Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ภาวะมีบุตรยาก (Infertility), นางสาววรระวี รักษากุล เลขที่ 69 ห้อง A…
ภาวะมีบุตรยาก (Infertility)
การวินิจฉัยภาวะมีบุตรยากในฝ่ายหญิง
ประวัติ
ประวัติการมีประจำเดือน การผ่าตัด การแต่งงานและการมีบุตร การมีเพศสัมพันธ์ การคุมกำเนิด เป็นต้น
การตรวจร่างกาย
การตรวจร่างกายทั่วไป เช่น Secondary sex โรคทางอายุรกรรมที่เป็นสาเหตุให้มีบุตรยาก เป็นต้น
การตรวจต่อมไร้ท่อ(Hypothalamus, Pituitary, Thyroid)
การตรวจเฉพาะระบบสืบพันธุ์สตรีได้แก่ เยื่อพรหมจารี ช่องคลอด คอมดลูก ตัวมดลูก และท่อนำไข่
การตรวจความผิดปกติของการตกไข่
• การตรวจวัดระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนในในกระแสเลือดที่กึ่งกลางของระยะลูเทียล (midluteal serum progesterone level) เจาะเลือดเพื่อตรวจในช่วงประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนที่ประจำเดือนมา
• ˃ 5 μ/dl = มีการตกไข่
• ˃ 10 μ/dl = มีการตกไข่คอร์ปัสลูเตียมท างานปกติด้วย
• การตรวจปัจจัยด้านปากมดลูกหรือการทำ post coital test
การทำ post coital test
• เพื่อดูมูกที่ปากมดลูกและดูความสามารถของอสุจิที่จะว่ายผ่านขึ้น ไปสู่โพรงมดลูกระยะเวลาที่เหมาะสมในการตรวจได้แก่ 1-2 วันก่อนการตกไข่
• การตรวจวัด basal body temperature หรือ BBT chart
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ ได้แก่ การตรวจเลือดทั่วๆไป การตรวจฮอร์โมน ฯ
สาเหตุ
ฝ่ายหญิง
การทำงานของรังไข่ผิดปกติ
ท่อนำไข่
Endometriosis
Immunological และปัจจัยอื่นๆ
ฝ่ายชาย
Sperm dysfunction เช่น เชื้ออสุจิน้อย มีรูปร่างผิดปกติ หรือมีการเคลื่อนไหวน้อย
Sexual factors เช่น Electile dysfunction, Premature dysfunction ฯ
ปัจจัยอื่นๆ เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล
การที่คู่สมรสไม่สามารถมีการตั้งครรภ์ได้ โดยที่มีความสัมพันธ์ทางเพศกันอย่างสม่ำเสมอและไม่ได้คุมกำเนิดมาเป็นระยะเวลา 1 ปีหรือระยะเวลา 6 เดือนในกรณีที่คู่สมรสฝ่ายหญิงที่มีอายุเกิน 35 ปี ขึ้นไป
ภาวะมีบุตรยากแบบปฐมภูมิ(Primary infertility)
การที่ฝ่ายหญิงไม่เคยตั้งครรภ์หลังจากที่ได้พยายามแล้วเป็นระยะเวลานานกว่า12 เดือน
ภาวะมีบุตรยากแบบทุตยิภูมิ(Secondary infertility)
การมีบุตรยากที่ฝ่ายหญิงเคยตั้งครรภ์มาก่อนอาจจะสิ้นสุดลงด้วยการแท้งหรือการคลอดก็ตามหลังจากนั้นไม่มีการตั้งครรภ์อีกเลยเป็นระยะเวลานานกว่า12 เดือน
ความสามารถในการมีบุตร
ฝ่ายหญิงอายุ 21-25 ปีสามารถมีบุตรได้สูง
ฝ่ายชายอายุ ˃ 55 ปีขึ้นไปจะมีความผิดปกติของอสุจิมากขึ้น
ความถี่ของการมีเพศสัมพันธ์ที่เหมาะสมคือ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
การวินิจฉัยภาวะมีบุตรยากในฝ่ายชาย
ประวัติ
ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต เช่น โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ โรคของต่อมไร้ท่อ ลักษณะนิสัยบางประการ (การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ฯ) การมีเพศสัมพันธ์ การได้รับอุบัติเหตุ การผ่าตัด การได้รับการกระทบกระเทือนที่อวัยวะสืบพันธ์ เป็นต้น
การตรวจร่างกาย
การตรวจร่างกายทั่วไป
การตรวจระบบสืบพันธ์ เช่น หนังหุ้มปลายองคชาต ลักษณะและรูเปิดของท่อปัสสาวะ ลักษณะรูปร่างอัณฑะ หลอดเลือดขอดในถุงอัณฑะ(Varicocele) Hydrocele
การตรวจทางห้องปฏิบัติการได้แก่ การตรวจเลือดทั่วๆไป การตรวจฮอร์โมน การตรวจน้ำอสุจิ
การตรวจน้ำอสุจิ
ปริมาตร (volume) ≥ 2 มิลลิลิตร
ความหนาแน่นของตัวอสุจิ≥ 20ล้านตัวต่อมิลลิลิตร
จำนวนของตัวอสุจิทั้งหมด ≥ 40ล้านตัว
การเคลื่อนที่ของตัวอสุจิ ≥ ร้อยละ 50 มีการเคลื่อนที่ไปข้างหน้า
รูปร่างลักษณะ ≥ ร้อยละ 14 มีรูปร่างลักษณะปกติ
จำนวนเม็ดเลือดขาว <1 ล้านตัวต่อมิลลิลิตร
ความเป็นกรด-ด่าง (pH) = 7.2 หรือมากกว่า
การมีชีวิต (vitality) ≥ ร้อยละ 75
ข้อแนะนำ
งดการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวันตรวจ2-7วัน
นำน้ำอสุจิส่งตรวจภายใน 1 ชั่วโมงภายหลังที่เก็บได้
ใส่ภาชนะที่เตรียมให้เท่านั้น
ไม่แนะนำให้มีการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแล้วหลั่งข้างนอกหรือใช้ถุงยางอนามัยเนื่องจากอาจมีสารทำที่ลายอสุจิได้
ภาวะมีบุตรยากที่ไม่ทราบสาเหตุ(Unexplained infertility)
คือคู่สมรสมีบุตรยากที่ได้รับการตรวจหาสาเหตุของการมีบุตรยากแล้วจนครบตามมาตรฐานแล้วแต่ไม่พบความผิดปกติ
การรักษาการมีบุตรยาก
การรักษาแบบขั้นต้น
(Conventional)
การกำหนดระยะเวลาในการมีเพศสัมพันธ์
(Timing intercourse)
การผสมเทียม
คือการใช้เครื่องมือฉีดเชื้ออสุจิเข้าไปภายในอวัยวะสืบพันธุ์ของสตรีในช่วงที่ไข่ตก เชื้ออสุจิอาจเป็นของสามีหรือผู้บริจาควิธีนี้เหมาะกับผู้ชายที่เชื้ออ่อนแอ
การกระตุ้นไข่
(Ovulation induction)
การฉีดน้ำอสุจิเข้าสู่โพรงมดลูกโดยตรง
Intra-uterine insemination (IUI) Artificial insemination
คือการนำน้ำอสุจิที่ได้รับการคัดแยกมาแล้วฉีดเข้าไปในโพรงมดลูกขณะที่มีการตกไข่ตัวอสุจิว่ายจากโพรงมดลูกไปทางท่อนำไข่และผสมกับไข่ด้วยตัวเองต่อไป แพทย์ใช้ยากระตุ้นให้มีไข่ตกมากกว่าหนึ่งใบเพื่อเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ให้มากขึ้น
ไม่เหมาะกับ
ผู้หญิงที่มีปัญหาท่อนำไข่ตีบตัน มีพังผืดขวางทางระหว่างไข่กับทางเข้าท่อนำไข่ ท่อนำไข่เสียหาย หรือเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่
ผู้ชายที่มีปัญหาเรื่องน้ำอสุจิเช่น มีจำนวนน้อย เคลื่อนไหวผิดปกติ
วิทยาการการช่วยเหลือการมีบุตร
(assisted reproductive technologies: ART)
การกระตุ้นการตกไข่
โดยการให้ GnRH เป็นระยะ กระตุ้นการผลิต FSH และ LH หรือให้ยาซึ่งเป็นฮอร์โมนสังเคราะห์ไปกีดกันการทำงานของอีสโทรเจนไม่ให้ไปยับยั้งการทำงานของ GnRH ทำให้มีการผลิต FSH และ LH ออกมาจำนวนมาก มีผลให้มีการตกไข่มากกว่า 1 ใบ หลังจากนั้นจะนำไข่ออกมาเลือกใบที่แข็งแรง และนำมาใช้ตามการปฏิสนธินอกร่างกายด้วยวิธีต่างๆ
การใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์
(Assisted Reproductive Technology หรือ ART)
GIFT
( Gamete Intrafallopian Transfer ) คือการนำเอาไข่ออกมาเลือกที่สมบูรณ์แล้วนำเครื่องมือที่นำอสุจิและเซลล์ไข่ใส่เข้าไปในท่อนำไข่เพื่อให้มีการผสมและตั้งครรภ์แบบธรรมชาติแต่ในกรณีนี้ต้องไม่มีปัญหาที่ปีกมดลูก
IVF
(In Vitro Fertilization) คือการปฏิสนธินอกร่างกายและการย้ายตัวอ่อน หรือทั่วๆไปเรียกกันว่าเด็กหลอดแก้วการทำคล้ายกับ GIFT แต่ไข่และเชื้ออสุจิที่ผ่านการเตรียมแล้วจะถูกนำมาผสมกันเพื่อให้เกิดการปฏิสนธินอกร่างกายโดยเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการจากนั้นนำตัวอ่อนที่ได้ใส่เข้าไปในโพรงมดลูกเพื่อให้มีการเจริญเติบโตต่อไป
ข้อบ่งชี้
ท่อนำไข่ตีบตัน
เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
ความผิดปกติของปากมดลูก
ความผิดปกติของการตกไข่
Micromanipulation
คือวิธีการรักษาคู่สมรสที่มีบุตรยาก ซึ่งมักจะมีปัญหาทางด้านเชื้ออสุจิจำนวนน้อยมากและไม่เคลื่อนไหว
ICSI
(Intracytoplasmic Sperm Injection)คือการฉีดอสุจิเข้าไปในเซลล์ไข่โดยตรง ซึ่งทำภายใต้กล้องขยายกำลังสูง หลังจากเซลล์ไข่ถูกฉีดอสุจิเข้าไปจะเกิดการปฏิสนธิเป็นตัวอ่อนขึ้นเนื่องจากวิธีนี้ทำให้อสุจิไม่ต้องว่ายไปหาไข่ ไม่ต้องเจาะผนังเซลล์ไข่เองทำให้อสุจิที่ไม่แข็งแรงสามารถปฏิสนธิกับไข่ได้
ข้อบ่งชี้
ตัวอสุจิน้อยมาก (Oligozoospermia)
ตัวอสุจิเคลื่อนไหวไม่ดี(Asthenozoospermia)
ตัวอสุจิมีรูปร่างผิดปกติ(Teratozoospermia)
นางสาววรระวี รักษากุล เลขที่ 69 ห้อง A รหัสนักศึกษา 613601074