelona traction
        ต้องให้รัฐเจ้าของบริษัทฟ้องก่อน เฉพาะเเต่กรณีที่บริษัทปิดกิจการเท่านั้นที่ผู้ถือหุ้นจะใช้สิทธิในการฟ้องได้ หากบริษัทยังคงดำเนินกิจการอยู่ต้องให้บริษัทเป็นผู้จัดการ
        
        Art 11 ในการใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นนั้นโดยหลักเเล้วรัฐเจ้าของสัญชาติของผู้ถือหุ้นจะไม่สามารถใช้สิทธิหรือให้ความคุ้มครองทางการฑูตกับผู้ถือหุ้นได้เว้นเเต่บริษัทจะหยุดประกอบกิจการ
        
        Art 12 ผู้ถือหุ้นมีความเสียหายโดยตรง
        รัฐเจ้าของสัญชาติผู้ถือหุ้นสามารถใช้ความคุ้มครองทางการฑูตได้หาก ผู้ถือหุ้นได้รับความเสียหายโดยตรง + ความเสียหายนั้นเเยกต่างหากจากบริษัทเจ้าของสัญชาติผู้ถือหุ้น
        
        นิติบุคคลอื่นๆ
        
        Art 13 หลักการเรื่องสัญชาติเอามาใช้กับนิติบุคคลอื่นๆด้วย เช่น มหาวิทยาลัย มูลนิธิ สมาคม
        
        คนที่ไม่ใช่คนชาติ
        
        Art 8
        
        หลัก ถ้าไม่ใช่คนชาติของคนรัฐไม่อาจให้ความคุ้มครองทางการฑูตได้
        
        ข้อยกเว้น ในกรณีของคนไร้รัฐหรือคนลี้ภัยซึ่งไม่อาจขอความคุ้มครองทางการฑูตจากรัฐเจ้าของสัญชาติได้
        กรณีของคนไร้รัฐ ให้พิจารณาว่า ณ วันที่เกิดความเสียหายจนถึงวันที่ยื่นขอเรียกร้องนั้น คนไร้รัฐมีถิ่นที่อยู่โดยชอบด้วยกฎหมายเเละอยู่เป็นประจำ ณ รัฐใด รัฐก็เป็นรัฐที่ให้ความคุ้มครองทางการฑูตได้
        กรรีของผู้ลี้ภัยรัฐที่จะให้ความคุ้มครองทางการฑูตได้นั้นใช้หลักเกณฑ์เดียวกันกับคนไร้รัฐ เเต่นกรณีที่ความเสียหายเกิดจากรัฐเจ้าของสัญชาติผู้ลี้รัฐที่ผู้ลี้ภัยมีถิ่นที่อยู่ไม่สามารถฟ้องรัฐเจ้าของสัญชาติผู้ลี้ภัยได้
        Art 18
        รัฐเจ้าของสัญชาติเรืออาจให้คสามคุ้มครองกับลูกเรือไดเ
        
        บริษัท
        
        หลัก อาศัยชาติของรัฐที่บริษัทนั้นจัดตั้ง
        ข้อยกเว้น บรษัทนั้นถูกควบคุมโดยคน/ผู้ถือหุ้นของอีกรัฐหนึ่ง เเละไม่มีกิจกรรมทางธุรกิจที่สำคัญในรัฐที่จัดตั้ง อีกทั้งตัวผู้มีอำนาจจัดการเเละการควบคุมทางการเงินของบริษัทก็ยังอยู่ในรับอื่น ; ให้เอากฎหมายของรัฐที่ผู้มีอำนาจจัดการบริษัทเป็นรัฐเจ้าของสัญชาติ โดยไม่คำนึงว่าจดทะเบียนที่ไหน
      - Exhaustion of local remedies
        
        ต้องมีการเยียวยาในทางกฎหมายภายในจนสิ้นสิทธิเเล้ว (หมดสิ้นหนทางภายในที่จะจัดการเเล้ว)
        
        Art 14
        รัฐไม่อาจยื่นข้อเรียกร้องระหว่างประเทศได้ในเรื่องที่เกี่ยวกับความเสียหายของคนชาติหากยังไม่ได้ใช้สิธิในการเยียวยาตามกฎหมายภายในให้หมดสิ้นกระบวนการเสียก่อน
        
        การเยียวยาตามกระบวนการภายใน กระบวนการเยียวยาตามกฎหมายที่เปิดโอกาสให้ผู้เสียหายใช้ได้ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการทางศาล ทางปกครอง หรือหน่วยงานอื่น ไม่ว่าเป้นการทั่วไปหรือเฉพาะของรัฐที่ถูกกล่าวหา
        
        Art 15 ข้อยกเว้น
        กรณีที่ไม่จำเป้นจะต้องทำให้สิ้นสิทธิตามกระบวนกรภายในก็ได้
        
        เห็นได้ชัดว่าช่องทางที่เหลืออยู่ไม่สามารถชดเชยความเสียหายได้อย่างสมเหตุสมผล
        
        การทำให้สิ้นสุดกระบวนการจะก่อให้เกิดความล่าช้าเกินสมควร
        
        รัฐที่ถูกกล่าวหาได้สละสิทธิ์ว่าจะต้องทำให้หมดสิ้นหนทางเยียวยาเสียก่อน
    - - การเรียกร้องให้ชดใช้
        
        เป็นการเรียกร้องในนามของรัฐเพราะรัฐเป็นผู้เสียหายโดยใช้วิธีการคำนวรค่าเสียหายโดยใช้ฐานความเสียหายของคนชาติ เเต่ใช้สิทธิในการเรียก่าเสียหายของรัฐ ดังนั้นรัฐจึงไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องคืนเงินให้คนชาติ
      - Art 19 รัฐมีสิทธิที่จะใช้หรือให้ความคุ้มครอง
        ทางการฑูต เเต่ก็ควรที่จะโอนค่าชดเชยหรือค่าสินไหมทดเเทนที่ไดรับจากความเสียหายไปให้แก่คนที่เสียหาย(คนชาติ)
    - - องค์การระหว่างประเทศไม่ใช่ผู้ให้สัญชาติกับบุคคลที่ทำงานให้กับตน ทำให้องค์การระหว่างประเทศไม่สามารถให้ความคุ้มครองทางการฑูตได้
        เเต่อย่างไรก็ตามองค์การระหว่างประเทศสามารถให้ functional protection หรือความคุ้มครองตามตำเเหน่งหน้าที่ได้โดยสถานะของบุคลากรมีฐานะอย่างไร
      - กรณีรัฐจะใช้ความคุ้มครองทางการฑูตซ้อนกับองค์การระหว่างประเทศ
        
        ให้พิจารณาดูก่อนว่าความเสียหายนั้นเกิดจากอะไรหากเกิดจากหน้าที่ในการปฏิบัติงานก้ควรให้องค์การระหว่างประเทศเป็นผู้ให้ความคุ้มครอง เเต่ถ้าไม่ใช่ก็ให้รัฐฟ้อง เเต่ในกรณีที่ไม่มีกฎหมายกำหนดไว้ก็ไปตกลงกันเอง
      - การให้ความคุ้มครองทางการทูตต่อองค์การระหว่างประเทศ
        
        ในกรณีที่รัฐต้องการปกป้องคนชาติของตนจากการกระทำขององค์การระหว่างประเทศ รัฐสามารถใช้ความคุ้มครองทางการฑูตได้ตามปกตอ เเต่แทนที่รัฐจะเรียกร้องเอากับรัฐก็เปลี่ยนเป็นการเรียกร้องต่อองค์การระหว่างประเทศเเทน
  - - - Par in parem non habet imperium
        (an equal has no authority over an equal)
        
        สิ่งที่เท่ากันจะไม่มีอำนาจเหนือสิ่งที่เท่ากัน
        รัฐทุกรัฐมีอำนาจอธิปไตยเท่ากันไม่ขึ้นกับขนาดของรัฐ หรือตำเเหน่งที่ตั้ง ดังนั้นรัฐหนึ่งจะไม่ถูกบังคับให้ต้องรับเขตอำนาจอธิปไตยของรัฐอื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขตอำนาจตุลาการ เเละ เขตอำนาจบริหาร
      - ใช้เฉพาะกรณีที่รัฐนั้นมีการใช้อำนาจรัฐ
        เเต่ถ้ารัฐไปทำการใดๆที่เป็นเรื่องของเอกชนธรรมดา (ex. เรื่องทางพาณิชย์ -เรื่องที่ไม่ใช่ของรัฐโดยตรง)
        รัฐไม่ได้รับความคุ้มกัน
      - เป็นสิ่งที่เกิดจาก CIL เเละมีที่มาจากหลักคิดที่ว่ารัฐมีอำนาจอธิปไตยทุกรัฐมีความเท่ากัน
      - Immunity retione personae
        
        เจ้าหน้าที่ บุคลกรของของรัฐต่างประเทศไม่ควรถูกดำเนินคดีจากการกระทำที่ทำตามหน้าที่ที่รัฐต่างประเทศสั่ง
        
        การกระทำของรัฐนั้นโดยปกติรัฐไม่สามารถทำเองได้ เเละต้องสั่งให้เจ้าหน้าที่เป็นคนทำ เมื่อทำการในฐานะที่เป็นตัวเเทนของรัฐไม่ควรถูกดำเนินคดีจากการกระทำที่รัฐสั่ง
    - - United Nations Covention on Jurisdictional Immunities of States and Their Property
        : not yet in force
        
        Art.4 The present convention shall not apply to any question prior to the entry into force of the present convention for the states concerned
        
        Art.5 A state enjoys immunity, in respect of itself and its property.
        
        Art.2 รัฐรวมถึงองค์กรที่เป็นองคาพยพของรัฐด้วย ex. กระทรวงกลาโหมของ US, หน่วยงานอื่ๆนในระดับสหพันธรัฐ,ผู้เเทนของรัฐที่ดำเนินการตามหน้าที่ (บุคคลธรรมดา)
        
        Art. 10 การทำธุรกรรมทางพาณิชนื หรือการกระทำในทางเอกชนระหว่างประเทศ มไ่ด้รับความคุ้มกันของรัฐ
        
        Art. 11 ถ้าไม่ได้ตกลงไว้เป็นอย่างอื่นรัฐที่เป็นเจ้าของหรือเป้นผู้ควบคุมไม่อาจยกความคุ้มกันขึ้นอ้างได้ หากเรื่องนั้นใช้ในกิจการอื่นที่ไม่ใช่กิจการทางพาริชย์ >> ถ้าเป็นกิจการที่ไม่ใช่ในทางพาณิชย์รัฐได้รับความคุ้มกัน
        
        Art. 3 เอกสิทธิ์เเละความคุ้มกันไม่ถูกกระทบโดยอนุสัญญา
      - State Immunity Act 1978 (UK)
      - European Convention on State Immunity 1972
    - - United Nations Covention on Jurisdictional Immunities of States and Their Property Art. 18 การขอยึด/อายัดทรัพย์ไว้ชั่วคราวนั้นไม่สามารถทำได้ เว้นเเต่รัฐได้ยินยอมไว้โดยชัดเเจ้งหรือมีความตกลงในระดับประเทศ การตกลงอนุญาโตตุลการ การตกลงเป้นลายลักษณ์อักษร มีการการยื่นเเถลงต่อศาล หรือมีการเขียนเป็นหนังสือหลังจากเกิดข่อพิพาท
    - - เป็นการตอบคำถามว่าในกรณีที่มีการกระทบต่อสิทธิมนุษยชนซึ่งเป็น Jus cogens รัฐจะสามารถอ้างความคุ้มกันเพื่อไม่ให้ถูกดำเนินคดีได้หรือไม่
        
        Germany v Italy 2012
        ในความเห็นของศาลไม่มีความเห็นเเย้งอยู่เลย เนื่องจากศาลมองว่า state immunity และ jus cogens เป็นคนละเรื่องต่างหากจากกัน
        
        state immunity เป็นเรื่องกฎหมายวิธีพิจารราความ
        
        jus cogens เป็นเรื่องเนื้อหาเเห่งคดี
        ศาลจำเป็นจะต้องพิจารราถึงอำนาจฟ้องก่อนพิจารณาเนื้อหาเเห่งคดี ไม่ใช่พิจารณาว่าสื่งใดมีลำดับศักดิ์สูงกว่า
        
        Holland v Lampen-Wolfe 2000
        เมื่อพิจารราเปรียบเทียบระหว่าง state immunity เเละ Human rights ซึ่งเป็น Jus cogens เเล้ว
        
        หากเป็นการกระทำของรัฐโดยเเท้ (jure imperii) ก็ควรมองว่า state immunity มีสถานะที่สูงกว่า
        
        เเต่หากไม่ใช่เเล้วก็ควรให้ jus cogens มีสถานะที่สูงกว่าเพื่อหลีกทางให้สิทธิในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม
    - - รัฐต่างประเทศในฐานะผู้ถูกฟ้องคดี
        
        United Nations Covention on Jurisdictional Immunities of States and Their Property Art.11 สัญญาการจ้างงานระหว่างรัฐและบุคคลสำหรับงานที่ดำเนินการหรือดำเนินการใน ทั้งหมดหรือบางส่วนในอาณาเขตของรัฐอีกรัฐหนึ่งนั้น ไม่ได้รับความคุ้มกัน เว้นเเต่สัญญาจ้างงานในกรณีที่ทำหน้าที่เป็นผู้เเทนของรัฐในการดำเนินกิจการต่างๆ
        
        Personal injuries and damage to property Art. 12
      - การสละความคุ้มกัน
        
        ความตกลงเป็นลายลักษณ์ก่อนเกิดข้อพิพาท
        
        การเเทรกเเซงหรือการเข้าร่วมคดี
        
        เมื่อรัฐยอมเข้าร่วมเป็นคู่ความ เท่ากับวา่รัฐสละความคุ้มกัน โดยที่การสละความคุ้มกันในกรณีนี้สามารถทำได้หลายช่วงเวลา ex. ในตอนทำคำให้การไม่ได้ต่อสู้เรื่องความคุ้มกัน / การยอมรับเขตอำนาจอำนาจหลังข้อพิพาท-ก่อนข้อพิพาท/เป็นโจทก์ฟ้องคดี-ขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม
        
        ต้องไม่ใช่กรณีที่เข้าร่วมคดีเพื่ออ้างความคุ้มกัน
        
        การสละความคุ้มกันในการสู้คดีนี้ ไม่รวมถึงการบังคับคดี ; ต้องไม่ถูกตีความว่ายินยอมให้ใช้มาตราการทางทรัพยืสินกับรัฐ หากต้องการบังคับคดีก็ต้องสละความคุ้มกันอีกรอบหนึง
        
        การยอมรับเขตอำนาจหลังข้อพิพาทเกิดขึ้น
        
        การยื่นฟ้องคดี
      - รัฐต่างประเทศในฐานะผู้ฟ้องคดี
        
        เป็นกรณีที่รัฐยื่นฟ้องคดีในรัฐอื่น
        เดิมรัฐทุกรัฐต่างมีฐานะเท่ากันเเต่เมื่อรัฐใดรัฐหนึ่งยิมลดตัวลงเพื่อไปยื่นคดีในศาลภายในของรัฐอื่นเเล้ว เท่ากับว่ารัฐนั้นสละความคุ้มกันเเล้ว เนื่องจากว่ายอมเอาตนเองเข้าไปในเขตอำนาจอธิปไตของรัฐนั้นๆ
        
        กรณีที่รัฐต่างประเทศถูกฟ้องเเย้ง
        
        United Nations Covention on Jurisdictional Immunities of States and Their Property
        Art.9 ไม่อาจอ้างเหตุความคุ้มกันได้ หากการฟ้องเเย้งนั้นเกี่ยวพันกับฟ้องเดิม เนื่องจากได้สละความคุ้มกันของตนในส่วนที่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวไปเเล้ว ดังนั้นเมื่อต้องการต่อสู้คดีก้ต้องต่อสู้ในฐานะที่เท่ากัน
    - - United Nations Covention on Jurisdictional Immunities of States and Their Property Art. 19 ทรัพย์สินที่ถูกบังคับจะต้องไม่ใช่ทรัพย์สินของรัฐโดยเเท้กล่าวคือ ทรัพย์ที่จะสามารถยึดได้นั้นจะต้องมีวัตถุประสงค์ในทางการค้า เเละอยู่ในดินเเดนของรัฐที่ฟ้องคดี
  - - - ARSIWA Art.2
        
        มีการกระทำความผิดในทางระหว่างประเทศ; รวมถึงการงดเว้นกระทำการด้วย + เป็นการกระทำที่รัฐเป็นผู้กระทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ
        
        การกระทำที่อยู่ในความรับผิดชอบของรัฐ
        
        การที่รัฐอนุมัติหรือรับรองการกระทำที่ผิดกฎหมายระหว่างประเทศ
        
        Art 11การอนุมัติ หรือรับรองทำให้การกระทำที่เดิมไม่เกี่ยวข้องกับรัฐกลายมาเป็นการกระทำของรัฐภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศเท่าที่รัฐได้รับรองเเละอนุมัติ
        
        การรับรอง = การเห็นชอบกับการกระทำความผิด เกิดขึ้นภายหลังไม่ได้เข้าไปทำเเต่เเรก
        
        ใช้กับกรณีที่การกระทำเกิดจากองคภาวะอื่นที่ไม่ใช่องค์กรของรัฐ เเต่ต่อมารัฐยอมรับว่าการกระทำดังกล่าวเป้นการกระทำของรัฐ (รับเอามาเป็นการกระทำของตน)
        
        การเป็นผู้ร่วมทำผิด (complicity)
        
        กรณีที่รัฐช่วยให้ความผิดนั้นสำเร็จขึ้น
        รัฐที่ช่วยให้ความผิดสำเร็จขึ้นจะมีความรับผิดเมื่อรู้ว่าการช่วยนั้นจะนำไปสู่การฝ่าฝืนพันธะกรณีในทางระหวา่งประเทศ เเละ การกระทำดังกล่าวจะเป็นความผิดในทางระหว่างประเทศหากรัฐที่ให้ความช่วยเหลือนั้นได้ทำเอง
        
        ความรับผิดชอบร่วมกัน
        
        Art 47 ในกรณีที่รัฐหลายรัฐมีความรับผิดชอบร่วมกัน (มีการกระทำร่วมกัน) เเต่ละรัฐมีความรับผิดชอบโดยพิจารณาจากการกระทำนั้นๆ
        
        รัฐที่เสียหายจะได้รับค่าเสียหายไม่เกินกว่าความเสียหายที่แท้จริง
        
        ถ้ารัฐใดต้องรับผิดมากกว่าส่วนที่ตนควรต้องรับผิด ไม่ตัดสิทธิที่จะไล่เบี้ยเอากับรัฐอื่นที่ต้องรับผิดชอบ
        
        การชุมนุม การปฏิวัติ สงครามกลางเมือง
        
        เป็นการกระทำรุนเเรงที่ไม่ได้ทำโดยฝ่ายรัฐบาลโดยชอบธรรมของรัฐ เเต่โดยกลุ่มคู่เเขางหรือกลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาล
        Art 10
        
        หากการกระทำนั้นนำไปสู่การตั้ง รัฐบาลใหม่ การกระทำดังกล่างเป็นความรับผิดชอบของรัฐนั้น
        
        หากการกระทำนั้นการตั้งรัฐใหม่ในดินเเดนของรัฐเดิมการกระทำดังกล่างเป็นความรับผิดชอบของรัฐที่เกิดขึ้นใหม่
        
        การกระทำนอกขอบอำนาจหรือไม่ได้รับอนุญาต
        
        Caire Claim (France v Mexico) 1929
        กัปตันของ mexico ขู้เอาเงินจาก Caire หากไม่ได้จะสั่งยิงทิ้ง >> เนื่องจากผู้กระทำเป็นทหาร + ทำหน้าที่โดยใช้ความเป็นทหารของตน การต่อสู้เรื่องการกระทำนอกขอบอำนาจจึงฟังไม่ขึ้นเพราะคนที่ทำมีอำนาจที่จะทำการดังกล่าวได้อยู่เเล้ว
        
        องค์กรของรัฐ
        
        รวมถึงบุคคลเเละองคภาวะใดๆที่มีสถานะตามกฎหมายภายในของรัฐ
        
        ตาม Art 4 ARSIWA การกระทำขององค์กรของรัฐต้องถือเป็นการกระทำของรัฐภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ ด้วยไม่ว่าจะเป็นการกระทำในทางบริหาร ตุลาการ นิติบัญญัติหรือการใช้อำนาจอื่นใด เเละไม่คำนึงว่าอยู่ในตำเเหน่งใด
        
        ศาลโลกตัดสินว่า ARt 4 ของ ARSIWA เป็น CIL
        
        Art 5 การกระทำขององคภาวะหรือบุคคลที่ ไม่ใช่องค์กรของรัฐตาม Art 4 เเต่ได้รับมอบอำนาจตามกฎหมายภายในของรัฐ ก็ต้องถือว่าเป็นการกระทำโดยองค์กรของรัฐภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศหากเป้นการกระทำที่ทำโดยใช้อำนาจที่ได้รับนั้น
        
        กองกำลังทหาร
        
        1 more item...
        
        **องค์กรของรัฐระดับสหพันธรัฐ มลรัฐ ฯลฯ
        
        เป็นการฝ่าฝืนพันธะกรณีของรัฐในทางระหว่างประเทศ
    - - Art 26
        ยินยอม /ป้องกันตัว/มาตรการตอบโต้/เหตุสุดวิสัย/
        ภัยพิบัติ/ความจำเป็น
        
        จะเข้าเงื่อนได้ต้อง
        
        เข้าข้อยกเว้นโดยไม่มีเหตุตัด
        
        การละเมิดกฎหมายเป็นวิธีการเดียว
        
        ไม่ละเมิด Jus Cogens
      - Art 22 มาตรการตอบโต้
        
        เป็นการตอบโต้การกระทำที่เป็นความผิดตามกฎหมายระหว่างประเทศ
      - Art 23 เหตุสุดวิสัย
        
        เป็นเหตุที่ไม่สามารถคาดการณ์/คาดหมายได้ อยู่เหนือการควบคุมของรัฐทำให้รัฐไม่สามารถปฏิบัติตามพันธะกรณีได้
        
        หากเป็นกรณีที่รัฐมีส่วนก่อหรือได้ก่อเหตุนั้นขึ้น หรือเป็นเหตุการณ์ที่รัฐสันนิษฐานได้อยู่เเล้วว่าจะมีความเสียหายเกิดขึ้น รัฐไม่อาจอ้างเหตุสุดวิสัยได้
      - Art 24 เหตุทุขภิกภัย
        
        หากมีเหตุทุขภิกภัยเกิดขึ้นสามารถทำได้ เเต่หากทำเเล้วก่อให้เกิดความเสียหายเยอะอยู่จะเอามาอ้างไม่ได้
        
        จะต้องไม่มีทางเลือกอื่นที่สมเหตุสมผลเพื่อที่จะรักษาชีวิตของบุคคลนั้น/บุคคลอื่นที่อยู่ภายใต้ความดูเเลของตน
        
        มีข้อยกเว้นเหมือนกับกรรีเหตุสุดวิสัยในส่วนของการเป็นผู้ก่อเหตุ + หากการกระทำละเมิดน่าจะก่อให้เกิดความเสียหายที่ร้ายเเรงเท่ากันหรือมากกว่าการกระทำที่อ้างเพื่อขอยกเว้นความรับผิด ก็อ้างไม่ได้
      - Art 21 การป้องกันตนเอง
        
        ต้องเป็นมาตราการป้องกันตนเองโดยชอยด้วยกฎหมายตามกฎบัตรสหประชาชาติ
      - Art 25 ความจำเป็น
        
        หลัก: ไม่อาจอ้างความจำเป็นได้
        
        ข้อยกเว้น: เป็นทางเดียวที่รัฐจะปกป้องผลประโยชน์ของตนต่อความเสียหายที่รุนเเรงเเละมาอย่างปัจจุบันทันด่วน + การกระทำโดยจำเป็นนั้นจะต้องไม่สร้างหรือทำลายผลประโยชน์ของรัฐหรือรัฐอื่นที่รัฐผู้กระทำมีพันธะกรณีต่ออย่างมีนัยยะสำคัญ
        
        รัฐไม่อาจอ้างความจำเป็นได้หาก : พันธะกรณีในทางระหว่างประเทศไม่เปิดช่องให้อ้างได้ หรือ รัฐมีส่วนก่อให้เกิดสถานการณ์ที่เหลือทางออกเเค่ทางเดียวนั้น
      - Art 20 ความยินยอม
        
        ความยินยอมนั้นต้องเป็นความยินยอมที่สมบูรณ์โดยรัฐผู้ถูกกระทำเเละต้องมีอยู่ขณะเกิดการกระทำผิด
        
        กรอบขอความยินยอมต้องถูกตีความอย่างเเคบ เพราะหากถูกตีความอย่างกว้างเเล้วจะเกิดความเสียหายต่อรัฐที่ให้ความยินยอม
    - - สารัตถะของความรับผิดชอบ
        
        ยุติการกระทำผิดกฎหมายเเละ
        ประกันมิให้มีการกระทำซ้ำอีก
      - วิธีการดำเนินการต่างๆให้รัฐเกิดความรับผิดชอบระหว่างประเทศ
        
        ดำเนินการโดยอาศัยบุคคลที่ 3 หรือศาล
        
        เงื่อนไขการให้ความคุ้มครองทางการฑูต
        
        ความเกี่ยวโยงระหว่างเอกชนผู้ได้รับความคุ้มครองทางการฑูตกับรัฐผู้เรียกร้อง
        
        กรณีของนิติบุคคลเเละผู้ถือหุ้น
        
        เงื่อนไขอื่นๆ ผู้เรียกร้องต้องไม่ทำผิดเอง ต้องหาทางเยียวยาด้วยช่องทางทางกฎหมายภายในจนเสร็จสิ้นกระบวนการเเล้ว สามารถล้มล้างการกระทำผิดของรัฐได้
        
        การดำเนินการโดยรัฐเป็นผู้รับผิดชอบเอง
        
        การจ่ายค่าเสียหาย
        
        Art 36 ค่าเสียหายต้องครอบคลุมค่าเสียหายใดๆก็ตามที่ประเมินเป็นตัวเงินได้รวมถึงค่าเสียหายจากการขาดกำไรได้เท่าที่กำหนดไว้ **ค่าเสียหายเชิงลงโทษไม่ได้ถูกกล่าวถึงไว้
        
        ในบางครั้งการจ่ายค่าเสียหายอาจะไม่ใช่สิ่งที่จำเป้นที่สุด ศาลอาจะสั่งให้ดำเนินการอย่างอื่นเเทน เช่น การรับเเละยืนยันว่าจะไม่ทำผิดซ้ำอีก
        
        การทำให้พอใจ
        
        Art 37 ถูกนำมาใช้เมื่อไม่อาจนำวิธีการอื่นเช่น การชดใช้ค่าเสียหาย การทำให้กลับคืนสู่ฐานะเดิมมาใช้ได้
        
        เช่น การยอมรับ การเเสดงความเสียใจ การยอมรับอย่างเป็นทางการ หรือการกระทำในรูปแบบอื่นที่เหมาะสม
        
        ต้องได้สัดส่วนเเต่ต้องไม่ทำให้รัฐผู้กระทำรู้สึกอับอาย (มีลักษณะเป็นการประนาม เช่น ให้ประชากรของรัฐออกมาวิ่งเเก้ผ้า
        
        ดอกเบี้ย
        
        Art 38 ให้เริ่มนับตั้งเเต่เวลาที่ความจะได้มีการชำระหนี้จนถึงเวลาที่ได้ชำระหนี้ของตนเสร็จสิ้นเเล้ว ไม่ได้มีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้จึงเป็นไปตามเเต่ละศาลกำหนด
        
        กรณีฝ่าฝืนกฎหมายบังคับเด็ดขาด
        
        ไม่มีกรณีใดเลยที่รัฐจะเป็นผู้กระทำการโดยชอบด้วยกฎหมายหากการกระทำนั้นก่อให้เกิดการฝ่านฝืนกฎหมายบังคัเด็ดขาด(ไม่สามารถอ้างเหตุยกเว้นความรับผิดได้)
        
        การทำให้กลับคืนสู่ฐานะเดิม
        
        เป็นจารีตประเพณีระหว่างประเทศ
        
        เป็นการทำให้รัฐที่ถูกละเมิดกลับสู่สถานะเดิมก่อนจะมีเหตุการณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเกิดขึ้น
        
        หากการทำให้กลับสู่ฐานะเดิมไม่สามารถทำได้ หรือจะก่อให้เกิดภาระมากกว่าประโยชน์ที่ได้รับ ก็ให้ใช้การจ่ายค่าเสียหายเเทน
        
        กรณีศึกษา เบลเยี่ยมทำให้กลับคืนสู่ฐานเดิมโดยการยกเลิกหมายจับ
        
        ดำเนินการโดยผู้เสียหาย
        การระงับข้อพิพาท
    - - ARSIWA
        
        Art.1
        ในทุกการกระทำที่เป้นความผิดในทางระหว่างประเทศจะนำมาซึ่งความรับผิดของรัฐนั้น
      - DARIO